ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2935 ทีมมังกร + ตอนที่ 2936 หาของที่เหมือนกัน
ตอนที่ 2935 ทีมมังกร
หน้าต่างปิดสนิทจนภายในรถไม่มีอากาศถ่ายเท เสี่ยวเป่าอดไม่ได้ที่จะล้วงหยิบหยกแขวนสีเขียวอ่อนชิ้นหนึ่งออกมาแนบใบหน้าเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย
หยกแผ่ไอเย็นออกมาเลยทำให้เสี่ยวเป่ารู้สึกสบายขึ้นมาก หยกแขวนชิ้นนี้น่าประหลาดไม่น้อย ยามฤดูหนาวให้ความอบอุ่น ส่วนฤดูร้อนให้ความเย็นราวกับเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับอุณหภูมิสี่ฤดูกาลได้เองอัตโนมัติ
เสี่ยวเป่าก้มศีรษะลงมองหยกแขวนซึ่งเป็นหยกธรรมดาทั่วไป ด้านบนแกะสลักภาพมงคลมังกรหงส์ไว้ เพราะนับตั้งแต่เสี่ยวเป่าพกมันติดตัว หยกแขวนก็สีเขียวอ่อนลงดูชุ่มฉ่ำราวกับสายน้ำ
ตามที่พ่อบอกหยกแขวนชิ้นนี้เป็นสิ่งที่คุณปู่เขาทิ้งเอาไว้ เสี่ยวเป่ายังพอจดจำภาพหนิงเฉินเซวียนได้บ้าง คุณปู่เป็นคนเข้มงวดมาก อีกทั้งเขาเคยอยู่กับคุณปู่ช่วงเวลาหนึ่งด้วย
ถึงแม้คุณปู่จะปฏิบัติต่อเขาไม่เลวแต่เขาก็ไม่ชอบคุณปู่อยู่ดี เขามักรู้สึกว่าบนตัวคุณปู่มีกลิ่นอายที่น่ากลัวอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาจิตใจไม่สงบ
แต่หยกแขวนชิ้นนี้เขากลับชอบมันมาก ฤดูหนาวให้ความอบอุ่น ส่วนฤดูร้อนให้ความเย็น เขาไม่เคยเอาห่างกายเลยแม้แต่วันเดียว
เสี่ยวเป่านำหยกแขวนเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อแล้วเอนกายพิงเบาะพลางขบคิด
กลุ่มอิทธิพลของฝ่ายลึกลับและกลุ่มอื่น ๆยอมเสียเวลาและกำลังคนขนาดนี้ ตกลงพวกเขาทำเพื่ออะไรกันนะ?
บนตัวเขามีสิ่งใดคุ้มค่าให้พวกเขาเสียเวลาด้วยนักหรือ?
ตอนที่เล่อเล่อลงจากรถเสี่ยวเป่า ชายในรถคันสีดำด้านหลังก็เผยสีหน้าตกใจ เขาจำเล่อเล่อได้เพราะเธอคือหญิงสาวที่ซัดเพื่อนของเขาจนบาดเจ็บในคืนนั้น หล่อนรู้จักกับหนิงเสี่ยวเป่างั้นหรือ อีกอย่างดูท่าทางจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาด้วย!
หลังจากสะกดรอยตามไปได้ระยะหนึ่ง ผู้ชายคนนี้ก็ค้นพบเรื่องไม่สบอารมณ์อย่างหนึ่งเพราะเขาคลาดกับเสี่ยวเป่าอีกแล้ว
ครึ่งปีมานี้เป็นเช่นนี้ตลอด ไม่ว่าจะส่งคนมาสะกดรอยตามกี่ครั้งก็คลาดทุกครั้งไป จนถึงตอนนี้พวกเขายังตามหาที่อยู่ของเสี่ยวเป่าไม่เจอเลย
เขาทุบพวงมาลัยรถอย่างเกรี้ยวโกรธ ลูกพี่ให้เวลาน้อยลงทุกวัน หากเขายังหาแผนที่ขุมทรัพย์ไม่เจอคงถูกลงโทษหนักแน่ ไม่ได้การล่ะ…เขาต้องคิดหาวิธีใหม่แล้ว
เล่อเล่อครุ่นคิดหนัก เธอมักรู้สึกว่าคนที่สะกดรอยตามเสี่ยวเป่าต้องมีเจตนาร้ายแน่เลยตัดสินใจกลับบ้านไปร้องขอความช่วยเหลือจากเหยียนหมิงซุ่น ในเมืองหลวงไม่ว่าใครจะเข้าหรือจะออกก็เล็ดลอดสายตาคุณพ่อของเธอไปไม่ได้
“มีคนสะกดรอยตามเสี่ยวเป่างั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นประหลาดใจมากและไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก
“เป็นเจ้าหมอนี่ หนูให้คนไปลองสืบดูแล้วเหมือนว่าจะเป็นคนมาจากทางใต้ เสี่ยวเป่าบอกว่าพวกเขาสะกดรอยตามเขามาครึ่งปีแล้วและก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรด้วย” เล่อเล่อเอาเอกสารข้อมูลคร่าว ๆของหนุ่มมีรอยสักคนนั้นมาให้เหยียนหมิงซุ่น
เหยียนหมิงซุ่นเรียกลูกน้องมาแล้วให้พวกเขาไปสืบหาภูมิหลังของเจ้าหมอนี่
หลังจากนั้นสามวันเหยียนหมิงซุ่นก็ได้ข่าวที่ไม่ค่อยดีมานัก เขาไม่กล้าบอกเล่อเล่อแต่เรียกเสี่ยวเป่ามาหาโดยตรงแทน
“รู้ไหมว่าทีมมังกรกำลังสะกดรอยตามอยู่” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยถาม
“รู้ครับ” เสี่ยวเป่าพยักหน้า
“พ่อรู้เรื่องหรือยัง?”
“ยังไม่ได้บอก ผมรับมือเองได้ครับ” เสี่ยวเป่าอมยิ้มเล็กน้อยและยังคงมีท่าทีเรียบนิ่งเช่นเคย
เหยียนหมิงซุ่นขึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าดูถูกพวกทีมมังกรนะ พวกเขาไม่มีทางจับตาดูโดยไร้ต้นสายปลายเหตุหรอก พวกเขาต้องมีเหตุผลแน่นอน นายลองคิดทบทวนดูให้ดีว่าช่วงนี้ไปทำอะไรมา?”
“ไม่มีเลยครับ วัน ๆผมก็อยู่แต่บนเขา” เสี่ยวเป่าตอบอย่างซื่อตรง เขาเองก็คิดไม่ออกเช่นกัน
ฉับพลันเหยียนหมิงซุ่นก็สีหน้าเปลี่ยนไปและคิดถึงความเป็นไปได้ข้อหนึ่งขึ้นมาแล้วเอ่ยอย่างตกใจ “หรือว่าพวกทีมมังกรจะอยากได้นายไปทำงานด้วย?”
ทีมมังกรเฟ้นหาคนที่มีพลังพิเศษไปทั่วประเทศ แม้แต่เสี่ยวจูกับเน่าเน่าก็เคยถูกจับตามองมาก่อน แต่เพราะสถานะของเฮ่อเหลียนชิงและเขาเลยทำให้ไม่กล้ายุ่งด้วย บางทีเขาอาจถูกใจที่เสี่ยวเป่าสื่อสารกับพวกสัตว์ได้ก็ได้!
“แล้วทำไมถึงต้องมีกลุ่มอิทธิพลอื่นอีกล่ะ? อีกอย่างแต่ไรมาพวกทีมมังกรก็ไม่เคยแสดงสถานะให้ผมรู้มาก่อน ไม่ใช่เหตุผลนี้แน่นอน” เสี่ยวเป่าส่ายศีรษะด้วยท่าทีเด็ดขาด
………………………………………………………….
ตอนที่ 2936 หาของที่เหมือนกัน
เหยียนหมิงซุ่นคิด ๆดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่เหตุผลนั้นเช่นกัน ทีมมังกรต้องมีสาเหตุอื่นแน่นอน ถึงแม้เขาจะไม่ยินดีให้เล่อเล่อแต่งงานกับเสี่ยวเป่าแต่ไม่ใช่เพราะเขาไม่ชอบเสี่ยวเป่า ในทางกลับกันเขามองเสี่ยวเป่าเป็นดั่งลูกหลาน นอกเสียจากเป็นลูกเขยเท่านั้น
“ฉันจะไปหาสืบถามดู นายเองก็ระวังตัวด้วย” เหยียนหมิงซุ่นกำชับพลางเป็นกังวลว่าเสี่ยวเป่าจะเป็นอะไรไป
เสี่ยวเป่าตอบรับ เหยียนหมิงซุ่นมองใบหน้าอันหล่อเหลาและมาดดูดีของเขาก็อดเตือนอีกครั้งไม่ได้ “นายกับเล่อเล่อไม่เหมาะสมกัน ห่าง ๆลูกฉันไว้ด้วย”
เสี่ยวเป่ายิ้มขมขื่น “รู้แล้วครับ”
เมื่อก่อนเขาคิดว่า…การถือเล่อเล่อเป็นน้องสาวเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ตอนนี้…เขากลับค้นพบว่ามันยากลำบากขึ้นเรื่อย ๆ
อีกอย่างเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน——
“คุณอาเหยียน ทำไมผมกับเล่อเล่อถึงไม่เหมาะสมกันละครับ? พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆสักหน่อย!” เสี่ยวเป่าไม่เข้าใจ
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รังเกียจเขาและไม่ได้มีความแค้นใดกับพ่อของเขาและยิ่งไม่ให้ความสำคัญเรื่องฐานะครอบครัว แล้วทำไมถึงคัดค้านไม่ให้เขากับเล่อเล่อคบกันล่ะ?
“นายกับเล่อเล่อคบกันแล้วเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน สายตาแผ่ไอเย็นยะเยือกออกมา
เสี่ยวเป่าตกใจยกใหญ่แล้วส่ายศีรษะรัว ๆ “เปล่าครับ…ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคุณอาถึงคัดค้านนัก คุณอาเกลียดผมมากเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นโล่งอกแล้วตอบกลับเสียงเข้มว่า “นายอย่าถามให้มันมากนัก แค่รู้ว่านายกับเล่อเล่อไม่เหมาะสมกันก็พอ ฉันไม่ยอมให้พวกเธอสองคนคบกันแน่นอน”
นัยน์ตาเสี่ยวเป่าฉายแววปวดใจ เมื่อครู่เขารู้สึกถึงท่าทีรังเกียจของเหยียนหมิงซุ่นแวบนั้นได้ คุณอาเหยียนเกลียดเขามากเหรอ?
ทั้ง ๆที่ความเป็นห่วงที่คุณอาเหยียนมีต่อเขามันออกมาจากใจจริง ๆนี่นา!
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกได้ถึงความปวดใจของเสี่ยวเป่าพลันในใจก็ทำไม่ลง แต่พอนึกถึงภูมิหลังของเสี่ยวเป่าเขาก็ใจแข็งขึ้นมา เพื่อความสุขชั่วชีวิตของลูกสาว เขาขอทำตัวน่ารังเกียจสักครั้งเถอะ!
เสี่ยวเป่าขอตัวกลับอย่างมีมารยาทแล้วเดินออกจากห้องหนังสือของเหยียนหมิงซุ่นไป จากนั้นก็เจอกับเหมยเหมยด้านล่าง
“อย่าเก็บคำพูดของคุณอาเขามาใส่ใจนะ เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายหรอก ทำตามใจของตัวเองเถอะ อย่าทรมานตัวเองนักเลย” เหมยเหมยตบบ่าเสี่ยวเป่าแล้วมองเขาอย่างอ่อนโยน
“คุณน้า…”
เสี่ยวเป่าดวงตาแดงก่ำอยากกอดเหมยเหมยเหมือนครั้งยังเด็กเหลือเกิน แต่เขาก็อดใจไว้เพราะถ้าคุณอาเหยียนมาเห็นคงตัดมือเขาทิ้งแน่
“นี่เกี๊ยวผักจี่ไฉ่ผัดไข่ของโปรดนาย ถ้าอยากกินก็เอามาอุ่นในไมโครเวฟสักหน่อย อยู่คนเดียวต้องกินให้ครบสามมื้อล่ะ ไม่งั้นไม่ดีต่อกระเพาะนะ…”
เหมยเหมยยื่นเกี๊ยวถุงใหญ่ถุงหนึ่งที่เตรียมไว้แล้วส่งให้เสี่ยวเป่าพร้อมพร่ำบ่นไม่หยุด ในสายตาของเธอเสี่ยวเป่าก็เหมือนเด็กน้อยที่ยังต้องถูกดูแล เพียงแต่เด็กคนนี้ดื้อเกินไปไม่ยอมอยู่บ้าน
เสี่ยวเป่าหิ้วถุงเกี๊ยวออกจากบ้านตระกูลเหยียน ความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ถูกเหมยเหมยทำให้จางหายไปแล้ว
เสี่ยวเป่าเพิ่งออกจากประตูใหญ่ของหมู่บ้านมาก็สังเกตเห็นคนที่สะกดรอยตามอยู่ด้านหลัง จู่ ๆ เขาก็ไม่อยากเฝ้าดูท่าทีอีกต่อไปแล้ว บางที…เขาควรจะเป็นฝ่ายลุยก่อน
หลังจากเสี่ยวเป่าจากไปเหยียนหมิงซุ่นก็โทรหาลี่เมิ่งเฉิน หลายปีมานี้เขาติดต่อลี่เมิ่งเฉินมาตลอด จากที่เขาเดาลี่เมิ่งเฉินก็น่าจะเป็นคนในทีมมังกรด้วย บางทีเขาอาจรู้อะไรบ้าง
“หนิงเสี่ยวเป่า? หลานของหนิงเฉินเซวียนเหรอ?” ลี่เมิ่งเฉินถามขึ้น
“ใช่แล้ว ทำไมพวกทีมมังกรต้องตามสืบเรื่องเขาด้วย? ในเมื่อเฮ่อเหลียนเช่อออกจากวงการแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจ
ลี่เมิ่งเฉินหัวเราะเสียงเบา “ฉันบอกนายไม่ได้เพราะนี่เป็นความลับของทีมมังกร แต่นายวางใจได้ ทีมมังกรไม่ทำร้ายหนิงเสี่ยวเป่าแน่นอน แค่อยากตามหาของที่เหมือนกันเท่านั้น”
“ของอยู่ที่เสี่ยวเป่างั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นคาดเดา
ลี่เมิ่งเฉินหัวเราะอีกครั้งแล้วไม่พูดอะไรอีกก่อนจะวางสายไป
………………………………