ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2801 ผีอดอยากหิวโซเข้าสิง + ตอนที่ 2802 อาเจียนออกมาหมด
ตอนที่ 2801 ผีอดอยากหิวโซเข้าสิง
“ฮัดชิ่ว…ในอาหารนี่ใส่จิกโฉ่ไปเท่าไหร่เนี่ย…ฮัดชิ่ว…”
อู่เชาจามติดต่อกันหลายครั้งแล้วมองอาหารบนโต๊ะพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเซียวเซ่อกับสยงมู่มู่ถึงไม่ทานข้าว กลิ่นจิกโฉ่ฟุ้งเต็มโต๊ะจนแสบกระเพาะไปหมด แล้วจะยังมีความอยากอาหารได้อย่างไร
“เหมยเหมยเธอดื่มจิกโฉ่โต้ง ๆไปเลยดีกว่า ใครเขากินแบบนี้กัน ระวังเข็ดฟันหรอก!”
อู่เชาคีบเกี๊ยวผักกาดดองมาชิ้นหนึ่งแต่เพิ่งกัดคำเล็ก ๆไปคำหนึ่ง ตาและจมูกก็ยู่เข้าหากัน เปรี้ยวจนเขานึกสงสัยสัจธรรมในชีวิต…แม่เจ้า…นี่คงใส่จิกโฉ่เข้าไปครึ่งขวดแล้วสินะ?
“เปรี้ยวที่ไหนกันอร่อยจะตายไป…เมื่อก่อนทำไมฉันไม่รู้เลยนะว่าเกี๊ยวไส้ผักกาดดองจะอร่อยขนาดนี้…อร่อยมากจริง ๆ!”
เหมยเหมยกลอกตาใส่อู่เชาอย่างนึกรังเกียจ เกี๊ยวที่อร่อยขนาดนี้ยังบอกว่าไม่อร่อยอีก ไม่รู้จักดื่มด่ำกับความอร่อยของอาหารเลย มิน่าคนภาคเหนือถึงชอบทานไส้ผักกาดดองกัน มันอร่อยมากจริง ๆ!
“เธอไม่รู้สึกว่ามันเปรี้ยวเหรอ?” สยงมู่มู่ถามอย่างสงสัย
“ไม่เปรี้ยวเลย ไม่เปรี้ยวเลยสักนิด อร่อย!”
เหมยเหมยซัดงับเข้าปากหนึ่งชิ้นเต็มคำ น้ำซุปรสเปรี้ยวแตกกระจายในปากอร่อยจนตัวแทบระเบิด เหมยเหมยกลืนลงคออย่างพึงพอใจ พวงแก้มสองข้างเคี้ยวตุ้ย ๆอย่างรวดเร็วราวกับหนูแฮมสเตอร์ ดวงตากลับจับจ้องเกี๊ยวในชามแน่นิ่งราวกับกลัวมีใครจะแย่งไป
เซียวเซ่อกับสยงมู่มู่สบตากัน ตั้งแต่รู้จักเหมยเหมยมาจนถึงตอนนี้ไม่เคยเห็นหล่อนมีท่าทางการทานอาหารดุเดือดขนาดนี้เลย! นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“พวกเราย้ายไปกินตรงนั้นกัน ฉันถูกรมควันด้วยกลิ่นนี้จนปวดหัวหมดแล้ว” สยงมู่มู่หยิบอาหารที่ไม่ได้ใส่จิกโฉ่ขึ้นมาย้ายฐานประจำการ หาเรื่องไม่ได้แต่หลบได้ เขาก็แค่อยากทานอาหารสักมื้ออย่างสุขสงบเท่านั้น
เหมยเหมยทำจมูกฟุดฟิดเหลือบมองหมูตงพอวาววับมันแผล็บก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ ทำไมตอนนี้เธออยากทานหมูมัน ๆนักนะ?
“เอาหมูตงพอมาให้ฉันสักสองสามชิ้น อืม…แล้วก็ซุปปลานั่นก็เอาให้ฉันด้วย ฉันลืมสั่งซุปมา” เหมยเหมยตะโกนบอกพลางยื่นมือหมายจะคว้าไปหยิบมา
สยงมู่มู่ชี้นิ้วไปกองจานอาหารที่อยู่เบื้องหน้าเธออย่างไม่สบอารมณ์ “เธอกินของพวกนี้ได้หมดก็สุดยอดแล้ว โลภอยากแต่จะกิน เดี๋ยวก็กินเหลือ”
เขาจะไม่รู้ว่ายัยนี่กระเพาะเล็กได้อย่างไร ที่ผ่านมาปากตะโกนบอกอันนี้ก็จะเอาอันนั้นก็จะกิน แต่พอเอาเข้าจริงอันนี้ก็กินไม่หมดอันนั้นก็ยัดไม่ลง แล้วก็กินแค่นิด ๆหน่อย ๆเท่านั้น
“ฉันกินหมดแน่ นายเอาเนื้อมาให้ฉัน…เอามาให้ฉัน!”
เหมยเหมยดวงตาฉายแววดุดันราวกับสุนัขเห็นกระดูกก็ไม่ปาน เธอพุ่งเข้ามาคว้าจานที่มีหมูตงพอไปจนทำเอาสยงมู่มู่ตกใจยกใหญ่ “เธอเป็นบ้าอะไร ระวังกับข้าวหกหมดหรอก เอาไป…ให้เธอหมดเลย…เอามือออกไปนะ!”
“ฉันขอแค่ห้าชิ้นพอ ที่เหลือให้เสี่ยวเชากิน”
เหมยเหมยหยิบตะเกียบคีบหมูมาใส่ถ้วยห้าชิ้น อู่เชาที่ใจหวิวอยู่กลางอากาศก็กลับมาสงบดั่งเดิม ขอบตาร้อนผ่าว นับว่ายังมีน้ำใจเพราะเหลือให้เขาตั้งสองสามชิ้นแหนะ!
“จืดไปหน่อย อืม…จิ้มจิกโฉ่สักหน่อยดีกว่า…”
เหมยเหมยกัดหมูไปคำหนึ่งก็มุ่นคิ้ว แล้วเอาหมูจิ้มลงไปในถ้วยที่ใส่จิกโฉ่อย่างไม่ลังเลใจ พอชิมคำหนึ่งก็เคี้ยวตุ้ย ๆอย่างพึงพอใจ หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ้วมันแต่ไม่เลี่ยนเลย ทั้งเนื้อเด้งทั้งนุ่มละมุนลิ้น แทบไม่มีใครไม่ชอบกินเลย
แต่เมื่อก่อนเหมยเหมยไม่ค่อยชอบนักเพราะเธอไม่ชอบเนื้อมัน ๆและอาหารจานนี้ทำจากหมูสามชั้น ปกติอยู่ข้างนอกน้อยครั้งมากที่เธอจะทาน มีแค่ตอนอยู่ที่บ้านถึงจะให้เหยียนหมิงซุ่นกัดตรงส่วนมันไปแล้วเธอก็จะทานส่วนที่เป็นเนื้อ
แต่วันนี้กลับรู้สึกว่าหมูตงพออร่อยเหลือเกิน โดยเฉพาะส่วนมันที่เคี่ยวจนเนื้อเด้งและละลายในปาก กัดคำหนึ่งน้ำในเนื้อก็กระจายทั่วช่องปาก ส่วนเนื้อมันก็ละลายทันทีที่เข้าปากโดยไม่ต้องเคี้ยวพร้อมทิ้งรสหวานหอมไว้ด้วย มิน่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนักกวีมากมายถึงตั้งใจเขียนบทความชื่นชมหมูตงพอ!
อร่อยมากจริง ๆ!
พวกสยงมู่มู่ทั้งสามคนชะงักไป…ผีอดอยากหิวโซต้องสิงร่างแล้วแน่ ๆ!
………………………………………..
ตอนที่ 2802 อาเจียนออกมาหมด
“เหมยเหมยได้รับความสะเทือนใจอะไรหรือเปล่า? ดูท่าทางแปลก ๆ!” สยงมู่มู่เป็นกังวลเหลือเกิน
สาวกระเพาะน้อยราวนกกระจิบแปรเปลี่ยนเป็นกระเพาะควาย เมื่อก่อนไม่ชอบทานแต่ตอนนี้ชอบทาน การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ผิดปกติเกินไปแล้ว
“ไม่รู้สิ…หรือว่าทะเลาะกับเหยียนหมิงซุ่น? ได้ยินมาว่าตอนผู้หญิงโมโหจะมีความอยากอาหารมากขึ้น อีกอย่างรสปากก็จะเปลี่ยนไปมากด้วย เซียวเซ่อว่ามาสิว่าใช่ไหม?” อู่เชาคาดเดา
สยงมู่มู่แค่นเสียง “นายถามยัยทอมนี่ทำไม? เขายังไม่เข้าใจผู้หญิงเท่าฉันด้วยซ้ำ!”
เซียวเซ่อแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา “แน่นอน…นายเองก็มีหนอนน้อยเพิ่มมามากกว่าผู้หญิงเท่านั้นแหละ!”
“พลั่ก”
สยงมู่มู่ทิ้งตะเกียบลงอย่างนึกโมโหแล้วลุกขึ้นพรวดปลดกางเกงเพื่อยืนยันความจริงตามสัญชาตญาณ แต่ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้ว่าในนี้ยังมีพวกเขาอีกสองคน ฉะนั้นจะให้พวกเจ้าอ้วนนั่นเห็นของดีถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ได้
“เดี๋ยวฉันจะเอาให้เธอดูเปิดโลกเลยว่าตกลงมันเป็นแค่หนอนน้อยหรืออนาคอนด้า”
สยงมู่มู่แค่นเสียงทีหนึ่งแล้วนั่งลงทานอาหารต่อ ต้องทานให้อิ่มถึงจะมีแรงรับมือกับยัยทอมนี่
“เก่งนักนายก็ไปโชว์หนอนน้อยของนายให้ประชาชนทั้งโลกรู้ที่เทียนอันเหมินสิ แค่กล้าโชว์ต่อหน้าฉันจะถือว่าเจ๋งอะไร!” เซียวเซ่อเผยสีหน้าหยามเหยียด ถอดกางเกงจนติดละสิท่า!
สยงมู่มู่คิดรั้นตกปากรับคำว่า ‘ถอดก็ถอดสิ ใครกลัวใครกันแน่’ แต่อู่เชาเตะเขาหนัก ๆไปที สมองถูกลาถีบจนโง่แล้วหรือไง ต่อให้ว่างมากขนาดไหนก็ไม่ควรโผล่ไปเทียนอันเหมินทำอะไรบ้า ๆแบบนั้นหรือเปล่า!”
“เหอะ…เธออย่ามาคิดใช้วิธีท้าทายกับฉัน ฉันไม่หลงกลหรอก ถ้าเธอกล้าแก้ผ้าวิ่งรอบเทียนอันเหมินสามรอบ ฉันก็กล้าเหมือนกันเอาไหมล่ะ?” สยงมู่มู่มองเซียวเซ่ออย่างท้าทาย
“ฉันไม่ได้เป็นคนชอบโชว์สักหน่อย นายไปดื่มด่ำประสบการณ์นั้นเองเถอะ”
เซียวเซ่อไม่รับคำท้าอยู่แล้ว เธอจะไม่มีทางลดความเป็นผู้ดีของเธอลงเพื่อเปิดโลกกว้างเหมือนเจ้าโง่นี่หรอก
เธอซดน้ำซุปปลาที่มีสีขาวนวลอึกหนึ่งอย่างสง่าแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ “รสชาติน้ำซุปไม่เลวเลย”
“ฉันก็อยากเอาด้วย!”
เหมยเหมยทานเนื้อเยอะเกินไปเลยคอแห้งจึงวิ่งมาซดน้ำซุปให้ฉ่ำคอสักหน่อย เซียวเซ่อตักซุปปลาให้เธอถ้วยเล็กถ้วยหนึ่ง น้ำซุปเข้มข้นยิ่งกว่านม พอเห็นต้นหอมสีเขียวมรกตที่ลอยอยู่เหนือน้ำซุปก็ยิ่งทำให้ใจเบิกบาน
“ดูท่าทางอร่อยไม่หยอก…อ้วก…”
เหมยเหมยเพิ่งซดไปอึกเดียวยังไม่ทันกลืนลงไปด้วยซ้ำ อาการคลื่นไส้ก็ปะทุขึ้นมา เนื้อหมูและเกี๊ยวที่ยัดไปเมื่อครู่ขย้อนออกมา เธอรีบปิดปากแล้ววิ่งไปห้องน้ำ
“เกิดอะไรขึ้น? อยู่ดี ๆทำไมถึงอาเจียนได้…”
อู่เชาตามไปด้วยความเป็นห่วง เมื่อครู่ยังเหมือนผีหิวโซอยู่เลยแต่ซดน้ำซุปไปอึกเดียวก็อาเจียนออกมาแล้ว มองอย่างไรก็รู้สึกแปลก ๆ สยงมู่มู่และเซียวเซ่อก็ตามไปด้วยอย่างกังวลใจ
เหมยเหมยฟลุบอยู่ข้างชักโครก เธออาเจียนจนหน้ามืดเวียนหัวไปหมด ไม่เพียงแต่อาหารที่ทานไปเมื่อครู่ กระทั่งอาหารของเมื่อคืนวาน…ก็ปะปนปะทุออกมาจนหมด ในท้องไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว ทั้งยังขย้อนเอาน้ำย่อยออกมาด้วย ในช่องปากขมยิ่งกว่าน้ำแกงหวงเหลียนเสียอีก
“ทำไมอาเจียนหนักขนาดนี้…ต้องไปโรงพยาบาล เดาว่าต้องเป็นกระเพาอักเสบเฉียบพลันแน่” เซียวเซ่อกล่าว
“รีบไปเถอะ ดูสิหน้าเธอซีดหมดแล้ว อย่ามัวแต่ชักช้าจนเป็นโรคร้ายแรงเอาซะล่ะ” สยงมู่มู่อุ้มเหมยเหมยที่อาเจียนจนหมดแรงขึ้นมาแล้วประคองเธอไปนั่งบนโซฟา
“ขอน้ำให้ฉันหน่อย เอาน้ำร้อนนะ ฉันจะบ้วนปาก”
เหมยเหมไร้เรี่ยวแรง ในปากขมไปหมด
“มีแต่น้ำเย็น…แต่ฉันจะไปต้มเดี๋ยวนี้แหละ”
อู่เชาหาอยู่นานก็หาน้ำร้อนไม่เจอ น้ำแร่ที่มีต่างก็เย็นหมด เขาเลยรีบไปหยิบกาน้ำร้อนมา สักพักก็ต้มเสร็จแต่ก็ร้อนเกินไป
“ก็แค่ผสมน้ำเย็นเข้าไปหน่อยก็พอดีแล้วไง ทำไมโง่ขนาดนี้นะ…”
สยงมู่มู่ถลึงตาใส่อย่างนึกรังเกียจแล้วเทน้ำเย็นผสมเข้าไป คนให้เข้ากันอุณหภูมิก็พอดี เหมยเหมยกรอกน้ำเข้าไปแก้วหนึ่งเลยสบายตัวขึ้นมาก สีหน้าที่ซีดขาวก็ดูมีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย
………………………….