ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2825 เป็นเรื่องใหญ่แล้ว + ตอนที่ 2826 ท่านย่ามาเยือน
ตอนที่ 2825 เป็นเรื่องใหญ่แล้ว
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ยินเช่นนั้นก็ขำ เบะปากกล่าว “นั่นก็เพราะเธอดูรายการเจ้าอ้วนนี่ประจำไม่พลาดสักตอนไง ไม่งั้นเด็กอายุเท่าเป่ารื่อน่าจะจำตัวจริงของเจ้าอ้วนได้ตั้งแต่แวบแรกได้เหรอ?”
ฉีฉีเก๋อแค่นเสียงทีหนึ่ง “จากนี้ไปไม่ดูแล้ว ใครดูก็คือหมา!”
หากเธอรู้แต่แรกว่าเจ้าอ้วนนี่เป็นคนจิตใจคับแคบเช่นนี้ ตีให้ตายอย่างไรเธอก็ไม่โง่ที่จะเพิ่มยอดคนดูให้เจ้าอ้วนนี่เด็ดขาด!
อู่เชาสีหน้าเปลี่ยนไป ไฟโทสะที่กำลังสุมอกอยู่จางหายไปมากทีเดียว ถ้าเขารู้แต่แรกว่าผู้หญิงคนนี้คือแฟนรายการของตัวเอง เมื่อกี้เขาจะใจกว้างสักหน่อยไม่ถือสาผู้หญิงคนนี้แล้ว!
หรือว่าเขาไม่เรียกทนายแล้วดี เพราะปกติเขาก็ใจดีกับแฟนคลับของเขาอย่างมาก!
แต่ประโยคสุดท้ายของฉีฉีเก๋อก็กระตุ้นไฟโทสะของอู่เชาได้สำเร็จอีกครั้ง ความคิดที่จะหาทนายความก็เริ่มสั่นคลอนไม่แน่ไม่นอนไปชั่วขณะ
เหมยเหมยได้ยินเรื่องราวความแค้นของทั้งคู่ก็อดขำไม่ได้ เรื่องเล็กแค่นี้ยังทะเลาะถึงขั้นเรียกทนายความได้ ดูว่างกันเสียจริง!
“เพลา ๆหน่อยเถอะ อายุขนาดนี้แล้วยังคิดเล็กคิดน้อยอยู่ได้ ไม่กลัวเด็ก ๆหัวเราะเยาะหรือไง เรื่องแค่นี้ก็ช่างมันเถอะ ใครยังโวยวายจะเรียกทนายก็อย่ามาทานข้าวที่บ้านฉันอีก!”
เหมยเหมยปั้นหน้าตึงหาข้ออ้างให้เพื่อนทั้งสองได้กู้หน้า สองคนนี้กำลังตึงใส่กันไม่มีใครยอมเสียหน้า ฉะนั้นต้องมีใครสักคนออกมาช่วยปรับความเข้าใจผิดสักหน่อย
“เฮอะ!”
ทั้งคู่พ่นลมออกทางจมูกพร้อมกันแล้วก็หันหน้าไปคนละทางอย่างไม่มีใครยอมมองใคร
“ไม่พูดอะไรก็ถือว่าตกลงแล้ว เรื่องนี้จบกันแค่นี้ ใครก็อย่าพูดถึงอีก!” คุณย่าหยางตัดสินคำเดียวในฐานะผู้อาวุโสกว่า เป็นการปิดฉากให้กับเรื่องตลกในครั้งนี้
“จอดรถ ฉันลงไปซื้อนิตยสารฉบับหนึ่ง ดูว่าในนั้นแต่งเรื่องอะไรไปบ้าง”
ขณะที่ผ่านร้านขายหนังสือพิมพ์เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสั่งให้คนขับจอดรถ ไม่นานก็ซื้อนิตยสารซุบซิบกลับมาแปดฉบับแล้ววิ่งเหยาะขึ้นรถ
“น่าโมโหจริง ๆ เจ้าของร้านบอกว่าถ้าฉันไปช้าอีกนิดก็หมดแล้ว สองวันนี้นิตยสารซุบซิบขายดิบขายดีจนขาดตลาดทุกวัน”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแจกจ่ายให้คนละเล่มและตนก็เริ่มเปิดอ่านไปด้วย ข่าวของสยงมู่มู่เด่นหราอยู่หน้าแรกที่พาดหัวข่าวไว้อย่างสะดุดตาว่า – นักร้องระดับโลกมู่มู่กับรักสี่เศร้า นักเขียนชื่อดังคุณชายน่าหลันก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกคน…
“นี่เขียนบ้าอะไรกันเนี่ย…เขียนออกทะเลไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิกหมดแล้ว ไม่มีขีดจำกัดสักนิด” คุณย่าหยางโกรธจนหน้าบึ้งตึงมือสั่นระริก
ที่แท้รูปในนิตยสารคือรูปแอบถ่ายตอนเหมยเหมยไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เหล่าปาปารัสซี่แต่งเรื่องขึ้นมาว่าเป็นรักสี่เศร้าเพื่อสร้างจุดดึงดูดความสนใจ อู่เชากับสยงมู่มู่ต่างมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหมยเหมยทำให้ไม่ทราบว่าใครคือพ่อตัวจริงของเด็กในท้องเธอ ฉะนั้นถึงไปตรวจที่โรงพยาบาลให้รู้แน่ชัดว่าใครคือคุณพ่อกันแน่…
ส่วนเซียวเซ่อเองก็หนีไม่พ้นแน่นอนอยู่แล้ว ภายใต้ปลายปากกาของพวกปาปารัสซี่เธอยังมีความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงกับสยงมู่มู่เช่นกัน!
เหมยเหมยกลับไม่สะทกสะท้านอะไร ชาตินี้เธอประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์และไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้ เธอชินชาตั้งนานแล้ว
“คุณย่าอย่าโมโหเลย วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละ พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ พลิกหลังมือเป็นหน้ามือได้ ใครที่สภาพจิตใจอ่อนแอหน่อยคงถูกบีบจนตายได้เลย” เหมยเหมยพูดเกลี้ยกล่อม
คุณย่าหยางตอบกลับด้วยความโกรธ “มิน่าถึงบอกว่าวงการบันเทิงซับซ้อนเหมือนอ่างอาบสี มู่มู่เธอก็เหมือนกัน ตั้งใจเรียนหนังสือดีจะตาย ดั้นด้นจะไปพัวพันในวงการสกปรกนั่นให้ได้ ทีนี้ดีละสิ ถูกย้อมสีเป็นหมีตัวลายแล้วยังเดือดร้อนถึงเหมยเหมยของฉันอีก”
ประโยคสุดท้ายต่างหากที่เป็นใจความสำคัญ คุณย่ากำลังไม่พอใจต่อสยงมู่มู่
สยงมู่มู่ก็รู้สึกผิดประมาณหนึ่ง เขากำลังจะพูดปลอบคุณย่าสักหน่อยโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังกะทันหัน เป็นสายจากจ้าวอิงหนาน
“ไอ้แสบแกทำเซ่อเซ่อท้องใช่ไหม? รอฉันเลยนะ อีกสองชั่วโมงไปถึงที่นั่น!”
จ้าวอิงหนานตะคอกใส่ประโยคหนึ่งอย่างรีบร้อนแล้ววางสายไป ทำเอาสยงมู่มู่ทำหน้านิ่งด้วยความงุนงง
แม่สุดที่รักของเขาเป็นอะไรไป?
ขณะเดียวกันโทรศัพท์ของเซียวเซ่อก็ดังขึ้นมา คนที่โทรมาคือผู้ช่วยของเธออัลเบิร์ต “ท่านเคานต์รู้เรื่องแล้ว ท่านจองตั๋วเครื่องบินเดินทางมาด้วยตัวเอง คุณได้โปรดทำใจไว้ด้วย!”
……………………….
ตอนที่ 2826 ท่านย่ามาเยือน
เซียวเซ่อมองโทรศัพท์ด้วยใบหน้าขมึงทึงพร้อมเสียงตู๊ด ๆมาจากปลายสาย เจ้าอัลเบิร์ตกล้าตัดสายเธอ หักโบนัสประจำปีครึ่งหนึ่งเลย!
“ทำไมเหรอ?” เหมยเหมยเห็นสีหน้าเธอแปลกไปเลยถามด้วยความห่วงใย
“คุณย่าของฉันกำลังเดินทางมา คาดว่าพรุ่งนี้คงถึง” เซียวเซ่อปวดศีรษะอย่างหนักจนข้างขมับปวดตุบ ๆ
ทุกคนต่างตกใจกันระนาว คุณย่าที่ควบคุมเซียวเซ่อเหมือนหุ่นกระบอกมาตั้งแต่เด็กกำลังจะมาหรือ?
“ท่านรู้เรื่องได้อย่างไร? ที่อังกฤษเห็นนิตยสารซุบซิบของที่นี่ได้ด้วยเหรอ?” เหมยเหมยแปลกใจ
“ใครจะไปรู้ว่าไอ้สารเลวคนไหนส่งข่าวบอกคุณย่าฉันล่ะ อย่าให้ฉันตามสืบเจอตัวเชียว!” เซียวเซ่อกัดฟันกรอดพร้อมกำหมัดแน่น ความจริงเธอพอจะเดาได้ว่าใครเป็นคนทำ คงไม่พ้นบรรดาญาติที่หมายจะช่วงชิงตำแหน่งเคานต์และมรดกของเธอน่ะสิ!
เจ้าพวกคนน่ารังเกียจเหล่านั้นติดตามเธออยู่ทุกช่วงเวลาเพื่อจะหาจุดอ่อนของเธอให้ได้แล้วไล่เธอออกจากประเทศอังกฤษ เช่นนี้มรดกของคุณย่ากับตำแหน่งเคานต์ก็เป็นของพวกเขาแล้ว!
หึ…ฝันกลางวันชัด ๆ!
“ตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ? คุณย่าเธอต้องโกรธมากแน่ ๆใช่ไหม? โอ๊ย…เซ่อเซ่อหรือว่าเธอจะหลบไปอยู่ที่อื่นก่อนไหม?” เหมยเหมยเป็นห่วงอย่างมาก ถึงเธอไม่เคยเจอคุณย่าแต่เคยได้ยินสยงมู่มู่กับเซียวเซ่อเล่าถึง โดยสรุปไม่ใช่คนดีอะไร
“ไม่ไป…ทำไมต้องหลบด้วย อยู่ที่นี่นั่นแหละ” เซียวเซ่อพูดอย่างดื้อรั้น
เธอไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่คุณย่าโกรธจะต้องหนีออกจากบ้านตลอดใช่ไหมล่ะ?
ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมจู่ ๆเธอก็อยากเผชิญหน้ากับท่านย่าอย่างจริงจัง ช่างน่าตั้งตารอคอย…และน่าพะวงวิตกไปพร้อมกัน…
“งั้นฉันก็จะไม่หนี ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง!” สยงมู่มู่แข็งใจพูดทั้งที่แผ่นหลังชื้นเต็มไปด้วยเหงื่อ บอกตามตรงเขาเกรงกลัวคุณย่าจริง ๆ เป็นความกลัวที่มาจากใจอีกต่างหาก
ได้ยินมาว่าหญิงชราคนนี้เป็นถึงอดีตสาวงามผู้โด่งดัง ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเอาท่านผู้เฒ่าเซียวเหยียนหลงหัวปักหัวปำ ไม่เพียงแค่ท่านผู้เฒ่าเซียวแต่เหมือนว่าเจ้าชายจากราชวงศ์สมัยนั้นยังหลงใหลคุณย่าไปด้วยอีกคน
แต่หญิงชราท่านนี้กลับปฏิเสธรักจากชายตระกูลชนชั้นสูงมากมายแล้วเอาชีวิตมาพัวพันกับนักศึกษาหนุ่มชาวจีนฐานะยากจน ตระกูลชั้นสูงในอังกฤษขณะนั้นยังไม่เปิดกว้างเรื่องนี้มากนัก การกระทำของคุณยายได้สร้างความโกลาหลที่ได้ข่าวว่าคุณย่าเกือบจะถูกลบชื่อออกจากตระกูลเลยทีเดียว
แน่นอนว่าสุดท้ายไม่ได้ถูกลบชื่อออกเพราะคุณย่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ทั้งยังมีพ่อแม่ที่รักเธอมากจึงต่อต้านเสียงจากภายนอกแล้วรักษาตำแหน่งผู้สืบทอดสถานะท่านเคานต์ของเธอไว้ได้
ภายหลังก็เหมือนบทละครน้ำเน่าที่คุณหนูจากตระกูลชั้นสูงกลับบ้านเกิดตามนักศึกษายาจก ก่อนจะพบว่านักศึกษายาจกผู้นี้มีภรรยาแล้ว คุณหนูตระกูลชั้นสูงที่มีอุปนิสัยหยิ่งผยองถือตัวโกรธเข้าก็อุ้มลูกที่เพิ่งคลอดกลับประเทศ นับจากนั้นมาก็ไม่เคยพบหน้ากับท่านผู้เฒ่าเซียวอีกเลย
แม้แต่การแย่งชิงสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกชายเซียวจิ่งหมิง คุณย่าของเซียวเซ่อก็ให้ผู้ช่วยเป็นคนออกหน้าและไม่ยอมรับสายใด ๆ
วันเวลาหลายสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว อายุขัยเปรียบเสมือนอาวุธอานุภาพรุนแรงทำให้อดีตสาวงามแห่งยุคเหลือเพียงหญิงชราใบหน้าเหี่ยวย่นผู้โดดเดี่ยว ความรักที่ไม่ราบรื่นในวัยสาวเป็นเหตุให้หญิงชราท่านนี้อารมณ์แปลกพิลึกมากขึ้นทุกวัน แทบไม่มีใครทนความเจ้าอารมณ์ของเธอได้รวมถึงหลานสาวแท้ ๆอย่างเซียวเซ่อด้วย
ไม่อย่างนั้นคุณหนูใหญ่เซียวคงไม่ลอยแพอยู่ข้างนอกถึงสามร้อยวันทั้งที่ปีหนึ่งมีเพียงสามร้อยหกสิบห้าวันหรอก
เซียวเซ่อกลอกตาใส่สยงมู่มู่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย ไสหัวไป!”
คุณย่าของเธอถือมีดไล่ฟันเจ้าหมอนี่ได้จริง ๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหมอนี่ก็ไสหัวไปเถอะ ไปได้ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี!
……………