ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2871 ความสามารถพิเศษในการรับกลิ่น + ตอนที่ 2872 โลกอันเหม็นเน่า
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2871 ความสามารถพิเศษในการรับกลิ่น + ตอนที่ 2872 โลกอันเหม็นเน่า
ตอนที่ 2871 ความสามารถพิเศษในการรับกลิ่น
เหยียนหมิงซุ่นให้ป้าฟางไปเอาผลไม้ที่มีระดับความสดใหม่แตกต่างกันในครัวออกมา
ป้าฟางใช้เวลาไม่นานก็กลับมาพร้อมกับจานที่จัดวางเชอร์รี่สีขาวคล้ายหยกหลายลูก ลูกท้อที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ รวมถึงแตงโมกับลิ้นจี่
เหยียนหมิงซุ่นป้อนเสี่ยวจูตามลำดับ
“เหม็น…”
“เฉยๆ!”
“ใช้ได้”
“หวาน”
เสี่ยวจูไม่ชอบลิ้นจี่มากที่สุดเลยบอกเหม็น แตงโมเฉย ๆ ลูกท้อใช้ได้ ส่วนเชอร์รี่นั้นเป็นของโปรดเลยทานทีเดียวหลายลูก เขาทานยังไม่หนำใจ แม้แต่ความขี้เซายังหายไปพร้อมมือตะกุยหาเชอร์รี่ในจานใหญ่
“ย่าทวดจะไปล้างให้ใหม่นะ เชอร์รี่นี่บ้านเราปลูกเอง เสี่ยวเหลาเพิ่งไปเด็ดมาเมื่อเช้านี่เอง ทั้งลูกใหญ่ทั้งหวาน” คุณย่าหยางล้างเชอร์รี่มาอีกจานใหญ่ให้เด็กทั้งสามทาน
เหยียนหมิงซุ่นชี้ไปที่ผลไม้ในจานก่อนจะถาม “ลิ้นจี่ซื้อมาจากร้านซูปเปอร์มาร์เก็ตสินะ?”
“ใช่ ฉันเลือกที่สดที่สุดด้วยนะ” ป้าฟางนึกแปลกใจเหลือเกิน ลิ้นจี่เหล่านี้เธอทานไปก็รู้สึกสดใหม่ดีนี่นา ทำไมเสี่ยวจูถึงบอกว่าเหม็นล่ะ?
“แตงโมเป็นพันธุ์สุกง่าย ฉันซื้อมาเมื่อสองวันก่อน ลูกท้อเพิ่งเด็ดมาเมื่อวาน เชอร์รี่เด็ดเมื่อเช้าวันนี้” ป้าฟางชี้ไปที่ผลไม้แล้วไล่แนะนำทีละอย่าง
เหยียนหมิงซุ่นพอรู้คร่าว ๆแล้ว เวลาของผลไม้ที่ป้าฟางบอกกับระดับความรังเกียจที่เสี่ยวจูมีต่อผลไม้เหล่านี้มันตรงกันพอดี
“ปากช่างเลือกจริง ๆนะเรา…” เหมยเหมยร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก เพิ่งผ่านมาวันเดียวก็ไม่ทานแล้ว นี่จะปรนนิบัติยากเกินไปแล้วนะ!
เหยียนหมิงซุ่นกลับพบที่มาของปัญหา เวลาเสี่ยวจูจะทานอะไรก็ตามต้องดมก่อน จากนั้นค่อยกัดคำหนึ่งแล้วค่อยดมใหม่…ถ้าอร่อยก็ทานเยอะ ไม่อร่อยก็ไม่ทาน
บ่งบอกว่าเสี่ยวจูอาศัยกลิ่นในการตัดสินว่าอาหารชนิดนั้นอร่อยหรือไม่
บางที…
เหยียนหมิงซุ่นมีการคาดเดาอย่างหนึ่ง เขาก้มหน้าถามเสี่ยวจูที่ทานเชอร์รี่ไม่หยุด “เหตุที่ลูกไม่อยากเดินเพราะข้างนอกเหม็นใช่ไหม?”
“อืม…เหม็น” เสี่ยวจูพยักหน้ารับแล้วทานเชอร์รี่จนหมดจาน หาววอดทีหนึ่งอย่างพึงพอใจ เขาฝืนไม่ไหวอีกต่อไปซบเหยียนหมิงซุ่นแล้วผล็อยหลับไป
พูดไปตั้งเยอะทำเอาเขาเหนื่อยแทบตาย
เหยียนหมิงซุ่นวางเสี่ยวจูบนโซฟาที่เจ้าตัวเล็กขมวดคิ้วน้อย ๆไม่ค่อยพอใจกับสภาพแวดล้อมในการนอนนัก เหยียนหมิงซุ่นเลยจำต้องอุ้มเขากลับไปยังห้องของเขาเอง พอตัวถึงเตียงเสี่ยวจูก็คลายหัวคิ้วออกอย่างพึงพอใจแล้วหลับสนิทไปทันที
“ความสามารถพิเศษของลูก ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือปัญหาของลูกกันแน่นะ!”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะอย่างระอาใจ เขาพอจะมั่นใจได้แล้วว่าความสามารถพิเศษของเสี่ยวจูคือการแยกกลิ่นและความอ่อนไหวที่มีต่อกลิ่น เจ้าตัวเล็กนี่มีจมูกที่ไวยิ่งกว่าเสวี่ยเอ๋อร์จนสามารถแยกแยะกลิ่นที่คนทั่วไปไม่ได้รับ อีกทั้งกลิ่นหอมหรือกลิ่นเหม็นทั่ว ๆไปก็จะถูกขยายความรุนแรงขึ้นหลายสิบเท่าหรือหลายร้อยเท่าเวลาเสี่ยวจูรับกลิ่น
จึงเป็นเหตุผลที่เสี่ยวจูไม่ชอบทานเนื้อหรืออาหารประเภทที่มีกลิ่นฉุนอย่างขิง กระเทียม หัวหอมเป็นต้น ถึงขั้นปฏิเสธเครื่องปรุงรสอาหารนอกจากเกลือกับน้ำตาล
อีกทั้งไม่แปลกใจต่อโลกภายนอกเพราะเขาได้กลิ่นหมดแล้ว…โลกที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า เสี่ยวจูสนใจสิแปลก
เหมยเหมยตามขึ้นมาติด ๆ เธอเห็นเสี่ยวจูที่เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งก็เอ่ยด้วยความเป็นห่วงว่า “ฉันว่าพาเสี่ยวจูไปหาหมอหน่อยดีกว่า นอนขนาดนี้มันไม่ปกติเลย”
ปกติแล้วเด็กวัยเดียวกับเสี่ยวจูวันหนึ่งนอนสักสิบสองถึงสิบสามชั่วโมงก็มากพอแล้ว เด็กที่พลังล้นเหลืออย่างเน่าเน่าอย่างมากก็สิบเอ็ดถึงสิบสองชั่วโมง แต่เสี่ยวจูกลับนอนได้มากกว่ายี่สิบชั่วโมงหรือมากกว่านั้น มันไม่ปกติอย่างแน่นอน
เหยียนหมิงซุ่นเองก็คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ขี้เซากับกลิ่นมันไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย หรือว่าเสี่ยวจูยังมีปัญหาเรื่องอื่นอีกนะ?
“งั้นก็ไปตอนนี้เลย พี่จะโทรบอกทางโรงพยาบาลไว้ก่อน” เหยียนหมิงซุ่นอนุญาตสักที
………………………….
ตอนที่ 2872 โลกอันเหม็นเน่า
เหยียนหมิงซุ่นติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในประเทศทั้งแผนกสมอง แผนกหัวใจ แผนกเด็กหรือนักจิตวิทยาต่าง ๆ…เพื่อทำการตรวจร่างกายให้เสี่ยวจูอย่างครบครัน
ขณะที่อุ้มเสี่ยวจูขึ้นรถเจ้าตัวเล็กก็ตื่นทันที ขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับมือที่อุดจมูก ในรถกลิ่นเหม็นจัง เขารู้สึกเหม็นจะตายอยู่แล้ว
“กลับบ้าน…เหม็น…” เสี่ยวจูบิดตัวจะลงจากรถ สถานที่ที่กลิ่นเหม็นขนาดนี้เขาไม่อยากอยู่แม้แต่นาทีเดียว
“ฉันอุตส่าห์ฉีดน้ำหอมกับสเปรย์ปรับอากาศแล้วนะ ทำไมยังมีกลิ่นอีกล่ะ?” เหมยเหมยคิดไม่ตกจริง ๆ
“เสี่ยวจูมีจมูกรับกลิ่นที่พิเศษกว่าคนปกติซึ่งเขาจะได้กลิ่นที่เราไม่ได้รับ เปลี่ยนรถอีกคันแล้วกัน” เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเสี่ยวจูที่กำลังร้องไห้โวยวายจะลงจากรถ
แต่แล้ว…
“เหม็น…”
ที่บ้านมีรถทั้งหมดสามคันล้วนถูกเสี่ยวจูแสดงความรังเกียจหมด ไม่ว่าจะหว่านล้อมอย่างไรก็ไม่ยอมนั่งรถ
“ก็ได้ ปั่นจักรยานแล้วกัน ฉันจะใส่ผ้าปิดปากให้เสี่ยวจูด้วย”
เหมยเหมยกลับไปเอาผ้าปิดปากที่ผ่านการฆ่าเชื้ออุณหภูมิสูงในห้องมาแล้วทาน้ำผึ้งของโปรดของเสี่ยวจูอีกนิด ไม้นี้ใช้ได้ผลตามคาดเมื่อเสี่ยวจูได้กลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งก็หยุดร้องไห้ทันที แถมยังยอมสวมผ้าปิดปากแต่โดยดีอีกต่างหาก
เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนปั่นส่วนเหมยเหมยอุ้มเสี่ยวจูนั่งซ้อนหลัง แบบนี้ก็ให้ความรู้สึกต่างไปอีกแบบแฮะ
“ฉันนึกถึงเมื่อก่อนตอนที่พี่ปั่นจักรยานให้ฉันซ้อนจัง จะว่าไปไม่ได้นั่งจักรยานมาสิบกว่าปีแล้วเนอะ!” เหมยเหมยเอ่ย
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ “ไว้มีเวลาพี่จะปั่นจักรยานพาเธอออกไปเที่ยวอีกนะ”
“จะมีเวลาเที่ยวที่ไหนล่ะ เจ้าตัวเล็กสามคนที่บ้านก็มีเรื่องให้เครียดจะแย่ ไหนจะต้องรีบปั่นต้นฉบับอีก ติดหนี้บานเบอะ เฮ้อ!” เหมยเหมยถอนหายใจหนัก
ก่อนจะคลอดเน่าเน่าเสี่ยวจูเธอยังมีอารมณ์โรแมนติกอยู่บ้าง ตอนนี้หรือ…เหลือเพียงขี้เถ้าแล้ว
“เดี๋ยวถามคุณหมอหน่อยว่าจมูกของเสี่ยวจูรักษาได้ไหม ไม่งั้นอนาคตเขาจะออกจากบ้านได้อย่างไร? แบบนี้เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ เรือก็อย่าคิดจะนั่งอีกเลย” เหมยเหมยมองเจ้าตัวเล็กที่ถูกปิดจมูกมิดชิดในอ้อมแขนอย่างไม่สบายใจ
แม้แต่กลิ่นเล็กน้อยก็รับไม่ได้อย่าคิดจะไปสถานที่สาธารณะเชียว ไหนจะยานพาหนะการเดินทางอีก หรือว่าทั้งชีวิตนี้เสี่ยวจูจะนั่งได้แค่จักรยานหรือ?
เหยียนหมิงซุ่นฟังแล้วก็นึกขำ นี่เป็นพรสวรรค์ที่คนอื่นไหว้พระขอพรยังไม่ได้ แน่นอนว่าต้องลำบากในการใช้ชีวิตสักหน่อยแต่น่าจะเอาชนะมันได้แหละ
“วางใจเถอะ มันต้องมีหนทางแน่นอน อย่างไรก็ต้องมีทางแก้” เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบประโลม
ไม่นานก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล เหยียนหมิงซุ่นจอดจักรยานอย่างดีแล้วอุ้มเสี่ยวจูขึ้นมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่มารอรับแต่เช้าคาดไม่ถึงว่าเหยียนหมิงซุ่นจะปั่นจักรยานมา อีกทั้งเสี่ยวจูยังสวมผ้าปิดปากมาด้วย เขาจึงมองด้วยสายตาฉงน
หรือว่าคุณชายน้อยเป็นหวัดหรือ?
แต่ถ้าแค่เป็นหวัดคงไม่ถึงกับให้เขาเรียกตัวผู้เชี่ยวชาญทั้งโรงพยาบาลมาตรวจไข้หรอกมั้ง!
“เหม็น…” เสี่ยวจูร้องขึ้นอย่างไม่พอใจ
เหมยเหมยยัดช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งใส่ปากเจ้าตัวเล็กเสียงจึงหายไปทันทีแล้วฝังหน้าไว้ที่อกของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเงียบ ๆ
“นี่ลูกชายคนเล็กของผม เขาค่อนข้างอ่อนไหวต่อกลิ่น” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย ผู้อำนวยการถึงบางอ้อทันที มิน่าถึงไม่ขับรถมาแล้วสวมผ้าปิดปากมาอีกด้วย!
“เด็กเล็กอ่อนไหวต่อกลิ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างเด็กเล็กจะสัมผัสถึงด้านอื่น ๆไวกว่าผู้ใหญ่ด้วย รอโตขึ้นความอ่อนไหวพวกนี้ก็จะค่อย ๆถดถอยลง” ผู้อำนวยการยิ้มเอ่ย
คล้ายคำโบราณมักพูดเสมอว่าเด็กเล็กจะเห็นสิ่งไม่ดีบางอย่าง คำพูดนี้ไม่ใช่ความเชื่องมงายที่สืบทอดกันมาโดยสิ้นเชิง แต่เรื่องผีวิญญาณเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่แม้เขาจะเคยได้รับการศึกษาระดับสูงมาก่อนแต่เขาก็เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเหล่านี้มาก แน่นอนว่าเขาไม่มีวันพูดออกจากปากอย่างเปิดเผยหรอกนะ
ผู้อำนวยการพาพวกเหยียนหมิงซุ่นไปยังห้องให้คำปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญจากทุกศาสตร์แขนงในโรงพยาบาลมารวมตัวกันครบแล้ว
………………