ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2823 เสียงดังเอะอะ + ตอนที่ 2824 จะพูดความจริงไปทำไม
ตอนที่ 2823 เสียงดังเอะอะ
เหมยเหมยมองเพื่อนทั้งสองที่กำลังฟาดฟันกันทางสายตาอย่างนึกปวดหัว คนหนึ่งคือพี่ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คนหนึ่งคือเพื่อนสนิทที่ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น เธอจะช่วยใครล่ะ?
ปัญหาคือจนตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าทะเลาะกันได้อย่างไร
“Stop!”
เซียวเซ่อตวาดเสียงดังอย่างน่าเกรงขามขึ้นมาทีหนึ่ง เรียกให้อู่เชากับฉีฉีเก๋อหุบปากไปทั้งคู่แต่ก็ยังถลึงตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร เป่ารื่อน่าที่รู้ตัวว่าสร้างปัญหาเข้าแล้วก็หลบไปอยู่หลังคุณย่าหยางตัวติดเล่อเล่อ
เวลานี้อยู่กับพี่สาวจะปลอดภัยมากกว่า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เล่อเล่อกระซิบถาม
เป่ารื่อน่าส่ายศีรษะอย่างน่าสงสารและทำหน้าฉงน แม้เธอรู้ว่าสาเหตุที่คุณแม่ทะเลาะกับคุณอาอ้วนมาจากการที่เธอพูดผิด แต่เธอไม่รู้ว่าพูดประโยคไหนผิดไปนี่นา!
“อย่าไปสนใจเลย ผู้ใหญ่ก็แบบนี้แหละ เรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ทะเลาะกันได้ มาทานเนื้อแดดเดียวกันดีกว่า!” เล่อเล่อไม่รู้สึกสนใจสักนิดเดียวพลางหยิบเนื้อแดดเดียวจากกระเป๋าออกมาแบ่งให้เป่ารื่อน่าหนึ่งชิ้น ก่อนที่เด็กทั้งสองจะเริ่มแทะเนื้อแดดเดียวอย่างเอร็ดอร่อย
เหมยเหมยผ่อนหายใจทีหนึ่งอย่างโล่งอก ในที่สุดก็เงียบสักที เธอมองไปทางฉีฉีเก๋อแล้วถามออกเสียง “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“ฉันฝากเป่ารื่อน่าให้เขาดูแลครู่เดียวเองแต่เขากลับทำเป่ารื่อน่าร้องไห้ เมื่อกี้เหมยเหมยเธอก็ได้ยินว่าเป่ารื่อน่าร้องไห้เสียใจแค่ไหน ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับเป่ารื่อน่าไปบ้าง?”
ฉีฉีเก๋อพูดรัวเหมือนปืนกล หันหน้าไปหมายจะปลอบลูกสาวแต่กลับพบว่าลูกสาวไม่เป็นอะไรแล้ว แพขนตายังมีน้ำตาติดอยู่แต่ใบหน้ากลับจุดยิ้มแทะเนื้อแดดเดียวอย่างพึงพอใจ
ทีนี้อู่เชาก็พูดได้สักที “ฉันจะทำอะไรได้? ฉันอุตส่าห์ใจดีแบ่งอมยิ้มให้ลูกสาวเธอกิน เธอน่ะสิ กลับนินทาฉันลับหลัง ฉันไปทำอะไรให้เธอตอนไหนมิทราบ?”
“ฉันนินทานายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน น่าขำจัง ฉันไม่สนิทกับนายด้วยซ้ำ!” ฉีฉีเก๋อกลับฉงนยิ่งกว่าเดิม เธอจำเป็นต้องนินทาคนแปลกหน้าลับหลังด้วยหรือ ไม่ได้กินอิ่มท้องแล้วว่างไม่มีอะไรทำสักหน่อย!
“เธอถามลูกสาวเธอสิ เมื่อกี้เจ้าหนูนั่นเป็นคนพูดเองกับปาก เพื่อนฉันก็ได้ยินเหมือนกัน มู่มู่ นายว่ามาสิว่าใช่ไหม?” อู่เชาหันไปตะคอกใส่สยงมู่มู่ที่กำลังรอดูเรื่องสนุก ๆทีหนึ่ง
“นายพูดสิว่าลูกสาวฉันพูดอะไรไปบ้าง?” ฉีฉีเก๋อตะคอกด้วยเสียงที่ดังกว่าจนทำเอาสยงมู่มู่หูอื้อไปทั้งสองข้าง
คุณย่าหยางก็ปวดศีรษะกับเสียงดังเอะอะจนเธอเอาแต่โบกมือพลางกล่าว “มู่มู่เธอรีบพูดมาสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หยุดเสียงดังได้แล้ว เรื่องยังวุ่นวายไม่พอหรือไง!”
เธอรำคาญแทบแย่ ทั้งที่พวกปาปารัสซี่พวกนั้นพูดเหลวไหลแต่คนอื่นดันเชื่อ พวกผู้ปกครองเมื่อกี้ก็ทำท่ากึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อโดยเฉพาะยายป้าปากมากน่ารำคาญคนนั้น กลับบอกว่าเล่อเล่อคือลูกสาวนอกสมรส…
โอ๊ย เธอโมโหจะตายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวส่งผลกระทบไม่ดี เธอจะตบหน้ายายป้าปากโป้งคนเมื่อกี้ไปหลาย ๆที สั่งสอนให้หล่อนรู้ว่าควรพูดจาอย่างไร
ตอนนี้อู่เชากับฉีฉีเก๋อก็ดันทะเลาะกันอีก คนแก่อย่างเธอจะไม่รำคาญได้หรือ!
สยงมู่มู่เอ่ยเสียงกลั้นขำ “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แค่ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงคนนี้กรอกหูลูกสาวอย่างไรจนทำให้ยัยหนูน้อยนี่คิดว่าเสี่ยวเชาเป็นคนรุ่นเดียวกับคุณตาของเธอ ยังบอกว่าเสี่ยวเชาดูแก่…”
อู่เชายืดคอโวยวายเสียงดัง “ฉันเด็กกว่าเธอด้วยซ้ำ แล้วจะมีลูกสาวตัวโตอย่างเธอได้เหรอ? เธอลองเบิกตาดูให้ชัด ๆสิว่าบนหน้าฉันไม่มีริ้วรอยสักนิด ผิวเนียนเด้ง ดูเด็กกว่าเธอตั้งมาก!”
“พูดเหลวไหล ฉันเคยพูดแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่รู้จักนายสักหน่อย…”
ยังพูดไม่ทันจบ ฉีฉีเก๋อที่เถียงคอเป็นเอ็นก็เป็นใบ้ไปชั่วขณะเหมือนถูกคนบีบคอเอาไว้ ดวงตาลุกวาวแล้วหันไปถลึงตาใส่เป่ารื่อน่าอย่างดุดันด้วยท่าทีมีพิรุธ
ยายตัวแสบ ปากไม่มีหูรูด อะไรก็พูดออกไปหมด!
……………………………
ตอนที่ 2824 จะพูดความจริงไปทำไม
“ใจฝ่อขึ้นมาละสิ…เมื่อกี้ใครกันที่ยังโวยวายเสียงดัง? ฉันละแปลกใจนัก ฉันไม่เคยล่วงเกินอะไรเธอเลย แล้วทำไมเธอถึงได้นินทาว่าร้ายฉันลับหลังแบบนี้?”
อู่เชาเห็นท่าทางของฉีฉีเก๋อก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยพูดแบบนั้นไปแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นจะมีคำที่ว่าวาจาเด็กมักเป็นความจริง เด็กไม่มีทางโกหกแน่นอนเหรอ
ไฟโทสะของฉีฉีเก๋อถูกดับไปกว่าครึ่งแต่ก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อหน้าอู่เชา ถึงตัดสินใจหันหน้าหนีไม่สนใจหมอนี่อีก ไม่ยอมตอบคำถามสักประโยคเดียว
“อย่าคิดว่าเงียบแล้วจะจบนะ ฉันจะบอกเธอให้ว่าถ้าพูดให้เป็นเรื่องใหญ่ก็เท่ากับกำลังทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง ฉันหาทนายฟ้องเธอได้ เอาแบบนี้แล้วกัน เห็นแก่เหมยเหมย ขอแค่เธอยอมขอโทษอย่างจริงใจ ฉันจะยอมยกโทษให้เธอ!”
อู่เชาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆหรอก เขาเกลียดการที่ถูกคนว่าเขาแก่ที่สุด!
เนื่องจากหุ่นของเขาค่อนไปทางอ้วนและพูดจาเชื่องช้าทำให้ดูแก่กว่าวัย ตอนอายุสิบแปดก็มีคนบอกว่าเขาอายุสามสิบซึ่งในความทรงจำของเขาราวกับเขาไม่เคยมีช่วงวัยรุ่นโลดโผนวัยสิบแปดปีมาก่อน ตอนอายุยี่สิบต้น ๆก็เริ่มต้นชีวิตคนแก่รักสุขภาพด้วยการหอบกระบอกน้ำเก็บความร้อนที่ชงน้ำเก๋ากี้ตลอดเวลา
แม้เขาจะดื่มด่ำกับการพกน้ำเก๋ากี้ไปทุกที่และรู้ว่าตนดูแก่เกินวัยจริง แต่เขาก็ไม่ชอบให้ใครว่าเขาแก่!
เขาชอบได้ยินเวลาคนอื่นพูดว่า–
โอ๊ย คุณอู่ปีนี้อายุครบปียี่สิบปีหรือยัง?
หรือว่า คุณอู่ยังเรียนอยู่สินะ?
……
คำพูดคำจาแบบนี้มีศิลปะขนาดไหน รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายโกหกหน้าซื่อแต่เขาก็ดีใจทุกครั้งที่ได้ยิน
จะเหมือนคนที่ชื่อฉีฉีเก๋อนี้ได้อย่างไร แถมพาดพิงหมิ่นประมาทเขาลับหลัง สิ่งที่น่าแค้นใจที่สุดกลับสอนให้เด็กอีกด้วย ถ้าทนเรื่องนี้ได้จะมีเรื่องไหนที่ทนไม่ได้อีก!
เหมยเหมยพูดเกลี้ยกล่อม “เสี่ยวเชาช่างเถอะ แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
“งั้นหล่อนต้องขอโทษฉันจากใจจริง ไม่งั้นไม่มีวันจบ!” อู่เชายืดคอเถียง นาน ๆทีนิสัยดื้อด้านหัวแข็งจะกำเริบ
ตอนแรกฉีฉีเก๋อคิดจะขอโทษแต่พอเห็นท่าทางของอู่เชาไฟโทสะของเธอก็พุ่งพรวดขึ้นมา “ฉันทำให้นายเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างไร สิ่งที่ฉันพูดไปคือความจริงทั้งนั้น หน้าตานายดูอายุพอ ๆกับพ่อของฉันจริง ๆนี่นา ไม่สิ พ่อของฉันดูเด็กกว่านายเยอะ”
“เธอ…เธอ…ดี รอทนายฉันยื่นฟ้องเธอแล้วกัน!” อู่เชาบันดาลโทสะอย่างหนักจนไขมันบนหน้าสั่นสะเทือน ก่อนจะทิ้งท้ายไปด้วยคำพูดแกมขู่
เด็กน้อย เสือไม่แสดงอิทธิฤทธิ์ก็คิดว่าเขาเป็นแมวป่วยจริง ๆงั้นสิ!
“มีแค่นายที่หาทนายได้หรือไง? ฉันก็มีทนายเหมือนกัน ไว้เจอกันที่ศาลเลย ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าอยู่โลกนี้เราจะพูดความจริงกันไม่ได้!”
ฉีฉีเก๋อไม่ยอมแพ้ ไว้เธอกลับไปจะโทรหาทนายกัว ใครกลัวกันล่ะ!
“จะรอแล้วกัน!”
อู่เชาเหลียวมองรอบตัวหมายจะหาเพื่อนร่วมฝ่ายแต่กลับพบว่าบรรดาเพื่อน ๆคนที่กำลังงีบพักเอาแรงก็งีบไป คนที่กระซิบกระซาบคุยกันก็คุยไป หรือไม่ก็กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่…ไม่มีใครห่วงใยเขาเลย
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกระซิบถามฉีฉีเก๋อ “เรื่องนี้จะว่าไปเธอก็ผิดจริง ๆ ถึงเจ้าอ้วนนั่นจะดูแก่แต่เธอจะพูดออกมาไม่ได้นะ!”
อู่เชาได้ยินเสียงกระซิบของเธอชัดเต็มสองหูก็ได้รับความสะเทือนใจอีกครั้ง เหมือนมีหินก้อนมหึมาทับอยู่ตรงหน้าอกทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกแย่แทบทนไม่ไหว
เหมยเหมยคบเพื่อนอะไรกัน ไม่มีใครพูดจาดี ๆสักคน!
ฉีฉีเก๋อโวยเสียงเป็นการแก้ตัว “ก็มีรายการสัปดาห์หนึ่งที่เจ้าอ้วนนี่ดันใส่ชุดฉางเผาหม่ากว้า[1] เดิมทีก็ดูแก่อยู่แล้วยังใส่หม่ากว้าอีกทีนี้ก็ดูเหมือนตาแก่คนหนึ่งสิ ฉันแค่พลั้งปากพูดลอย ๆ ใครจะรู้ว่ายัยตัวแสบเป่ารื่อน่าจะจำเก็บเอามาพูดกันล่ะ”
อู่เชาสีหน้าอ่อนไหว มีรายการสัปดาห์หนึ่งที่เขาสวมชุดฉางเผาหม่ากว้าจริง ๆ ทั้งที่ผู้ช่วยต่างเอ่ยชมเขาว่าดูสง่างามดั่งคุณชายแท้ ๆ ผู้หญิงคนนี้ตาบอดหรือไงกัน!
…………………………..
[1] ชุดเสื้อคลุมยาวแบบจีนในสมัยราชวงศ์ชิง