ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2735 เซียวเซ่อที่ทำตัวมีพิรุธ + ตอนที่ 2736 เปลี่ยนเสื้อผ้า
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2735 เซียวเซ่อที่ทำตัวมีพิรุธ + ตอนที่ 2736 เปลี่ยนเสื้อผ้า
ตอนที่ 2735 เซียวเซ่อที่ทำตัวมีพิรุธ
“คุณแม่ดื่มสิ…”
เล่อเล่อยื่นแก้วน้ำชาให้เหมยเหมยด้วยรอยยิ้มตาหยี ดวงหน้ากลมแหงนมอง น่ารักน่าเอ็นดูเสียคนอยากหยิกสักที เหมยเหมยรับแก้วน้ำมาจิบน้อย ๆ ด้วยรสชาติหอมกรุ่นติดหวานแถมยังเข้มข้นเหมยเหมยเลยยกดื่มหมดแก้วรวดในทีเดียว
“หนูออกไปเล่นแล้วนะ…”
เล่อเล่อตาลุกวาว ภารกิจของเธอสำเร็จแล้ว ไม่นานก็จะมีน้องชายที่เล่นไม่พังแล้ว…
“อย่าไปเล่นบนเขาละ!” เหมยเหมยตะโกนเตือน ไปเล่นบนเขาจนกลับมาในสภาพเปื้อนโคลนทั้งตัวเหมือนเด็กชาวป่าทุกที
เล่อเล่อครางเสียงตอบรับไปทีแต่พอหมุนตัวกลับไปก็พุ่งตัวขึ้นเขาไปกับบรรดามิตรสหาย ตีนเขามีแต่กระต่ายน้อยไก่ป่าที่ขี้ขลาดตาขาวกันทั้งนั้น ไม่น่าสนุกเท่าหมาป่ากับลิงบนเขาเลย
เหมยเหมยให้เหยียนหมิงซุ่นรินน้ำชาเพิ่มอีกแก้ว แต่เธอดื่มแล้วกลับไม่มีรสชาติอย่างแก้วแรกและมักรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เธอเองก็ไม่ได้คิดมากอะไรหลงคิดว่าตื่นเช้ามาเลยกระหายน้ำเป็นธรรมดาถึงได้รู้สึกว่าน้ำชาแก้วแรกรสชาติอร่อยเป็นพิเศษ
ค้างบนเขาอยู่สี่วัน เล่อเล่อสนุกจนไม่อยากกลับบ้าน แต่วันหยุดของเหยียนหมิงซุ่นจบลงแล้ว เฮ่อเหลียนชิงโทรตามวันละสิบสายเหมือนมีเรื่องคอขาดบาดตาย ถ้าเขายังไม่ลงเขาไปอีกคาดว่าเฮ่อเหลียนชิงคงมาตามถึงบนเขาแล้วล่ะ
เพิ่งลงเขาไปเหมยเหมยก็ได้รับสายจากเซียวเซ่อ “กลับมาเดือนหน้า!”
“ว้าว ดีจังเลย ฉันจะไปบอกที่บ้านเตรียมทำความสะอาดให้ดี” เหมยเหมยดีใจแทบแย่ เพื่อนสนิทของเธอคือก็เซียวเซ่อแต่เสียดายที่หลายปีมานี้ส่วนมากเซียวเซ่อใช้เวลาอยู่ต่างประเทศจึงไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับเธอนัก
“ฉันไม่กลับไปอยู่บ้าน เธอเช่าบ้านสักหลังในเมืองหลวงให้ฉันหน่อย อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด จำไว้ อย่าให้ใครรู้นะ!” เซียวเซ่อสลัดคราบคนพูดน้อยในอดีตไปพลางพูดเน้นย้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เหมยเหมยได้ยินแล้วรู้สึกแปลกใจจึงเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีว่า “เธอไม่ได้มีแค่บ้านหลังเดียวสักหน่อย บ้านหลังใหญ่อยู่เบื่อก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังเล็กสิ ทำไมต้องไปเช่าบ้านด้วย? แล้วไหนจะไม่ให้ใครรู้อีกต่างหาก”
“เธออย่าถามเลยน่า แค่เช่าบ้านก็พอ ถ้าเธอกล้าทำข่าวฉันรั่วไหลฉันจะตัดขาดกับเธอ!” เซียวเซ่อถึงขั้นพูดข่มขู่ทำเอาเหมยเหมยตกใจยกใหญ่
ต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่!
แถมยังเป็นเรื่องใหญ่อีกด้วย!
ไม่อย่างนั้นเซียวเซ่อคงไม่ทำตัวหลบ ๆซ่อน ๆแบบนี้หรอก ปกติแม่สาวคนนี้เป็นถึงสาวใจกล้าบุกป่าอะเมซอนคนเดียว ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเซียวเซ่อเกรงกลัวอะไรเลย แล้วครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ได้ ๆ…ฉันไม่บอกใครแน่นอน เธอก็อย่าไปเช่าบ้านข้างนอกเลย ฉันมีบ้านว่างอยู่หลังหนึ่งพอดี เดี๋ยวให้คนทำความสะอาดไว้ให้ เธอก็หิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย”
“บ้านของเธอเหรอ? มีใครรู้ไหม?” เซียวเซ่อถามด้วยความลังเล
“ไม่มีคนรู้ เป็นบ้านที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ช่วงนี้ บ้านนี้ปีที่แล้วมีคนเคยตายอยู่ในนั้น เธอไม่กลัวใช่ไหม?” เหมยเหมยพูดหยอกเย้า
บ้านที่เธอพูดถึงก็คือบ้านหลังที่ซื้อต่อฉีฉีเก๋อนั่นเอง พ่อแม่และน้องสาวของฉางชิงซานเสียชีวิตคาบ้านหลังนั้น เธอสั่งให้คนตกแต่งใหม่กะว่าอีกสักระยะก็จะปล่อยเช่า อย่างมากก็เก็บค่าเช่าถูกลงหน่อยแต่ต้องมีคนอยากเช่าแน่ ๆ
ราคาที่ดินหนึ่งตารางนิ้วแพงยิ่งกว่าทองคำอย่างเมืองหลวง บ้านที่มีคนเคยเสียชีวิตไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย
พอเซียวเซ่อได้ยินว่าไม่มีใครรู้ก็พรูลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เธอไม่สนใจหรอกว่าเคยมีคนตายหรือเปล่า แม้แต่สุสานยังเคยไปอยู่มาแล้วนับประสาอะไรกับบ้านที่เคยมีคนตาย
“ได้…เธอทำความสะอาดบ้านให้ดี ต้นเดือนหน้าฉันจะกลับไป!”
เซียวเซ่อสั่งทิ้งท้ายไว้แล้วกดตัดสายไปทันที เหมยเหมยได้ยินเสียงตู้ดตู้ดตู้ดดังมาจากปลายสายก็เผลอหลุดหัวเราะออกมา นิสัยใจร้อนเหมือนเดิม ไม่อยู่คุยกับเธออีกสักหน่อยล่ะ!
“เซียวเซ่อจะกลับมาเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นที่กำลังขับรถอยู่ถามขึ้น
“ใช่ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แล้วไม่ให้ฉันปล่อยข่าวว่าเธอกลับมาอีกต่างหาก อ้อ พี่ก็ห้ามบอกใครนะ ฉันไม่ใช่คนผิดคำพูด น่าแปลกจริง ๆ รู้สึกเหมือนเซ่อเซ่อกำลังหลบหน้าใครอยู่เลย?”
เหมยเหมยพูดพึมพำอยู่คนเดียว เหยียนหมิงซุ่นหลุดขำออกมา เขาไม่สนใจความลับระหว่างผู้หญิงหรอก
……………………………….
ตอนที่ 2736 เปลี่ยนเสื้อผ้า
เพิ่งกลับถึงบ้านเหมยเหมยก็เตรียมตัวไปจัดเก็บบ้านหลังนั้นด้วยตัวเอง ป้าฟางอยากตามไปด้วยแต่เหมยเหมยไม่ยอม
หลายปีมานี้ป้าฟางก็อายุเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา บาดแผลที่ได้มาจากการทำภารกิจในช่วงวัยสาว พออายุมากขึ้นก็อาการกำเริบ โดยเฉพาะช่วงเอวกับขาที่พอถึงวันฝนครึ้มก็ปวดจนทนไม่ไหว ปกติก็ไม่ได้ดีกว่ากันมากเท่าไร ดังนั้นเหมยเหมยไม่ค่อยให้ป้าฟางทำงานอะไร มีงานอะไรก็เลือกลงมือทำเองทุกอย่าง
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวจ้างพนักงานชั่วคราวก็พอ ป้าฟางอยู่บ้านไปเถอะ”
เหมยเหมยเอ่ยปฏิเสธแล้วหยิบเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดบางส่วนก่อนจะขับรถออกจากบ้านไป เดี๋ยวเธอต้องบอกเหยียนหมิงซุ่นหน่อยว่าให้จ้างแม่บ้านอายุน้อยมาสักคน ลุงเหลากับป้าฟางมีรอยแผลตามตัวไม่น้อย สุขภาพไม่ดีเท่าไร แถมยังต้องดูแลเธอกับเล่อเล่อจนไม่มีเวลาดูแลลูกตัวเอง ตอนนี้ถึงเวลาให้พวกเขากลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดแล้ว
เพียงแต่เหมยเหมยคิดไม่ถึงว่าพนักงานชั่วคราวในวันนี้ค่อนข้างหายุ่งยากพอสมควร เธอหาพนักงานทำความสะอาดอยู่หลายบริษัทแต่พวกเขาส่งพนักงานชั่วคราวออกไปทำงานหมดแล้ว ต้องรออีกวันถึงจะมีคิวว่าง
เหมยเหมยก็คร้านจะหาต่อ อย่างไรเสียก็มีไม่กี่ห้องเธอทำหนึ่งวันก็เสร็จ ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังขึ้น ปลายสายคือเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ถามเธอว่าทำอะไรอยู่ พอได้ยินว่าเธอจะไปทำความสะอาดบ้านแล้วยังหาจ้างพนักงานชั่วคราวไม่ได้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจึงเสนอตัวอย่างกระตือรือร้นว่า “ฉันให้พี่ฮวาไปช่วยเธอเอง เธอมารับหล่อนที่บ้านฉันสิ!”
“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เหมยเหมยก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะบ้านหลังนั้นของฉางชิงซานมีพื้นที่เกือบสองร้อยตารางวา มีคนช่วยสักคนจะได้เสร็จไวขึ้น
ไม่นานเธอก็เดินทางมาถึงบ้านเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน พี่ฮวาเตรียมตัวเสร็จแต่เนิ่น ๆแล้ว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เหมยเหมยอดมองพี่ฮวาที่เปลี่ยนชุดใหม่แวบหนึ่งไม่ได้เพราะยังคงเป็นเสื้อแบรนด์ดังตามเคย เจ้าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนี่ก็ใจกว้างเหลือเกิน ไม่รู้ว่าซื้อเสื้อผ้าให้แม่บ้านไปเท่าไรกันแน่
ครั้นเห็นพี่ฮวาไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมยเหมยเลยอดเตือนไม่ได้ว่า “พี่เปลี่ยนชุดหน่อยดีไหม? ถ้าทำขาดคงไม่ดีเท่าไหร่”
เธอยังเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาออกมาทำงานเลย เงินของใครก็ไม่ได้ลอยมาตามสายลมหรือเปล่า ถ้าประหยัดได้ก็พยายามประหยัดจะดีกว่า พี่ฮวามองชุดตัวเองแวบหนึ่งแล้วมองเหมยเหมยด้วยสายตางุนงงอีกแวบหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องเปลี่ยนชุด
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกนขึ้น “เปลี่ยนชุดอะไรกัน ไม่ได้จะไปขุดเหมืองสักหน่อย แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
เหมยเหมยถลึงตาใส่เธออย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “ไม่ว่ายังไงก็เสื้อราคาก็หลายพัน ถ้าเกิดทำเสียก็แย่สิ เงินเธอหล่นลงมาจากฟ้าหรือไง!”
พี่ฮวาตกใจยกใหญ่พลางก้มมองเสื้อผ้าบนตัวเธอที่ดูธรรมดาพวกนี้ คิดไม่ถึงว่าเสื้อผ้าพวกนี้จะมีราคาหลายพัน
“นี่…หลายพันจริงเหรอ?” พี่ฮวาชี้เสื้อบนตัวแล้วถามอย่างไม่เชื่อหู
“ไม่แพง…ฮ่า ๆ…ก็ไม่กี่พัน ทำงานที่บ้านฉันจะแต่งตัวโทรมเกินไปไม่ได้” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำท่าไม่ใส่ใจ นักธุรกิจเห็นความสำเร็จเรื่องภาพลักษณ์มากที่สุด ฉะนั้นไม่ว่าจะบ้าน รถ เครื่องประดับหรือเสื้อผ้า…สิ่งของนอกกายทั้งหมดต้องให้ดูดีอย่าเสียหน้าเด็ดขาด
พอพี่ฮวาได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของเธอคงราคาไม่ถูกเหมือนกันแน่ ๆ โอ้พระเจ้า…รวม ๆกันแล้วก็เหยียบหลักหมื่นเลยสิ เธอทำงานทั้งปีได้เงินเดือนประมาณนี้เอง!
เจ้านายดีกับเธอมากจริง ๆ แต่ความจริงเธออยากบอกเจ้านายเหลือเกินว่าช่วยเปลี่ยนเสื้อเป็นเงินให้เธอแทนได้ไหม คนอย่างเธอไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อราคาแพงเลย แค่พอใช้บังลมให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายได้ก็พอ
“ฉันจะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลย!”
พอพี่ฮวารู้ราคาของเสื้อผ้าแล้วไหนเลยจะกล้าใส่อีก เธอตกใจจนรีบหนีกลับเข้าห้องแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวเก่าของเธอที่ดูค่อนข้างอนาถพอตัวจริง ๆ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่เหมยเหมยอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง เตรียมจะให้พี่ฮวาเปลี่ยนกลับมาใหม่ แต่งตัวเหมือนขอทานออกจากบ้านไปคนอื่นต้องคิดว่าตระกูลเหริ่นล้มละลายแน่ ๆ!
“พอแล้ว แบบนี้ก็ดีออก ไปกันได้แล้ว!”
เหมยเหมยจงใจต่อกรกับเธอพลางกระชากแขนพี่ฮวาออกจากบ้านไป เธอไม่ได้ให้พี่ฮวาทำงานฟรี ๆแต่จ่ายเงินให้เธอวันละหนึ่งร้อย เป็นเงินสามเท่าของค่าจ้างรายวันซึ่งไม่ถือว่าน้อยแล้ว
…………………