ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 750 ปากหวานไม่เป็น + ตอนที่ 751 หน้าด้าน
ตอนที่ 750 ปากหวานไม่เป็น
ขยี้จนปวดตาไปหมด ในที่สุดเหมยเหมยก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่ภาพลวงตาเลยร้องขึ้นมาอย่างดีใจ ผลักจักยานพุ่งตัวออกไปข้างนอกทันที
“พี่หมิงซุ่น พี่มาเมืองหลวงได้ยังไง? เมื่อกี้พี่เป็นคนโทรมาเหรอ?…”
ถามคำถามยาวเป็นพรวนด้วยเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนฝูงนกกระจอกกำลังส่งเสียงร้อง แต่เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รู้สึกรำคาญสักนิด อมยิ้มน้อยๆ นัยน์ตามีแต่ความรักใคร่และเอ็นดู
“ฉันเอาทีวีสีมาให้”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้บอกความจริงไป เขาตั้งใจเก็บเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้ยัยหนู ถ้าพูดออกมาล่วงหน้าก็ไม่สนุกน่ะสิ
เหมยเหมยรู้สึกหวานขึ้นมาจับใจเหมือนได้กินน้ำผึ้ง ถลึงตาใส่เขาไปทีอย่างกระเง้ากระงอด “ทำไมพี่โง่แบบนี้? ไปรษณีย์ก็ส่งของได้นี่นา ไม่เห็นต้องลำบากมาเองเลย อากาศร้อนจะตาย!”
“ไปรษณีย์ช้าเกินไป ฉันส่งเองเร็วกว่า อีกอย่างฉันก็อยากมาเมืองหลวงเที่ยวดูสักหน่อย”
เหยียนหมิงซุ่นพูดเป็นจริงเป็นจังแต่เหมยเหมยไม่ได้ยินคำตอบที่เธออยากฟังเลยแอบผิดหวังในใจ เบะปากอย่างอดไม่ได้
ให้ตาย พูดเอาใจเธอหน่อยไม่ได้เลยหรือ?
บอกว่าคิดถึงเธอมันยากขนาดนั้นเชียว?
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของเด็กสาวก็ถามด้วยความแปลกใจ “เหมยเหมยเป็นอะไร?”
“เปล่า แดดจ้าเกินไป พี่หมิงซุ่นเรารีบเข้าไปกันเถอะ”
เอาเข้าจริงแล้วเหมยเหมยก็ดีใจอยู่หรอกในเมื่อเหยียนหมิงซุ่นขนโทรทัศน์สีมาให้เธอตั้งไกล มีอะไรให้ต้อไม่พอใจอีก?
แน่นอนว่าหากเหยียนหมิงซุ่นปากหวานเสียหน่อยคงจะดีกว่านี้!
เหยียนหมิงซุ่นยกโทรทัศน์สีเตรียมเดินเข้าไปข้างในแถมยังช่วยกางร่มให้เหมยเหมยอย่างใส่ใจโดยไม่บังให้ตัวเองสักน้อย เหมยเหมยขยับร่มไปทางเขาเล็กน้อยอย่างมีความสุข
“พี่เองก็บังหน่อย แดดแรงเกินไป”
เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจ ยังคงกางร่มให้เหมยเหมยต่อ “ไม่ต้องหรอก!”
ผู้ชายอย่างเขามีอะไรให้ต้องบังแดด กำลังเครียดอยู่เลยว่าผิวขาวเกินไปอยากตากแดดให้ผิวคล้ำกว่านี้สักหน่อย!
ทั้งคู่หนึ่งคนถือกล่องกระดาษลังใหญ่อีกคนเข็นรถจักรยานเดินขนาบคู่กันไป ใต้แสงอาทิตย์มีเงาสองร่างทอดลงกับพื้น หนึ่งคนตัวสูงหนึ่งคนตัวเล็กพอเดินทีเงาก็ซ้อนกัน ชายหล่อหญิงงาม เป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน
สองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนเดินเข้ามาจากประตูใหญ่ เวลาสองปีไม่ได้ส่งผลอะไรมากต่อหวงอวี้เหลียน ยังคงเป็นสาวงามคนเดิมแค่ดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น แต่ผิวที่เนียนละเอียดไม่เหี่ยวย่นนั้นก็ขับให้ดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษ
โอหยางซานซานตัวสูงขึ้นไม่น้อย ใบหน้าได้รูปเพราะองค์ประกอบบนใบหน้าเด่นชัดมากขึ้น ไขมันตรงส่วนแก้มลดน้อยลงไปบ้างแล้ว ใบหน้าทรงกลมในวัยเด็กกลายเป็นใบหน้ารูปไข่ งดงามกว่าวัยเด็กมากโข
สองแม่ลูกไม่ได้อาศัยอยู่ในเขตนี้เพราะคุณย่าของบ้านโอหยางไม่ชอบหวงอวี้เหลียนรวมไปถึงหลานสาว สามีของหวงอวี้เหลียนโอหยางเซี่ยงหมิงเป็นลูกชายคนรองของบ้าน แค่คนคั่นกลางย่อมไม่มีตำแหน่งอะไรในบ้านเป็นพิเศษอยู่แล้ว
โอหยางเซี่ยงหมิงกับหวงอวี้เหลียนแต่งงานกันไม่กี่ปีก็ย้ายออกจากเขตนี้ไปอยู่คอนโดที่ที่ทำงานจัดให้ เพียงแต่หวงอวี้เหลียนถนัดเรื่องเข้าหาคน ภายนอกมักแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับพ่อแม่สามี ทุกสุดสัปดาห์จะกลับมาที่นี่เพื่อให้ลูกสาวโอหยางซานซานได้ค้างสักคืน
และเพราะเหตุนี้โอหยางซานซานเลยคลุกคลีกับเด็กในเขตนี้ไม่น้อย ต้องรู้ว่าเด็กในนี้ล้วนไม่ใช่เด็กจากตระกูลธรรมดา จะคนไหนก็มีพื้นเพของครอบครัวที่ทำเอาชาวบ้านทั่วไปตกตะลึงได้!
จุดประสงค์ของหวงอวี้เหลียนเองก็เช่นเดียวกัน เธอต้องการให้ลูกสาวทำความรู้จักกับว่าที่คนใหญ่คนโตในอนาคตตั้งแต่เด็ก แบบนี้ซานซานของเธอจะได้ไม่ต้องลำบากตรากตรำเหมือนเธอ
“แม่ ผู้ชายข้างๆ จ้าวเหมยคือใครเหรอ? หน้าตาดีจัง” โอหยางซานซานชี้ไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้น
……………………
ตอนที่ 751 หน้าด้าน
หวงอวี้เหลียนจูงมือลูกสาวมองไปข้างหน้าและเห็นเหมยเหมยกำลังเงยหน้ายิ้มให้เหยียนหมิงซุ่นพอดี ส่วนเหยียนหมิงซุ่นกลับก้มหน้ามองเด็กสาวอย่างรักใคร่ ใบหน้าด้านข้างของทั้งคู่ดูดีจนไร้ที่ติ
หวงอวี้เหลียนผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนแค่ดูปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ธรรมดา ต้องไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาๆอย่างแน่นอน เพียงแต่เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มาจากไหนกัน?
ต้องบอกเลยว่าเด็กรุ่นใหม่ในวงการนี้เธอหวงอวี้เหลียนรู้จักแทบทุกคน เก้าในสิบคนเธอต้องรู้จัก ไม่อย่างนั้นเธอจะเลือกจ้าวเสวียหลินของตระกูลจ้าวให้ลูกสาวจากคนมากมายนับหมื่นได้อย่างไร?
แต่เด็กหนุ่มที่เดินคู่กับจ้าวเหมยเธอมั่นใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อน หรือว่าช่วงนี้เมืองหลวงมีตระกูลใหม่ย้ายเข้ามาแล้วเธอไม่รู้กันแน่?
“ซานซาน ลูกไม่รู้จักเด็กผู้ชายคนนี้เหรอ?” หวงอวี้เหลียนถามอีกทีให้แน่ใจ
โอหยางซานซานส่ายศีรษะ “ถ้าหนูรู้จักแล้วจะถามแม่ทำไม? แม่ไม่รู้จักเหรอ?”
หวงอวี้เหลียนไม่ได้ตอบคำถามของลูกสาวแต่ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้ เร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“เหมยเหมยไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนมาเหรอ? เธอซื้อของอะไรมาเนี่ยกล่องใหญ่เชียว”
หวงอวี้เหลียนพูดอย่างสนิทสนมไม่ดูเคอะเขินเลยสักนิด หน้าด้านไม่มีใครสู้จริงๆ มิน่าถึงได้ดิบได้ดีในสังคมคุณนายและปราบคุณย่าให้อยู่หมัดได้
สองปีก่อนโอหยางซานซานถูกเหมยเหมยเปิดโปงว่าทุจริต เมื่อนั้นเหมยเหมยหลงคิดว่าหวงอวี้เหลียนจะชิงทำตัวเป็นคนผิดที่วิ่งแจ้นร้องห่มร้องไห้มาฟ้องคุณย่าก่อนเสียอีก ไม่คิดว่าเธอจะประเมินหวงอวี้เหลียนต่ำไป
ต้องบอกเลยว่าหวงอวี้เหลียนแสดงละครระดับมืออาชีพจริงๆ ฝีมือไม่เป็นรองใคร เมื่อนั้นฉิวฉิวท้าเธอว่าสามวัน หลังจากนั้นเธอก็วิ่งมาที่บ้านตระกูลจ้าว ทันทีที่เข้าประตูก็ขอโทษขอโพยคุณย่าว่าเธอใจร้อนเกินไปถึงทำเรื่องโง่เขลาแบบนั้น
มิหนำซ้ำยังบอกว่าเป็นความผิดของเธอทั้งหมด ขอให้คุณย่าอย่าโทษโอหยางซานซาน กล่าวโดยสรุปผู้หญิงคนนี้รับความผิดไว้ที่ตัวเองทั้งหมดส่วนลูกสาวโอหยางซานซานผู้บริสุทธิ์แค่ต้องติดร่างแหไปกับเธอด้วย
ความจริงพวกจ้าวเสวียกงกลับบ้านก็บอกเรื่องนี่ให้คุณย่าฟัง เมื่อได้ยินคุณย่าเองก็โกรธมาก สิ่งที่เธอเกลียดมากที่สุดคือการทุจริตและรู้สึกผิดหวังต่อสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนเป็นอย่างมาก แต่พวกเหมยเหมยกลับประเมินฝีปากและทักษะการแสดงของหวงอวี้เหลียนต่ำเกินไป ทั้งร้องไห้ทั้งอ้อนวอนอ้างเหตุผลไปที่ความหวังที่อยากดันให้ลูกสาวเป็นหงส์เพียงข้อเดียว
บวกกับคุณย่าที่รู้สึกผิดต่อหวงอวี้เหลียนอยู่ก่อนแล้ว พอถูกหวงอวี้เหลียนร้องไห้วิงวอนก็ใจอ่อน ไม่ได้ตำหนิไปมากกว่านั้นแค่ให้เธออบรมสั่งสอนลูกให้ดีอย่าทำในสิ่งที่ผิด
เรื่องนี้เลยผ่านพ้นไปโดยดี ส่วนโอหยางเซี่ยงหมิงนั้นทำงานได้ผลรวดเร็วสั่งไม่ให้สื่อมวลชนรายงานข่าวเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เลยเป็นเหตุผลที่วีรกรรมนี้ของโอหยางซานซานรับรู้กันแค่ในหมู่คนใน คนนอกกลับไม่รู้เรื่องอะไร ชื่อเสียงเลยพอรักษาไว้ได้ทันท่วงที
หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น หลังจากเกิดข้อบาดหมางกับเด็กในบ้านตระกูลจ้าวต้องไม่กล้าย่างก้าวเข้ามาหรืออาจจะมาน้อยลง แต่หวงอวี้เหลียนฝีมือเหนือกว่านั้น
ผู้หญิงคนนี้ทำตัวปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงมาเป็นแขกบ้านตระกูลจ้าวเฉกเช่นทุกครั้งถึงขั้นซื้อเสื้อผ้าให้เหมยเหมยพร้อมบอกว่าเห็นเหมยเหมยเปรียบเสมือนลูกสาวแท้ๆ ทำเอาคนฟังขนลุกซู่ไปทั้งตัว
แต่เหมยเหมยก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรต้องไว้หน้าคุณย่า ดีที่คุณย่ายังพอมีขอบเขตอยู่บ้าง ไม่ได้ปฏิบัติต่อโอหยางซานซานราวกับหลานสาวแท้ๆ เหมือนอดีตอีกแล้ว
ส่วนคนตระกูลจ้าวต่างปล่อยเลยตามเลย คิดว่าสองแม่ลูกคู่นี้คงไม่ก่อเรื่องอะไรได้อีก!
เหมยเหมยเห็นว่าเป็นหวงอวี้เหลียนก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ จึงพูดด้วยเสียงเรียบว่า “คุณนายโอหยางเรียกฉันว่าเหมยเหมยเถอะ”
…………………….