ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 806 ไม่เชิงศัตรูและไม่ใช่มิตร + ตอนที่ 807 การตัดสินใจของเหยียนหมิงซุ่น
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 806 ไม่เชิงศัตรูและไม่ใช่มิตร + ตอนที่ 807 การตัดสินใจของเหยียนหมิงซุ่น
ตอนที่ 806 ไม่เชิงศัตรูและไม่ใช่มิตร
เหมยเหมยไม่ได้ตอบคำถามเขาไปตรงๆ แต่กลับถามไปว่า “เฮ่อเหลียนเช่อไม่เชิงว่าเป็นศัตรูแต่ก็ไม่ใช่มิตรของบ้านเราใช่มั้ยคะ ?”
คุณปู่จ้าวขมวดคิ้วแน่นไม่คิดจะปิดบังหลานสาว “ใช่ ไม่ค่อยญาติดีกันเท่าไหร่ เจ้าเฮ่อเหลียนเช่อไม่ใช่คนดีอะไร วันหลังถ้าเหมยเหมยเจอเขาอีกก็หลีกไปให้ไกลเลยนะ ”
เขาไม่ได้เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาว แม้เจ้าเฮ่อเหลียนเช่อชอบต่อกรกับเขาทุกทีแต่คงไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับหลานสาวของเขากลางวันแสกๆ หรอก เขาคงไม่มีความกล้าขนาดนั้น
แต่คุณปู่จ้าวกลับคิดไม่ถึงว่าหลานสาวของเขาไปเจอไอ้โรคจิตนี่มาแล้วเมื่อคืน แถมยังเป็นสโมสรอันดับหนึ่งของเมืองอีกต่างหาก
เหมยเหมยลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟังทั้งหมด คุณปู่จ้าวเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก ถามไม่หยุดว่า “ไอ้สารเลวนั่นไม่ได้ทำอะไรหลานใช่มั้ย ?”
เหมยเหมยเองก็ไม่ได้ปิดบัง เธอต้องให้คุณปู่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ส่ายศีรษะพูดตอบไปว่า “ยังไม่ทันทำอะไร พี่หมิงซุ่นเข้ามาช่วยหนูกับเซ่อเซ่อไว้ก่อน”
คุณปู่ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดซ้ำ ๆ ว่า “ไม่เป็นไรก็พอ ไม่เป็นไรก็พอ!”
เจ้าเฮ่อเหลียนเช่อขึ้นชื่อว่าเป็นโรคจิตที่โด่งดังไปทั้งวงการนี้ ไม่ว่าจะผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่หรือเด็กน้อยมันก็สามารถฆ่าได้ไม่เลือกแถมยังฆ่าได้โดยไม่กะพริบตา แม้แต่นายใหญ่ยังทำอะไรเขาไม่ได้ ใครใช้ให้หมอนั่นเป็นหลานของคนคนนั้นกันล่ะ!
ความจริงแล้วตำแหน่งของนายใหญ่ก็ไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น มีคนมากมายที่คอยจับจ้องเขาอยู่และหนึ่งในนั้นที่ทำให้นายใหญ่หวาดระแวงมากที่สุดก็คือลุงของเฮ่อเหลียนเช่อ หนิงเฉินเซวียน ที่มีฉายาสุนัขจิ้งจอกหนิง
บุคคลนี้ทั้งเจ้าเล่ห์และเจ้าแผนการ เหตุด้วยเมื่อก่อนเคยรับผิดชอบงานฝ่ายเก็บข้อมูลเลยมีจุดอ่อนของคนนับไม่ถ้วนไว้ในกำมือ คุณปู่จ้าวสงสัยว่าแม้แต่นายใหญ่ก็ยังมีจุดอ่อนที่ตกอยู่ในกำมือของหนิงเฉินเซวียน ไม่อย่างนั้นนายใหญ่จะระแวงเจ้าสุนัขจิ้งจอกหนิงนี่ได้อย่างไร?
แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อจะกระทำการผิดกฎตามอำเภอใจขนาดไหน นายใหญ่ยังทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งเลย!
เฮ่อเหลียนเช่ออาศัยว่ามีคุณลุงเลยกล้าที่จะทำตามอำเภอใจไปกับทุกเรื่องในเมืองหลวง อีกทั้งเฮ่อเหลียนเช่อมีวิชาต่อสู้ขั้นสูง จนเป็นถึงหนึ่งในนักสู้ที่แข็งแกร่งของสุนัขจิ้งจอกหนิง สุนัขจิ้งจอกหนิงทั้งรักและตามใจหลานชายคนนี้เป็นอย่างมากเปรียบเสมือนลูกชายแท้ๆ
เพราะหนิงเฉินเซวียนไม่ได้แต่งงานเลยไม่มีลูกชายหรือลูกสาว ไม่มีแม้แต่ญาติพี่น้องจึงเหลือเพียงเฮ่อเหลียนเช่อที่เป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียว เขาอยู่เคียงข้างหนิงเฉินเซวียนมาตั้งแต่เด็กเลยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เอาเข้าจริงแล้วเฮ่อเหลียนเช่ออาจจะเป็นลูกชายนอกสมรสของหนิงเฉินเซวียน เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่!
คุณปู่จ้าวโกรธมากที่เฮ่อเหลียนเช่อกล้าคิดที่จะทำอะไรหลานสาวของเขา อีกทั้งยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหลานสาวได้บอกชื่อจริงเขาไปแล้วด้วย ไอ้สารเลวนี่ชักจะเหิมเกริมไปแล้ว!
คนอื่นอาจจะกลัวเจ้าสุนัขจิ้งจอกหนิงแต่เขาไม่กลัว ตลอดชีวิตของเขาจ้าวหวายซานไม่เคยทำความผิดอันใด เจ้าสุนัขจิ้งจอกหนิงอย่าคิดจะหาจุดอ่อนจากคนอย่างเขาเลย!
“เหมยเหมยไม่ต้องกลัว มีปู่อยู่ไม่มีใครกล้าทำอะไรหลาน!” คุณปู่จ้าวบอกให้หลานสาววางใจ
เขาเองก็คิดถึงประเด็นสำคัญที่ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เฮ่อเหลียนเช่อกล้าขนาดนั้น ก็เพราะเมื่อคืนหลานสาวกับยัยหนูตระกูลเซียวไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่ถูกต้อง ท่านผู้เฒ่ามุ่นคิ้วแน่น แล้วเหมยเหมยไปอยู่ในที่สกปรกแบบนั้นได้อย่างไร?
สโมสรอันดับหนึ่งที่ว่าในสายตาของคุณปู่ก็คือรังหนู เป็นสถานที่สกปรกที่สุดของเมืองหลวง ผู้หญิงที่ดีไม่มีทางไปที่แบบนั้นได้!
“หลานไปที่สโมสรนั่นทำไม?”
ภายใต้สายตาอันดุดันของคุณปู่จ้าว เหมยเหมยยอมรับตามสัตย์จริง “หนูแค่อยากดูว่าที่นั่นเป็นสถานที่แบบไหนเลยให้เซ่อเซ่อพาหนูไปเที่ยว คุณปู่คะ หนูจะไม่ไปอีกแล้ว”
“เมื่อคืนหลานไม่กลับมานอนที่บ้านก็เพื่อไปเที่ยวที่นั่น?”
คุณปู่จ้าวตีหน้าขรึม เหมยเหมยเลยยิ่งกลัวจนหัวหดเข้าไปใหญ่พลางพยักหน้าเล็กน้อย ไม่กล้าปฏิเสธ ทำเอาคุณปู่จ้าวโกรธแทบตาย
…………………….
ตอนที่ 807 การตัดสินใจของเหยียนหมิงซุ่น
คุณปู่จ้าวตะคอกด้วยความโกรธ “เด็กผู้หญิงอย่างหลานไปที่แบบนั้นได้อย่าไรกัน ไปเอาความกล้านี้มาจากไหน? คราวหน้าห้ามไปค้างคืนข้างนอกอีก!”
เหมยเหมยรู้ดีว่าเป็นฝ่ายผิดเลยไม่กล้าปริปากเลยสักนิด ปล่อยให้โดนคุณปู่จ้าวตำหนิจนหน้ามุ่ยน้ำตาคลอเบ้า
คุณปู่จ้าวด่าไปไม่กี่ประโยคพอเห็นสภาพน่าสงสารของหลานสาวก็ใจอ่อนยวบ ไม่ด่าเธอต่อ อีกอย่างเขารู้ว่าเมื่อคืนหลานสาวคงขวัญเสียไปไม่น้อยเลยทำใจด่าไม่ลง
“แล้วพี่หมิงไปอยู่ที่แบบนั้นได้ยังไง?”
คุณปู่จ้าวไล่คิดบัญชีทีละคน เด็กหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่งไปสถานที่แบบนั้นจะทำเรื่องดีๆ อะไรได้อีก? คุณปู่จ้าวรู้สึกผิดหวังต่อเหยียนหมิงซุ่นมาก ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นช่วยหลานสาวของเขาได้แต่นั่นมันคนละเรื่อง ผู้ชายที่ชอบไปเที่ยวสถานบันเทิง จะฝากฝังชีวิตไว้กับคนแบบนั้นไม่ได้
“พี่หมิงซุ่นไปตามหาคน เขาไม่ใช่คนแบบนั้น คุณปู่สบายใจได้!”
เหมยเหมยรู้ถึงความกังวลของคุณปู่จ้าวเลยอธิบายแทนเหยียนหมิงซุ่น คุณปู่จ้าวแค่นเสียงดูท่าทางไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเหมยเหมยเท่าไร ผู้ชายคิดจะหลอกผู้หญิงก็ปากหวานพูดจาหลอกล่อได้เสมอ เขาไม่ได้หลอกง่ายเหมือนหลานสาว ยังดีที่ตอนนี้เหมยเหมยยังเด็ก เหยียนหมิงซุ่นจะดีหรือเลวไว้ค่อยๆ สังเกตเอาในอนาคตก็แล้วกัน!
หลังมื้ออาหารกลางวันคุณปู่จ้าวก็ออกไปข้างนอก ดูท่าทางไม่ใช่ไปเที่ยวเตร็ดเตร่เพราะเขาแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวรองเท้าผ้าใบ กระดุมจดครบทุกเม็ดไม่ได้ใส่แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงสามส่วนตัวใหญ่ที่คล่องตัวเหมือนเมื่อเช้า
เหมยเหมยเดาว่าเขาน่าจะไปหานายใหญ่ ทุกครั้งที่ไปพบนายใหญ่คุณปู่จ้าวจะแต่งตัวเรียบร้อยเพื่อแสดงถึงความเคารพที่มีต่อนายใหญ่
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ขณะนี้ในเขตชุมชนต่างก็เล่าลือเรื่องเหมยเหมยแพร่กระจายไปทั่ว ประเด็นสำคัญพูดว่าเหมยเหมยเติบโตมาในเมืองเล็กๆ เพราะพ่อแม่ที่เลี้ยงดูต่างเป็นชาวบ้านธรรมดาและหยาบโลน ดังนั้นเหมยเหมยเลยไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีตั้งแต่เด็ก
อีกอย่างชีวิตส่วนตัวก็ยุ่งเหยิง แถมยังมีแฟนหนุ่มตั้งแต่อายุยังน้อยและไม่ได้มีแค่คนเดียว ทั้งยังมีคำพูดที่เกินจริงใส่ร้ายป้ายสีอีกมากมาย น้ำโคลนเต็มถัง ที่ถูกสาดเข้ามา ไม่นานก็กระจายไปทั่วอาณาบริเวณ
ทุกคนกระจายข่าวลือนี้อย่างไปไม่ใส่ใจ มีบางส่วนที่มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง แต่บางส่วนแค่ต้องการรอดูเรื่องสนุกๆ เพราะอยากเห็นคนอื่นซวย!
อีกทั้งข่าวลือพวกนี้ยังถูกแพร่ออกไปนอกเขตชุมชนจนถึงแวดวงสังคมอย่างรวดเร็ว ยิ่งแพร่ไปไกลก็ยิ่งบิดเบือนบอกว่าเจ้าหญิงน้อยตระกูลจ้าวแม้อายุไม่มากแต่ประสบการณ์ความรักนั้นโชกโชน เคยมีแฟนหนุ่มอย่างน้อยหนึ่งโหล ตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่หรือเปล่า!
เหมยเหมยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ไม่รับรู้เรื่องข่าวลือพวกนี้แม้แต่น้อยรวมไปถึงคนในตระกูลจ้าวเช่นกัน เพราะไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าพวกเขา และไม่มีใครคิดจะหาเรื่องเอาข่าวลือพวกนี้กรอกหูพวกเขา
เหยียนหมิงซุ่นกลับจากบ้านตระกูลเซียวไปยังที่พักและไม่ได้ไปไหนอีก ขังตัวเองไว้ในห้องเพื่อขบคิด การปรากฏตัวของเฮ่อเหลียนเช่อทำให้เขาแทบรอไม่ไหว เขาจะต้องไต่เต้าให้สูงภายในเวลาอันสั้น เขาทนรอไม่ไหวแล้ว!
เวลาบ่ายสามเหยียนหมิงซุ่นไปที่ร้านน้ำชาหวังปาตามเวลา ร้านน้ำชาขนาดไม่ใหญ่เป็นแค่ตึกสองชั้นขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง คนในร้านน้ำชาพาเขาไปยังชั้นสองโดยมีพี่เฉิงรอเขาอยู่ตรงนั้น
“นั่งสิ!”
พี่เฉิงพูดเสียงเรียบและเทน้ำชาให้เขาหนึ่งแก้วด้วยท่วงท่าลื่นไหลและงามสง่า แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นนักรินน้ำชา
“ลุงเฉิงอยากถามเกี่ยวกับเรื่องของลุงหมิงไม่ใช่เหรอ? เขาสบายดี”
เหยียนหมิงซุ่นดื่มน้ำชาไปแล้วสามแก้วแต่พี่เฉิงกลับไม่เอ่ยปากถามเขาสักเรื่อง เขาจำเป็นต้องเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ฉันรู้ว่าเขาสบายดี และรู้ว่านายอยากไปเป็นทหาร แต่ฉันไม่รู้ว่าเป้าหมายของนายคืออะไร?” พี่เฉิงหุบยิ้มแล้วสบตาจ้องเหยียนหมิงซุ่นตรงๆ
……………………….