ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 728 ไม่ใช่พี่สาวหรือ + ตอนที่ 729 ความรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 728 ไม่ใช่พี่สาวหรือ + ตอนที่ 729 ความรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน
ตอนที่ 728 ไม่ใช่พี่สาวหรือ
สยงมู่มู่รู้เรื่องตระกูลเซียวมากกว่าเหมยเหมยเสียอีก เพราะหนึ่งเขาโตที่เมืองหลวง ต้องเคยฟังข่าวซุบซิบในแวดวงนี้มาไม่น้อย สองคือแม่ของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับคุณหนูใหญ่เฝิง จ้าวอิงหนานมักพูดถึงเรื่องตระกูลเซียวให้คุณพ่อฟังบ่อยครั้ง พอนานวันเข้าเขาเลยรู้เรื่องตระกูลเซียวพอสมควร
พูดถึงสยงมู่มู่ก็แอบเห็นใจแม่หญิงเซียวที่มีพ่อแม่ไม่ปกติแบบนี้ เป็นเรื่องน่าลำบากใจจริงๆ!
จู่ๆ สยงมู่มู่ก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมเซียวเซ่อถึงไม่ยอมออกจากบ้านมาตลอดหลายปี!
น่าจะเหนื่อยใจสินะ!
หรือบางทีไม่อยากสนใจพวกคนธรรมดาและโง่เขลาบางกลุ่มสินะ!
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อไปที่สวนด้านหลังเสียแล้ว สยงมู่มู่กับอู่เชาจำต้องคอยติดตามไปด้วย พวกเขาเองก็อยากรู้ว่าฮ่องเต้เป็นสัตว์วิเศษมาจากไหน ไหนจะไทเฮากับกุ้ยเฟยอีก!
สวนหลังบ้านใหญ่กว่าสวนหน้าบ้านมากโข มีสระบัวขนาดไม่เล็ก ใบบัวที่กำลังบานสะพรั่งปกคลุมทั่วผิวน้ำ คลื่นน้ำซัดมาเป็นระลอกๆ แต่งแต้มหยดน้ำลงบนดอกบัวสีชมพูและสีขาว ภาพงามเช่นนี้เรียกให้สยงมู่มู่กับอู่เชามองตาค้าง
“ถ้าฉันใช้ชีวิตอยู่คฤหาสน์แบบนี้ล่ะก็ไม่ออกบ้านหนึ่งปีก็ยังได้!” อู่เชาพึมพำเองอย่างนึกอิจฉา
บ้านของเซียวเซ่อให้กลิ่นอายความเป็นโบราณเก่าแก่ สวนหลังบ้านขนาดใหญ่ถูกตาต้องใจเจ้าอ้วนน้อยเข้าเต็มเปา กระแทกโดนใจเขาและสร้างเป้าหมายไว้สู้ต่อไปในอนาคต
สิบกว่าปีผ่านไปอู่เชาที่ประสบความสำเร็จได้ออกแบบคฤหาสน์แสนงามละลานตาที่สวนเจียงหนานด้วยตัวเอง นอกจากออกไปดูงานนอกสถานที่ ช่วงเวลาอื่นเขาจะอยู่แต่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ต่อให้เอาวัวนับสิบมาก็ลากไม่ไหว
“เซ่อเซ่อ ที่นี่มีเรือมั้ย? ไม่งั้นเราพายเรือไปพักผ่อนกลางสระบัวดีกว่า”
พอเห็นสระบัวเหมยเหมยก็อดนึกถึงค่ำคืนที่อยู่หมู่บ้านโม่คืนนั้นอย่างห้ามไม่ได้ ใบหน้าก็ร้อนผ่าว
“มีเรือ รอเดี๋ยวนะ ฉันจะให้คนลากเรือออกมาแล้วเอาน้ำชาของว่างบนเรือ”
เซียวเซ่อเองก็ใจเต้นตุบ ๆ จึงกวักมือเรียกสาวรับใช้ที่ยืนอยู่ห่างๆ มาแล้วสั่งให้เธอไปเรียกคนจัดเตรียมเรือให้เสร็จสรรพ
คนงานที่คอยปรนนิบัติเซียวเซ่อมีถึงสิบกว่าคน สองคนในนั้นคือพ่อบ้านและแม่ครัวที่ถูกส่งตัวมาจากคุณย่าของเซียวเซ่อเองซึ่งเป็นสามีภรรยากันและเป็นคนรับใช้ประจำตระกูลคุณย่าเซียวเซ่อ ส่วนคนงานอื่นๆ ถูกอบรมโดยพ่อบ้านเอง พอดูออกว่าคุณพ่อบ้านของเซียวเซ่อเก่งกาจไม่น้อย คฤหาสน์เซียวถูกจัดไว้เป็นระบบระเบียบ อีกทั้งคนงานเองก็ต่างทำตามกฎกันดี
ประสิทธิภาพยิ่งเหนือชั้นกว่า ไม่นานคุณพ่อบ้านก็พาคนงานเป็นกลุ่มเพื่อลากเรือออกมา มีแม่ครัวร่างอวบอ้วนแต่ดูใจดีนำคุกกี้เนยสดที่เพิ่งออกจากเตาร้อนๆ พร้อมชาแดงหอมกรุ่นมาจัดวางไว้บนเรืออย่างดี
ตระกูลเซียวมีคนพายเรือโดยเฉพาะและเป็นคนงานดูแลสวนในเวลาเดียวกัน เป็นชายวัยประมาณสี่สิบห้าสิบปี พาคนทั้งครอบครัวมาทำงานอยู่คฤหาสน์เซียว ท่วงท่าพายเรือดูชำนาญมือ สักพักพาพวกเหมยเหมยไปส่งที่กลางสระบัวก่อนที่เขาจะนั่งอยู่อีกมุมของเรือ ไม่เอ่ยส่งเสียงใดๆ ดูเป็นคนรักษากฏระเบียบอย่างดี
อู่เชาคอยรับลมอ่อนที่สัมผัสเข้ามาอย่างแผ่วเบา เชยชมคลื่นน้ำสีครามและดอกบัวที่ประดับประดาตามธรรมชาติ สร้างแรงบันดาลใจในการแต่งกลอนขึ้นมาทันทีจึงรังสรรค์ผลงานกลอนหนึ่งบท แถมยังเป็นกลอนเจ็ดเสียด้วย!
เซียวเซ่อเงยหน้าเห็นสยงมู่มู่กับอู่เชาสองคนก็ชะงักไปชั่ววูบ หลุดปากถามออกมา “สองคนนี้คือใคร? พวกเขาตามขึ้นมาได้ยังไง?”
สยงมู่มู่ชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที คนสกุลเซียวนี่ก็ทำเกินไปจริงๆ ทั้งที่เขากับเจ้าอ้วนวนเวียนอยู่หน้าเธอมาเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วตอนนี้กลับบอกว่าไม่รู้จัก?
พวกเขาไร้ตัวตนขนาดนี้เชียวหรือ?
เหมยเหมยตบกบาลตัวเองที “โอ๊ย ฉันลืมแนะนำพวกนายให้เธอรู้จัก นี่พี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฉันสยงมู่มู่ ส่วนนี่เพื่อนฉันอู่เชา คนนี้คือเซียวเซ่อ จะว่าไปก็บังเอิญดีนะ เราสี่คนเกิดปีเดียวกันหมดเลย!”
เซียวเซ่อจ้องสยงมู่มู่อยู่พักใหญ่ อยู่ๆ ก็พูดขึ้น “เหมยเหมย เธอแน่ใจนะว่าพี่ชายไม่ใช่พี่สาว?”
……………………
ตอนที่ 729 ความรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน
พอสิ้นเสียงเซียวเซ่อ สยงมู่มู่ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที กระเด้งตัวสูงสามคืบพลางตะคอกใส่เธอ “โดนหมากัดตามาหรือไง? ถึงแยกแยะชายหญิงไม่ได้!”
แม่หญิงเซียวมองเขาค้างอยู่หลายวินาทีถึงค่อยๆ พูดขึ้น “ตอนนี้ดูคล้ายผู้ชายหน่อยแล้ว”
สยงมู่มู่โกรธจนแทบกระอักเลือด พูดด้วยเสียงขุ่นเคือง “เธอไม่ลองส่องกระจกบ้างล่ะ? ตัวเองก็หน้าตาแยกแยะไม่ออกว่าเพศไหน มิน่าถึงมองคนอื่นแบบนั้น”
เหมยเหมยรู้ว่าสยงมู่มู่ไม่ใช่คนใจแคบ หากปล่อยให้ทั้งคู่ทะเลาะกันต่อ กลัวก็แต่จะยิ่งขัดบรรยากาศทั้งแล้วเสียความรู้สึกกันไปเปล่า ๆ เธอจึงออกหน้ารับเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ความขัดแย้งถึงปิดฉากลง แต่สยงมู่มู่กลับกลอกตาใส่เป็นระยะๆ และปัดเซียวเซ่อให้อยู่ในบัญชีดำ
“คุกกี้นี้รสชาติไม่เลวเลย อร่อยกว่าที่ซื้อกินอีก กลิ่นเนยเข้มข้นมาก ชาแดงนี่ก็ต้มได้ดี รสชาติดั้งเดิม”
เหมยเหมยทานคุกกี้ชิ้นเล็ก แล้วดูดชาแดงตามเข้าไปเอ่ยปากชมไม่หยุด
“ขนมที่คุณป้าซูซือทำต้องอร่อยอยู่แล้ว ไว้คราวหน้าให้คุณป้าซูซือทำขนมสไตล์จีนให้เธอกิน ช่วงนี้เธอกำลังหัดทำขนมสไตล์จีนอยู่ รสชาติใช้ได้เลย” ขณะที่เซียวเซ่อเอ่ยถึงแม่ครัวประจำบ้านหน้าตานั้นไม่ได้เย็นชาเฉกเช่นเวลาปกติ กลับดูอบอุ่นขึ้นบ้างเล็กน้อย
พ่อบ้านสตีเฟนกับแม่ครัวซูซือเป็นสามีภรรยากัน แปดปีก่อนได้รับคำสั่งจากเจ้านายเก่าให้บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูแลเจ้านายคนเล็กที่ประเทศจีนอย่างจงรักภักดี
เหมยเหมยคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเซียวเซ่อกับสองสามีภรรยาคู่นี้อาจลึกซึ้งกว่าความสัมพันธ์กับพ่อแม่แท้ๆ ด้วยซ้ำ!
กับพ่อแม่แท้ๆ ร้อยวันพันปีถึงเจอกันสักครั้ง แต่กลับใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกับแม่ครัวพ่อบ้านทั้งวัน อีกทั้งตอนเซียวเซ่อป่วยก็ได้สองสามีภรรยาคู่นี้คอยดูแลประคบประหงมไม่ห่าง บอกได้เลยว่าเซียวเซ่อถูกเลี้ยงมาด้วยมือของสองสามีภรรยาคู่นี้ ความสัมพันธ์ต้องสนิทสนมปกติอยู่แล้ว
“โอเค ไว้กลับมาคราวหน้าค่อยชิมขนมสไตล์จีนของคุณป้าซูซือ เอ๊ะ นั่นไทเฮาใช่มั้ย?”
เหมยเหมยทอดมองแสงสีทองที่หมุนขึ้นลงอยู่บนผิวน้ำ แค่ดูก็รู้ว่าไทเฮากำลังเล่นน้ำอยู่
“ใช่ ตอนกลางวันมันจะเล่นอยู่ตรงนี้ทั้งวัน ฉันจะเรียกมันมานะ!”
เซียวเซ่อสอดนิ้วเข้าปากแล้วใช้แรงเป่าออกมาเป็นเสียงนกหวีดดังกังวาน ฟังแล้วแสบแก้วหู สยงมู่มู่กับอู่เชาเบิกตากว้างจับจ้องผิวสระน้ำไม่ละสายตา อยากเห็นตัวตนแท้จริงของพระนางไทเฮาชัดเต็มสองตา
เสียงคลื่นน้ำขยับเข้ามาใกล้ ใบบัวที่นิ่งสงบเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สยงมู่มู่เกิดอาการตื่นเต้นเล็กน้อยและกลืนน้ำอายดังเอือก ทันใดนั้น–
สายน้ำตรงหน้าสาดกระเซ็นไปรอบตัวรวมถึงบนเรือลำเล็กด้วย มีบางส่วนที่สาดกระทบใส่หน้าสยงมู่มู่ เขาหลับตาลงโดยอัตโนมัติและไม่ทันเห็นเจ้าอ้วนน้อยข้างกายที่แสนน่าสงสาร ใบหน้าขาวซีด ตัวสั่นเทาราวกับถูกคนจับเขย่าตัว
สยงมู่มู่ใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำบนหน้าก่อนจะได้ยินเสียง ‘กึกกึกกึก’ดังข้างหู เลื่อนสายตาไปพลางเห็นอู่เชาที่ฟันบนกระทบฟันล่าง ใบหน้าใกล้เขียวช้ำเต็มที
“เจ้าอ้วนเป็นอะไรน่ะ? คงไม่ได้ป่วยใช่ไหม?”
สยงมู่มู่พูดหยอกล้อพลางกลั้วหัวเราะ แต่เมื่อเห็นอู่เชาไม่คล้ายว่ากำลังล้อเล่นอยู่ ตัวสั่นเทามากขึ้นเรื่อยๆ ตาวอกแวกไปทั่ว เสียงอึกดังมาจากลำคอแต่กลับไม่หลุดเสียงกรีดร้องออกมาแม้แต่เสียงเดียว
อู่เชาขวัญเสียจริงๆ สงสารเขาที่อยากวิ่งหนีแต่สองขาดันอ่อนแรงจนไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ ทั้งอยากเตือนเพื่อนด้วยความหวังดีสักหน่อยแต่กลับเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ ดวงตาจับจ้องสัตว์ประหลาดน่าสะพรึงคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อู่เชาหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
เพื่อน ไปให้สบายนะ!
สยงมู่มู่เห็นอู่เชาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อยู่พักใหญ่ จึงหันหันหน้ากลับมา อยากจะดูให้ชัดว่าหยดน้ำที่กระเซ็นจากผิวน้ำตรงหน้ามันคืออะไรกันแน่ แต่อยู่ๆ เจ้าตัวก็ลอยขึ้นกลางอากาศ ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่เหนือฟ้า
…………………