ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 712 สำนักงานใหญ่ที่ใจเหี้ยม + ตอนที่ 713 แตงโมที่มอบให้เป็นพิเศษ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 712 สำนักงานใหญ่ที่ใจเหี้ยม + ตอนที่ 713 แตงโมที่มอบให้เป็นพิเศษ
ตอนที่ 712 สำนักงานใหญ่ที่ใจเหี้ยม
จ้าวเสวียหลินถามด้วยความสงสัย “พี่สาม พี่อยากเปิดร้านอาหารเหรอ?”
จ้าวเสวียเอ๋อร์พยักหน้าตอบ “ใช่ ฉันกะจะเปิดร้านเคเอฟซีร้านที่สองของเมืองหลวง!”
ถ้าเจ้าหมอนี่ทำยังไม่สำเร็จคงไม่พูดออกมา ทำเอาทุกคนตะลึงงันกันถ้วนหน้า เหมยเหมยได้สติเป็นคนแรกพลางถามขึ้น “พี่ได้รับคำอนุญาตจากสำนักงานใหญ่ของเคเอฟซีแล้วเหรอ?”
จ้าวเสวียเอ๋อร์มองเหมยเหมยแวบหนึ่งด้วยความชื่นชม สมแล้วที่น้องสาวเป็นคนที่ฉลาดเป็นอันดับสองของบ้าน รู้ด้วยว่าหากจะเปิดสาขาต้องยื่นคำขอ!
เขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า “แน่นอน ไม่อนุญาตพี่จะเปิดยังไง อีกอย่างพี่ไม่มีสูตร อยากเปิดแค่ไหนถ้าขาดสูตรก็ทำอะไรไม่ได้”
คนอื่นได้ยินแล้วมึนไปชั่วขณะ แค่เปิดร้านอาหารเท่านั้นเองทำไมต้องขออนุญาตจากสำนักงานใหญ่ด้วย?
เหมยเหมยจึงอธิบายขั้นตอนการร่วมเป็นร้านระบบแฟรนไชส์ให้พวกเขาอย่างอดทนจนทุกคนเข้าใจ เจ้าอ้วนน้อยเอ่ยขึ้นว่า “คนต่างชาติหาเงินเก่งกันจังเนอะ ทั้งโลกมีตั้งกี่ประเทศตั้งกี่เมือง พวกเขาไม่ต้องทำงาน แค่เปิดร้านอาหารในทุกเมือง แล้วรอเก็แค่ค่าธรรมเนียมก็มากจนนับเงินไม่หวาดไม่ไหวแล้ว !”
จ้าวเสวียเอ๋อร์พูดอย่างปวดใจ “ก็ใช่ไง ใครให้พวกเขามีสูตรกันล่ะ ไหนจะสิทธิทางเครื่องหมายการค้าอีก เงินนี้ต้องปล่อยให้พวกเขากอบโกยไปล่ะ!”
แค่คิดว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมถึงหลายหมื่นจ้าวเสวียเอ๋อร์ก็ปวดใจแทบตาย เงินที่เขาเก็บหอมรอมริบมาตลอดสิบกว่าปีจะต้องตกเป็นของสำนักงานใหญ่แสนใจเหี้ยมนั่น ไม่เหลือให้เขาแม้แต่หยวนเดียว
สยงมู่มู่มีความสุขที่สุดรีบรบเร้าให้จ้าวเสวียเอ๋อร์เปิดร้านอาหารโดยเร็ว “วันหลังถ้าฉันหิวจะไปกินที่ร้านพี่สาม อยากกินเท่าไหร่ก็กินเท่านั้น ไม่ต้องเสียเงินสักหยวน!”
จ้าวเสวียเอ๋อร์ดีดหน้าผากเขาไปทีอย่างไม่สบอารมณ์ “ฝันไปเถอะ ไปกินที่ร้านฉันต้องจ่ายเงิน อีกอย่างตอนนี้ยังไม่มีให้กิน อย่างน้อยต้องรอถึงปีหน้าถึงจะเปิดได้”
เงินที่มีอยู่ทั้งหมดเอาไปจ่ายค่าธรรมเนียมหมดแล้วจึงไม่มีเงินเหลือจ้างคนและเช่าหน้าร้าน เขาต้องเก็บเงินอีกหนึ่งปี หากโชคดีปีหน้าก็เปิดร้านได้ โชคไม่ดีคงต้องหาหุ้นส่วนแทน!
แค่คิดถึงเรื่องพวกนี้จ้าวเสวียเอ๋อร์ก็ยิ่งปวดใจ เขาเคยสำรวจตลาดมาก่อนและคำนวณกระแสความนิยมของร้านอาหาร อย่างมากหนึ่งปีครึ่งเขาก็จะได้ต้นทุนกลับคืนมา แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่ถอนหายใจ ไม่มีเงินไม่มีหุ้นส่วน เขาจะทำอย่างไรได้อีก!
เหมยเหมยได้ยินแล้วก็แปลกใจ ถามกลับด้วยความฉงน “พี่สาม ทำไมพี่ไม่เปิดตั้งแต่ปีนี้เลยล่ะ? ยืดเยื้อถึงปีหน้าพี่ต้องเสียหายอีกมากขนาดไหนเนี่ย!”
จ้าวเสวียเอ๋อร์ใจเจ็บแปลบ ทำหน้ากลัดกลุ้มแล้วร้องคร่ำครวญด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “เหมยเหมย นี่เธอกำลังเอามีดแทงหัวใจพี่อยู่นะ เราไม่พูดเรื่องนี้ได้มั้ย? ถ้าพี่สามอย่างฉันมีเงิน ฉันจะปล่อยให้เงินไหลออกไปแบบนี้เหรอ?”
เหมยเหมยกลอกตาคิด พี่สามของเธอเงินหมดสิท่า!
มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเธอ ตัดสินใจว่าตกดึกค่อยไปคุยกับพี่สามดู ตอนนี้บนรถคนเยอะไม่พูดจะดีกว่า
ตลอดสองปีนี้หลังท่านผู้เฒ่าทั้งสองได้ผ่านการปรับความสมดุลจากเหมยเหมย ทั้งคู่สุขภาพกายแข็งแรง ใบหน้าสดชื่นต่างจากสภาพแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง เช้านี้ทั้งคู่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ท่านผู้เฒ่าไปยืนส่องที่ลานหน้าบ้านหลายครา ในที่สุดช่วงมื้อเที่ยงพวกเหมยเหมยก็กลับมาสักที
เหมยเหมยแนะนำเจ้าอ้วนให้พวกท่านรู้จัก ตั้งแต่อู่เชาเห็นรถขับเข้าประตูบานใหญ่และเห็นยามหน้าประตูในชุดเครื่องแบบพร้อมกระบอกปืนของจริงสองขาก็สั่นพรึบพรับ เมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าท่าทางน่าเกรงขามก็ยิ่งตกใจกลัวจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง เอ่ยคำทักทายเสียงสั่นเทา จากนั้นก็หัวหดไม่กล้าปริปากพูดอีก
ฮูหยินผู้เฒ่าหยิบแตงโมจากตู้เย็นมาหั่นชิ้นยื่นให้เจ้าอ้วนน้อยแล้วยิ้มอย่างใจดี “เสี่ยวเชากินแตงโมสิ ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
เจ้าอ้วนน้อยเป็นเพื่อนรักของหลานสาว เธอต้องต้อนรับเป็นอย่างดีอยู่แล้ว!
…………………….
ตอนที่ 713 แตงโมที่มอบให้เป็นพิเศษ
อู่เชาหยิบแตงโมมากัดคำหนึ่งดวงตาก็พลันลุกวาวขึ้นมา เปิดปากชมอย่างห้ามไม่ได้ว่า “แตงโมหวานจัง เป็นแตงโมที่หวานที่สุดในชีวิตที่ผมเคยกินมาเลย”
สยงมู่มู่แค่นเสียงหัวเราะกล่าว “ชีวิตนายนี่สั้นจริงๆ นะ!”
อู่เชาพูดอ้อมแอ้ม “ฉันพูดให้มันเกินจริง รู้มั้ย!”
เจ้าอ้วนมีข้อดีอย่างหนึ่งคือไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่มากแค่ไหนขึ้นล้วนแก้ปัญหาได้ด้วยของกิน เจ้าอ้วนน้อยที่กัดแตงโมไปสามคำรวดก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง คุยไปยิ้มไปไม่ได้เกร็งเหมือนก่อนหน้านี้
เหมยเหมยป้องปากแอบยิ้มแล้วกัดแตงโมคำเล็ก เจ้าอ้วนน้อยพูดไม่ผิด แตงโมบ้านคุณปู่คุณย่าของเธอรสชาติหวานกว่าปกติที่หาซื้อตามตลาดไม่ได้ เพราะแตงโมเหล่านี้เป็นบรรณาการพิเศษ รวมถึงผลไม้ชนิดอื่นด้วยเช่นกัน
ใช่ว่าทุกคนที่อยู่ในชุมชนนี้จะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันหมด มีเพียงผู้นำตระกูลอาวุโสบางท่านเท่านั้นที่จะได้รับ คุณปู่คุณย่าเธอเป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นทุกครั้งที่เธอกลับเมืองหลวงมักของโปรดปรานที่สุดก็คือผลไม้ในบ้านนี่เอง
“คุณปู่คุณย่ากินเคเอฟซีสิคะ ของพวกนี้เป็นของโปรดของชาวต่างชาติ คุณปู่คุณย่าลองทานดูสิคะว่ารสชาติเป็นยังไง!”
เหมยเหมยแกะถุงให้ปู่ย่าทั้งสองท่านเลือกทานสิ่งที่ชอบ แต่คุณย่าดูไม่ชอบเท่าไรนัก ทานแค่มันฝรั่งแท่งทอดกรอบไปคำเดียวก็หยุดทานเสียแล้ว ขณะที่คุณปู่กลับทานอย่างออกรส แฮมเบอร์เกอร์หมดไปชิ้นหนึ่งตามด้วยปีกไก่ทอดสามชิ้นและน้ำโค้กอีกหนึ่งแก้ว
“อาหารชาวตะวันตกรสชาติไม่เลวเลย วันหลังเราทำเองกันเองดู ก็แค่ชุบไข่ผสมแป้งแล้วเอาไปทอดไม่ใช่หรือไง ง่ายนิดเดียวเอง” ท่านผู้เฒ่าสาธยายออกมาราวกับมันง่ายมาก
จ้าวเสวียเอ๋อร์มุมปากกระตุก คุณปู่เขาพูดเหมือนง่ายเหลือเกิน ชุบไข่ผสมแป้งแล้วทอดในกระทะ?
ถ้าง่ายขนาดนั้นเขาจะทุ่มเงินไปตั้งมากมายทำไมล่ะ ?
เหมยเหมยไม่ได้ทักท้วงอะไรคุณปู่ เพียงแค่รับฟังหน้ายิ้มๆ อย่างไรเสียคุณปู่ก็ไม่สนใจงานภายในบ้านอยู่แล้ว เธอซื้อกลับมา คุณปู่ก็ไม่ถามหรอกว่าซื้อมาหรือทำเอง หลอกง่ายจะตายไป
สองพี่น้องจ้าวเสวียไห่กับจ้าวเสวียกงสูงขึ้นมาก พวกเขาสอบเข้าโรงเรียนทหารแห่งหนึ่งที่อยู่เมืองนานกิงได้ สองปีนี้สองพี่น้องดูสุขุมขึ้นมากไม่ได้ซนเป็นลิงเป็นค่างเหมือนแต่ก่อน
“วันเกิดเหมยเหมยคือวันที่สิบแปด วันนี้วันที่สิบ เหลืออีกแปดวัน เหมยเหมยอยากฉลองวันเกิดแบบไหน?” คุณย่าเอ่ยถาม
เหมยเหมยไม่ได้สนใจมากนักจึงตอบกลับไปอย่างนั้น “ไม่ใช่วันสำคัญอะไร คุณย่าทำบะหมี่อายุยืนให้หนูสักถ้วยก็พอ”
“ไม่ได้หรอก วันเกิดหลานสาวฉันทั้งทีต้องจัดให้ครึกครื้นหน่อย หรือว่าเราไปจัดงานที่โรงแรมดี ย่าออกเงินเอง” คุณย่าพูดอย่างตื่นเต้น
คุณปู่ก็เห็นด้วย “ตกลงตามนี้แล้วกัน ถึงตอนนั้นเราไปทานข้าวกันที่ฉวนจวี้เต๋อ!”
เหมยเหมยไม่ได้แสดงท่าทีกระตือรือร้นเท่าไหร่ อีกทั้งยังดูไม่ค่อยร่าเริงนัก คุณย่าคิดว่าเธอเหนื่อยล้าเกินไปเลยให้เธอไปพักผ่อนหลังทานมื้อกลางวันเสร็จ
เหมยเหมยที่อาบน้ำเสร็จแล้วล้มตัวนอนบนเตียงยังคงอารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก เพราะเธอนึกถึงจอมรังควานคนหนึ่ง นับตั้งแต่กลับจากบ้านนอกคราวก่อนหมอนั่นไม่เคยโผล่มาหาเธออีกเลย แม้แต่คืนก่อนออกเดินทางก็ไม่มาทำเอาเธอรอไปครึ่งค่อนคืน
เชอะ ทั้งที่คืนวันเกิดปีที่แล้วเขาแอบปีนกำแพงมาให้ของขวัญวันเกิดเธอด้วยซ้ำ ปีนี้กลับลืมสิ้น คนสารเลว!
เหมยเหมยก่นด่าว่าที่ผู้บังคับบัญชาการใหญ่ในอนาคตนับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะผล็อยหลับไปทั้งที่เบะปากอยู่อย่างนั้น ในฝันตำหนิใครบางคนอีกระลอก พร้อมใช้กระทะก้นแบนไล่ฟาดเธอถึงหายโกรธได้บ้าง
เหยียนหมิงซุ่นจะลืมวันเกิดของเจ้าหญิงตัวน้อยได้อย่างไร เขาจดจำมันได้ดีกว่าใคร เพียงแต่ปีนี้เขามีแผนอื่นถึงไม่ได้ปีนกำแพงไปหา เขาตัดสินใจจะให้เซอร์ไพรส์เหมยเหมยอย่างยิ่งใหญ่
แต่ตอนนี้เขาต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้หมดก่อน!
…………………