ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 736 บทจะพลิกก็พลิก + ตอนที่ 737 กระโดดข้ามสามชั้น
ตอนที่ 736 บทจะพลิกก็พลิก
เหมยเหมยเริ่มสนุกขึ้นมา อดปรบมือเสียงดังร้องเชียร์ไม่ได้ “เซ่อเซ่อสู้ๆ!”
เจ้าอ้วนน้อยย่อมลืมเพื่อนไม่ได้อยู่แล้ว ปลีกเวลามาส่งเสียงเชียร์ไม่กี่คำก็ถือว่าได้ให้กำลังใจสยงมู่มู่แล้ว เวลาที่เหลือเอาไปกินขนมที่แสนจะสำคัญกว่า
ลุงที่พายเรือยิ้มตาหยีดูเรื่องสนุกๆ ตามไปด้วย คุณหนูของตนออกจะเย็นชาไปหน่อย วันนี้เผยท่าทีความเป็นเด็กบ้างก็ดี แต่ว่า–
ด้วยความที่สยงมู่มู่กับเซียวเซ่อรุนแรงมากขึ้น เรือลำเล็กก็เริ่มสั่นคลอน แถมสั่นคลอนหนักขึ้นกว่าเดิมจนลุงพายเรือเปลี่ยนสีหน้ารีบบอกให้พวกเซียวเซ่อหยุด
พวกเหมยเหมยเองก็ช่วยเรียก แต่อารมณ์เดือดดาลของพวกเขามันพุ่งปรี๊ด คิดว่าพวกเขายังจะรับฟังเสียงเกลี้ยกล่อมของคนรอบข้างอีกหรือ ต่างกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างเคยไม่มีใครยอมปล่อยมือใครก่อนทั้งนั้น
เรือสั่นคลอนหนักมากขึ้นจนเหมยเหมยนั่งไม่นิ่ง ลุงพายเรือใช้ฝีพายยันไว้ก็ไร้ประโยชน์ เรือลำเล็กโคลงเคลงไปมาเหมือนชิงช้า
“เหมยเหมย ฉันเวียนหัว!”
“กอดไทเฮาไว้ให้แน่น!” เหมยเหมยตะโกนบอกและกระโดดไปนั่งอยู่บนตัวไทเฮาก่อนใคร
แต่ไม่รอให้เจ้าอ้วนได้ไหวตัวทัน เรือลำเล็กก็พลิกคว่ำลง คนบนเรือทั้งหมดรวมถึงข้าวของก็ตกน้ำกันอย่างพร้อมเพรียง ตัวเหมยเหมยเปียกไปเล็กน้อยเพราะไทเฮาปฏิกิริยาโต้ตอบเร็ว ดันตัวเธอไว้อยู่จุดสูงสุดเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นโดนตัว
เจ้าอ้วนกลับโชคดีไม่ดีเช่นนั้น หมอนี่เป็นเป็ดที่ว่ายน้ำไม่เป็น พอตกน้ำก็ตกใจใช้แรงตะเกียกตะกายน้ำ ยิ่งตะเกียกตะกายมากเท่าไรก็ยิ่งจมมากขึ้นเท่านั้น สำลักน้ำไปตั้งหลายอึก
ดีที่ลุงพายเรือไหวตัวทัน ไม่นานก็ว่ายไปช่วยเจ้าอ้วนน้อยไว้ก่อนจะลากเขาขึ้นฝั่ง
ส่วนตัวต้นเหตุอย่างเซียวเซ่อกับสยงมู่มู่สองคนต่อให้ตกน้ำก็ไม่หยุด กอดรัดฟัดเหวี่ยงไปมา ไม่มีใครยอมปล่อยมือก่อน ต้องรอให้อีกฝ่ายปล่อยมือถึงจะยอม
เหมยเหมยให้ไทเฮาพาตนไปส่งเข้าริมฝั่งแล้วไปดูอาการเจ้าอ้วนน้อย ลุงพายเรือกดท้องเขาไปหลายทีให้คายน้ำที่สำลักเข้าไปออกมา คงไม่เป็นอะไรมากแล้วเพียงแต่ดวงตาที่เหม่อลอย ดูท่าจะขวัญเสียไม่น้อยถึงตั้งสติไม่ได้อยู่พักหนึ่ง
หันไปมองสองตัวในสระน้ำอีกทีเหมยเหมยก็นึกปวดหัว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเซียวเซ่อจะไม่ถูกกับสยงมู่มู่ขนาดนี้ เพิ่งเจอกันกลับกลายเป็นคู่กัดกันไปเสียแล้ว คู่เวรคู่กรรมกันจริงๆ!
“เซ่อเซ่อ สยงมู่มู่ พวกเธอรีบกลับมานะ อย่าหนาวจนตัวแข็งไปก่อนล่ะ!”
เหมยเหมยตะโกนไปทางสระบัว แต่สองคนนั้นกลับไม่สนใจเธอสักนิด ทำเอาเธอโกรธแล้วให้ฉาฉาสื่อสารกับไทเฮา ไทเฮาว่ายลงน้ำอย่างเชื่อฟังแล้วกวาดร่างสองคนที่ทะเลาะต่อยตีกันเข้าหาตัวได้อย่างง่ายดาย
ไก่ชนสองตัวเปียกชุ่มไปทั้งร่างแต่ยังไม่วายเลิกรากันง่าย ๆ เหมยเหมยจับทั้งคู่แยกอย่างปวดหัว ให้ลุงพายเรือเรียกพ่อบ้านสตีเฟนมาก่อนจะให้พาพวกเขาไปเปลี่ยนชุดโดยด่วน
แช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เธอเป็นห่วงจริงๆ ว่าสยงมู่มู่จะเป็นหวัด!
สตีเฟนอายุราวห้าสิบปี มีผมสีทอง ตาสีฟ้า แต่ขนาดร่างกลับผอมบางไม่เหมือนภรรยาของเขาที่ร่างอวบอั๋นแข็งแรง แต่พ่อบ้านสตีเฟนชาวต่างชาติคนนี้ดีต่อเซียวเซ่อจากใจจริงเพราะพวกเขาทั้งคู่ไม่มีลูก จึงรักเซียวเซ่อเสมือนลูกสาวแท้ ๆ ของตน
เวลานี้สตีเฟนเห็นสภาพดูไม่จืดของเซียวเซ่อ นอกจากจะไม่เป็นห่วงสักนิดกลับรู้สึกดีใจมากกว่า ถึงขั้นพูดเชิงล้อเล่นหลายประโยค คุณลุงสตีเฟนมาอยู่ประเทศจีนได้แปดปีจึงพอจะพูดภาษาจีนได้คล่องปร๋อแล้ว ทั้งยังเป็นสำเนียงปักกิ่งของแท้เสียด้วย
“ผมว่าเซ่อเซ่อของเราน่าจะชอบพ่อหนุ่มชาวจีนหน้าสวยคนนั้นไม่น้อย เธอปฏิบัติต่อเด็กผู้ชายคนนี้ต่างจากคนอื่น”
คุณพ่อบ้านกระซิบกระซาบกับภรรยาคุณป้าซูซืออย่างปลื้มอกปลื้มใจ
………………..
ตอนที่ 737 กระโดดข้ามสามชั้น
คุณป้าซูซือรู้สึกเช่นเดียวกับสามี คิดว่าคุณหนูตนต้องรู้สึกพิเศษกับสยงมู่มู่แน่นอน ต่อให้พระเจ้าประทับลงมาคุณหนูของเธอก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยาโต้ตอบใดทั้งสิ้น แต่ทำไมพอเห็นเด็กหนุ่มชาวจีนหล่อเหลาคนนี้เข้าถึงได้ดีใจกอดกันตัวกลมขนาดนี้!
คุณป้าซูซือเป็นลูกครึ่งผิวสีกับผิวขาว ที่มีรูปร่างสูงใหญ่และหน้าตาใจดีเป็นกันเอง ฝีมือทำอาหารรสเลิศ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ล้นเหลือ ตามที่พ่อบ้านสตีเฟนเล่าให้ฟังว่าหลังจากตนเองได้ลิ้มรสขนมรสเลิศที่คุณป้าซูซือทำ ก็เกิดตกหลุมรักหญิงสาวสีผิวที่ต่างจากตนตั้งแต่แรกพบ ยืนกรานจะแต่งงานกับคุณป้าซูซือโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของพ่อแม่ และครองรักกันมาจนถึงปัจจุบัน
เหมยเหมยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอยากให้คุณป้าซูซือต้มน้ำขิงใส่น้ำตาลแดงเสียหน่อย แต่เห็นป้าแม่ครัวผู้น่ารักกลับยกหม้อน้ำขิงใส่น้ำตาลมาแล้ว
คุณพ่อบ้านให้คนรับใช้คนอื่นเอาเสื้อผ้าสะอาดมาให้พวกเซียวเซ่อเปลี่ยนโดยเร็ว สยงมู่มู่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จก็จามติดต่อกันหลายครั้ง
“รีบดื่มน้ำขิง ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นหวัดต้องทรมานไปอีกหนึ่งเดือนหรอก”
เหมยเหมยเป็นห่วงเป็นใยรีบตักน้ำขิงใส่น้ำตาลให้สยงมู่มู่ดื่ม เจ้าหมอนี่กลับทำหน้ายู่ จะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมดื่ม
“ไม่ดื่ม ฉันไม่เป็นหวัดหรอก ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เธอเอาน้ำขิงออกไปห่างๆ หน่อย กลิ่นฉุนจนปวดหัว” สยงมู่มู่ใช้มือปิดจมูกไว้ ทำท่ารังเกียจน้ำขิงต้มน้ำตาลอย่างมาก
คนที่ตั้งท่ารังเกียจน้ำขิงใส่น้ำตาลเหมือนกับเขายังมีแม่หญิงเซียวอีกคน ตอนนี้ดันมีท่าทางคล้ายเด็กผู้หญิงขึ้นมาหน่อยแล้ว อ้อนคุณป้าซูซือเพราะไม่อยากดื่มน้ำขิงเช่นกัน
“ไม่ดื่ม หนูไม่ใช่ไก่อ่อนอย่างเขาสักหน่อยที่โดนลมนิดหน่อยก็จะเป็นหวัด ต่อให้หนูแช่น้ำเย็นตอนหน้าหนาวก็ไม่เป็นไร” เซียวเซ่อไม่ลืมที่จะกระแนะกระแหนสยงมู่มู่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ชอบใจหมอนี่เอาเสียเลย
สยงมู่มู่สวนกลับคอเป็นเอ็น “คิดว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหนเชียว เมื่อกี้เราเสมอกันนะ เธอไม่อายบ้างหรือไงกัน!”
“นั่นเป็นเพราะนายไม่เคารพกฎกติกา!”
“โถ่ ตอนตีกันใครจะเคารพกติกาให้เธอล่ะ เธอโง่หรือเปล่า?”
“นายสิโง่ ฉันกระโดดข้ามไปสามชั้น ตอนนี้เรียนม.สี่แล้ว!” เซียวเซ่อทำหน้าดูถูก เธอเป็นอัจฉริยะที่มีไอคิวสูงถึงสองร้อยเชียวนะ กล้าบอกว่าเธอโง่?
สยงมู่มู่ชะงักทันที แอบบ่นแม่ของเขาจ้าวอิงหนานในใจไปสามวินาที ข่าวของแม่ไม่ทันสมัยเลย ทำไมไม่เคยบอกเขาว่าคนสกุลเซียวนี่กระโดดข้ามไปเรียนม.สี่แล้ว?
ที่แท้แม้สยงมู่มู่ไม่เคยเจอเซียวเซ่อมาก่อน แต่ชื่อของเซียวเซ่อกลับเติบโตมาพร้อมกับเขา จ้าวอิงหนานมักพูดถึงเซียวเซ่อให้เขาฟังเสมอว่าฉลาดและเก่งขนาดไหน
ดังนั้นการที่สยงมู่มู่ไม่ถูกชะตากับเซียวเซ่อก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเสมอไป ลอบคิดในใจมาตลอดว่าจะต้องเอาชนะ ‘ลูกบ้านอื่น’ ที่มาจากปากแม่ของเขาให้ได้!
“มอสี่มีอะไรให้น่าภูมิใจ ถ้าพี่จะกระโดดข้ามชั้นก็ไปมอห้าแล้ว!” สยงมู่มู่เถียงกลับคอเป็นเอ็น ตัดสินใจกลับไปจะยื่นขอกระโดดข้ามชั้นบ้าง ต้องสูงกว่าเซียวเซ่อหนึ่งชั้นให้ได้
“รอนายข้ามได้ค่อยว่ากันเถอะ ตอนนี้ตะโกนไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”
เซียวเซ่อแค่นหัวเราะที เธอได้ยินมาจากคุณหนูใหญ่เฝิงมาว่าสยงมู่มู่เรียนม.สามต่างหากถึงได้เลื่อนขึ้นไปม.สี่
ที่แท้เอาชนะซึ่งๆ หน้าสะใจยิ่งกว่าที่คิดแหะ!
เห็นสองคนตรงหน้าจะเริ่มทะเลาะกันรอบใหม่ เหมยเหมยรีบแทรกยืนระหว่างพวกเขาด้วยความโกรธ ยัดน้ำขิงใส่น้ำตาลใส่มือคนละถ้วย ตะคอกเสียงดัง “ดื่มลงไปให้หมด ห้ามเหลือแม้แต่หยดเดียว!”
ภายใต้ความน่าเกรงขามของเหมยเหมยเซียวเซ่อกับสยงมู่มู่จำต้องซดน้ำขิงใส่น้ำตาลอย่างเชื่อฟังและทำหน้ายู่ราวกับผิวมะระกันทั้งคู่
เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลงเหมยเหมยจึงบอกลาเซียวเซ่อ พร้อมทั้งนัดเธอว่าพรุ่งนี้จะไปเดินซื้อของด้วยกัน ก่อนจะพาสยงมู่มู่และอู่เชากลับบ้าน สตีเฟนจึงให้คนขับรถไปส่งพวกเขาที่บ้านตระกูลจ้าว
……………………….