ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2881 ตายแล้วฟื้นคืนชีพ + ตอนที่ 2882 กลิ่นประเภทเดียวกัน
ตอนที่ 2881 ตายแล้วฟื้นคืนชีพ
“ถ้าทำแบบนี้ก็จะสามารถหาลี่เมิ่งเฉินเจอเหรอ?”
เหมยเหมยมองหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือพลางนึกสงสัยจริง ๆ ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง แม้แต่ผียังดูไม่ออกเลย
อีกอย่างต่อให้ลี่เมิ่งเฉินเห็นหนังสือพิมพ์ เขาก็คงไม่ได้เห็นแก่อาหารใหม่ ๆจนต้องโทรมาหรอกมั้ง?
แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับมั่นใจมาก “สบายใจได้…ขอเพียงแค่เขายังอยู่บนโลกใบนี้จะต้องมาหาแน่ ๆ”
ความหมายที่ลึกซึ้งในคำพูดนี้ของเขามีเพียงลี่เมิ่งเฉินเท่านั้นที่เข้าใจ
วัน ๆเจ้าหมอนี่คิดแต่อยากจะเป็นอมตะ ไม่เช่นนั้นจะสนใจในตัวยาวิเศษได้อย่างไรกัน ดังนั้น…ขอแค่ลี่เมิ่งเฉินเห็นประกาศก็จะโทรมาเอง
“ตัวอักษรพิมพ์ผิดแล้วหรือเปล่า? คำว่าเหมือนตัวลอยอยู่บนอากาศนี่ไม่เหมือนกับตัวอักษรตัวอื่น ดูเหมือนจะตัวหนาและตัวใหญ่กว่าด้วย” เหมยเหมยชี้ไปที่ประกาศพร้อมบอกปัญหา
“พี่จงใจต่างหาก”
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเจ้าเล่ห์ยากจะคาดเดาได้ เพราะจุดสำคัญในประกาศหาคนอยู่ในประโยคนี้แหละ!
เหมยเหมยได้ยินเช่นนั้นก็งงงันแล้วคร้านจะคิดต่อ ช่วงนี้เสี่ยวจูยังเป็นปกติ นอกจากกินก็นอน ช่วงเวลาที่ตื่นมีน้อยนักแต่ก็ยังถือว่ามีพัฒนาการในทางที่ดีเพราะอย่างน้อยก็พูดและเดินได้แล้ว!
ตราบใดที่ความง่วงนอนของเสี่ยวจูไม่ใช่ปัญหาทางด้านร่างกาย เธอก็ไม่กังวลเลยสักนิด
เหยียนหมิงซุ่นนึกว่าอย่างมากครึ่งเดือนลี่เมิ่งเฉินต้องมาหาแน่นอนเพราะอย่างไรเสียเขาก็ลงประกาศแม้แต่แถบชนบทที่ห่างไกลออกไป ลี่เมิ่งเฉินไม่มีทางมองไม่เห็น แต่ทุกอย่างกลับเหนือคาดเพราะหนึ่งเดือนผ่านไปแล้วแต่ไม่มีข่าวคราวของลี่เมิ่งเฉินเลย
“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีประโยชน์ไง…” เหมยเหมยใช้สีหน้า ‘เดาได้ตั้งนานแล้ว’ มองใครบางคนอย่างดูแคลน
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคำนวณผิดพลาดต่อหน้าภรรยาและลูก ๆ
เจ้าลี่เมิ่งเฉินมันไปไหนกันแน่นะ?
ผ่านไปอีกครึ่งเดือนเหยียนหมิงซุ่นยอมแพ้เรื่องลงประกาศตามหาคนหายแล้วและเตรียมที่จะคิดหาวิธีอื่น ๆในการตามหา ลูกน้องโทรเข้ามา “พี่ใหญ่…ไอ้หมอนั่นตายจนฟื้นคืนชีพแล้ว มันบอกว่าให้พี่ใหญ่รอที่บ้าน เตรียมอาหารและเหล้าดี ๆไว้”
“มันอยู่ที่ไหน?” เหยียนหมิงซุ่นประหลาดใจจึงอยากรู้ว่าลี่เมิ่งเฉินอยู่ที่ไหน
“ไม่รู้เลยครับ ติดตามสัญญาณอะไรไม่ได้เลย” ลูกน้องก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน
ลี่เมิ่งเฉินพูดสั้น ๆกระชับได้ใจความในเวลาอันรวดเร็วแต่ก็เพียงพอที่พวกเขาจะตามหาสัญญาณได้ ทว่ากลับไม่มีร่องรอยใด ๆเลยราวกับว่าโทรศัพท์สายนี้โทรมาจากนอกโลก
เหยียนหมิงซุ่นไม่แปลกใจเพราะด้วยความสามารถของลี่เมิ่งเฉิน หากเขาโดนคนติดตามตัวได้ถึงจะเป็นเรื่องผิดปกติ
มื้อเย็นเหยียนหมิงซุ่นให้ป้าฟางเตรียมอาหารที่รสชาติอ่อนเพิ่ม เขาจำได้ว่ารสนิยมการกินของเจ้านั่นแปลกประหลาดมาก ไม่ชอบปรุงและไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ สิ่งที่ชอบกินมากที่สุดคือขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงไม่เคลือบผงถั่วเหลือง ซึ่งจริง ๆแล้วก็คือก้อนแป้งข้าวเหนียวนั่นเอง
เหยียนหมิงซุ่นผุดยิ้มออกมา พอตอนนี้คิด ๆดูแล้วนิสัยการกินของลี่เมิ่งเฉินกับเสี่ยวจูก็คล้ายกันมากทีเดียว!
ที่แท้อัจฉริยะจะไม่ชอบกินเนื้อหรอกหรือ?
เขายังบอกป้าฟางให้ทำขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงแบบพิเศษเพิ่มอีกหนึ่งจานด้วย แต่ละชิ้นเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบราวกระต่ายขาวตัวน้อยซึ่งมองแล้วไม่มีความน่ากินเลยสักนิด
“ลี่เมิ่งเฉินจะมาเมื่อไร?” เหมยเหมยเงยหน้ามองนาฬิกา นี่มันจะทุ่มหนึ่งแล้วนะ
“ไม่รอแล้ว พวกเรากินกันก่อนเลย เก็บขนมแป้งม้วนไส้ถั่วแดงไว้ให้เขาก็พอ” เหยียนหมิงซุ่นเปลี่ยนใจอย่างฉับพลัน
ถ้าต้องมานั่งหิ้วท้องหิว ๆรอหมอนั่น เขาก็โง่เต็มทีแล้ว
เสี่ยวจูนั่งด้วยท่าทางสะลึมสะลือหาวเป็นระยะ ๆ อาหารเย็นของเขาคือซุปบะหมี่ใส่ไข่ผักโขมและยังมีนมร้อน ๆอีกหนึ่งแก้ว ส่วนของเน่าเน่าคือกระดูกชิ้นโตเหมือนกับพี่สาวเช่นเคย พวกเขาชอบแทะกระดูกทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้แทะจะรู้สึกคันยุบยิบแปลก ๆ
“มีคนมา…”
เสี่ยวจูและเน่าเน่าพูดขึ้นพร้อมกัน สีหน้าของเล่อเล่อก็เคร่งขรึมขึ้น หูของเสวี่ยเสวี่ยที่นอนอยู่บนพื้นตั้งชันมองไปทางประตูอย่างระแวดระวัง
……………………………………….
ตอนที่ 2882 กลิ่นประเภทเดียวกัน
เหยียนหมิงซุ่นลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองทางประตูด้วยสีหน้าสงสัย ลุงเหลาก็เช่นกัน
บ้านติดตั้งอุปกรณ์เครื่องอินฟราเรดที่มีปฏิกิริยาตอบสนองว่องไวมาก ต่อให้เป็นแมลงวันตัวหนึ่งบินเข้ามาเขาก็รับรู้ได้ ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณเตือนเลย
“เสียแรงตั้งมากมายตามหาฉันทำไม? ถ้านายให้ของที่ฉันพอใจไม่ได้ก็อย่าโทษว่าฉันไม่เตือนแล้วกัน!” ลี่เมิ่งเฉินเดินเข้ามา เครื่องติดตั้งอินฟราเรดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก เมื่ออยู่ต่อหน้าเขากลับง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเสียอีก
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าเป็นลี่เมิ่งเฉินก็ถูกต้องแล้ว
บ่งบอกว่าอุปกรณ์ไม่มีปัญหา ฉะนั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยน
“มีเรื่องต้องให้นายช่วย กินข้าวก่อนเถอะ” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างใจเย็น
ลี่เมิงเฉินลูบท้องตัวเองนั่งลงอย่างไม่เกรงใจ เหลือบมองเสวี่ยเสวี่ยหัวเราะพลางกล่าว “ยีนของหมาป่าน้อยนี่ไม่เลวเลย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จฉันขอเจาะเลือดไปหน่อย”
เสวี่ยเสวี่ยตกใจกลัวจนหูสั่นแล้วหดตัวไปอยู่ด้านข้างเล่อเล่อ หมดซึ่งท่าทีหยิ่งผยองเหมือนในอดีต
มนุษย์ที่มีสองขาผู้นี้ช่างน่ากลัว มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิด
“ห้ามยุ่งกับเสวี่ยเสวี่ย!”เล่อเล่อโมโหลุกขึ้นยืนแล้วถลึงตาใส่ลี่เมิ่งเฉิน
เน่าเน่าโยนกระดูกในมือทิ้งทันทีแล้วยืนเคียงข้างเล่อเล่อ พองแก้มป่องแล้วใช้มือเท้าสะเอว พูดเสียงไม่ชัดว่า “พี่…จัดการเขาเลย!”
ขอแค่พี่สาวออกคำสั่ง เขาจะพุ่งมุดเข้าไปในกางเกงแล้วล้วงบีบไข่ทันที
วิธีนี้เป็นวิธีที่พี่เสี่ยวเป่าสอนเขาซึ่งใช้ได้ผลทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคนสารเลวที่เก่งกาจขนาดไหนก็โดนบีบจนไข่แตกหมด!
เสี่ยวจูหาวหวอดใหญ่เหลือบมองลี่เมิ่งเฉินอย่างเกียจคร้าน จากนั้นท่าทีเกียจคร้านของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง บนตัวผู้ชายคนนี้มีกลิ่นที่คุ้นเคยและดวงตาของเสี่ยวจูก็เปล่งประกายแวบหนึ่ง…
ที่แท้ก็ประเภทเดียวกันเหรอเนี่ย!
เสี่ยวจูก้มหน้าทานข้าวด้วยตัวเอง แม้ท่าทางจะเนิบนาบแต่ก็มั่นคง แต่ละคำเอาเข้าปากอย่างต่อเนื่องพร้อมทานด้วยความเอร็ดอร่อย
“ห้ามเสียมารยาท นี่คือคุณลุงลี่ เป็นแขกนะ” เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงดุ
เล่อเล่อและเน่าเน่าหยุดแผ่ ‘ไอสังหาร’ เรียกตามอย่างเชื่อฟังแต่ในแววตายังคงมีความระแวดระวังแฝงอยู่ ทว่าเล่อเล่อยังคงไม่วางใจพูดเน้นย้ำว่า “ต่อให้เขาเป็นแขกก็ห้ามมายุ่งกับเสวี่ยเสวี่ย”
หลังจากเธอนั่งลงก็ตะโกนเสริมว่า “ใครกล้ายุ่งกับเสวี่ยเสวี่ย หนูจะอัดเขาเละแน่!”
เสวี่ยเสวี่ยเป็นเพื่อนรักของเธอ อยู่ดี ๆไอ้สารเลวนี่ก็จะมาเจาะเลือดเสวี่ยเสวี่ย หึ…จะซัดจนพ่อแม่จำไม่ได้เลยคอยดู!
“เอ๋ง เอ๋ง เอ๋ง…” เสวี่ยเสวี่ยมองเจ้านายของมันอย่างซาบซึ้งใจ ส่งเสียงร้องเอ๋ง ๆพร้อมดวงตาที่เปียกชื้น
“พ่อไม่ให้เขายุ่งกับเสวี่ยเสวี่ยแน่นอน” เหยียนหมิงซุ่นรับปาก เล่อเล่อถึงค่อยรู้สึกโล่งใจแล้วยอมนั่งลงทานข้าวต่อ
ลี่เมิ่งเฉินประเมินทั้งสามคนด้วยความสนอกสนใจโดยเฉพาะเสี่ยวจู เขาได้กลิ่นคนประเภทเดียวกันจากเด็กคนนี้ เลือดในกายร้อนพลุ่งพล่าน เขาเพิกเฉยต่อการวิจัยยีนของเสวี่ยเสวี่ยแล้วพยายามฉีกยิ้มตะโกนไปทางเสี่ยวจูว่า “ฮัลโหล!”
ทั้งยังยื่นมือออกไปราวกับว่าคนตรงหน้าที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่คือผู้ใหญ่
เสี่ยวจูเงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้านแล้วยื่นมืออวบอ้วนออกไปประสานมือกับลี่เมิ่งเฉินเอ่ยว่า “กินข้าว!”
ลี่เมิ่งเฉินหัวเราะเสียงดัง “ใช่…กินข้าว ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว ฉันไม่เอาถั่วเหลือง…”
ยังไม่ทันพูดจบป้าฟางก็นำขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงมาวางไว้ตรงหน้าเขาที่เรียงตัวสวยราวกับกำแพง ลี่เมิ่งเฉินดวงตาเป็นประกายดึงจานขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงมาอยู่ตรงหน้า แถมยื่นให้เสี่ยวจูก่อน “กินไหม?”
เสี่ยวจูมองอย่างตั้งอกตั้งใจ รสชาติดูไม่เลว…เขาหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งดมกลิ่นก่อน จากนั้นแววตาเป็นประกายแล้วยัดใส่ปาก
…………………………