ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2715 เชื่อฟังก็ต้องคอยอดทน + ตอนที่ 2716 ผิดหวัง
ตอนที่ 2715 เชื่อฟังก็ต้องคอยอดทน
เฝิงอวี้เบิกตากว้างอย่างตกใจ หัวใจเหมือนถูกแทงแรง ๆอีกครั้ง ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง…
“นี่คือเหตุผลที่พ่อแม่ไม่ยอมให้หนูหย่าเหรอ? ก็เพื่ออนาคตของลูกชายลูกสาวเหรอ? พวกเขาเป็นลูกชายลูกสาวของแม่ แล้วหนูไม่ใช่เหรอ? หรือว่าหนูเป็นลูกที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยง?”
เฝิงอวี้ตะโกนใส่อย่างเสียใจ เธอเป็นพี่คนโตในบ้านต้องคอยยอมให้น้องชายน้องสาวมาตั้งแต่เด็ก ทำงานหนักสุดแต่ไม่เคยได้กินของดี ๆได้เล่นของดี ๆสักครั้ง
ทั้งที่คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอสามารถเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่พ่อแม่กลับให้เธอสอบมหาวิทยาลัยครุศาสตร์เพราะเรียนฟรีรวมถึงให้ทุนการศึกษาสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย
การเสียสละครั้งแล้วครั้งเล่า…แต่เธอได้อะไรมา?
เฝิงอวี้ระเบิดเสียงหัวเราะเหมือนคนบ้าคลั่ง เธอรู้สึกว่าบนโลกใบนี้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่ง ไม่มีใครเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง แม้แต่พ่อแม่น้องชายน้องสาวของเธอก็แค่อยากหลอกใช้เธอเท่านั้น!
“แกพูดบ้าอะไร แกดูแลน้องชายน้องสาวมาตั้งแต่เด็ก แถมไม่เคยทำให้ฉันกับพ่อแกต้องเป็นห่วง ทำไมตอนนี้ถึงดื้อขนาดนี้? เพราะพวกเขาทำแกเสียคนใช่ไหม?”
คุณแม่เฝิงอวี้มองลูกสาวที่เหมือนคนบ้าด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยแต่มากกว่านั้นคือรู้สึกผิด สำหรับลูกสาวคนโต…เธอติดค้างก็จริงแต่ลูกคนโตบ้านไหนไม่ผ่านชีวิตแบบนี้มากันบ้าง?
ลูกชายเป็นเสาหลักของบ้าน เธอจะปล่อยผ่านไปได้อย่างไร?
ลูกสาวคนเล็กเป็นลูกคนเล็กประจำบ้านเปรียบดั่งคนสำคัญที่สุด ลูกสาวคนโตอายุมากและรู้ความเธอจึงละเลยไปเสียหน่อย แต่ถามจากใจก็ไม่เคยไม่ให้กินไม่ให้ดื่มนี่ ตอนนี้กลับมาบ่นเสียได้?
เหมยเหมยแค่นหัวเราะ เธอเหมือนเห็นเงาของตนในชาติที่แล้วบนตัวเฝิงอวี้
เพราะเธอไม่รู้จักบ่นไม่รู้จักเหนื่อยและเรียกใช้งานง่าย ฉะนั้นเธอถึงสมควรเสียสละ เหนื่อยตายเป็นเรื่องของเธอ ไม่ตายก็ต้องคอยถูกครอบครัวนี้ดูดเลือดเนื้อต่อไปจนตัวแห้ง!
แต่ชาติที่แล้วเหอปี้อวิ๋นกับอู่เจิ้งซือไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆของเธอ ชาตินี้เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหัวรักเธอปานไข่ในหิน ไม่ให้เธอโดนรังแกแม้แต่น้อย ดังนั้น…เธอจึงมีความมั่นใจต่อสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า ‘พ่อแม่’ อีกครั้ง!
แต่ตอนนี้–
พ่อแม่ของเฝิงอวี้กลับทำลายความมั่นใจของเธอไปเล็กน้อย
บนโลกนี้คนที่ทำตัวไม่สมกับเป็นพ่อแม่ช่างมากมายเหลือเกิน!
หากไม่พบเจอแบบนี้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว!
ครั้นได้ฟังเสียงตำหนิของแม่รวมถึงสายตาไม่เห็นด้วยของพ่อ เฝิงอวี้เจ็บหัวใจจนด้านชาไปหมด ความโกรธแค้นทวีคูณ เธอยอมอดทนมาตลอดหลายปีแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมแล้ว!
“ทำไมหนูต้องเสียสละ? น้องชายน้องสาวพวกเขาไม่มีความสามารถสมควรทำงานหนักทำงานเหนื่อย หนูไม่ได้มีหน้าที่ต้องช่วยเปลี่ยนงานให้พวกเขา เมื่อก่อนหนูไม่ปริเสียงไม่เท่ากับว่าหนูต้องทนเงียบไปตลอดชีวิต พ่อกับแม่กลับไปเถอะ หนูจะไม่ถอนฟ้อง!” เฝิงอวี้ตะโกนเสียงดังกร้าว
พ่อแม่เฝิงอวี้สะดุ้งตกใจแต่หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยความโกรธ
“แกมันไม่ใช่คน? แม้แต่น้องชายน้องสาวก็จะไม่สนใจ…ฉัน…ฉันจะฟาดให้ตาย…”
แม่เฝิงอวี้ยกมือจะตบหน้าเฝิงอวี้ ฉีฉีเก๋อใช้แขนบังเอาไว้แล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ไอ้คนไร้ประโยชน์สองคนนั่นเป็นลูกแท้ ๆของพวกคุณ ไม่ใช่ลูกของเฝิงอวี้สักหน่อย ทำไมเธอต้องดูแลลูกชายลูกสาวแทนพวกคุณด้วย?”
“นั่นเป็นน้องชายน้องสาวแท้ ๆของเธอ…”
“ดูคำพูดคำจาสิ ฉันชักสงสัยแล้วว่าเฝิงอวี้ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณหรือเปล่า ดูยังไงพวกคุณก็ไม่เหมือนพ่อแม่แท้ ๆ เลย!”
เหมยเหมยพูดประชด
ความจริงเฝิงอวี้หน้าตาคล้ายแม่มากซึ่งชัดเจนว่าเป็นลูกแท้ ๆแน่นอน เหมยเหมยแค่ประชดประชันเท่านั้นเพราะทนสามีภรรยาที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ไม่ไหวจริง ๆ!
ไม่เห็นลูกสาวคนโตเป็นคนเลยหรือไง!
……………………………
ตอนที่ 2716 ผิดหวัง
“นี่มันเรื่องภายในครอบครัวฉัน พวกเธอมีสิทธิ์อะไรมายุ่งด้วย? อาอวี้ของเราเสียคนเพราะพวกเธอ เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้เลย!” คุณแม่เฝิงอวี้ทั้งอายทั้งโกรธพลางหันมาตะคอกใส่เหมยเหมย
“แหม…พูดผิดไปแล้วละ ตอนนี้เฝิงอวี้เป็นบุคคลร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเรา ฉันมีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของเธอ อันที่จริงเมื่อก่อนที่เฝิงอวี้ไม่โวยวายเพราะเธอโง่ ตอนนี้เธอได้สติแล้ว!”
เหมยเหมยแค่นหัวเราะแล้วเปิดเผยสถานะของเธอ สองสามีภรรยาคู่นี้น่ารังเกียจยิ่งกว่าพ่อแม่สามีที่เหมือนกลัวลูกสาวไม่ตาย เรียกให้ลูกสาวกระโดดเข้ากองไฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ได้!
“มูลนิธิอะไร? ขอความช่วยเหลืออะไร? บ้านเราไม่ต้องการความช่วยเหลือ อาอวี้ลูกทำอะไร? ยังขายหน้าไม่พอเหรอ!”
ในที่สุดคุณพ่อเฝิงอวี้ก็เอ่ยปาก แต่ถ้อยคำที่เอ่ยมากลับแทงหัวใจยิ่งกว่าคุณแม่เฝิงอวี้ จนถึงตอนนี้เขายังเห็นแก่หน้าตา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เฝิงอวี้บอกแล้วว่าหยางอันคังทารุณเธอ แต่สองสามีภรรยาคู่นี้กลับไม่เอ่ยถึงสักนิดเพราะไม่เห็นความสำคัญของมัน
“ช่วยชีวิตลูกสาวของคุณไง…เฝิงอวี้ ให้พวกเขาดูแผลบนตัวเธอสิ ให้พวกเขาได้เห็นธาตุแท้ลูกเขยคนดีของพวกเขาเลย!” เหมยเหมยตะโกนใส่เฝิงอวี้
เฝิงอวี้ยังทำท่าลังเลนิด ๆแต่เหมยเหมยกลับร้อนใจแทนเลยรุดหน้าไปกระชากเสื้อผ้าของเธอออก อย่างไรเสียภายในรถก็มีแต่พ่อแม่และเธอกับฉีฉีเก๋อ ต้องให้สามีภรรยาเห็นแก่ตัวคู่นี้รู้ว่าลูกสาวของพวกเขาถูกทารุณอะไรไว้บ้าง!
“ฉันถอดเอง!”
เฝิงอวี้กัดฟันแน่น เธอก็อยากรู้เช่นกันว่าพ่อแม่จะมีปฏิกิริยาเช่นไร
เพิกเฉยหรือสงสาร…หรือว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น!
เฝิงอวี้ถอดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่และเสื้อไหมพรมออกเหลือเพียงเสื้อกล้าม เหมยเหมยช่วยเลิกเสื้อขึ้นให้เธอเผยให้เห็นบาดแผลด้านหลัง แผ่นหลังที่ขาวเนียนในทีแรกเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แถมแผลบางส่วนยังทิ้งรอยแผลเป็นสีน้ำตาลเอาไว้เป็นจุด ๆด้วย
“เห็นหรือยัง? นี่คือสิ่งที่ลูกเขยคนดีของพวกคุณทำไว้ สิบสองปีแล้ว…เขาทารุณเฝิงอวี้แบบนี้มาสิบสองปี…เฝิงอวี้สุขภาพย่ำแย่ลงทุกปี พวกคุณไม่สังเกตเห็นสักนิดเหรอ?”
หรือว่าพวกคุณเห็นแต่แกล้งทำเป็นตาบอดหูหนวกกันแน่?”
เหมยเหมยยังเลิกเสื้อด้านหน้าขึ้นซึ่งเป็นเช่นเดียวกับแผ่นหลัง ต่อมาต้นขาแล้วก็เรียวน่อง…นอกจากส่วนของลำคอกับใบหน้าและแขน แทบไม่มีพื้นที่ว่างเหลือสักกระเบียดนิ้ว
พ่อแม่เฝิงอวี้ทำหน้าอึ้งอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย
ลูกเขยเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเชียว เขาทำสิ่งชั่วร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ได้อย่างไร?
แต่ความจริงเปิดเผยอยู่ตรงหน้า ทำให้พวกเขาปฏิเสธที่จะไม่เชื่อไม่ได้
“แก…ทำไมแกไม่บอกเราให้เร็วกว่านี้? แกไม่บอกเราจะรู้ได้ยังไง…” คุณแม่เฝิงอวี้หลั่งน้ำตา ดูท่าทางมีความเป็นแม่อยู่บ้าง
เหมยเหมยแค่นหัวเราะในใจ เฝิงอวี้ซึมไปตั้งหลายปีแล้วไหนสุขภาพที่แย่ลงเรื่อย ๆ ขอเพียงคุณแม่เฝิงอวี้ใส่ใจลูกสาวสักนิด แล้วจะไม่พบความจริงได้อย่างไร?
คำพูดพวกนี้เป็นเพียงข้ออ้างในความเห็นแก่ตัวทั้งนั้น!
“บอกคุณไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร? คุณกล้าออกหน้าต่อกรกับตระกูลหยางแทนเฝิงอวี้เหรอ? แบบนั้นลูกชายลูกสาวสุดรักของคุณก็ยิ่งไม่มีงานทำน่ะสิ!” เหมยเหมยอดประชดไม่ได้
พ่อแม่เฝิงอวี้ก้มหน้าต่ำอย่างละอายใจชนิดที่แทบมุดลงดินแล้ว
“เราไม่รู้จริง ๆ…อาอวี้ก็เป็นลูกในไส้ของฉันเหมือนกัน ฉันจะไม่สนใจความเป็นความตายของเธอได้ยังไง…” คุณแม่เฝิงน้ำตาไหลพูดแก้ตัว เฝิงอวี้ก็น้ำตาอาบแก้มแล้วสวมเสื้อเงียบ ๆ
คุณพ่อเฝิงอวี้หน้าถมึงทึง อยู่ดี ๆก็เปิดประตูรถพูดเสียงโกรธเคือง “ฉันจะไปคิดบัญชีกับพวกเขา!”
ลูกสาวโดนคนอื่นรังแกขนาดนี้ เขาทนไม่ได้อยู่แล้ว
คุณแม่เฝิงอวี้กลับสีหน้าเปลี่ยนไปฉุดแขนสามีไว้ แล้วเอ่ยคำพูดที่ทำให้เฝิงอวี้ผิดหวังอย่างถึงที่สุดออกมา “อย่าไปนะ…งานลูกชายยังขึ้นอยู่กับพวกเขาอยู่!”
……………