ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2961 ซาลาเปาจิ๋ว + ตอนที่ 2962 อาหารสามมื้อต้องตรงต่อเวลา
ตอนที่ 2961 ซาลาเปาจิ๋ว
พวกเสี่ยวจูทั้งสามคนเดินทางมาถึงเชิงเขาหนิงเหว่ยเป็นที่เรียบร้อย ไม่นานก็สังเกตเห็นร่องรอยการเดินทางของกลุ่มเสี่ยวเป่าอย่างง่ายดาย
“คึกคักดีจริง ๆ!” สือเอ้อร์แค่นหัวเราะทีหนึ่ง
เสี่ยวจูกลับมีสีหน้าเย็นชา เขาไม่ได้สนใจกับจำนวนคนมากหรือคนน้อยแต่อย่างใด เน่าเน่ากลับทำท่าตื่นเต้นถูกำปั้นไปมา “รอฉันไปสั่งสอนพวกเขาเอง!”
“ฉันจะช่วยเอง!” สือเอ้อร์เสนอตัว
เน่าเน่าแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ “ฉันยังต้องให้เธอช่วยเหรอ? แค่นิ้วเดียวก็จัดการพวกเขาได้หมดแล้ว!”
สือเอ้อร์เบะปากพึมพำเสียงเบา “ฉันไม่ต้องใช้นิ้วด้วยซ้ำ จะเสียแรงขนาดนั้นทำไม ให้พวกเขาดื่มน้ำหน่อยก็พอ!”
ขอแค่ดื่มน้ำที่ผ่านการท่องคาถาของเธอ ขอแค่เธอคิดคนผู้นั้นก็จะต้องตายจากไปอย่างสงบ ต่อให้เป็นแพทย์นิติเวชที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดในโลกก็สืบหาสาเหตุไม่พบ
แน่นอนว่า…นอกจากแม่ของเธอ
บนโลกนี้คนที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือท่านแม่แท้ ๆของตัวเอง พ่อยังไม่น่ากลัวขนาดนั้นเลย!
นึกถึงท่านแม่ที่สุดยอดเลือดเย็นโรคจิตโหดเหี้ยมไร้ความปรานีอย่างหาที่เทียบไม่ได้ สือเอ้อร์ก็อดตัวสั่นไม่ได้ ผู้หญิงอย่างแม่ของเธอโชคดีที่แต่งงานกับพ่อของเธอ ไม่อย่างนั้นต่อให้ผู้ชายทั้งโลกรวมกันก็สกัดเอาไว้ไม่อยู่!
“เป็นเด็กผู้หญิงจะมาตี ๆฆ่า ๆได้ไง อยู่เฉย ๆไปเลย!” เน่าเน่าตำหนิ
สือเอ้อร์ฉีกยิ้มหวานแล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กระซิบกระซาบ “ฉันจะอยู่เฉย ๆ งั้นนายให้ฉันทำอะไรฉันก็ทำอันนั้น สัญญาว่าจะเชื่อฟัง”
เน่าเน่าได้กลิ่นหอมหวานน่าดมที่อธิบายความรู้สึกไม่ถูกจนทำเอาเขาเสียวซ่านไปทั้งตัวแล้วยังอยากจามอีกด้วย…
“เข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไม ผู้ชายผู้หญิงใกล้กันไม่ได้ไม่รู้หรือไง ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวเลย…” เน่าเน่าถอยออกไปหนึ่งก้าวใหญ่พลางทำหน้าไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก เมื่อกี้เขามองลงไปกลับเห็นว่าหน้าอกของสือเอ้อร์นูนขึ้นเล็กน้อยเสียได้
แม้จะไม่เด่นชัดมากนักแต่อย่างน้อยก็ไม่แบนราบเป็นลานจอดสนามบินแล้ว ดีกว่าซาลาเปาจิ๋วนิดหน่อยเท่านั้น!
อีกทั้งใบหน้าที่กลมเหมือนซาลาเปาก็ซูบลงมากจนพอจะเห็นเค้าโครงความงามอย่างหาที่เทียบไม่ได้เหมือนคุณแม่แท้ ๆของสือเอ้อร์ได้ลาง ๆแล้ว
เน่าเน่าเคยเจอคุณแม่ของสือเอ้อร์มาก่อน หล่อนเป็นหญิงงามเพียงหนึ่งเดียวบนโลกที่แข่งความสวยกับคุณแม่ของเขาได้ แต่บุคลิกกลับต่างไปจากคุณแม่ของเขาอย่างสิ้นเชิง คุณแม่ของเขาเปรียบดั่งดอกไม้งามที่ผู้ชายอยากทะนุถนอมเอาไว้ ส่วนคุณแม่ของสือเอ้อร์เปรียบดั่งดอกไม้ตูมที่ผู้ชายยังต้องยำเกรง
เขานึกแปลกใจจริง ๆว่าเวลาพ่อแม่สือเอ้อร์อยู่บนเตียงใครเป็นฝ่ายรุกใครเป็นฝ่ายรับกันแน่?
เขารู้สึกว่าคุณพ่อของสือเอ้อร์เอาภรรยาของเขาไม่อยู่ด้วยซ้ำ!
เน่าเน่ามองไปทางสือเอ้อร์อีกทีอย่างอดไม่ได้ บอกตามตรงยัยคนนี้ค่อนข้างสวยพอตัว แม้หุ่นยังไม่เข้าที่แต่ลูกสาวย่อมเหมือนแม่ ในเมื่อคุณแม่ของสือเอ้อร์หุ่นดีขนาดนั้นคาดว่าสือเอ้อร์ก็คงไม่แย่ไปกว่ากันเท่าไร
สือเอ้อร์รู้สึกได้ว่าเน่าเน่ากำลังแอบมองตัวเองอยู่ก็อดดีใจไม่ได้เลยยืดหน้าอกอย่างได้ใจ ปีที่แล้วประจำเดือนของเธอมาแล้ว พ่อบอกว่าขอแค่ประจำเดือนมาก็จะเหมือนซาลาเปาที่พองตัวพรึ่บทีเดียวก็โตแล้ว…
ถึงตอนนั้นพี่เน่าเน่าคงไม่ไปหาพวกสาว ๆน่ารำคาญพวกนั้นแล้วสินะ!
“รีบเดินทางเถอะ ถ้าจะหยอกเอินกันก็เอาไว้ตอนกลางคืน” เสี่ยวจูพูดเสียงเรียบพลางเดินนำหน้าอย่างเชื่องช้า
ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกดี ๆต่อกันแล้วจะทำให้วุ่นวายขนาดนี้ทำไม ไว้กลางดึกก็เปรียบฟ้าเป็นเตียง พื้นดินเป็นผ้าห่มแล้วถือว่าเขาไม่มีตัวตนก็พอ พูดไร้สาระกันทำไมเยอะแยะ เสียงเจื้อยแจ้วน่ารำคาญจะตายชัก!
“ใครหยอกเอินกับยัยตัวกะเปี๊ยกอย่างเธอกัน ฉันมีแฟนอยู่อเมริกาแล้วนะ จิ๊…หุ่นดีมากเลยล่ะ!”
เน่าเน่าหน้าแดงโวยวายเสียงดังเพื่อปิดบังความไม่เป็นธรรมชาติของเขา
“นายมีแฟนแล้วเหรอ? ชื่ออะไร…ไว้กลับไปฉันจะฆ่าหล่อนซะ!” สือเอ้อร์กัดฟันพูด
“ประสาท ถ้าเธอกล้าทำอะไรฉันจะโกนผมเธอซะ!” เน่าเน่าด่ากลับ
……
เสี่ยวจูส่ายศีรษะอย่างละเหี่ยใจแล้วสับเท้าเดินนำอยู่ข้างหน้า เขาไม่ควรหลวมตัวอยู่กับเด็กไร้สาระสองคนนี้เลย!
……………………………….
ตอนที่ 2962 อาหารสามมื้อต้องตรงต่อเวลา
ไม่นานทั้งสามก็เดินมาถึงเนินเขาจุดที่พวกเล่อเล่อกางเต็นท์แต่เช้า เสี่ยวจูเดินไปยังกองดินที่ขุดเป็นหลุมศพของโคอิซูมิพร้อมเอ่ยเสียงเบา “พี่เสี่ยวเป่าลงมือแล้ว”
“เรามาพนันกันว่าพี่เสี่ยวเป่าใช้วิธีไหน ฉันเดาว่าใช้วิธีให้ล้มตาย” เน่าเน่าคาดเดา
สือเอ้อร์พูดตาม “ฉันเดาว่าถูกเถาวัลย์รัดคอตาย”
เสี่ยวจูไม่ได้พูดอะไรแต่เดินเอามือไขว้หลังสังเกตดูสภาพแวดล้อมรอบตัว เน่าเน่าทำหน้าตื่นเต้นค้นจอบจากกระเป๋าเป้ออกมา เขาขุดไม่กี่ทีก็เกลี่ยกองดินนั่นออกเผยให้เห็นศพที่แข็งตัวและมีหนอนชอนไชไปทั่วร่างของโคอิซูมิ
“อย่าเสียแรงไปเลย ถูกงูพิษกัดตายต่างหาก” เสี่ยวจูเดินกลับมา
เน่าเน่ากับสือเอ้อร์เห็นศพที่ออกสีเขียวช้ำผิดปกติของโคอิซูมิรวมถึงนิ้วโป้งที่หายไปก็ถอนหายใจอย่างเศร้าใจ เสี่ยวจูเดาถูกอีกแล้ว เป็นหมอนี่เดาถูกทุกครั้งเลย ไม่สนุกเอาซะเลย
“เวลานี้แล้วคาดไม่ถึงว่ายังมีงูพิษได้ พลังของพี่เสี่ยวเป่าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆแล้ว” เน่าเน่าพูดอย่างอิจฉาแล้วทำการกลบดินให้เหมือนเดิม
เสี่ยวจูหัวเราะ เสี่ยวเป่าไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆแต่ไม่เคยเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงมาตั้งแต่แรกต่างหาก หวังว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะทำให้เขาเห็นความสามารถที่แท้จริงของหนิงเสี่ยวเป่านะ
ในเมื่อจะมาเป็นพี่เขยของเขา ฉะนั้นควรตามสืบภูมิหลังให้ชัดเจนหน่อยจะดีกว่า
เวลาเที่ยงวันแล้ว เสี่ยวเป่าที่เดินนำอยู่ข้างหน้าสุดหยุดเดินแล้วเตรียมทำมื้อเที่ยง
ไม่ว่าจะเวลาไหนอยู่ ณ ที่แห่งใด อาหารสามมื้อก็ต้องตรงต่อเวลา นี่เป็นหลักการชีวิตของเขา
โดยเฉพาะยามที่เขามีน้องเล่อเล่อข้างกาย เขาจะปล่อยให้น้องสาวหิวไม่ได้!
“ตอนเที่ยงอยากกินอะไร?” เสี่ยวเป่าถามเล่อเล่อที่อยู่ข้าง ๆด้วยเสียงอ่อนโยน
เล่อเล่อกะพริบตาปริบ เธอชอบเสี่ยวเป่าในฉบับเช้าจนถึงตอนนี้จังเลย หวังว่าเวลาที่เสี่ยวเป่าสติฟั่นเฟือนจะยืดยาวไปอีกหน่อยเพราะจะได้เพิ่มช่วงเวลาแห่งความสุขแก่เธออีกสักหน่อย
“ได้หมด ขอแค่พี่เป็นคนทำฉันก็ชอบกินหมดแหละ” เล่อเล่อยิ้มตาหยีกล่าว
เสี่ยวเป่ายื่นมือหยิบเอาดอกไม้ป่าเหี่ยวเฉาที่ปักอยู่ตรงผมถักเปียของเล่อเล่อออกแล้วล้วงเอาดอกไม้สีสดสองดอกจากแขนเสื้อออกมาปักใหม่เหมือนเล่นมายากล
“งั้นก็ทานเจี้ยวฮวาจี[1]แล้วกัน ง่ายหน่อย” เสี่ยวเป่าอมยิ้มเล็กน้อยแล้วมองไปทางเสวี่ยเอ๋อร์
เสวี่ยเอ๋อร์ที่ได้รับคำสั่งก็วิ่งพุ่งพรวดออกไปทันที เจี้ยวฮวาจีงั้นหรือ…โอ้ เขาก็ชอบทานมากเหมือนกันนี่นา!
“พวกเธอไม่เดินต่อแล้วเหรอ?” เจสันเดินมาถาม ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเสี่ยวเป่าถึงหยุดเดินทาง
ยามอยู่กลางป่ากลางเขาฟ้าจะมืดเร็วกว่าปกติ หากช่วงกลางวันไม่รีบเดินทางกลางคืนจะเดินทางได้ยากลำบาก ตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่ายซึ่งนาน ๆทีฟ้าจะสดใสแดดจ้าขนาดนี้ แล้วจะหยุดพักผ่อนได้อย่างไร!
“เป็นเวลามื้อเที่ยง พวกนายเดินทางต่อก็ได้นะ” เสี่ยวเป่าพูดไปก็ใช้แท่งหินเหล็กไฟมาจุดไฟไปพลาง บนพื้นป่าถูกปูเต็มไปด้วยใบต้นไผ่ชั้นหนาจึงสะดวกต่อการจุดไฟอย่างมาก ใช้เวลาไม่นานก็ไฟลุกโชนขึ้นมาแล้ว
เจสันมองสีหน้าเรียบเฉยของเสี่ยวเป่า แถมยังอุตส่าห์ทุ่มแรงก่อไฟพร้อมหยิบหม้อออกมาก็รู้สึกอัดอั้นตันใจเหลือเกิน อยากถามสักประโยคว่า ‘นี่พวกเธอมาฮันนีมูนจริง ๆงั้นเหรอ?’
“นั่นสิ ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว ปิแอร์ เราก็มาทานข้าวกันเถอะ!” เจสันตะโกนไปยังคู่หู
ไม่มีเสี่ยวเป่าคอยนำทางใครจะไปรู้กันว่าขุมสมบัตินั่นอยู่ที่ไหนเลยจำต้องติดตามเขาไป งั้นถือว่ามาพักร้อนแล้วกัน เสียก็แต่เสบียงอาหารอาจจะไม่พอเท่าไรคงทานต่ออีกไม่กี่วันก็ต้องไปหาอาหารจากป่าเอา
“ฉันไปหาของกินสักหน่อย ขนมปังแข็งเก็บไว้ทานยามคับขันเถอะ” ปิแอร์เดินไปตามทิศทางที่เสวี่ยเอ๋อร์วิ่งหายไป เขาเตรียมตามหมาป่าตัวนั้นไปแล้วดูว่ามันจับตัวอะไรมาเดี๋ยวก็ทำตามเสี่ยวเป่าก็ได้ คิดว่ารสชาติคงไม่แย่มาก
คนอื่น ๆก็มีความคิดเช่นเดียวกันจึงมุ่งหน้าไปทางป่ากันทั้งหมด เสี่ยวเป่าอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมแววตาเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด
………………………..
[1] เจี้ยวฮวาจี เมนูไก่ยัดไส้ห่อใบบัวอบ