ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 734 สู้ตัวต่อตัว + ตอนที่ 735 กลิ้งเกลือกเป็นก้อนเดียวกัน
ตอนที่ 734 สู้ตัวต่อตัว
สยงมู่มู่ที่สติเริ่มฟื้นกลับมาดีแล้ว ได้ยินคำของเซียวเซ่อชัดเต็มสองหู จึงเกิดอารมณ์เดือดพล่านไฟโทสะในตัวพุ่งสูงปรี๊ด ลุกพรวดจากพื้นพุ่งตัวมาตรงหน้าเซียวเซ่อ
“เธอร้ายกาจจริงๆ ฉันก็แค่พูดความจริงประโยคเดียว เธอถึงกับให้สัตว์เลี้ยงพวกนี้ของเธอมารุมทำร้ายฉัน? ถ้าเธอแน่จริงก็มาสู้กับฉันตัวต่อตัวสิ!”
สยงมู่มู่ที่โกรธจัดพอหลุดปากพูดก็ออกเป็นสำเนียงปักกิ่งต้นตำรับ เวลาด่าคนรู้สึกได้อารมณ์มาก เหมยเหมยกับอู่เชากลับฟังจนมึน สำเนียงปักกิ่งพูดช้าๆ ยังไหวเพราะไม่ต่างจากภาษากลางเท่าไร แต่พอพูดใส่ระรัวเข้าก็คือภาษาถิ่นของจริง ฟังไม่ออกว่ากำลังพูดอะไรอยู่
เซียวเซ่อปรับสีหน้าเย็นชาลงผุดตัวลุกขึ้นยืนตาม พลันพบว่าส่วนสูงพอๆ กับสยงมู่มู่ เธอยืนกอดอกมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่กำลังโกรธจัดอย่างดูถูก ยื่นนิ้วเล็กชี้ไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“กับไก่อ่อนอย่างนาย ฉันยังต้องหาผู้ช่วยด้วยเหรอ? เหอะ นิ้วเดียวก็พอแล้ว!”
สยงมู่มู่เคยโดนเหยียดหยามแบบนี้เสียที่ไหนกัน สลัดคราบสุภาพบุรุษทิ้งแล้วคำรามใส่ “อย่าโม้ให้มากเลย เห็นแก่ว่าเธอเป็นผู้หญิง ฉันจะยอมให้เธอนำก่อนเลย พี่เป็นคนมีน้ำใจ ต่อให้เธอไม่เหมือนผู้หญิง พี่ก็จะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแล้วกัน!”
เดิมทีเหมยเหมยคิดจะเข้าไปห้ามทัพ แต่พอได้ฟังคำพูดนี้ของสยงมู่มู่ก็โกรธจนปิดปากเงียบ สยงมู่มู่เป็นคนปากคอเราะร้าย ชาติก่อนหลังจากเขามีชื่อเสียงแต่เพราะความปากจัดของเขาถึงได้มีศัตรูเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ดังนั้นหลังจากเกิดข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงถาโถมเข้ามา จึงไม่มีใครสักคนที่ออกมาเรียกร้องช่วยพูดแก้ต่างแทนเขา เหมยเหมยมักคิดเสมอว่าหากชาตินี้ในเวลานั้นมีใครสักคนออกมาช่วยพูดแก้ต่างสยงมู่มู่บ้าง หรืออยู่เป็นกำลังใจเคียงข้างเขา บางทีเขาอาจไม่เลือกวิธีสุดโต่งในการจากโลกนี้ไปก็ได้
แต่นิสัยที่ติดตัวมาแต่เกิดเหมือนสุนัขที่แก้นิสัยชอบกินอุจจาระไม่ได้ ต่อให้เหมยเหมยคิดหาวิธีมากมายเพื่อช่วยแก้นิสัยแย่ๆ ของสยงมู่มู่ มันก็เปล่าประโยชน์
อีกทั้งภายหลังเหมยเหมยเคยได้ยินคุณหญิงย่ากับเหยียนซินหย่าเอ่ยถึงสยงมู่มู่ เลยรู้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงเข้าหายาก และเข้าใจว่าครั้งแรกที่เธอไปบ้านครอบครัวสยง สองสามีภรรยาจ้าวอิงหนานถึงได้แสดงอาการดีใจขนาดนั้น
เพราะถึงสยงมู่มู่เป็นอัจฉริยะ แต่เขากลับเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่เด็ก วัยเด็กมักจะตีตัวออกห่างจากทุกคน ไม่ยอมเข้าหาใครแม้กระทั่งคุณปู่กับคุณย่า ชอบกักขังตัวเองนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องคนเดียว
เดิมตระกูลจ้าวคิดว่าเด็กคนนี้สมองใช้งานได้ไม่ปกติ กลับเป็นภรรยาของจ้าวอิงหย่งอย่างอันหย่าฟางต่างหากที่สังเกตถึงความผิดปกติในฐานะคุณหมอ พาสยงมู่มู่ในวัยเด็กไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลถึงรู้ว่าสยงมู่มู่นั้นไอคิวสูงมาก แต่กลับไม่ยอมเดินออกจากโลกที่ตัวเองปิดกั้นไว้ ซึ่งที่เรียกกันว่าอาการของเด็กออทิสติก
ดีที่อาการออทิสติกของสยงมู่มู่ไม่หนักหนาสาหัส ภายใต้การดูแลอย่างเอาใสใส่ของคนตระกูลจ้าว สยงมู่มู่จึงค่อยๆ ยอมพูด หลังจากนั้นเหยียนซินหย่าก็พากลับไปรักษาอาการป่วยที่บ้าน สยงมู่มู่ชอบตัวติดเธอตลอดยี่สิบชั่วโมง เหยียนซินหย่าเองก็ชอบเด็กหน้าตาน่ารักคนนี้จึงสอนเขาวาดรูป ร้องเพลง เล่นเปียโน และสยงมู่มู่ก็กลับสู่สภาวะปกติอย่างช้าๆ
นอกจากชอบคิดเล็กคิดน้อยและนิสัยพิลึกอยู่บ้าง นอกนั้นสยงมู่มู่ก็ไม่ได้ต่างจากเด็กปกติทั่วไปมากนัก!
แม้รู้ว่าเด็กผู้ชายมีนิสัยแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแต่คนตระกูลจ้าวกลับพึงพอใจมากแล้ว ไม่ฝืนเปลี่ยนแปลงสยงมู่มู่ ขอแค่เขามีความสุขก็พอ
แต่เหมยเหมยกลับคิดต่างกันออกไปเพราะเธอเคยผ่านชาติที่แล้วมา จึงรู้ว่าสยงมู่มู่เสียเปรียบเพราะนิสัยแบบนี้มากเกินไป แถมยังมีจุดจบไม่ดีเลยสักนิด
เธอไม่อยากให้สยงมู่มู่ในชาตินี้ซ้ำรอยชาติที่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องแก้นิสัยร้ายๆ ของหมอนี่เสีย!
…………………
ตอนที่ 735 กลิ้งเกลือกเป็นก้อนเดียวกัน
คนตระกูลจ้าวต่างรักและปกป้องสยงมู่มู่และมักเสียสละให้เขา เนื่องจากเขาเป็นศิษย์รักของคุณครูในโรงเรียนอีกทั้งยังมีพื้นหลังครอบครัวอย่างตระกูลจ้าว ใครจะตาบอดกล้าไปรังแกสยงมู่มู่ล่ะ?
ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้จึงทำให้นิสัยของสยงมู่มู่ยิ่งโตยิ่งเอาแต่ใจ ชอบคิดเล็กคิดน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ และมักพูดอะไรไม่คิด ไม่รู้จักกาลเทศะ หากไม่ใช่เพราะมีหน้าตาเปลือกนอกที่ดูดี มันก็น่ารำคาญอยู่ไม่น้อย
เหมยเหมยคิดว่าเจ้าหมอนี่ชีวิตราบรื่นเกินไปต่างหาก ทุกคนต่างเสียสละให้เขา ยกยอปอปั้นเขา ก่อให้เกิดนิสัยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ต้องให้เจ้าหมอนี่โดนดีสักครั้งถึงจะถูก!
ให้เซียวเซ่อสั่งสอนหมอนี่สักทีก็ดี ให้เขารู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า คราวหลังพูดจาต้องรู้จักระวังปาก!
อู่เชาเริ่มกังวล พูดอย่างชั่งใจว่า “หรือว่าเรียกมู่มู่กลับมาดี? รังแกเด็กผู้หญิงไม่ดีนะ”
“สบายใจได้ ใครรังแกใครยังไม่รู้เลย!”
เหมยเหมยคว้าคุกกี้หนึ่งกำมือยัดปากเจ้าอ้วนน้อยให้เขาดูเรื่องสนุกๆ อย่างสบายใจ แล้วอุ้มฉิวฉิวที่อยู่บนหัวฮ่องเต้ลงมาก่อนจะป้อนแอปเปิ้ลให้ฮ่องเต้อีกลูก พลางตบตัวเขาไปมา
ในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเซียวเซ่อฮ่องเต้มีนิสัยอ่อนโยนที่สุด อาจเป็นเพราะมันเป็นสัตว์กินหญ้ากระมัง เห็นตัวโตเช่นนั้น แต่แม้กระทั่งคนสวยอย่างกิ้งก่าที่ตัวเล็กที่สุดขี้บนหัวมันยังไม่โกรธเลยสักนิด เป็นสัตว์ตัวใหญ่ที่เชื่องที่สุดแล้ว
เจ้าอ้วนน้อยเริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่ด้านซ้ายมีงูเหลือมทอง ส่วนด้านขวามีอีกัวนาแล้ว เริ่มรู้สึกใจกล้ามากขึ้นจึงยืนดูเรื่องสนุกๆ พร้อมกับเหมยเหมย
กลับพบว่า–
ปากของสยงมู่มู่บอกว่าจะยอมต่อให้เด็กผู้หญิงนี่ก่อน แต่เซียวเซ่อเพิ่งนับถึงเลขสองเจ้าหมอนี่กลับย่อตัวลงกอดขาเซียวเซ่อไว้ เพียงชั่วครู่ก็พลิกตัวแม่นางเซียวลงบนพื้นแล้วนั่งควบอยู่บนตัวเซียวเซ่ออย่างคล่องแคล้วด้วยสีหน้าได้ใจ
เชอะ อย่าคิดว่าเขาจะไม่รู้ว่าเซียวเซ่อเคยเรียนกังฟูมาตั้งแต่เด็ก แม่ของเขาเคยพูดให้ฟังอยู่ที่บ้านตั้งนานแล้ว ทั้งยังส่งตัวเขาไปเรียนยูยิตสูด้วยเช่นกัน ทว่าไม่ถึงหนึ่งเดือนเขาก็ร้องไห้โฮ้กลับบ้านมาเสียก่อน
ช่วยไม่ได้ กระดูกแข็งเกินไป จึงอ่อนให้ไม่ได้!
เขาเป็นนักเรียนผู้มีร่างกายอ่อนแอพละกำลังไม่มาก การต่อสู้กับผู้มีทักษะกังฟูขั้นสูงจะมัวแต่สนใจความสุภาพบุรุษและหลักคุณธรรมเหตุผลอะไรได้อีก ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนแค่สู้ชนะก็พอ
เซียวเซ่อที่ไม่ทันตั้งตัวเปิดช่องโหว่ให้สยงมู่มู่นั่งควบอยู่บนตัว โกรธจนอ้าปากสบถด่า “สยงมู่มู่ไอ้เลว ไม่เคารพกฎ!”
“เธอให้สัตว์เลี้ยงของเธอมารังแกฉันคือการเคารพกฎเหรอ? หึ เธอทำหนึ่งครั้ง ฉันทำเอาคืนสิบห้าครั้ง ให้เธอรู้ว่าพี่เก่งแค่ไหน!”
เห็นเซียวเซ่อที่ถูกนั่งทับอยู่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงสยงมู่มู่ก็ได้ใจยิ่งกว่าเดิม ถือว่าได้เอาคืนสักที เขานั่งควบไม่พอยังยกก้นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะนั่งทับลงไปแรงๆ อีกที ช่างใจแคบเสียจริง
เหมยเหมยไม่กังวลเลยสักนิดว่าเซียวเซ่อจะแพ้ นั่งจิบน้ำชาพลางมองอยู่นิ่งๆ รอดูเพื่อนสนิทเอาคืน
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่นานเซียวเซ่อที่ใจเย็นลงก็กระทุ้งศอกใส่ท้องสยงมู่มู่แล้วพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมสยงมู่มู่ไว้แทน มองอีกฝ่ายจากตำแหน่งที่เหนือกว่า
“ยายบ้าเซียวเซ่อ รีบกลิ้งลงไปซะ!”
“กลิ้งไม่เป็น ไม่งั้นนายลองกลิ้งให้ฉันดูทีสิ!”
“คนสกุลเซียว อย่ารอให้ฉันมีน้ำโหนะ ระวังฉันต่อยเธอจนพ่อแม่ลืมหน้าไปเลย!”
“ต่อยสิ ไม่ต่อยนายก็เป็นไอ้ลูกหมา!”
……
ทั้งคู่ปะทะฝีปากกันไปมาแต่มือก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ฟัดกันจนตัวกลม สยงมู่มู่แปรเปลี่ยนความโกรธเป็นพลังพลางกอดเซียวเซ่อไว้แน่นให้เธอไม่สามารถใช้ท่ากังฟูได้ จำต้องใช้วิธีเดิมกับสยงมู่มู่
เธอกอดฉัน ฉันกอดเธอ กลิ้งเกลือกเป็นก้อนเดียวกัน!
………………..