ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2869 เรื่องมากยิ่งกว่าฮ่องเต้ + ตอนที่ 2870 ไม่สอนลูกคือความผิดของคนเป็นพ่อ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2869 เรื่องมากยิ่งกว่าฮ่องเต้ + ตอนที่ 2870 ไม่สอนลูกคือความผิดของคนเป็นพ่อ
ตอนที่ 2869 เรื่องมากยิ่งกว่าฮ่องเต้
สิ่งที่เหยียนหมิงซุ่นหยิบมามีต้นหอม ขิง กระเทียม ขึ้นฉ่าย หัวหอม ผักชีรวมถึงเครื่องปรุงรสอย่างซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูนำหยิบใส่ตะกร้า เขาหยิบต้นหอมต้นหนึ่งมาวางตรงหน้าเสี่ยวจู เจ้าตัวเล็กตกใจแทบทานอะไรไม่ได้รีบเอามือปิดจมูกถลึงตามองต้นหอมอย่างนึกรังเกียจ
“พี่ทำอะไร? เสี่ยวจูไม่ชอบกลิ่นต้นหอม รีบเอาออกไปเลย”
เหมยเหมยฟาดมือเหยียนหมิงซุ่นแล้วถลึงตาใส่เขาเป็นเชิงดุแวบหนึ่ง
“ของพวกนี้เสี่ยวจูไม่ชอบหมดเลยเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่ยยังไม่ค่อยรู้รสนิยมการกินของเจ้าตัวเล็กนี่นัก รู้เพียงว่าลูกชายคนเล็กไม่ชอบทานเนื้อ
“ใช่ อาหารที่มีกลิ่นฉุนเขาไม่ชอบมันทั้งหมดนั่นแหละ อีกอย่างอาหารของเสี่ยวจูปรุงได้แค่เกลือกับน้ำตาล ซีอิ๊วน้ำส้มสายชูหรือเครื่องปรุงรสอย่างอื่นห้ามใส่เพราะเขาไม่ชอบ” เหมยเหมยหยิบเอาของที่เหยียนหมิงซุ่นเอาออกมากลับไปไว้ในครัวดังเดิม เสี่ยวจูสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะทานขนมแป้งต่อไป
แต่วันนี้เสี่ยวจูกลับไม่เจริญอาหารเท่าปกติ ทานขนมแผ่นแป้งไปเพียงสองชิ้นทั้งที่ปกติต้องทานสี่ชิ้นแหนะ!
“อิ่มแล้ว…ง่วง อยากนอน…”
เสี่ยวจูดื่มนมเสร็จก็แทบลืมตาไม่ขึ้น ดวงตาปรือท่าทางง่วงนอน เขายื่นแขนออกไปขออุ้มหมายจะให้เหมยเหมยพาเขากลับไปนอนที่ห้อง
ขึ้นบันไดเหนื่อยจังแฮะ!
“ทำไมทานแค่สองชิ้นล่ะ? เสี่ยวจูปกติลูกทานสี่ชิ้นตลอดไม่ใช่เหรอ?” เหมยเหมยแอบเป็นห่วงเล็กน้อย จู่ ๆก็ลดปริมาณอาหารลงเกือบครึ่ง หรือว่าจะไม่สบายกันนะ?
“ไม่อร่อย…”
เหมยเหมยหยิบขนมแผ่นแป้งมันฝรั่งขึ้นมาชิมคำหนึ่ง รสชาติกลมกล่อมไม่ต่างจากของเมื่อวานนัก เมื่อวานเสี่ยวจูยังทานไปตั้งสี่ชิ้น!
“แม่คิดว่าไม่ต่างจากของเมื่อวานเท่าไหร่นี่นา อร่อยมากเหมือนเดิม เสี่ยวจูลูกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เหมยเหมยเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม พฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดเวลาเด็กป่วยก็คือความอยากอาหารลดลง รู้สึกขมในปากทำให้ทานอะไรก็ไม่ได้รสชาติ
เธอแนบหน้าผากติดกับหน้าผากของเสี่ยวจูซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าของเธอเล็กน้อย แต่นี่เป็นอุณหภูมิปกติเพราะอุณหภูมิร่างกายของเด็กมักสูงกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว บ่งบอกว่าเสี่ยวจูไม่ได้เป็นไข้ เหมยเหมยถึงค่อยวางใจหน่อย
“คุณแม่โง่…ไม่อร่อย” เสี่ยวจูเบิกตาอย่างไม่พอใจแล้วมองเหมยเหมยอย่างนึกรังเกียจ มันต่างกันชัดเจนขนาดนี้ทำไมถึงทานไม่ออก
“ฉันจะลองทานดู…เหมือนเมื่อวานนี่นา เล่อเล่อหนูลองทานดูหน่อย”
คุณย่าหยางกัดคำหนึ่งก็ได้ข้อสรุปเหมือนเหมยเหมย เธอกลัวว่าด้วยความที่ตนอายุมากทำให้ลิ้นรับรสผิดเพี้ยนไปจึงให้เล่อเล่อมาทาน
เล่อเล่อทานขนมแผ่นแป้งมันฝรั่งหนึ่งชิ้นหมดภายในไม่กี่คำ จากนั้นก็เลียนิ้วด้วยความรู้สึกอยากจะทานต่อ กล่าวโดยสรุปว่า “อร่อย ใส่เนื้ออีกนิดจะอร่อยกว่านี้”
“โง่…ไม่อร่อยเลย!” เสี่ยวจูระอาใจสุดขีด
เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเสี่ยวจูมาวางบนหน้าตักแล้วถามเสียงอ่อนโยน “ทำไมขนมแผ่นแป้งวันนี้ถึงไม่อร่อยล่ะ? ไม่อร่อยตรงไหน?”
“เหม็น…” เสี่ยวจูพูดเสียงอู้อี้
“เหม็นตรงไหน? ทั้งที่หอมจะตายไป” เหมยเหมยเข่าแทบทรุดจริง ๆ ขนมแผ่นแป้งมันฝรั่งหอมกรุ่นขนาดนี้ยังบ่นว่าเหม็นได้ เจ้าตัวเล็กนี่ปากช่างเลือกยิ่งกว่าฮ่องเต้เสียอีก!
“ก็มันเหม็น…ไข่เหม็น…” เสี่ยวจูไม่พอใจแล้ว ก็มันกลิ่นเหม็นนี่นา แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่เขารับได้เลยฝืนทานไปสองชิ้น ไม่งั้นก็ต้องทนหิวแย่เลย
เหมยเหมยกัดอีกคำอย่างไม่เชื่อก็ได้กลิ่นไข่ไก่หอมกรุ่น เจ้าตัวเล็กดมอย่างไรถึงบอกกลิ่นเหม็นกันนะ?
เหยียนหมิงซุ่นก็ทานขนมแผ่นแป้งมันฝรั่งด้วยอีกชิ้นที่มีความรู้สึกเดียวกับภรรยาเขา กลิ่นหอมไม่มีกลิ่นเหม็น แต่เขาคิดว่าลูกชายคนเล็กต้องไม่พูดปดแน่ ๆซึ่งน่าจะมาจากสาเหตุอื่น
จู่ ๆป้าฟางก็ตบหน้าผากตัวเองทีหนึ่ง “โอ๊ย…นึกขึ้นได้แล้ว เช้านี้ฉันตอกไข่ไปสามฟอง แต่มีฟองหนึ่งที่คาดว่าคงเก็บไว้นานเกินไปไม่ค่อยสดเท่าไรแต่ไม่เสียแน่นอน เพียงแต่ไข่แดงเละไปหน่อย”
…………………………..
ตอนที่ 2870 ไม่สอนลูกคือความผิดของคนเป็นพ่อ
เหมยเหมยแค่ฟังป้าฟางพูดก็รู้ทันทีว่าไข่มีสภาพอย่างไร ถ้าเก็บไข่เป็นเวลานานไข่แดงจะเละ บางครั้งเวลาตอกไข่จะติดอยู่กับเปลือกไข่ ถ้าเก็บไว้นานกว่านี้อีกสักระยะคาดว่าคงเสียได้ แต่สภาพแบบนั้นยังไม่เสียอย่างแน่นอน
อีกอย่างไข่เสียก็ไม่เป็นไร ในเมื่อมีคนตั้งมากมายที่ชื่นชอบการทานไข่เหม็นคาว!
“เสี่ยวจูรู้สึกว่าไข่เหม็นเหรอ?” เหมยเหมยถาม
“อืม…”
เสี่ยวจูพยักหน้า แต่คิด ๆแล้วก็เสริมไปว่า “แต่ไม่เหม็นเท่าฉี่ของพี่ชาย”
เหมยเหมยมุมปากกระตุก ทำไมอยู่ดี ๆถึงเอี่ยวไปถึงฉี่ของเน่าเน่าได้ล่ะ?
อีกอย่างฉี่ของใครกลิ่นหอมกัน!
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองคุณปู่เหยียนที่กำลังถือแก้วน้ำชาเครื่องเคลือบลายครามดื่มชาอยู่ก็นึกอยากหัวเราะลั่น แต่เขาก็พยายามกลั้นเอาไว้
“พี่ชายของลูกไม่ได้ฉี่รดตัวลูกสักหน่อย ไม่เหม็น” เหมยเหมยยิ้มหยอกเย้า แม้เน่าเน่าจะขี้เล่นไปหน่อยแต่เขาไม่เคยฉี่รดที่นอนตั้งแต่เด็ก เสี่ยวจูเองก็เช่นกัน สองพี่น้องคู่นี้ค่อนข้างเลี้ยงง่ายทีเดียวแต่แค่คนเล็กสุดออกจะวุ่นวายไปสักหน่อย
เสี่ยวจูยื่นมืออวบนุ่มนิ่มออกมาชี้นิ้วไปยังคุณปู่เหยียนที่กำลังจิบน้ำชาอยู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยน่ารัก “พี่ชายฉี่ใส่แก้ว…”
เหมยเหมยมองไปยังแก้วเครื่องเคลือบลายครามในมือของคุณปู่ตามต้นทางที่เสี่ยวจูชี้ไป นั่นเป็นของขวัญจากนักเรียนที่ทำงานอยู่จิ่นเต๋อเจิ้น[1]ของคุณปู่ คุณปู่รักมันยิ่งกว่าอะไรและต้องใช้ดื่มน้ำชาทุกวี่วันไม่มีเว้น
เธอเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆเหมือนว่าลูกชายคนโตจะก่อวีรกรรมเข้าแล้ว!
คุณย่าหยางถามด้วยความแปลกใจ “พี่ชายฉี่ใส่แก้วใบไหนเหรอ?”
“ของปู่ทวด…” เสี่ยวจูเอือมระอามาก พลางนึกสงสัยในระดับสติปัญญาของพวกผู้ใหญ่ในบ้านจากใจจริง
ทั้งที่เขาชี้ชัดขนาดนี้แล้วแท้ ๆ
“พรวด”
คุณปู่เหยียนกำลังจิบน้ำชาคำโตก็พ่นออกมาทันทีพร้อมมองแก้วในมือด้วยใบหน้าขมึงทึง ชาหลงจิ่งที่เพิ่งชงใหม่ในเช้านี้พร่องลงไปกว่าครึ่งแล้ว
แต่—ที่ว่าฉี่ใส่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
“เน่าเน่า…ลูกฉี่ใส่แก้วของปู่ทวดเหรอ?” เหมยเหมยถามด้วยใบหน้าขึงขัง
“เอ่อ…ผม…” เน่าเน่าเงยหน้าเหลือบมองเหยียนหมิงซุ่นเป็นระยะ ๆหมายอยากได้สัญญาณลับบางอย่างจากพ่อตัวเอง เขาควรยอมรับหรือไม่ยอมรับดีล่ะ?
เหยียนหมิงซุ่นหันหน้าหนี เจ้าตัวเล็กหาทางช่วยตัวเองเถอะ!
“ลูกจะมองพ่อทำไม? แม่ถามลูกอยู่ว่าได้ฉี่ลงไปหรือเปล่า?” เหมยเหมยขึ้นเสียง
เน่าเน่าจำต้องยอมรับสารภาพไป “ฉี่แล้ว…คุณพ่อบอกไม่เป็นไร”
เฮอะ อย่าคิดจะให้เขารับผิดแต่เพียงคนเดียวเลย!
คุณปู่เหยียนถลึงตาจ้องน้ำชาในแก้วอย่างนึกรังเกียจพลันก็รู้สึกพะอืดพะอม แต่ไม่ดื่มก็รู้สึกปวดใจ…ชาหลงจิ่งชั้นดีเชียวนะ!
“ฉี่ก็ฉี่ไปสิ ฉี่เด็กช่วยบำรุงร่างกายนะ ฉี่ของเหลนชายแท้ ๆจะรังเกียจไปทำไม ฮ่าฮ่าฮ่า!” คุณย่าหยางหัวเราะจนน้ำตาเล็ด คุณปู่เหยียนถูกหัวเราะเยาะก็ยิ่งโกรธหนักเข้าไปใหญ่ ทำใจตีเน่าเน่าไม่ลงแต่ถ้าไม่ตีก็ระบายอารมณ์ไม่ได้
คุณปู่จึงหยิบเอาไม้ขนไก่ฟาดเหยียนหมิงซุ่นหลายที “ไม่สอนลูกคือความผิดของคนเป็นพ่อ!”
เหยียนหมิงซุ่นหลบได้อย่างคล่องแคล่วแล้วกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ปกติเห็นบอกว่าขี้และฉี่ของเน่าเน่าหอมไม่ใช่เหรอ? ดื่มหน่อยจะเป็นไรไป? หรือว่าปู่หลอกลวงงั้นสิ!”
“แก…มานี่!” คุณปู่ทนความอับอายไม่ไหวก็ฟาดไปอีกหลายทีถึงพอใจ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปล้างแก้วในครัวอย่างโกรธเคือง
เหยียนหมิงซุ่นมองเน่าเน่าที่แอบเอามือป้องปากหัวเราะแวบหนึ่งก็แค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง ไว้ค่อยกลับมาสั่งสอนหมอนี่อีกที ตอนนี้จัดการเรื่องของลูกชายคนเล็กก่อน
เขามองไปที่เสี่ยวจูในอ้อมแขนที่กำลังตาปรือ คาดว่าอีกสักพักคงไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว เขาบีบจมูกเล็ก ๆอย่างระอาทีหนึ่ง เสี่ยวจูลืมตาขึ้นอย่างไม่พอใจพลางถลึงตาจ้องใส่เหยียนหมิงซุ่นเป็นเชิงตำหนิ
“พ่อจะถามลูกอีกอย่าง ถามเสร็จก็จะให้นอน”
“อืม…เร็วหน่อย!” เสี่ยวจูฝืนใจจำยอม
…………………