ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 758 เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย + ตอนที่ 759 ฉันจะสละที่ให้
ตอนที่ 758 เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
คุณย่าขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เอ่ยปากถาม “เมื่อกี้หลานไปเจอน้าหวงมาเหรอ?”
สยงมู่มู่โวย “คุณย่า เหมยเหมยบอกแล้วว่าจะไม่เรียกผู้หญิงคนนั้นว่าน้า ทำไมย่ายังเรียกว่าน้าหวงอีกล่ะ? ความจำแย่จังเลย”
คุณย่าถลึงตาใส่อีกครั้งหนึ่งพลางพูดกล่อมอย่างใจเย็น “เหมยเหมย เราต้องมีมารยาท จะให้คนอื่นว่าคนบ้านเราไม่มีคนอบรมสั่งสอนไม่ได้ หลานเข้าใจย่าใช่มั้ย?”
เหมยเหมยเบะปากพูดอย่างไม่พอใจ “คนอื่นเรียกได้ยกเว้นแค่เธอ ยังไงหนูก็ไม่เรียกว่าน้า ผู้หญิงคนนี้น่าโมโหจะตาย”
คุณย่ามองเหมยเหมยที่ร้องไห้น้ำตานองหน้าอย่างระอา ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบใจหวงอวี้เหลียนนัก เธอนึกได้เพียงอย่างเดียวเลยถาม “เหมยเหมย คุณอาบอกอะไรหลานมาใช่มั้ย? อาชอบพูดเหลวไหล หลานอย่าไปฟัง”
เหมยเหมยอดน้อยใจแทนจ้าวอิงหนานไม่ได้ คนเป็นแม่ไปเชื่อคนนอกแต่ไม่ยอมเชื่อลูกสาวตัวเอง บางครั้งคุณย่าอาจจะสติเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ
“คุณย่า คุณอาไม่มีทางพูดเหลวไหลหรอก อีกอย่างหนูมีตามีหู ใครดีใครชั่วหนูแยกแยะได้ ยังไงหนูก็ไม่ชอบสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียน”
เหมยเหมยอธิบายแทนจ้าวอิงหนานก่อนจะย้ำอีกครั้งถึงความไม่พอใจที่เธอมีต่อสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียน อดีตเธอมักคำนึงหลายอย่าง กลัวว่าจะส่งผลต่อมุมมองที่คุณย่ามีต่อเธอ ตอนนี้เธอคิดได้แล้วว่าหากคุณย่ายืนยันที่จะเชื่อคนนอกจริงๆ ไม่ยอมเชื่อเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จนปัญญา อย่างมากในอนาคตลดจำนวนครั้งที่จะมาค้างที่นี่ก็แล้วกัน
สยงมู่มู่เองก็ยกแขนสวนกลับ “ผมก็ไม่ชอบสองแม่ลูกนั่น น่ารำคาญจะตาย”
คุณย่าอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคนที่บ้านถึงไม่ชอบสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนขนาดนี้?
ทั้งที่หวงอวี้เหลียนอ่อนโยนใจกว้าง ซานซานเองก็น่ารักเป็นเด็กดีนี่นา!
“เหมยเหมยหลานมีอะไรเข้าใจผิดกับพวกเธอหรือเปล่า ลองเล่าให้ย่าฟังหน่อย” คุณย่าหวังที่จะช่วยเกลี้ยกล่อม
เหมยเหมยไม่ค่อยพอใจต่อท่าทีก้ำกึ่งของคุณย่าเท่าไรจนอดคิดไม่ได้ว่าคุณย่าชอบโอหยางซานซานมากกว่าจริงๆ น้ำตาก็ยิ่งไหลพรากหนักกว่าเดิม
“คุณย่าชอบโอหยางซานซานมากกว่าสินะคะ? เพราะเธออยู่กับย่ามานาน หนูเพิ่งมาอยู่ได้สองปีเลยไม่มีทางเทียบกับเธอได้ ในใจย่าโอหยางซานซานคงสำคัญกว่าหนูเยอะ!”
เหมยเหมยพูดเสียงสะอึกสะอื้น ครึ่งหนึ่งมาจากใจอีกครึ่งเป็นการแสดงและความอยากลองเชิงดู ถ้าคุณย่าจะช่วยโอหยางซานซานแก้ตัวเธอจะเก็บของกลับเมืองจินทันที
เหอะ ที่เมืองจินเธอมีพ่อแม่คอยรักปกป้องอยู่ ไม่เห็นจำเป็นต้องถ่อมาโดนคนรังแกถึงที่นี่เลย!
แม้คุณย่าปวดใจเมื่อเห็นหลานสาวร้องไห้น่าสงสาร แต่ไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของเธอนักเลยดึงหน้าตึงพูดตำหนิว่า“เหมยเหมยพูดแบบนี้ย่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ ย่าดีกับซานซานมากกว่าหลานตั้งแต่เมื่อไหร่?”
สยงมู่มู่รีบกล่าว “อย่างไรเสียคุณยายก็ไม่ได้ดีกับเขาน้อยไปกว่ากันเท่าไหร่ เดี๋ยวก็ซานซานนั่นเดี๋ยวก็ซานซานนี่ อีกอย่างยายนั่นสองสามวันก็มาบ้านเราที ขยันมายิ่งกว่าเหมยเหมยด้วยซ้ำ คนไม่รู้คงคิดว่าโอหยางซานซานเป็นคนของบ้านตระกูลจ้าวเราแน่ๆ!”
เหมยเหมยส่งสายตาชื่นชมไปให้สยงมู่มู่แล้วรีบพูดต่อ “เมื่อกี้หวงอวี้เหลียนพูดความหมายเดียวกันเลย ก็อยากจะสื่อว่าลูกสาวเธอเป็นที่ชื่นชอบของคุณย่ามากกว่า คุณย่าปากบอกว่าชอบหนูมากกว่าแต่คุณย่าไม่ได้เชื่อสิ่งที่หนูพูดเลยสักนิด กลับเชื่อโอหยางซานซานมากกว่า บ่งบอกว่าความจริงแล้วคุณย่าก็ชอบโอหยางซานซานอยู่ดี”
สยงมู่มู่พูดเสริมอีก “ใช่ คุณย่ามักลืมตัวไปชอบคนเสแสร้งน่ารังเกียจอย่างโอหยางซานซานนั่นตลอด”
…………………..
ตอนที่ 759 ฉันจะสละที่ให้
คุณย่ารู้สึกอับอายที่โดนหลานสาวหลานชายที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยว่า อดไม่ได้ที่จะแปรเปลี่ยนความเขินอายเป็นความโกรธ ดึงหน้าตึงกล่าวว่า “พวกเธอสองคนจงใจมากวนโมโหฉันสินะ?”
เหมยเหมยเห็นคุณย่าโกรธเข้าจริงๆ จึงเริ่มรู้สึกผิดคิดจะถอยทัพ แต่เธอนึกถึงคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นเลยทำใจแข็งไว้
ในเมื่อพูดเปิดประเด็นแบบนี้แล้วก็ให้มันกระจ่างกว่านี้เถอะ!
“คุณย่าเองก็ทำให้หนูผิดหวังมาก หนูโดนรังแกมาจากคนนอก นอกจากย่าจะไม่เชื่อหนู ไม่ยอมช่วยหนูแต่กลับตำหนิหนู การกระทำของคุณย่าทำให้หนูยิ่งเชื่อว่าย่าชอบโอหยางซานซานมากกว่า”
เหมยเหมยกัดปลายลิ้นอีกทีให้น้ำตาพรั่งพรูลงมาราวกับก๊อกน้ำแตก สยงมู่มู่กับเจ้าอ้วนน้อยสะดุ้งตกใจ โอ้โห นี่เอาจริงสิท่า?
“เหมยเหมยหลานยิ่งโตยิ่งไม่รู้ความแล้วนะ หลานลืมสิ่งที่ย่าทำให้หลานไปหมดแล้วเหรอ?”
แม้คุณย่าจะรักหลานสาวแต่ตอนนี้เธอก็โกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว จึงคิดว่าจะตามใจหลานสาวไปมากกว่านี้ไม่ได้เลยไม่ได้พูดปลอบเหมยเหมยเหมือนอย่างเคย ได้แค่ทำหน้าบึ้งตึง
เหมยเหมยเห็นภาพนี้ก็ยิ่งหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจ เธอทุ่มแรงกายแรงใจเพื่อปรับสมดุลร่างกายให้คุณย่า ทำหน้าที่หลานสาวอย่างที่ควร แต่ผลสุดท้ายในใจของคุณย่าหลานสาวนอกสกุลกลับมีความสำคัญยิ่งกว่า!
เหมยเหมยที่คิดน้อยใจไปเองก็คร้านจะพูดอีก ปาดน้ำตาตะโกนพูดเสียงดัง “ย่าดีกับหนูก็จริง แต่ย่าดีกับโอหยางซานซานมากกว่า เธอต่างหากที่เป็นหลานสาวของย่า หนูจะสละที่ให้เธอตอนนี้เลย!”
พูดจบเธอพุ่งตัวไปชั้นสองทันทีจนสยงมู่มู่สะดุ้งตกใจ รีบกระชากเหมยเหมยไว้แล้วถาม “เธอจะไปทำอะไร?”
เหมยเหมยกลับฉุดเขาขึ้นไปด้วย “เก็บของกลับเมืองจิน เราย้ายที่ให้ยัยหมีสีน้ำตาลตัวนั้น ยังไงในใจคุณย่าเราสองคนก็เทียบไม่ได้แม้แต่หัวนิ้วก้อยของเธอ”
คุณย่าโมโหแทบตายเพราะยัยหนูคนนี้ คิดแค่ว่าความจริงใจที่มีทั้งหมดก็ให้ไปจนหมดแล้ว ไม่สิ ยังสู้หมาไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่างน้อยหมามันยังรู้จักส่ายหางเอาใจเจ้าของ แต่ยัยนี่มีแต่จะเอามีดแทงหัวใจเธอซ้ำๆ
ต้องบอกเลยว่าคุณย่าเองไม่ใช่คนอ่อนโยนหรือใจกว้างแต่อย่างใด ขี้โมโหเป็นที่หนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะเป็นหัวหน้าทีมทหารหญิงได้อย่างไร สู้จนศัตรูต้องร้องไห้หาพ่อหาแม่มาแล้ว!
เธอในตอนนี้ก็เริ่มที่จะเหลืออด ตะคอกใส่หลานสองคนที่ทำเธอเสียความรู้สึก “ไปเลย ไปให้หมด ไปแล้วฉันจะได้สบายหูสบายตา เจ้าพวกคนไร้หัวใจ”
คุณย่าที่โกรธถึงจุดเดือดสุดยืนเท้าสะเอว เสียงตะคอกก้องกังวานขึ้นด้วยแรงโทสะพัดกระโหม เสียงดังไปถึงลุงหยวนที่อยู่นอกบ้านสะดุ้งใจกระตุกวูบ เมื่อกี้เขาเพิ่งไปรับผักกับเนื้อจากฝ่ายจัดซื้อมา เพิ่งเดินถึงลานบ้านก็ได้ยินเสียงทะเลาะของผู้บังคับบัญชาอาวุโสกับหลานสาว จะเข้าบ้านไปก็ไม่ได้ จะเดินออกก็ไม่ควร จำต้องยืนค้างอยู่ลานหน้าบ้าน
เหมยเหมยตะคอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “เราจะไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่อยู่ขวางหูขวางตาย่าหรอก ย่าก็ไปเรียกยายหมีสีน้ำตาลนั่นมาอยู่แทนแล้วกัน เธอจิตใจดี เธอจะรับใช้กตัญญูต่อคุณย่าเอง!”
คุณย่าโมโหแทบกระอักเลือด หากเป็นเมื่อก่อน โกรธขนาดนี้ต้องเกิดบางอย่างกับร่างกายอ่อนแอราวกับเศษเต้าหูของเธอแน่นอน ร่างกายในตอนนี้ต่อให้อยากวิงเวียนจนอยากเป็นลมก็ทำไม่ได้หรอก!
สภาพร่างกายแข็งแรงสีหน้าฮึกเหิม ลมปราณในร่างกายไหลเวียนดีขนาดนี้!
สยงมู่มู่เริ่มกังวล พูดเสียงเบา “ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวโรคของคุณย่าก็กำเริบหรอก”
เหมยเหมยใช้หางตาเหลือบมองคุณย่าที่แข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ยู่ปากอย่างไม่สบอารมณ์ สยงมู่มู่ชำเลืองมองไปชั้นล่างแวบหนึ่งเห็นว่าคุณย่าของเขาไม่ได้เป็นอะไร ดูท่าจะแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยสบายใจขึ้น แต่ไม่ลืมจะประชดอีกประโยค
“คุณย่า หลังจากนี้ไปย่าก็อยู่กับยัยหมีสีน้ำตาลนั่นไปนะครับ ผมกับเหมยเหมยจะไม่มาสร้างความรำคาญใจให้คุณย่าอีก ซาโยนาระครับ!”
…………………..