ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 706 พ่อแม่ที่น่าขนลุก + ตอนที่ 707 ต่างก็อยากหาเงิน
ตอนที่ 706 พ่อแม่ที่น่าขนลุก
ไม่นานก็ถึงวันเดินทาง เหยียนซินหย่าเตรียมของฝากไว้เต็มกระเป๋า ส่วนใหญ่เป็นของกินพื้นบ้านอย่างหน่อไม้ตากแห้ง ผักตากแห้งหรือไก่แดดเดียวจากบ้านโม่คราวก่อนและขนมหวานที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า คุณยายจ้าวชอบทานขนมหวานของก้วนเซิงหยวน เหยียนซินหย่าเหมามาหลายกล่องเก็บเอาไปด้วย
“แม่คะ แม่ไปกับเราด้วยกันสิ ได้มั้ยคะ?”
ก่อนจะออกเดินทางเหมยเหมยกอดเหยียนซินหย่าแล้วออดอ้อน คุณแม่ไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย น่าจะไปด้วยกันกับพวกเธอ
เหยียนซินหย่าทำหน้าลังเล บอกตามตรงว่าเธออยากไปเที่ยวเมืองหลวงมาก มีเพื่อนหลายคนที่รู้จักผ่านบทความและงานศิลปะต่างอยู่ที่เมืองหลวง เมื่อก่อนติดต่อผ่านโทรศัพท์กันทั้งนั้น หากได้ไปเยี่ยมเยียนหาด้วยตัวเองคงดี
แต่ว่า–
จ้าวอิงหัวที่กำลังช่วยเช็คของให้ลูกสาวหูผึ่ง รีบกระชากภรรยามาไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ไปไปไป ลูกกับพี่ชายไปเที่ยวเมืองหลวงไป ทำไมต้องมาหลอกล่อเมียของพ่อด้วย ลูกใจดำจริงๆ พวกลูกอยู่ดีกินดีแถมไม่ต้องไปโรงเรียน ทิ้งพ่ออยู่เฝ้าห้องคนเดียวที่นี่อย่างน่าสงสาร ลูกไม่เห็นใจบ้างเหรอ?”
เหยียนซินหย่าตบสามีไปหนึ่งทีด้วยความโกรธปนเขิน เถรตรงจริงๆ ที่กล้าพูดทุกอย่างต่อหน้าลูก!
พูดออกมาได้ว่าอยู่เฝ้าห้องคนเดียว ลูกๆ โตขนาดนี้แล้วจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
จ้าวอิงหัวไม่สนใจ เขาไม่ได้พูดผิดตรงไหน นานทีจะถีบหัวส่งเจ้าลูกสองคนให้ออกไปได้ เพื่อที่เขาจะได้จู๋จี๋กับภรรยาสองคนอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกังวล เขาจะปล่อยให้ภรรยาไปเมืองหลวงด้วยได้อย่างไร?
เหมยเหมยเบะปากใส่ แลบลิ้นใส่จ้าวอิงหัวที่นับวันก็ยิ่งหน้าด้านขึ้นเรื่อยๆ จงใจพูดขึ้นว่า “พ่อ งั้นหนูกับพี่ไม่อยู่กวนโลกส่วนตัวของพ่อกับแม่แล้วก็ได้ พ่อกับแม่น่าขนลุกจริงๆ อายุปูนนี้แล้วยังพลอดรักต่อหน้าหนูกับพี่อีก หนูขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย!”
จ้าวเสวียหลินเองก็ขยิบตาใส่พลางกล่าวว่า “พ่อ หรือว่าให้ผมซื้อเหล้าดองกลับมาให้พ่อด้วย พี่สามมีของอยู่ในมือพอดี ถ้าดื่มแล้วรับรองว่าพ่อ…โอ๊ย!”
จ้าวอิงหัวตบกบาลฉาดใหญ่อย่างขุ่นเคือง ตวาดใส่ “ไม่เห็นหรือไงว่าน้องสาวแกยังอยู่นี่ ไม่รู้จักระวังปาก พูดอีกเดี๋ยวตบให้ตาย!”
เหยียนซินหย่าเองก็สาดคำด่าทอไปว่า “ยิ่งโตยิ่งไม่รู้จักกาลเทศะ รอกลับมาค่อยสั่งสอน!”
เหมยเหมยที่อยู่ข้างๆ แอบหัวเราะโดยไม่เห็นใจพี่ชายตัวเองสักนิด ถึงเธอไม่คิดว่าสิ่งที่จ้าวเสวียหลินพูดจะผิดตรงไหน เธอไม่ใช่เด็กจริงๆ สักหน่อย ระดับนี้เธอรับไหวอยู่หรอกน่า!
จ้าวเสวียหลินโดนพ่อแม่ตนอบรมจนเถียงไม่ออก เห็นน้องสาวที่ป้องปากแอบขำก็ถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ น้องสาวยิ่งโตยิ่งไม่น่ารัก ต้องเรียนรู้มาจากเหยียนหมิงซุ่นแหงๆ
คนขับรถของจ้าวอิงหัวพาไปรับสยงมู่มู่ก่อนจะพาไปส่งที่สนามบิน อู่เชาบอกว่าเขาเลือกที่จะไปสนามบินเลยเพราะบ้านที่เขาพักอาศัยอยู่ไม่ห่างจากสนามบินเท่าไร รถเมล์ป้ายเดียวก็ถึง
สองสามีภรรยาจ้าวอิงหนานเองก็ไม่ไปเมืองหลวง สองคนนี้รู้จักใช้เวลาส่วนตัวยิ่งกว่า วางแผนท่องเที่ยวในวันหยุดไว้ล่วงหน้าเตรียมจะไปใช้เวลาสองต่อสองกันที่ต่างประเทศ ไม่มีก้างขวางคอแล้ว พวกเขาเที่ยวได้อย่างเต็มที่แน่นอน!
เจ้าอ้วนน้อยอู่เชารออยู่สนามบินก่อนแล้ว คนที่มาส่งเขาคือเว่ยชิวเยวี่ยกับลูกชายคนโตอู่เจี๋ย อู่เจี๋ยเริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจินเหมือนชาติที่แล้วไม่มีผิด ชีวิตของเขาไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร
เว่ยชิวเยวี่ยซูบผอมลงมากโข ไม่ได้อวบอิ่มเหมือนอย่างเคย สองปีนี้เธอมีแรงกดดันพอสมควร จนถึงตอนนี้อู่เจิ้งเต้าที่เศร้าหมองก็ยังไม่สดชื่นขึ้นมา งานนอกบ้านในบ้านต่างมีเพียงเธอคนเดียวที่คอยจัดการดูแล ไหนจะเรื่องการงานอีก ไม่ผอมลงสิแปลก
เว่ยชิวเยวี่ยที่ผอมลงกลับดูเด็กลงไม่น้อย เสื้อเชิ้ตสีขาวเข้าคู่กับกระโปรงสั้นสีเทา ผมที่เกล้าอยู่ด้านหลังและแต่งหน้าอ่อนๆ เป็นการแต่งกายที่ดูกระฉับเฉงตามฉบับหญิงสาวผู้มีการศึกษา
……………………
ตอนที่ 707 ต่างก็อยากหาเงิน
เว่ยชิวเยวี่ยอมยิ้มพลางกล่าวทักทายสองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวด้วยถ้อยคำสุภาพ เพราะต้องฝากลูกชายคนเล็กอยู่บ้านคนอื่นตลอดช่วงปิดเทอมแหนะ!
เว่ยชิวเยวี่ยยกสองแขนสองขาเห็นด้วยกับแผนเที่ยวในช่วงปิดเทอมครั้งนี้ของอู่เชา ตระกูลจ้าวเป็นใคร คนธรรมดาทั่วไปเฉียดโดนขอบประตูบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ลูกชายของเธอจะไปเป็นแขกที่นั่นนานเสียด้วย เป็นความมั่งคั่งในชีวิตที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ เธอต้องสนับสนุนอยู่แล้ว!
เพื่อที่ไม่ให้ลูกชายคนเล็กดูยาจกเกินไป นับตั้งแต่เว่ยชิวเยวี่ยรับรู้ว่าลูกชายคนเล็กจะไปเมืองหลวง เธอก็ตรากตรำทำงานโต้รุ่งหลายคืนเพื่อแปลบทความหลายบท แถมขอเบิกเงินค่าต้นฉบับล่วงหน้า คงมีสักร้อยกว่าหยวนได้ ให้ลูกชายคนเล็กไปจนหมด
ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินเธอยอมรับไว้อย่างหน้าด้านๆ แล้วกัน แต่เธอจะให้ลูกชายคนเล็กไปเที่ยวแล้วยังต้องใช้เงินเหมยเหมยอีกไม่ได้ แบบนี้วันข้างหน้าเสี่ยวเชาของเธอจะยืดอกภาคภูมิใจได้อีกหรือ?
อู่เจี๋ยมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับอู่เจิ้งเต้ามากราวกับเป็นอู่เจิ้งเต้าในวัยหนุ่ม คอยมองลูกพี่ลูกน้องคนนี้ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงด้วยความรู้สึกที่พิลึกอย่างบอกไม่ถูก
น้องสาวคนนี้ของเขาคือซินเดอเรลล่าในชีวิตจริง ไม่สิ โชคดีกว่าซินเดอเรลล่าเสียอีก ซินเดอเรลล่ายังต้องอาศัยบารมีของเจ้าชายถึงจะเป็นที่อิจฉาของคนนับหมื่น ราวกับดวงจันทร์ที่พออยู่ห่างพระอาทิตย์ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่จ้าวเหมยกลับไม่ใช่ เพราะเธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีออร่าเฉิดฉายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
หลังส่งพวกเหมยเหมยขึ้นเครื่องไปแล้ว สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวก็ขอตัวกลับก่อนอย่างมีมารยาทโดยไม่พูดอะไร เว่ยชิวเยวี่ยเองก็ยิ้มตอบอย่างมีมารยาท ไม่มีการตามตื๊อใดๆ สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวประทับใจกับการกระทำของเธอไม่น้อย
อู่เจี๋ยนั่งสลดอยู่อย่างนั้น เว่ยชิวเยวี่ยรู้ดีว่าทำไมเขาถึงไม่ร่าเริงจึงพูดปลอบ “แผนเที่ยวปิดเทอมของลูกเลื่อนออกไปอีกหน่อยนะ พ่อของลูกใกล้เงินเดือนออกแล้ว”
ที่แท้อู่เจี๋ยนัดกับกลุ่มเพื่อนไว้ว่าจะไปเที่ยวที่โม่เก้าคูช่วงปิดเทอม แต่เพราะเจ้าอ้วนน้อยจำต้องเปลี่ยนแผนฉับพลัน เว่ยชิวเยวี่ยบอกว่าต้องให้อู่เชาไปปักกิ่งให้ได้ก่อนจึงเอาเงินทั้งหมดที่บ้านให้เจ้าอ้วนไป
เพื่อนๆ อู่เจี๋ยไม่ได้รอเขาและออกเดินทางไปยังโม่เก้าคูก่อน ทำให้ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของอู๋เจี๋ยทนรับไม่ไหว ในเมื่อตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยต้องห่วงเรื่องเงินมาก่อนเลยสักครั้ง!
“ไม่ต้องหรอกครับแม่ ผมไม่ไปเที่ยวแล้ว ผมฝากเพื่อนติดต่องานสอนพิเศษตามบ้านไว้แล้ว พรุ่งนี้ทำงานวันแรก หนึ่งชั่วโมงสี่หยวน ถ้าผมสอนดีอาจจะได้เพิ่มอีกหลายบ้าน แม่ครับ แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้อีก”
อู่เจี๋ยพูดอย่างจริงใจ เขารู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยตลอดสองปีนี้ของเว่ยชิวเยวี่ยเป็นอย่างดี คุณพ่อพึ่งพาไม่ได้ ภาระในบ้านทั้งหมดตกอยู่ที่แม่คนเดียว เขาในฐานะลูกชายคนโตถึงเวลาแล้วที่ต้องออกแรงเพื่อครอบครัว
เว่ยชิวเยวี่ยมองลูกชายคนโตอย่างปลื้มใจ น้ำตาคลอเบ้า ในที่สุดลูกชายก็โตสักที ความเหน็ดเหนื่อยของเธอได้รับการตอบแทนที่ดีที่สุด
เจ้าอ้วนน้อยที่นั่งอยู่บนเครื่องบินดูไม่ค่อยมีความสุขนักราวกับมะเขือม่วงที่ถูกต่อยจนช้ำ เงินหนึ่งร้อยกว่าหยวนในอ้อมแขนเปรียบดั่งแผ่นเหล็กเผาที่ประทับลงกลางใจเขา ความรู้สึกแสบร้อนนั่นเรียกให้เขาทำใจใช้เงินก้อนนี้ไม่ลง
“นายทำหน้าเศร้าทำไม? ไม่อยากไปเที่ยวหรือไง?” สยงมู่มู่ที่นั่งข้างๆ ตบเขาฉาดหนึ่ง พลางหยิบโค้กสองกระป๋องจากพี่แอร์โฮสเตสก่อนจะโยนให้เจ้าอ้วนหนึ่งกระป๋อง
เห็นโค้กอันแสนอร่อยเข้าเจ้าอ้วนน้อยก็ตาลุกวาวทันที ดื่มโค้กไปก็ระบายความในใจให้เพื่อนฟังไป “ฉันอยากหาเงินได้เยอะๆ จัง แบบนี้แม่ของฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ แต่ฉันคิดไม่ออกว่าจะหาเงินยังไง!”
ประโยคนี้กระทบจิตใจสยงมู่มู่เช่นกัน เขาลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ฉันก็อยากหาเงินได้เหมือนกันแต่ฉันก็จนปัญญา เฮ้อ ทำไมถึงไม่มีทองหล่นมาจากฟ้าบ้างนะ!”
เหมยเหมยที่นั่งข้างหน้าได้ยินเข้าก็หลุดขำออกมา เธอลุกยืนพลางกระดิกนิ้วให้สองคนนี้เป็นเชิงให้เอียงหูเข้ามา แล้วกระซิบพูด “ฉันมีวิธีหาเงิน แต่พวกนายต้องฟังฉันนะ”
……………………..