ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 698 เสียเงินร้อยเพื่อรอยยิ้มเดียวของสาวงาม + ตอนที่ 699 ฉันมีเงิน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 698 เสียเงินร้อยเพื่อรอยยิ้มเดียวของสาวงาม + ตอนที่ 699 ฉันมีเงิน
ตอนที่ 698 เสียเงินร้อยเพื่อรอยยิ้มเดียวของสาวงาม
คนบ้านโม่ไม่เข้าใจความคิดที่จะซื้อต้นพีแคนของเหยียนหมิงซุ่น ต่างเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาทำเรื่องโง่ ๆ
“บ้านเรายังมีต้นพีแคนตั้งยี่สิบกว่าต้นถ้าเธออยากได้ก็จะให้ จะเสียเงินซื้อของคนอื่นทำไม?” คุณลุงโม่ใหญ่ฉีกกระดาษจากปฏิทินมาม้วนเป็นบุหรี่อย่างคล่องมือ เอาเข้าปากแล้วเริ่มสูบเสียงดัง
คุณลุงโม่สองก็พยักหน้าตาม ต้นไม้พวกนั้นไม่มีประโยชน์อะไรมาก อย่าว่าแต่โม่ป๋อเฉียงอยากตัดเลยแม้แต่เขายังอยากตัดไปปลูกต้นชาแทน อย่างน้อยก็ได้เงินหลายสิบหยวนต่อปี
เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางรับต้นไม้ของบ้านโม่อยู่แล้ว จึงตอบกลับว่า “ผมต้องใช้ครับ พี่แค่ช่วยผมไปเจรจา ดูว่าเท่าไหร่พี่ป๋อเฉียงจะยอมขาย”
โม่จื้อหย่วนจำต้องตอบตกลงบอกว่าหลังมื้ออาหารจะไปเจรจาให้ บ้านโม่ป๋อเฉียงอยู่ไม่ห่างจากบ้านโม่เท่าไรนัก เดินไม่กี่นาทีก็ถึง ไม่เกินครึ่งชั่วโมงโม่จื้อหย่วนก็กลับมาถึง
“ป๋อเฉียงเอาหกร้อยแล้วจะขายให้ทั้งภูเขาเลย!” โม่จื้อหย่วนรู้สึกเจ็บใจขณะที่พูดไปด้วย
เมื่อกี้เขาด่าโม่ป๋อเฉียงไปฉาดใหญ่ แค่ภูเขาบ้า ๆนี่ขายตั้งหกร้อยหยวน ทำไมไม่ไปปล้นธนาคารเอาล่ะ!
“หมิงซุ่นเธออย่าทำอะไรโง่ ๆเด็ดขาดเลยนะ เจ้าโม่ป๋อเฉียงไม่ใช่คน มันจงใจหลอกเธอ ภูเขาบ้า ๆนี่ขายตั้งหกร้อยหยวน ให้ตายเถอะ!” โม่จื้อหย่วนยิ่งพูดยิ่งโมโห คิดว่าเขาโง่หรือไง
ความจริงเหมยเหมยอยากบอกว่าถึงตอนนี้เงินหกร้อยหยวนก็นับว่าแพงแล้ว แต่สิบปีหลังจากนี้ต้องได้กำไรคืนมามากกว่าหกร้อยหลายเท่าตัว เป็นการค้าขายที่ได้เปรียบเห็น ๆ!
เหยียนหมิงซุ่นคิด ๆแล้วก็บอกไปว่า “พี่แค่บอกเขาว่าห้าร้อยได้มั้ย ถ้าได้พรุ่งนี้เราก็ไปทำสัญญากันที่ผู้ใหญ่บ้านเลย”
โม่จื้อหย่วนโมโหแทบตาย ลูกพี่ลูกน้องโดนลาถีบหัวมาหรือเปล่า ห้าร้อยหยวนก็แพงอยู่ดี ห้าสิบหยวนเขายังไม่ยอมเสียเงินซื้อด้วยซ้ำ ทั้งโม่จื้อหย่วนกับพวกคุณลุงต่างเกลี้ยกล่อมเขาอยู่พักใหญ่ เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมฟังคำโน้มน้าว เหมยเหมยชอบต้นไม้พวกนี้เขาก็ต้องซื้ออยู่แล้ว แค่ห้าร้อยหยวนเท่านั้นเอง!
เงินห้าร้อยหยวนก็ทำให้เหมยเหมยมีความสุขได้ คุ้มค่ามาก!
คนบ้านโม่ค้านเหยียนหมิงซุ่นไม่สำเร็จจำต้องไปเจรจาให้เขา เดิมทีโม่ป๋อเฉียงไม่ยอมขายในราคาห้าร้อยหยวน พอเขารู้ว่าเด็กที่สมองไม่ปกติจากเมืองกรุงสองคนนั้นอยากซื้อจึงเริ่มคิดแผนการในใจ คิดไว้ว่าคนกรุงมีฐานะ ต้องขายราคาสูง
แต่ภรรยาของเขาเป็นคนใจร้อน พอได้ยินว่าเหยียนหมิงซุ่นยอมจ่ายเงินห้าร้อยหยวนเธอจะไม่ยอมได้อย่างไร ก่นด่าโม่ป๋อเฉียงไปหนึ่งยกก็ตอบตกลงโม่จื้อหย่วนไป
เช้าวันต่อมาหญิงผู้นี้ได้เชิญผู้ใหญ่บ้าน เหรัญญิกรวมถึงผู้อาวุโสผู้มีหน้ามีตาในหมู่บ้านมาทั้งหมด ด้วยความกลัวว่าเรื่องนี้จะจบเห่และหากเงินห้าร้อยหยวนหลุดลอยไป เธอต้องปวดใจอยู่หลายปีแน่!
เหยียนหมิงซุ่นเตรียมเงินห้าร้อยหยวนไว้นานแล้ว พอเช้าตรู่ก็ขับรถแทรกเตอร์ไปซื้อบุหรี่ อผักสดในตลาดหมู่บ้านเพื่อเตรียมต้อนรับพวกผู้ใหญ่บ้าน เหรัญญิกเตรียมสัญญาโอนพลางอ่านเงื่อนไขต่อหน้าทุกคนหนึ่งรอบ เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีใครคัดค้านก็เตรียมให้เซ็นชื่อรับรอง
เหมยเหมยคิดแล้วกระซิบพูดอยู่หลังเหยียนหมิงซุ่น “พี่หมิงซุ่น พี่บอกเหรัญญิกเพิ่มอีกประโยค บอกว่าอนาคตก็ห้ามเสียใจทีหลัง ห้ามโวยวาย”
โม่ป๋อเฉียงกับภรรยาของเขาดูท่าทางไม่ใช่คนซื่อสัตย์ อนาคตหากสถานการณ์ต้นพีแคนดีขึ้นสองสามีภรรยาคู่นี้ต้องมาหาเรื่องแหง ๆ ถึงจะไม่กลัวแต่ก็ตกลงกันไว้ก่อนดีกว่า
“สบายใจได้ ไม่เสียใจทีหลังแน่นอน!”
ภรรยาโม่ป๋อเฉียงยืนยันเสียงหนักแน่น เธอไม่ได้โง่ แค่ภูเขาธรรมดาลูกหนึ่งขายได้เงินห้าร้อยหยวนก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว ต้องโดนลาเตะหัวสิถึงจะเสียใจทีหลัง!
ชาวบ้านคนอื่นที่มามุงดูเพื่อความสนุก เห็นเงินธนบัตรเป็นปึกใหญ่บนโต๊ะต่างก็ตาลุกวาวทันที!
โอ้พระเจ้า คนเมืองกรุงรวยแท้!
ทุกคนต่างอิจฉาลาภลอยนี้ ทุกคนต่างอิจฉาโม่ป๋อเฉียงที่โชคหล่นทับหัวเสียจริง ลอบคิดในใจว่าเรื่องดี ๆแบบนี้ทำไมไม่เกิดขึ้นกับพวกเขาบ้างนะ!
………………………..
ตอนที่ 699 ฉันมีเงิน
หนึ่งฝ่ายจ่ายเงินอีกฝ่ายมอบสินค้า เมื่อได้เงินและสินค้ามาอยู่ในมือ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงป่าต้นพีแคนบนภูเขาของบ้านโม่ป๋อเฉียงก็ตกเป็นของเหยียนหมิงซุ่น สองสามีภรรยาโม่ป๋อเฉียงกอดเงินห้าร้อยหยวนกลับบ้านอย่างพึงพอใจ
มื้อเที่ยงผู้ใหญ่บ้านกับเหรัญญิกทานข้าวที่บ้านโม่ ผู้ใหญ่บ้านอายุราว ๆคุณลุงโม่ใหญ่ ดื่มเหล้าไปไม่กี่อึกก็เริ่มถอนหายใจและพร่ำบ่น
“หมิงซุ่นซื้อต้นไม้พวกนี้ไว้ก็ดี นั่นเป็นของที่บรรพบุรุษสืบทอดไว้ให้เรา คิดจะตัดก็ตัดทิ้งเลยได้อย่างไรกัน!”
ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ภายในหมู่บ้านไม่ได้มีเพียงบ้านโม่ป๋อเฉียงที่อยากตัดต้นไม้ วัยรุ่นสมัยนี้ใจร้อนเกินไปเพราะอยากได้เงินตรงหน้า ตาต่ำเห็นแค่ของที่อยู่ใต้เปลือกตาเท่านั้น
ต้นพีแคนเป็นสิ่งที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ มันจะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ไม่ได้หมายความว่าอนาคตจะเป็นเช่นนั้น ไม่แน่อีกไม่กี่ปีต้นพีแคนอาจสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำก็เป็นได้!
เหมยเหมยคอยฟังเสียงบ่นของผู้ใหญ่บ้านแล้วแอบทึ่งในใจ สมแล้วที่เป็นผู้เก่งกาจที่แฝงอยู่ในโลกมนุษย์ เธอรู้เพราะมีประสบการณ์จากชาติอดีต แต่ผู้ใหญ่บ้านผู้นี้กลับรู้เห็นอนาคตด้วยตัวเองจริง ๆ
“หมิงซุ่น เธอจะซื้อต้นไม้อีกมั้ย? ถ้าอยากได้ฉันจะติดต่อให้” จู่ ๆ ผู้ใหญ่บ้านก็ถามขึ้น
โม่จื้อหย่วนรีบสวนกลับ “ซื้ออะไรอีก ต้นไม้แพงขนาดนั้นซื้อครั้งเดียวก็พอ ซื้อกลับมามากมายก็กินแทนข้าวไม่ได้ ไม่ต้องซื้อ!”
เหมยเหมยถลึงตาด้วยความโกรธ โม่จื้อหย่วนคนนี้ก็คือคนประเภทตาต่ำเห็นแค่ของที่อยู่ใต้เปลือกตาตามความหมายของผู้ใหญ่บ้าน ป่าไม้บนภูเขาที่ซื้อกลับมาตอนนี้จะกลายเป็นต้นเงินต้นทองในภายภาคหน้าที่ต่อให้ใช้เงินมากเท่าไรก็หาซื้อไม่ได้
เหยียนหมิงซุ่นถามตอบ “มีคนอยากขายอีกหรือครับ?”
ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง “คนในหมู่บ้านอิจฉาที่คนหมู่บ้านอื่นได้เงินจากการเลี้ยงตัวไหม มีหลายบ้านคิดจะตัดต้นไม้แล้วปลูกต้นหม่อนแทน ฉันพูดยังไงพวกเขาก็ไม่ฟัง แถมยังบอกว่าฉันขัดขวางเส้นทางเป็นเศรษฐีของพวกเขา เฮ้อ ฉันก็จนปัญญาแล้ว หมิงซุ่นถ้าเธอยังมีเงินก็ซื้อต้นไม้พวกนี้ไว้เถอะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นต้นไม้พวกนี้ถูกตัดไป! ”
ผู้ใหญ่บ้านว่าแล้วก็เริ่มปาดน้ำตา พรูลมหายใจเฮือกใหญ่
สยงมู่มู่โวยขึ้นโดยไม่ต้องคิด “ซื้อสิ ต้องซื้อ จะให้คนพวกนั้นตัดต้นไม้ไม่ได้!”
เจ้าอ้วนน้อยก็พยักหน้าตามรัว ๆ เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าผู้ใหญ่บ้านเสียอีก เขาเป็นคนที่เห็นต้นไม้ใบหญ้าหรือสัตว์เล็กถูกรังแกไม่ได้ แม้แต่ในละครก็ไม่ได้ แค่เห็นก็พาลน้ำตาจะไหลแถมยังรู้สึกอัดอั้นตันใจ
แม่ของเขาชอบล้อเขาว่ามีกายเป็นชายแต่ดันมีหัวใจเป็นหญิง!
โม่จื้อหย่วนตะคอกใส่พวกเขาด้วยความโมโห “เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าพูดเหลวไหล ซื้อซื้อซื้อ พวกเธอออกเงินหรือไง? ไม่รู้จักโตสักที!”
สยงมู่มู่ชี้ไปที่เหมยเหมย “น้องสาวผมมีเงิน ให้น้องสาวผมซื้อ!”
เหยียนหมิงซุ่นตวัดหางตามองสยงมู่มู่ก็ปิดปากทันทีไม่กล้าออกเสียงอีก ไม่รู้ทำไมเขาไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่เห็นเหยียนหมิงซุ่นกลับขี้ขลาดเสียอย่างนั้น เกลียดตัวเองจะตายอยู่แล้ว!
ไม่ได้เรื่องเลย!
พอเหมยเหมยได้ยินว่ามีคนคิดจะขายต้นไม้อีกมากมายก็อดดีใจไม่ได้ มองตาแป๋วไปหาเหยียนหมิงซุ่นที่เห็นสายตาเธอก็รู้ได้ทันทีว่ายายเด็กคนนี้คิดจะซื้ออีกแล้ว
แม้ไม่รู้ว่าเหมยเหมยจะซื้อภูเขาไว้ทำไมมากมายแต่เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ถามต่อ ในเมื่อเหมยเหมยชอบก็ซื้อเถอะ ถึงตอนนั้นมาสร้างบ้านไม้หลังเล็กบนภูเขา เวลาว่างมาพักผ่อนบนภูเขาก็รู้สึกดีไปอีกแบบ
“ผมเอา แต่เรื่องราคาคงต้องวานคุณลุงช่วยเจรจาอีกที แพงไปเราคงจ่ายไม่ไหว” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มตอบ
ผู้ใหญ่บ้านยิ้มร่า พยักหน้าให้รัว ๆ “ไว้ใจได้ ฉันจะไปคุยให้เดี๋ยวนี้เลย แต่หมิงซุ่นเธอมีเงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
เงินตั้งหลายพันเชียวนา เจ้าเด็กเหยียนหมิงซุ่นเอาเงินมาจากไหนมากมาย?
เหยียนหมิงซุ่นชี้ไปที่เหมยเหมย “ผมไม่มีอยู่แล้ว แต่เพื่อนผมมี ภูเขาพวกนี้เธอเป็นคนอยากได้เอง ผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่มีเงินจ่าย”
เหมยเหมยยืดอกโต้กลับอย่างมั่นใจ “ใช่ บ้านหนูมีเงินเยอะ เงินแค่ไม่กี่พันเอง ไม่พอหนูซื้อเปียโนด้วยซ้ำ!”
………………………