ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2945 ที่นั่งชั้นประหยัดและเฟิร์สคลาสต่างก็ตายเหมือนกัน + ตอนที่ 2946 รับปากมีประโยชน์ไหม
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2945 ที่นั่งชั้นประหยัดและเฟิร์สคลาสต่างก็ตายเหมือนกัน + ตอนที่ 2946 รับปากมีประโยชน์ไหม
ตอนที่ 2945 ที่นั่งชั้นประหยัดและเฟิร์สคลาสต่างก็ตายเหมือนกัน
ทั้งคู่ดื้อดึงกันอยู่เกือบชั่วโมงจนในที่สุดเล่อเล่อก็เอาชนะได้ ขอแค่ไม่ได้อยู่บนเขาเสี่ยวเป่าก็ไม่เคยเอาชนะเล่อเล่อได้เพราะแรงมีไม่มากพอ
“พวกเราขับรถไปเหรอ?” เล่อเล่อถามอย่างมีความสุขแล้วหยิบขนมซันเย่าออกมาห่อหนึ่งแกะทานเสียงเคี้ยวกรุบกรอบดังเป็นจังหวะอย่างเอร็ดอร่อย ในรถมีกลิ่นของซันเย่าอบอวลทั่วรถ
“ถ้าไม่ขับรถแล้วจะเอาเสวี่ยเสวี่ยไปอย่างไร?” เสี่ยวเป่าเหลือบมองเสวี่ยเสวี่ยที่กำลังแทะเนื้อแดดเดียวอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ข้างเล่อเล่อแวบหนึ่งอย่างระอา
นี่ไปพักผ่อนหรือออกสำรวจกันนะ?
เสี่ยวเป่าไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่าสองในสามของพื้นที่กระเป๋าเล่อเล่อคือของกิน
“นั่งเครื่องบิน เอาเสวี่ยเสวี่ยโหลดใต้เครื่องได้” เล่อเล่อแนะนำ
ขับรถช้าไปนั่งเครื่องบินไวกว่า แต่ก็ต้องลำบากเสวี่ยเสวี่ยหลายชั่วโมงหน่อย
เสี่ยวเป่าคิดดูแล้วก็จริงเลยเห็นด้วยกับคำแนะนำของเล่อเล่อ เล่อเล่อล้วงหยิบมือถือออกมา “ฉันจะจองตั๋วตอนนี้เลย พวกเราต้องลงเครื่องที่เมือง GY เพราะอำเภอเล็ก ๆแบบนั้นคงไม่มีสนามบินแน่ๆ”
เพิ่งผ่านวันหยุดยาวชาติจีนมาตั๋วเครื่องบินเลยเหลือเยอะ เล่อเล่อจึงจองตั๋วชั้นประหยัดได้สองใบในเวลาอันรวดเร็ว
“ตอนนี้ไปสนามบินกันเถอะ เครื่องบินจะออกหลังจากนี้สองชั่วโมง”
“ทำไมไม่จองชั้นเฟิร์สคลาสล่ะ?” เสี่ยวเป่าไม่พอใจเล็กน้อย เขาไม่ชอบสภาพแวดล้อมเสียงดัง อย่างน้อยชั้นเฟิร์สคลาสก็ทำให้เขารู้สึกสบายขึ้นบ้าง ชั้นประหยัดที่นั่งแคบเกินไปหน่อย
เล่อเล่อกลอกตาใส่ “ชั้นเฟิร์สคลาสแพงกว่าชั้นประหยัดตั้ง 1000 หยวน สองใบก็ 2000 หยวน ทำไมฉันต้องจองตั๋วที่ราคาไม่ยุติธรรมแบบนี้ด้วย”
เงินสองพันหยวนเธอใช้ซื้อขนมซันเย่าได้ตั้งเยอะ ใช้ชีวิตไม่เป็นเลยสักนิด!
เสี่ยวเป่าทอดถอนใจ “ชั้นเฟิร์สคลาสนั่งสบายกว่าหน่อย”
“แต่ถ้าหากดูอัตราในการตายก็เท่ากัน” เล่อเล่อโต้กลับพร้อมเคี้ยวแก้มตุ้ย
ถ้านั่งชั้นเฟิร์สคลาสแล้วมีโอกาสรอดเพิ่มขึ้นสักครึ่งเท่าหรือหนึ่งเท่าของชั้นประหยัด เธอจะต้องเลือกชั้นเฟิร์สคลาสอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่ได้มีข้อมูลมายืนยันว่าผู้โดยสารที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสจะปลอดภัยมากกว่าชั้นประหยัดนี่นา
ถ้าเครื่องบินเกิดเรื่องอะไรขึ้น หากสมควรตายก็ต้องตายหมด!
ดังนั้น…ทำไมเธอต้องเปลืองเงินตรงส่วนนี้ด้วย
เสี่ยวเป่าเงียบกริบ…เขาจะพูดอะไรอีกได้?
“เธอพูดถูก ไม่มีประโยชน์จริง ๆ” เสี่ยวเป่าทำได้แค่ประนีประนอมไป
ประหยัดสองพันหยวนให้น้องเล่อเล่อไว้ซื้อขนมทานแล้วกัน!
ทั้งสองคนถึงสนามบินอย่างรวดเร็ว เล่อเล่อไปซื้อกล่องโหลดสัตว์เลี้ยงใต้เครื่องแล้วใส่เนื้อแดดเดียวกองเท่าภูเขาน้อย ๆในกล่องไว้ให้เสวี่ยเสวี่ยแทะเล่นยามเบื่อ
ตอนใกล้ขึ้นเครื่อง จู่ ๆเสี่ยวเป่าก็ถามขึ้นว่า “เธอบอกคุณอาเหยียนกับคุณน้าเหมยหรือยัง?
“ฉันจะบอกตอนนี้แหละ” เล่อเล่อล้วงหยิบมือถือออกมาเขียนข้อความด้วยท่าทีเรียบเฉยแล้วส่งให้เหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยพร้อมกัน
ตามข้อความดังนี้
“คุณพ่อ คุณแม่ที่รัก หนูตัดสินใจไปเที่ยวพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งเดือน อย่าคิดถึงหนูมากนักล่ะ บ๊ายบาย!”
เสี่ยวเป่าเริ่มปวดศีรษะขึ้นมา เหยียนหมิงซุ่นต้องคิดว่าเขาเป็นคนพาน้องเล่อเล่อไปแน่ เฮ้อ…เขาจะอธิบายอย่างไรดีนะ?
แต่เล่อเล่อกลับไม่กังวลเลยสักนิด เท้าเป็นของร่างกายเธอ เธออยากจะไปไหนก็เรื่องของเธอ ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็มาบงการเธอไม่ได้
ผ่านไปสามชั่วโมงเครื่องบินก็ลงจอดเมือง GY เสี่ยวเป่าและเล่อเล่อไปรับเสวี่ยเสวี่ยที่โหลดใต้ท้องเครื่องมา เสี่ยวเป่าหามุมลับตาคนแล้วเอารถยนต์ออกมาจากช่องปริภูมิสามมิติของเขา
ความลับเรื่องเสี่ยวเป่ามีช่องปริภูมิสามมิติมีเพียงเล่อเล่อที่รู้ แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อหรือหานเหมยก็ไม่ทราบเรื่องนี้ ความจริงสิ่งที่เล่อเล่อรู้ยังไม่เชิงว่าทั้งหมดเพราะเธอรู้เพียงว่าเสี่ยวเป่าสามารถหยิบของออกมาจากโลกอีกมิติหนึ่งได้ เหมือนกับที่เธอสามารถหยิบของออกมาจากช่องมิติของฉิวฉิวได้นั่นเอง
ทว่ากลับมีจุดแตกต่างกันอยู่เพราะเสี่ยวเป่าเก็บของได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ช่องมิตินั้นไม่ใช่ของเขาแต่เขาใช้เก็บของได้
……………………………….
ตอนที่ 2946 รับปากมีประโยชน์ไหม
เพิ่งขึ้นรถ เหยียนหมิงซุ่นก็โทรมา เขาโทรหาเสี่ยวเป่าโดยตรง
เล่อเล่อเห็นเบอร์โทรศัพท์อันคุ้นเคยก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงใส่ ทุกคนในโลกรู้หมดว่าหนิงเสี่ยวเป่ามีมือถือ มีเพียงเธอที่โง่อะไรก็ไม่รู้สักอย่าง
เธอคว้าหมับแย่งมือถือของเสี่ยวเป่ามา “ไม่ต้องตามหาหนูแล้ว หนูจะออกไปผจญภัยกับพี่เสี่ยวเป่า อีกหนึ่งเดือนค่อยเจอกันนะคะ”
เธอวางสายทันทีโดยไม่ได้รอให้เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับ แถมยังปิดเครื่องราวกับว่าเป็นเครื่องของเธอเองอีก
เสี่ยวเป่าถอนหายใจเบา ๆคร้านจะคิดอะไรแล้ว อะไรที่แย่อยู่แล้วก็กลับแย่ลงไปอีก รอให้เจอของที่หนิงเฉินเซวียนทิ้งไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันแล้วกัน
ในเวลานี้ท้องฟ้าด้านนอกมืดมิด เสี่ยวเป่าตัดสินใจว่าจะขับรถทั้งคืน เร่งขับในตอนกลางคืนอาจจะเป็นเรื่องต้องห้ามของคนอื่น แต่สำหรับเขาแล้วก็เหมือนตอนกลางวันและไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
ในเวลานี้ท้องฟ้าที่เมืองหลวงก็มืดมิดแล้วเช่นกัน เหยียนหมิงซุ่นมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง ยัยเด็กแสบกล้าตัดสายเขาทิ้งเลยเหรอ แถมเจ้าเด็กหนิงเสี่ยวเป่าขี้โกหกนั่นอีก ทั้ง ๆที่เคยรับปากกับเขาแล้วแต่ไม่ทันไรก็ลากลูกสาวเขาไปซะงั้น
“มีอะไรน่าโกรธกัน แค่ออกไปท่องเที่ยวสำรวจนอกสถานที่เท่านั้นเอง ลูกโตพอจะออกไปผจญโลกภายนอกแล้ว วัน ๆอยู่แต่บ้านจะมีประโยชน์อะไร!” เหมยเหมยนิ่งสงบและไม่คิดกังวลเลยสักนิด
มีเสี่ยวเป่าอยู่ ต่อให้ไปป่าอเมซอนเธอก็ไม่เป็นกังวลเลย ขอให้เด็กสองคนนี้เที่ยวให้สนุกเถอะ ไม่แน่อาจจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้นก็ได้!
เหยียนหมิงซุ่นจ้องเธออย่างไม่พอใจ เขาสงสัยเหลือเกินว่าเหมยเหมยและเล่อเล่อจะสมรู้ร่วมคิดกัน
ในด้านความปลอดภัยแน่นอนว่าเขาไม่กังวลหรอก ต่อให้ไม่มีเสี่ยวเป่าแค่เล่อเล่อคนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ที่เหยียนหมิงซุ่นกังวลคือชายหญิงอยู่กันตามลำพังในป่าเขา เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เท่านั้น…
แต่เหยียนหมิงซุ่นเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วหนิงเฉินเซวียนทิ้งสมบัติอะไรไว้ เขาลังเลอยู่นานจนท้ายที่สุดก็ส่งคนตามเล่อเล่อไป หนิงเสี่ยวเป่าเคยสัญญากับเขาแล้วก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก
เหยียนหมิงซุ่นค่อนข้างเชื่อใจในตัวเสี่ยวเป่าทีเดียว
แต่เขากลับลืมไปว่า 18 ปีก่อน คนบางคนก็เคยสัญญาแบบนี้เช่นกันแต่ผลลัพธ์…
ในที่สุดตกดึกเสี่ยวเป่าและเล่อเล่อก็มาถึงอำเภอผานกู่ซึ่งเป็นสถานที่เล็ก ๆรกร้างเปลี่ยว เสี่ยวเป่าหยิบแผนที่ขึ้นมา สถานที่แรกบนนั้นเขียนไว้ชื่อหนึ่งว่าภูเขาหนิวเหว่ย
“พรุ่งนี้ค่อยถามทาง คืนนี้นอนบนรถก่อนแล้วกัน” เล่อเล่อแนะนำพร้อมลูบท้องตัวเอง ข้าวเย็นยังไม่ได้กินเลย เธอหิวจะตายอยู่แล้ว
เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ เขาขับรถไปทางชานเมือง เล่อเล่อหยิบพวกหม้อกระทะ เนื้อวัวเนื้อแพะสดใหม่ แล้วยังมีผักและผลไม้อีก….ดูอลังการราวกับโรงแรมห้าดาว
จะลำบากอะไรก็ได้แต่ลำบากท้องไม่ได้
นี่คือหลักการเอาตัวรอดของเล่อเล่อ
“คืนนี้กินหม้อไฟ พี่ไปเอาพวกฟืนมาหน่อย!” เล่อเล่อหยิบฟืนแห้งที่อยู่ใกล้ ๆมาสุมเป็นกองไฟ
เสี่ยวเป่าไม่ได้ลุกไปไหนแต่ส่งสัญญาณมือไปทางป่า เพียงไม่นานก็มีเสียงซวบซาบเข้ามาใกล้ งูยาวหลายตัวค่อย ๆเลื้อยเข้ามาพร้อมฟืนแห้งมัดใหญ่ ถ้าไม่ได้เห็นกับตาใครจะไปเชื่อว่างูจะแบกฟืนมาได้?
“ลำบากแย่เลย…เอาไข่ให้กินนะ!”
เล่อเล่อหยิบไข่ออกมาหลายฟองแล้วแบ่งให้เจ้างูพวกนี้ค่อย ๆกินกัน งูหลายตัวกลืนไข่เข้าท้องพลางผงกศีรษะไปทางเล่อเล่อด้วยความซาบซึ้งใจ พอท้องพวกมันนูนขึ้นด้วยความอิ่มถึงเลื้อยจากไป พวกมันต้องหาที่เงียบสงบค่อย ๆย่อยของในท้องของมัน อย่างน้อยมื้อนี้ก็อยู่ได้อีกครึ่งเดือน!
เสี่ยวเป่าและเล่อเล่อทานอิ่มไปอีกมื้อ เล่อเล่อทานจุเลยทานเนื้อเกือบคนเดียวทั้งหมด เสี่ยวเป่าทานเพียงผักผลไม้และไข่ต้ม ตลอดทั้งมื้อเขาเอาแต่ต้มเนื้อให้เล่อเล่อและไม่ได้ทานเองเลยสักชิ้น
……………………………