ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2889 เจอแผนร้าย + ตอนที่ 2890 ท้องเสียทั้งวัน
ตอนที่ 2889 เจอแผนร้าย
เสี่ยวจูดมทุกเครื่องปรุงแล้วหยิบถ้วยน้ำจิ้มมาใบหนึ่งใส่เครื่องปรุงสองสามชนิดเข้าด้วยกัน รวมถึงผงสลอดด้วย จากนั้นก็เทจิกโฉ่และซีอิ๊วลงไปคนให้เข้ากันอีก
ป้าฟางยิ้มเอ่ย “เสี่ยวจูอยากกินน้ำจิ้มเกี๊ยวเหรอ?”
“อืม” เสี่ยวจูพยักด้วยสีหน้าจริงจัง
“เมื่อก่อนเราไม่ชอบกินไม่ใช่เหรอ?” ป้าฟางรู้สึกประหลาดใจเพราะปกติแค่ใส่เกลือเยอะเจ้าหนูน้อยยังไม่ยอมกินเลย แต่ทำไมครั้งนี้ถึงปรุงรสหลายอย่างจัง?
เสี่ยวจูแค่นเสียงแล้วยกถ้วยน้ำจิ้มออกไป แน่นอนว่าเขาไม่กินอยู่แล้ว นี่เตรียมให้คุณลุง ‘คนเลว’ กินต่างหาก
พอวางถ้วยน้ำจิ้มบนโต๊ะทานข้าวไม่นานลี่เมิ่งเฉินก็เดินลงมา เขานั่งลงบนโต๊ะอย่างเกียจคร้านแต่พอเห็นเสี่ยวจูกินเกี๊ยวอย่างเอร็ดอร่อยก็อดอยากทานไม่ได้เลยบอกป้าฟางว่า “เอาเกี๊ยวมาให้ผมด้วย”
“ขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงยังจะเอาอยู่ไหม?” ป้าฟางถามขึ้น
“จานหนึ่งเหมือนเดิมครับ”
ลี่เมิ่งเฉินมองเสี่ยวจูกินอย่างสนอกสนใจ เคี้ยวแก้มตุ่ย ปากเลอะน้ำมันแผล็บ แม้จะเป็นเกี๊ยวไส้ผักแต่มองดูแล้วคงอร่อยไม่แพ้เกี๊ยวไส้เนื้อ ผักจี่ไฉ่ ไข่และเห็ดหอม…ล้วนเป็นของโปรดปรานของเขาอยู่แล้ว
ป้าฟางถือสองจานออกมาวางไว้ตรงหน้าลี่เมิ่งเฉิน ทั้งหอมกรุ่นทั้งสดใหม่ อร่อยจริง ๆขาดแต่รสชาติจืดไปหน่อย
“เกี๊ยวอันนั้นห่อให้เสี่ยวจูน่ะ เขาไม่ชอบกินเค็ม ถ้าคุณคิดว่ามันจืดไปก็จิ้มน้ำจิ้มเอาก็ได้” ป้าฟางเลื่อนถ้วยน้ำจิ้มมาไว้ตรงหน้าเขา
ลี่เมิ่งเฉินยกถ้วยน้ำจิ้มขึ้นมาดม กลิ่นเผ็ดโชยมา…แต่ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงจิ้มน้ำจิ้มอย่างสบายใจ พอเอาเข้าปากก็จำนนให้กับความเด็ดของน้ำจิ้มจนยัดเข้าปากไม่หยุด
“น้ำจิ้มนี่ไม่เลวเลย คุณเอาเกี๊ยวมาให้ผมอีกจาน ขนมลาม้วนไส้ถั่วแดงทิ้งไว้เป็นของว่าง เดี๋ยวอีกสักพักค่อยกินแล้วกัน” ลี่เมิ่งเฉินพูดไปทานไป แค่ในระหว่างที่พูดก็ทานเกี๊ยวเข้าไปสามคำแล้ว
ป้าฟางกลับไม่ยอมเพราะเกี๊ยวทำให้เสี่ยวจูแต่กลับโดนเจ้าหมอนี่ทานจนเกลี้ยง แล้วแบบนี้เสี่ยวจูจะทานอะไร?
“กินอิ่มแล้ว…พรุ่งนี้กินแผ่นแป้งมันฝรั่ง” เสี่ยวจูบอกป้าฟางหลังจากทานเกี๊ยวในจานหมด
“โอเค เกี๊ยวไม่อร่อยเหรอ?” ป้าฟางถามขึ้น
“อร่อย แต่อยากกินแผ่นแป้งมันฝรั่ง” เสี่ยวจูอ้าปากหาว พอทานอิ่มความง่วงก็คืบคลานเข้ามา แต่วันนี้เขายังนอนไม่ได้เพราะเขาต้องชื่นชมผลงานของเขาก่อน
เมื่อป้าฟางเห็นว่าเสี่ยวจูไม่ทานแล้วจึงกลับเข้าครัวไปต้มเกี๊ยวจนหมดแล้วยกมาให้ลี่เมิ่งเฉินทาน ทานให้หนำใจไปเลยแล้วกัน
ลี่เมิ่งเฉินทานไม่หยุดปากซึ่งดูท่าทางเจริญอาหารไม่น้อยเลย เพียงพริบตาเดียวก็จัดการเกี๊ยวในจานจนหมด แม้แต่น้ำจิ้มก็เกลี้ยงด้วยเช่นกัน
“เอิก…น้ำจิ้มรสชาติไม่เลวเลยจริง ๆ คุณปรุงเองเหรอ?” ลี่เมิ่งเฉินเอามือลูบท้องตัวเองอย่างพึงพอใจแล้วมองไปที่ป้าฟาง
ป้าฟางชี้ไปที่เสี่ยวจูที่กำลังดูละครสนุก ๆอยู่แล้วเอ่ยว่า “เสี่ยวจูเป็นคนปรุง อร่อยจริง ๆเหรอ?”
เดิมทีเธอนึกว่าเสี่ยวจูแค่ทำเล่น ๆใครจะไปคิดว่าลี่เมิ่งเฉินจะชมขนาดนี้แถมทานจนเกลี้ยงด้วย ป้าฟางยกถ้วยน้ำจิ้มหมายจะแตะชิมสักหน่อยแต่เสี่ยวจูกลับร้องขึ้นว่า “ป้าฟาง…ดื่มน้ำ”
ป้าฟางรีบวางถ้วยน้ำจิ้มแล้วเทน้ำให้เสี่ยวจู การขัดจังหวะครั้งนี้ทำให้เธอลืมเรื่องน้ำจิ้มเสียสนิท
ลี่เมิ่งเฉินใจเต้นระรัวชี้ไปที่เสี่ยวจูแล้วถามขึ้นว่า “เขาเป็นคนปรุงน้ำจิ้มเหรอ?”
“คุณอา…อร่อยไหม?” เสี่ยวจูยิ้มตาหยีส่งให้เขา ในใจกำลังนับถอยหลัง สิบ เก้า แปด เจ็ด…สอง…หนึ่ง…
สีหน้าของลี่เมิ่งเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อยกุมท้องตัวเองแล้ววิ่งพุ่งไปทางห้องน้ำ
บนใบหน้ารูปไข่ของเสี่ยวจูแต่งแต้มรอยยิ้มไร้เดียงสา จากนั้นก็หาวหวอดใหญ่ยกมือเรียกป้าฟาง “ง่วง…”
ป้าฟางอุ้มเขาแล้วพึมพำด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเพิ่งกินเสร็จก็ท้องเสียเลยล่ะ?”
“กินเยอะเกินไป” เสี่ยวจูพูดเสียงเบา
ป้าฟางพยักหน้าเห็นด้วย “เพราะกินเยอะไปแน่ ๆ ทำอย่างกับไม่ได้กินมาหลายชาติจนท้องรับไม่ไหวเลยสิท่า!”
……………………………………….
ตอนที่ 2890 ท้องเสียทั้งวัน
หลังจากเหมยเหมยเล่านิทานให้เน่าเน่าฟังเสร็จก็เดินออกมา ครั้นไม่เห็นลี่เมิ่งเฉินจึงถามป้าฟางว่าเกิดอะไรขึ้น
ป้าฟางบุ้ยปากไปทางห้องน้ำแล้วกระซิบว่า “กินข้าวเช้าเสร็จก็เข้าไปในนั้นละ จนถึงตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย”
ลี่เมิ่งเฉินที่อยู่ในห้องน้ำนั่งบนชักโครกอย่างทรมาน ถ้ายังท้องเสียอยู่แบบนี้เกรงว่าแม้แต่จะนั่งคงนั่งไม่ได้ เขาหลงกลได้อย่างไรกันนะ?
ลี่เมิ่งเฉินตำหนิตัวเองมากกว่าโกรธเพราะแค่แผนของเด็กทารกตัวน้อย ๆเขายังหลงกลได้ นับว่าเขาใช้ชีวิตยี่สิบกว่าปีมานี้อย่างสูญเปล่า
แต่เขายอมรับว่าการรับรู้กลิ่นของเสี่ยวจูดีกว่าเขามากจริง ๆ เจ้าหนูใช้เพียงเครื่องปรุงรสแค่ไม่กี่อย่างก็สามารถกลบกลิ่นของผงสลอดได้แล้ว เขาประเมินว่าประสาทการรับรู้กลิ่นของตนดีกว่าสุนัข ทว่ากลิ่นเล็กน้อยเท่านี้เขายังไม่รู้เลย
เจ้าเด็กน้อยนี่น่าสนใจจริง ๆ ก่อนไปต้องเจาะเลือดเอาไปวิจัยสักหน่อยแล้ว
ลี่เมิ่งเฉินคิดวางแผนเสร็จ ทันใดนั้นก็เกิดอาการจุกเสียดท้อง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย โอดครวญด้วยความทรมานเพราะรูทวารจะพังอยู่แล้ว คอยดูเถอะเจ้าเด็กบ้า!
ถ้าแค้นนี้ไม่ได้ชำระเขาจะให้ลูกสาวแต่งงานกับไอ้เด็กบ้านี้เลย!
พระอาทิตย์ค่อย ๆลับขอบฟ้าซึ่งหมดเวลาไปอีกหนึ่งวัน เหยียนหมิงซุ่นเลิกงานกลับบ้าน ส่วนเล่อเล่อก็เลิกเรียนนานแล้ว
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จแต่ก็ยังไม่เห็นลี่เมิ่งเฉินโผล่หน้ามา เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยอย่างนึกสงสัย “เขาไปแล้วเหรอ?”
เหมยเหมยชี้ไปที่ห้องน้ำ “อยู่ในนั้นมาทั้งวันแล้ว แถมไม่ให้ฉันโทร 120 ด้วยนะ” จะตายอยู่แล้วยังห่วงศักดิ์ศรีอยู่ได้ ไม่โทรก็ไม่โทรสิ ท้องเสียคงไม่ถึงตายหรอกมั้ง?
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้ว “ทำไมถึงท้องเสียได้ล่ะ?”
เหมยเหมยแบมือสองข้างขึ้นสื่อว่าไม่รู้เหมือนกันด้วยใบหน้าไร้เดียงสา เธอเองก็สงสัยเช่นกัน ทุกคนทานมื้อเช้าเหมือนกันแต่ทำไมถึงมีแค่ลี่เมิ่งเฉินที่ท้องเสีย?
ไม่แน่พระเจ้าอาจทนไม่ไหวถึงบันดาลให้เขาทุกข์ทรมานสักหน่อย
สองพี่น้องเล่อเล่อและเน่าเน่าต่างส่งสายตาดีใจให้กันและก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่ออย่างว่าง่ายซึ่งเงียบกริบไม่เอะอะโวยวายเหมือนเมื่อก่อน
เหยียนหมิงซุ่นเดินไปทางห้องน้ำเคาะประตูแล้วเอ่ยถามว่า “เป็นไงบ้าง?”
สักพัก…มีเสียงแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรงลอยมา “ไม่ตายหรอก…อีกห้านาทีจะออกไป”
ลี่เมิงเฉินพยายามอัดน้ำเข้าไปอย่างหนักเพื่อขับพิษออกมาและป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ อาการของเขาดีขึ้นมาก เพียงแต่ไร้เรี่ยวแรงและร่างกายอ่อนปวกเปียกไปหมด
หลังจากห้านาทีผ่านไปประตูก็เปิดออก ลี่เมิ่งเฉินสีหน้าซีดเซียว ร่างกายโอนเอนไปมา ไม่เจอกันวันเดียวร่างกายซูบลงไปไม่น้อย
“เรียกหมอมาดูหน่อยดีกว่า” เหยียนหมิงซุ่นตกใจเพราะไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้
อย่างไรเสียก็เป็นแขก เขาจะเมินเฉยต่อความเป็นความตายของแขกไม่ได้
“ไม่ต้อง ต้มโจ๊กให้กินก็พอ อย่าให้ลูก ๆของนายเข้าใกล้ห้องครัวเป็นอันขาด” ลี่เมิ่งเฉินกัดฟันกรอด
เขาคิดมาทั้งวัน ถ้ายังเป็นเด็กเขาอาจมีแรงต่อกรกับเสี่ยวจูได้ แต่เพราะถูกสิ่งสกปรกของโลกใบนี้ทำให้แปดเปื้อนมายี่สิบกว่าปีแล้ว การรับรู้กลิ่นของเขาจึงถดถอยลงไปมาก ซึ่งเดิมทีใช่ว่าจะต่อกรกับเสี่ยวจูไม่ได้
เหยียนหมิงซุ่นตกใจ “เสี่ยวจูเหรอ?”
“นอกจากเขาแล้วจะมีใครอีกล่ะ นายนี่ได้ลูกชายดีจริง ๆ!” ลี่เมิ่งเฉินถลึงตาใส่อย่างโกรธเคืองพลางนึกปวดใจ ไม่รู้ว่าวันหน้าลูกชายเขาจะมีความสามารถถึงขนาดนี้ไหม?
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นความแค้นครั้งนี้ให้ลูกชายเขาแก้แค้นแทนก็จบ!
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกภูมิใจขึ้นมาทันที แต่คิด ๆดูแล้วออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อยจึงพยายามสะกดท่าทีไว้ แต่มุมปากที่ยกยิ้มทำให้ลี่เมิ่งเฉินรำคาญใจไม่น้อยพร้อมเดินไปทานข้าวอย่างช้า ๆ
เมื่อเสี่ยวจูเห็นลี่เมิ่งเฉินอาการดีขึ้นมากก็นึกเสียดาย ทำไมหายไวขนาดนี้ล่ะ?
เดิมทีนึกว่าจะให้คุณอา ‘คนเลว’ ท้องเสียสักสามวันสามคืนสักหน่อย!
ลี่เมิ่งเฉินแอบยิ้มให้เสี่ยวจูแล้วเอ่ยอย่างไร้เสียงว่า “วันพระไม่ได้มีหนเดียว เด็กน้อย!”
เสี่ยวจูมองเขาอย่างไร้เดียงสาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วยกแผ่นแป้งมันฝรั่งทอดไปตรงหน้าเอ่ยว่า “คุณอากินไหม?”
“ไม่เอา…” ลี่เมิ่งเฉินปฏิเสธเสียงเด็ดขาด
เขาไม่ใช่คนโง่สักหน่อยจะหลงกลอีกได้อย่างไร?
…………………………