ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 802 ยอมรับมาแต่โดยดี + ตอนที่ 803 ปากแข็ง
ตอนที่ 802 ยอมรับมาแต่โดยดี
ตกดึกเหมยเหมยหลับไม่สนิทเพราะฝันร้ายทั้งคืน ในฝันมีแต่ใบหน้าที่น่าสะอิดสะเอียนของผู้ชายคนนั้น รวมถึงมือที่เปรียบดังงูคู่นั้นของเขาที่เลื้อยไปมาบนตัวเธอ…
พระอาทิตย์ยังไม่ทันโผล่พ้นขอบฟ้าเธอก็ตื่นขึ้นแล้วก็หลับต่อไม่ลงอีก จึงไปยังสวนหลังบ้านทั้งที่ยังใส่ชุดนอนอยู่ อยากที่จะสูดอากาศสดชื่นเข้าปอดเสียหน่อยเพื่อให้ตัวเองมีสติมากกว่านี้ แต่เธอกลับพบว่าในสวนหลังบ้านมีคนอยู่ก่อนแล้ว
เฝิงไห่ถังในชุดแดงทั้งตัวกำลังนั่งสูบบุหรี่บนชิงช้า ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ เสื้อผ้าหน้าผมเต็มไปด้วยหยาดน้ำค้าง ดูท่าเธอจะนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ทั้งคืน
เหมยเหมยรีบเข้าไปทักทาย เฝิงไห่ถังขยับตัวเว้นที่ให้เธอมานั่งบนชิงช้าก่อนจะดับบุหรี่แล้วยิ้มให้เธอ “ทำไมเหมยเหมยตื่นเช้าขนาดนี้?”
“นอนไม่หลับเลยมาเดินเล่นค่ะ น้าเฝิงทำไมไม่นอนละคะ?” เหมยเหมยถาม
“ฉันก็นอนไม่หลับ”
เฝิงไห่ถังยักไหล่พลางหยิบขวดไวน์แดงกับแก้วไวน์ข้างกายขึ้นเทครึ่งแก้วแล้วจิบช้าๆ เหมยเหมยมุ่นคิ้ว ความเคยชินการใช้ชีวิตของคุณหนูใหญ่เฝิงแย่จริงๆ ทั้งโต้รุ่ง สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า…
ถึงแม้ว่าจะทำร้ายตัวเองขนาดนี้แต่กลับยังดูสาวและสวยได้ พระเจ้าช่างใจดีกับเธอเสียจริง!
“น้าเฝิง ดื่มเหล้าตอนท้องว่างไม่ดีต่อกระเพาะนะคะ เดี๋ยวหนูไปเอาของกินมาให้นะ!” เหมยเหมยลุกขึ้นเตรียมไปห้องครัวแต่ถูกเฝิงไห่ถังรั้งตัวไว้
“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว เหมยเหมยนั่งลงก่อน ฉันมีเรื่องจะถามเธอ”
เหมยเหมยหดคอลงอย่างใจแป่ว เธอรู้อยู่แล้วว่าเรื่องเมื่อคืนต้องปิดเฝิงไห่ถังไม่ได้แน่นอน ตอนนี้ถึงได้มาถามหาความจริงอยู่นี่ไง เฝิงไห่ถังเห็นท่าทางของเหมยเหมยใจก็ยิ่งหนักอึ้ง แต่เธอถามต่ออย่างไม่ลังเลว่า “เมื่อคืนเธอกับเซ่อเซ่อไปที่สโมสรมาใช่ไหม ?”
เหมยเหมยพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์และพูดเสียงเบา “น้าเฝิง หนูให้เซ่อเซ่อพาหนูไปเองไม่เกี่ยวกับเซ่อเซ่อเลย อย่าโทษเธอเลยนะคะ!”
เฝิงไห่ถังถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอในตอนนี้กลับไม่ดูลนลานเท่าก่อนหน้านี้แล้ว ในเมื่อเรื่องก็เกิดขึ้นแล้วต่อให้กระวนกระวายแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ อีกอย่างเธอไม่ใช่คนใจดี หากเฮ่อเหลียนเช่อจะทำอะไรเซ่อเซ่อจริงๆ ก็อย่าโทษเธอแล้วกัน อย่างมากก็แค่สู้กันให้ตายกันไปข้าง!
“พวกเธอเข้าไปได้อย่างไร?”
เฝิงไห่ถังรู้สึกแปลกใจ ยามหน้าประตูสโมสรยังไม่เห็นเซ่อเซ่อกับเหมยเหมยเข้าไปเลย แล้วยัยหนูสองคนนี้แฝงตัวเข้าไปได้อย่างไร?
เธอยังเชื่อในความสามารถของพี่เฉิง อาจจะไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แต่ก็เข้มงวดไม่น้อย คิดจะหาทางแฝงตัวเข้าไปไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ภายใต้สายตาแหลมคมของคุณหนูใหญ่เฝิง เหมยเหมยไม่กล้าจะปิดบังแม้แต่น้อยเลยสารภาพเรื่องทางเข้าลับๆ ของเซียวเซ่อไปจนหมดเปลือก เฝิงไห่ถังทั้งโกรธทั้งขำ ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าต้องไปอุดช่องขนาดเท่าลูกหมานั่นทันทีที่กลับไป
มิน่าพวกยามถึงไม่สังเกตเห็น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซ่อเซ่อเคยเข้าไปกี่ครั้งแล้ว!
“เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหมยเหมยบอกความจริงกับน้ามา” เฝิงไห่ถังถามอีก
เหมยเหมยไม่กล้าปิดบังเลยเล่าเรื่องที่พวกเธอเจอเฮ่อเหลียนเช่อไปทั้งหมด แต่ก็มีบางจุดที่ยากจะเอ่ยปากออกมาได้เลยไม่ได้เล่าละเอียดมากนัก แต่เฝิงไห่ถังเป็นใครกัน แค่ฟังหน่อยเดียวก็รู้ทุกอย่างแล้ว ซึ่งไม่ต่างจากที่เธอคาดไว้เท่าไรจึงอดกลั้นอารมณ์โกรธไว้ไม่ได้
สารเลวเฮ่อเหลียนเช่อชักจะเหิมเกริมไปแล้ว กล้าหยามกันในที่ของเธอ แถมอีกฝ่ายเป็นถึงลูกสาวและคนที่เสมือนหลานสาวของเธอ จะเกินไปแล้วจริงๆ!
คิดว่าในเมืองหลวงแห่งนี้เขาใหญ่ที่สุด? หลงตัวเองเกินไปแล้ว!
เฝิงไห่ถังถามที่มาที่ไปของเหตุการณ์ทั้งหมด แม้ยังกังวลอยู่บ้างแต่ก็เบาใจลงไม่น้อย แต่เธอเองก็ยังแปลกใจเช่นกันว่าใครกันแน่ที่ทำเอาเฮ่อเหลียนเช่อปางตายขนาดนั้น?
เมื่อคืนเกือบจะทำให้เธอหลุดขำอยู่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเฮ่อเหลียนเช่อในสภาพโทรมขนาดนั้น!
…………………….
ตอนที่ 803 ปากแข็ง
เฝิงไห่ถังถามเหมยเหมยว่าเกิดอะไรขึ้น เหมยเหมยครุ่นคิดสักพักจึงตัดสินใจว่าจะไม่บอกความจริงทั้งหมด เธอยื่นฉาฉาตรงข้อมือออกไป “ฉาฉาของหนูเป็นคนกัด น้าเฝิง ผู้ชายคนนั้นไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก เหมยเหมย เรื่องเมื่อคืนเธอต้องเล่าให้คุณปู่เธอฟังอย่างละเอียดเลยนะ ห้ามคิดปิดบังแม้แต่น้อย จำที่น้าพูดไว้นะ?” เฝิงไห่ถังย้ำเตือน
เหมยเหมยพยักหน้ารับ ถึงเฝิงไห่ถังไม่กำชับกับเธอ เดิมทีเธอก็คิดจะบอกเรื่องนี้ให้คุณปู่รู้อยู่แล้ว ในเมื่อเฮ่อเหลียนเช่อนั่นน่ากลัวมากจริงๆ หากเป็นคู่อริทางการเมืองของคุณปู่ก็ควรให้คุณปู่ได้ระวังตัวไว้ก่อน
เฝิงไห่ถังพึงพอใจกับเหมยเหมยที่เชื่อฟังเธอเป็นอย่างมาก และก็รู้สึกเสียใจขึ้นมานิดหน่อย หากเซียวเซ่อเป็นเด็กดีเหมือนเหมยเหมยเธอคงสบายใจมากกว่านี้
แต่พอเธอหวนคิดกลับไป สมัยวัยรุ่นเธอเองก็ไม่ใช่เด็กดีเท่าไร มีสิทธิ์อะไรร้องขอให้ลูกสาวเป็นเด็กดียอมเชื่อฟัง?
เป็นอย่างตอนนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยขอแค่เซ่อเซ่อมีความสุขก็พอ เฝิงไห่ถังไม่รอจนลูกสาวตื่นเธอยกแก้วไวน์ในมือดื่มรวดเดียว อีกทั้งยังให้เหมยเหมยช่วยเกลี้ยกล่อมเซียวเซ่อว่านับจากนี้ไปอย่าไปเที่ยวที่คลับอีก
เธอไม่ได้พูดอะไรอีกเดินจากไปด้วยรองเท้าส้นสูง แผ่นหลังนั้นดูคล้ายเซียวเซ่อเล็กน้อย และไม่ได้ดูร่าเริงเหมือนปกติ
ไม่นานเซียวเซ่อก็ตื่นเพื่อเตรียมมาออกกำลังกายตอนเจ็ดโมงตรง ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันเหมือนเหยียนหมิงซุ่น เรื่องอื่นๆ ยัยคนนี้ค่อนข้างจะปล่อยตัว มีเพียงการออกกำลังกายยามเช้าสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอทำมาตลอดแทบจะสิบปีแล้ว
แต่วิธีออกกำลังกายของเซียวเซ่อแตกต่างไปจากเหยียนหมิงซุ่น วิธีของเธอนั้นค่อนข้างดูดีกว่าเพราะเธอมีห้องออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้านในมีเครื่องออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบดูครบครันกว่ายิมออกกำลังกายด้วยซ้ำ เป็นห้องที่คุณหนูใหญ่เฝิงทำไว้ให้เซียวเซ่อเป็นพิเศษ
เหมยเหมยหาเซียวเซ่อที่ตัวชุ่มเหงื่อเจอในห้องออกกำลังกาย เธอบอกเรื่องที่คุณหนูใหญ่เฝิงมาหา เซียวเซ่อกลับตอบรับเสียงเรียบเป็นเชิงว่าเธอรู้แล้ว
“เซ่อเซ่อ น้าเฝิงให้ฉันบอกกับเธอว่า หลังจากนี้อย่าไปที่คลับอีก” เหมยเหมยพูดกล่อมน้ำเสียงใจเย็น
เซียวเซ่อแค่นเสียงใส่ “มีสิทธิ์อะไรไม่ให้ฉันไป? เธอกับฉันต่างก็มีขา ฉันอยากไปเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้นแหละ!”
เหมยเหมยคาดไว้ล่วงหน้าแล้วว่ายัยคนนี้จะต้องพูดแบบนี้เลยจงใจพูดกระตุ้นให้เธอโกรธ “ถึงเธอไปก็เข้าไม่ได้ น้าเฝิงบอกว่าเดี๋ยวจะปิดช่องนั่นแล้ว”
เซียวเซ่อโกรธจนตาเบิกกว้าง นึกเสียใจที่เพื่อนอ่อนแอแบบนี้ “เธอบอกเส้นทางลับของฉันให้เขาทำไม? สมองเธอเป็นอะไรไปแล้ว?”
“น้าเฝิงถามฉันเอง จะให้ฉันโกหกก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ?” เหมยเหมยเถียงคอเป็นเอ็นและทำท่าทางเหมือนว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
เซียวเซ่อไม่อยากสนใจเธอด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีรูนั่นเธอก็ไม่มีทางเข้าไปได้จริงๆ เมื่อเหมยเหมยเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเซียวเซ่อก็พูดกล่อม “น้าเฝิงเขาหวังดีกับเธอ ผู้ชายคนเมื่อวานไม่ใช่คนธรรมดา น้าเฝิงบอกว่าเขาเป็นแขกประจำของคลับชื่อเฮ่อเหลียนเช่อ มีอิทธิพล น้าเฝิงไม่ให้เธอไปคลับเพราะกลัวจะเจอเฮ่อเหลียนเช่อเข้าอีก”
เซียวเซ่อรู้ถึงความหวังดีของเฝิงไห่ถังดี เธอก็แค่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ไปเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเฝิงไห่ถังหรือเซียวจิ่งหมิง เธอก็จะคัดค้านต่อต้านพวกเขา จะให้เธอไปทิศตะวันออกเธอจะไปทิศตะวันตก ไม่ให้เธอทำสิ่งนี้ เธอก็จะทำมัน!
เด็กวัยต่อต้านล้วนมีพฤติกรรมเช่นนี้ ดีที่เซียวเซ่อไม่ใช่เด็กดื้อรั้นขนาดนั้น ถึงปากจะพูดค้านเฝิงไห่ถัง แต่ใจกลับมีขอบเขตรู้ว่าอะไรควรไม่ควร
“เรื่องนี้ไม่เห็นต้องพูด คิดว่าฉันโง่หรือไง?” เซียวเซ่อกลอกตาใส่เหมยเหมยแวบหนึ่งและหันหลังอย่างไม่สบอารมณ์ให้เธอ
เหมยเหมยเบะปากใส่เธออย่างโมโหไปที ปากแข็ง นิสัยเหมือนสยงมู่มู่ไม่มีผิด!
…………………..