ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 746 ปากสีแดงร้อนแรง + ตอนที่ 747 ไม่ว่าใครก็อย่ามาหาฉัน
ตอนที่ 746 ปากสีแดงร้อนแรง
เซียวจิ่งหมิงเดินหลบพวกนักข่าวด้วยใบหน้าที่แต้มไปด้วยรอยยิ้มอันน่าหลงใหล เดินมาหาพวกเหมยเหมยพร้อมมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าลายตาราง
“เซ่อเซ่อ เป็นเด็กผู้หญิงกินของเย็นให้น้อยหน่อย ระวังปวดท้อง”
เซียวจิ่งหมิงอยากเช็ดมือที่เปียกของเซียวเซ่อแต่กลับโดนเซียวเซ่อชักหนี แค่นเสียงใส่อย่างหงุดหงิดพลางยืนเชิดหน้าอย่างเล่นตัว เหลือบตามองไปทางอื่นพลางทำหน้าไม่สบอารมณ์
เซียวจิ่งหมิงกลับไม่ได้ใส่ใจ ท่าทีแบบนี้ของลูกสาวนับว่าเป็นมิตรอย่างมากแล้ว อีกทั้งท่าทางที่เมื่อกี้เซ่อเซ่อช่วยเอาคืนแทนเขามันน่ารักจะตายไป
รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจของเขาเช่นกัน!
จะว่าไปเขาต้องขอบคุณตานเหอเจิ้งด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะเขามาป่วนงานในวันนี้เขาจะได้เห็นมุมที่น่ารักของเซ่อเซ่อได้อย่างไร?
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเซ่อเซ่อที่ปกติมักบอกว่าภาพของเขาคือขยะ แต่กลับพูดชมลับหลังโดยไม่ให้ใครพูดแย้งสักคำ?
เซียวจิ่งหมิงยังยิ้มตาหยีเหมือนเดิม และไม่เก็บผ้าเช็ดหน้าคืนแต่ยื่นให้เหมยเหมยแทน เหมยเหมยรู้ความหมายของเขาดีเลยรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือให้เซียวเซ่อ ครั้งนี้เซียวเซ่อไม่ได้ปฏิเสธยอมให้เหมยเหมยเช็ดแต่โดยดี แค่ยังคงสีหน้าไม่สบอารมณ์เช่นเดิม ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจที่หาเรื่องทะเลาะกับผู้ใหญ่ที่ขัดใจก็เท่านั้น
“ใกล้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เหมยเหมยเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ลุงเลี้ยงข้าวพวกเธอดีมั้ย?” เซียวจิ่งหมิงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูครู่หนึ่ง พลางพูดอมยิ้ม
เหมยเหมยปากกระตุก ทั้งที่เพิ่งเลยเก้าโมงมานิดเดียวแต่กลับพูดจาเหลวไหลหน้าตาใสซื่อ แต่เธอเองก็รู้ว่าเซียวจิ่งหมิงแค่อยากอยู่ด้วยกันกับลูกสาวนานกว่านี้อีกหน่อยเลยพยักหน้าให้ความร่วมมือไปเต็มที่ ไหนจะแกล้งทำท่าราวกับว่ากำลังหิวมากเหลือเกิน
“ดีค่ะ หนูหิวพอดีเลย ขอบคุณลุงเซียวนะคะ”
เซียวเซ่อมองบนใส่เพื่อนที่แสดงละครได้เสแสร้งมากไปหนึ่งที เธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่พูดเสียงด้วยเสียงโหด “กินข้าวอะไร? ไม่จัดงานนิทรรศการแล้วเหรอ?”
ยิ่งโตยิ่งไม่รู้จักหน้าที่ตัวเองเหมือนที่คุณปู่ด่าไว้ไม่มีผิด ในชีวิตนี้ไม่เคยมีช่วงไหนที่จริงจังสักที งานนิทรรศการที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ระดับนี้ เจ้าตัวไม่อยู่เฝ้าที่นี่ดันหนีไปทานข้าว ดูเข้าท่าเสียที่ไหน?
เซียวจิ่งหมิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ อ้าปากพูดคำหวานใส่ “กินข้าวกับเซ่อเซ่อสำคัญกว่างานนิทรรศการร้อยเท่า ไปกันเถอะ พ่อจะพาพวกเธอไปกินของอร่อยๆ”
เหมยเหมยลูบแขนที่ขนลุกเกรียวไปหนึ่งที เซียวจิ่งหมิงคนนี้พูดจาหลอกล่อคนเก่งยิ่งกว่าพ่อเธอเสียอีก โอ๋ลูกสาวเก่งเหมือนโอ๋แฟนสาว มีพ่อที่หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้แถมยังโอ๋คนเก่ง จึงหันไปดูท่าทางที่ดูจะคล้อยตามของเซียวเซ่อจึงสรุปได้ว่าคำพูดหวานหยดของพ่อเธอค่อนข้างใช้ได้ผลกับเธอไม่น้อย
แล้วทำไมความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ถึงมาอยู่ในจุดที่เหมือนน้ำกับไฟแบบนี้ล่ะ?
แม้ว่าเซียวเซ่อจะทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เซียวจิ่งหมิงจึงถือว่าลูกสาวตกลงเลยพาพวกเหมยเหมยไปทานอาหารมื้อใหญ่อย่างดีอกดีใจ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด
“คุณเซียว มีคุณผู้ชายสองคนถูกใจผลงาน ‘ภาพลวงตา’ ของคุณเข้า คุณจะให้ทำยังไงดีคะ?”
หญิงสาวปากสีแดงร้อนแรงสุดเซ็กซี่คนหนึ่งเดินสับเท้ามาทางนี้ ส่งเสียงเล็กเสียงน้อยจนเหล่าชายหนุ่มในห้องโถงตัวสะท้านพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย หันสายตามาทางหญิงสาวเสน่ห์ล้นเหลือคนนี้พร้อมเพรียงกัน
โอ้โห สุดยอดในบรรดาผู้หญิง!
ถ้าได้ใช้ค่ำคืนกับหญิงระดับนี้ ต่อให้ตายก็คุ้มแล้ว!
เซียวจิ่งหมิงกลับนิ่งเฉยต่อท่าทางโปรยเสน่ห์ของหญิงสาว หนำซ้ำยังทำท่าไม่สบอารมณ์อีกด้วย “เรื่องเล็กแค่นี้ยังต้องมาถามผมอีกเหรอ? ใครให้ราคาสูงก็ขายให้คนนั้นสิ!”
“แต่ว่า…”
หญิงสาวกำลังจะบอกว่าคนที่ให้ราคาต่ำกว่าคือลูกค้าประจำของเซียวจิ่งหมิง ถ้าว่ากันตามปกติแล้วควรให้หน้ากันสักหน่อยถึงจะถูก ทันใดนั้นเองก็มีเสียงน่ารักอีกเสียงดังขึ้นมา
……………………
ตอนที่ 747 ไม่ว่าใครก็อย่ามาหาฉัน
หญิงสาวอีกคนในชุดกระโปรงยาวสีขาว ปล่อยผมยาวสลวยและแต่งหน้าอ่อนๆ ราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งเดินเข้ามาหา เสียงกลับแตกต่างจากภาพลักษณ์อันใสซื่อของเธออย่างสิ้นเชิงทำให้เหล่าชายหนุ่มได้ยินแล้วเสียวซ่านเข้ากระดูก
“คุณเซียว คุณหลี่จากฮ่องกงถูกใจผลงาน ‘กาแล็กซี่’ ของคุณ อยากให้คุณเห็นแก่เพื่อนเก่าช่วยลดราคาให้หน่อย”
หญิงสาวหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ชิงพูดก่อนหญิงสาวหน้าตาเซ็กซี่ แค่นเสียงใส่อีกคนเหมือนจะโชว์เหนือกว่า
เซียวจิ่งหมิงในเวลานี้จะไปมีกะจิตกะใจวุ่นวายกับเหล่าผู้ช่วยหญิงเสียที่ไหน นึกท้อในใจว่าผู้หญิงพวกนี้วิ่งแจ้นออกมาโดยไม่รู้จักประเมินสถานการณ์เอาเสียเลย
เหอะ โบนัสเดือนนี้จะหักเสียครึ่งหนึ่ง ไม่ฉลาดเลยสักนิด!
“ลดราคาอะไร? ภาพของผมเคยลดราคาตั้งแต่เมื่อไหร่? พอแล้ว หลังจากนี้เรื่องเล็กๆ แบบนี้อย่ามาหาผมอีก เขียนราคาไว้แล้วยังต้องมาถามอีกเหรอ?”
เซียวจิ่งหมิงกลับโบกมือปัดอย่างไม่สบอารมณ์ สีหน้าดูเย็นชาเล็กน้อย มีหรือที่ผู้ช่วยหญิงสองคนยังจะกล้าแย่งกันเรียกร้องความสนใจ รีบตอบรับกันทันที
สีหน้าเซียวเซ่อแย่ลงตั้งแต่หญิงงามคนแรกปรากฏตัวแล้ว ท่าทางราวกับพายุกำลังจะมา เมื่อหญิงหน้าตาใสซื่อคนที่สองมาปรากฏตัวต่ออีก ใบหน้าของแม่หนูเซียวก็ถมึงทึงเต็มที่ แผ่รังสีออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้าว่า–
ไม่พอใจมาก แล้วตอนนี้เดือดมากเช่นกัน!
“เซ่อเซ่อ เหมยเหมยรอนานแล้วสินะ ไป เราไปทานข้าวกัน” เซียวจิ่งหมิงยิ้มร่าคุยกับพวกเหมยเหมย แต่ว่า–
“ทำไมพวกเธอยังอยู่? พ่อโกหกฉัน?” เซียวเซ่อชี้ไปที่ผู้ช่วยหญิงทั้งสองแล้วตะคอกเสียงขุ่น
เซียวจิ่งหมิงใจหล่นวูบแต่กลับตอบเสียงกลั้วหัวเราะ “ก็จะจัดงานนิทรรศการไง คนช่วยพ่อไม่พอเลยให้พวกเธออยู่ช่วยงานต่อ รองานนิทรรศการจบ พ่อจะให้พวกเธอลาออกแน่ๆ”
พูดถึงเรื่องนี่เซียวจิ่งหมิงก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา ก็ผู้ช่วยข้างกายเขาล้วนเป็นผู้หญิงชั้นยอดที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน เขาเสียแรงถึงสองปีเต็มถึงจะหาได้จนครบ มันทำใจไล่ออกไม่ลงจริงๆ!
เซียวเซ่อที่พอใจต่อคำอธิบายของพ่อตัวเองอยู่บ้างเลยมีสีหน้าผ่อนคลายลง แต่ใดๆ ในโลกนี้ทุกอย่างมักไม่เป็นไปตามที่คิด หญิงงามที่ร้อนแรงดั่งไฟแผดเผาอีกคนปรากฏตัวขึ้น
หญิงงามคนนี้ดูอายุไม่น้อยแล้วเพราะเริ่มมีรอยตีนกาจางๆ ตรงหางตา แต่นั่นไม่ทำให้ความงามเธอลดน้อยลงสักนิด หนำซ้ำยังให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
เหมยเหมยรู้จักหญิงงามผู้มีนิสัยโผงผางคนนี้อยู่แล้ว นั่นคือคุณหนูใหญ่เฝิงผู้ที่พัวพันกับเซียวจิ่งหมิงมาครึ่งชีวิต เพราะความรักและความชังซึ่งก็คือแม่แท้ๆ ของเซียวเซ่อ
“เซ่อเซ่อเองก็มาเหรอ เดี๋ยวแม่พาลูกกับเหมยเหมยไปทานข้าวนะ!”
คุณหนูใหญ่เฝิงเห็นดวงตาของลูกสาวฉายแววตะลึงชั่ววูบ ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะคิกคัก เหมือนอดีตสามีเธอไม่มีผิดที่อ้าปากก็ชวนไปทานข้าว เหมยเหมยปากกระตุกอีกครั้ง ช่างใจตรงกันเสียจริงๆ!
เซียวจิ่งหมิงหุบยิ้มที่น่าหลงใหลนั่นพลันน้ำเสียงก็เย็นชาลง ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความลำพองใจไปว่า “คุณมาช้าไป เซ่อเซ่อตกลงไปทานมื้อเที่ยงกับผมแล้ว”
คุณหนูใหญ่เฝิงแค่นเสียงใส่และไม่ได้พูดเรื่องทานข้าวอีก เธอเห็นหญิงงามสองคนที่ยืนข้างกายเซียวจิ่งหมิงสีหน้าก็เย็นชาขึ้นมาในทันที กระดิกนิ้วไปทางด้านหลังก่อนที่ชายหนุ่มที่กลิ่นฮอร์โมนเพศชายแผ่ออกมาจากตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าจะเดินเข้ามายืนประกบข้างคุณหนูใหญ่เฝิง
“ขอแนะนำหน่อย ผู้ช่วยคนใหม่ของฉัน คุณเซียวคิดว่าเป็นไง? เห็นพวกเขาแล้วมีความรู้สึกเหมือนแก่ลงเลยใช่มั้ย?”
เสียงของคุณหนูใหญ่เฝิงไม่ได้ด้อยไปกว่าหญิงงามสองคนก่อนหน้าเลยสักนิด แต่ถ้อยคำที่ออกมาจากปากกลับไม่ถนอมน้ำใจแม้แต่น้อย แต่ละคำเหมือนดั่งมีดเล่มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงใจ
เซียวจิ่งหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยกำลังจะโต้กลับ แต่เป็นลูกสาวของพวกเขาที่ระเบิดอารมณ์ออกมาก่อน
“พ่อแม่สนุกกันมากใช่มั้ย? งั้นพ่อแม่เล่นต่อกันได้เลย หลังจากนี้ไม่ว่าใครก็อย่ามาหาฉัน!”
……………………