ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 818 ป้องกัน + ตอนที่ 819 ลูกเวร
ตอนที่ 818 ป้องกัน
แม้เหมยเหมยจะคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นขี้ระแวงจนเกินไป แต่เธอก็รับปากเหยียนหมิงซุ่นเป็นเชิงว่าเธอจะจดจำให้ขึ้นใจ วันนี้เหยียนหมิงซุ่นมาฉลองวันเกิดให้เธอโดยเฉพาะ ช่วงเวลาที่ดีงามเช่นนี้เธอไม่อยากให้เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจ ก็ทำตามใจเขาก็แล้วกัน!
กลับถึงบ้านเหมยเหมยก็โดนหานซู่ฉินดึงตัวไปพูดคุยด้วยความกระตือรือร้น บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นจนเหมยเหมยเองยังรู้สึกว่าโรคขี้สงสัยของเหยียนหมิงซุ่นกำลังจะกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว
ไว้วันหลังเธอต้องอธิบายให้เหยียนหมิงซุ่นเข้าใจดีๆ ว่าคนในครอบครัวดีกับเธอมากจริงๆ เธอไม่อยากคิดถึงพวกเขาในแง่ร้ายจนเกินไป!
วันรุ่งขึ้นเหยียนหมิงซุ่นก็ไปพบกับพี่เฉิงทันทีก่อนล่วงหน้าวันนัดกับพี่เฉิงอีกตั้งหนึ่งวัน
พอได้คำตอบยืนยันจากเหมยเหมยมันก็สร้างความกดดันให้เหยียนหมิงซุ่น เขาจะต้องรีบแข็งแกร่ง เขากำลังวิ่งแข่งกับเวลา!
ในเมื่อพระเจ้าสร้างทางลัดให้เขา แล้วทำไมเขาถึงต้องทอดทิ้งมัน?
ส่วนจุดประสงค์ของพี่เฉิงกับลุงหมิง เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจ เขาไร้อำนาจไร้บารมี เงินทองก็ไม่ได้เยอะไปกว่าพวกเขา อย่างมากที่สุดก็คงให้เขาช่วยทำบางอย่างให้พวกเขาล่ะมั้ง!
เรื่องพวกนี้ไว้ค่อยคุยทีหลัง บางทีในอนาคตอาจจะพอมีแสงสว่าง!
เดิมทีชีวิตเราก็คือการพนันอย่างหนึ่ง อยู่ที่ว่าเธอจะกล้าพนันหรือเปล่า ถ้าชนะก็มีอนาคตที่สดใสราวกับท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาอย่างมากก็แค่ตาย!
แต่เขาเชื่อมั่นว่าเขาต้องไม่แพ้!
พี่เฉิงไม่ได้แปลกใจกับคำขอพบก่อนเวลานัดล่วงหน้าจากเขา เหมือนจะมั่นใจว่าเขาคงต้องตอบตกลงเลยนัดไว้ที่ห้องส่วนตัวที่ร้านน้ำชาหวังปาดังเดิม
“คิดดีแล้วเหรอ?” พี่เฉิงรินน้ำชาช้าๆ ดูไม่รีบร้อนแต่อย่างใด
“คิดดีแล้วครับ ผมอยากแข็งแกร่งกว่านี้ หวังว่าลุงเฉินจะช่วยผมได้” เหยียนหมิงซุ่นแววตาแน่วแน่ไร้ความลังเลแต่อย่างใด
พี่เฉิงยิ้มอย่างพึงพอใจ “คิดดีแล้วก็ดี ตอนนี้เราขึ้นเรือลำเดียวกันแล้ว เธอดีฉันก็ดี เธอแย่ฉันก็แย่เช่นกัน”
เหยียนหมิงซุ่นรีบแสดงความจงรักภักดีทันที “ลุงเฉินวางใจได้ ผมไม่ใช่คนที่จะลืมบุญคุณ”
“คำพวกนี้ไม่ต้องพูดมากหรอก ไม่มีความหมาย ดื่มชาสิ ฉันจะพาเธอไปพบคนคนหนึ่ง คนที่อนาคตเธอต้องเรียกว่าพ่อบุญธรรม”
พี่เฉิงยื่นน้ำชาที่รินเสร็จให้เหยียนหมิงซุ่นก่อนจะอมยิ้มมองหน้าเขา
เหยียนหมิงซุ่นยกแก้วน้ำชาดื่มทีเดียวแล้วโชว์ก้นแก้วให้พี่เฉิงดู พี่เฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย“วางใจได้ ตอนนี้เราเป็นพวกเดียวกันแล้ว ไม่วางยาพิษหรอก”
เหยียนหมิงซุ่นเองก็หัวเราะ “ลุงเฉินล้อผมเล่นแล้ว”
เห็นเหยียนหมิงซุ่นเปิดปากพูดออกมา รอยยิ้มของพี่เฉิงก็กว้างกว่าเดิม ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู “ไปเถอะ เวลานี้กำลังดี คนคนนั้นน่าจะเพิ่งตื่นจากนอนกลางวัน”
เหยียนหมิงซุ่นรีบเดินตามหลัง แล้วสำรอกน้ำที่แอบอมไว้ในลำคอลงบนผ้าเช็ดหน้าก่อนรีบเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้ในกระเป๋า
แม้แต่ลุงหมิงเขายังไม่กล้าเชื่ออย่างเต็มอก ยิ่งกับพี่เฉิงที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแล้วด้วย นับว่าโชคดีที่เขาเรียนศิลปะป้องกันตัวมาแต่เด็ก จึงสามารถเก็บน้ำไว้ในลำคอได้นานหนึ่งนาที ไม่ว่าในน้ำจะมีพิษหรือไม่ ระวังตัวไว้ก่อนคงไม่ผิดอะไร
เหยียนหมิงซุ่นรีบตามไปเดินข้างๆ พี่เฉิงเพื่อจะได้เดินขนาบคู่กันไป ตอนนั้นพี่เฉิงแอบสังเกตกระเป๋าของเหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่งก่อนเผยรอยยิ้มมีเลศนัยที่ยากจะคาดเดาความคิดได้ออกมา
“ลุงเฉิน คนคนนั้นชื่ออะไรเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นอดถามไม่ได้
“เฮ่อเหลียนชิง” พี่เฉิงตอบเสียงเรียบ
เหยียนหมิงซุ่นตะลึง “ลุงเฉิน เขาเกี่ยวข้องกับเฮ่อเหลียนเช่อใช่ไหม?”
“เกี่ยวอยู่แล้ว เฮ่อเหลียนชิงคือพ่อของเฮ่อเหลียนเช่อ” คำพูดของพี่เฉิงทำเอาคนฟังตกตะลึงจนแทบจะหยุดหายใจในทันที เหยียนหมิงซุ่นยากจะปกปิดความตกใจไว้ได้ แล้วมองเขาด้วยความสงสัย
“ลุงเฉิน เฮ่อเหลียนชิงมีลูกชายแล้วแท้ๆ ทำไมถึงหาลูกบุญธรรมอีกล่ะ? อีกอย่างผมไม่มีวันร่วมงานกับเฮ่อเหลียนเช่อเด็ดขาด” เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
……………………..
ตอนที่ 819 ลูกเวร
“นายจะร้อนใจอะไร? ฟังฉันพูดให้จบก่อน อย่าเป็นกระต่ายตื่นตูม” พี่เฉิงสีหน้าราบเรียบและไม่ค่อยพอใจนักกับท่าทีตกใจของเหยียนหมิงซุ่น ยังต้องฝึกควบคุมอารมณ์อีกมาก!
เหยียนหมิงซุ่นรีบปิดปากเงียบรอฟัง อยู่ๆ พี่เฉิงก็แค่นเสียง พร้อมกับสีหน้าเย้ยหยันที่ไม่รู้เจาะจงที่ใคร ระหว่างเฮ่อเหลียนเช่อหรือเฮ่อเหลียนชิง?
“เฮ่อเหลียนเช่อไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของเฮ่อเหลียนชิง อีกอย่างสองพ่อลูกคู่นี้ไม่ถูกกันเหมือนน้ำกับไฟ” พี่เฉิงกล่าว
เหยียนหมิงซุ่นแอบตกใจ สังคมนี้ซับซ้อนน่าดู ลูกชายหาทางเล่นงานพ่อของตัวเอง แถมคนรักก็ไปมีชู้จนมีลูกชายมาเป็นตัวเป็นตน ช่างวุ่นวายเสียเหลือเกิน
เหยียนหมิงซุ่นนึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่าความจริงเฮ่อเหลียนเช่อเป็นลูกชายแท้ๆ ของลุงตัวเองก็อดตกใจไม่ได้
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เฮ่อเหลียนเช่อก็คือเด็กเวรที่ฟ้าดินก็ยังเอาไม่อยู่ มิน่าถึงได้โรคจิตขนาดนั้น ไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์คนปกติไปตัดสินได้
“นายกำลังนึกถึงความสัมพันธ์ของเฮ่อเหลียนเช่อกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกหนิงใช่มั้ย?” คล้ายว่าพี่เฉิงจะรู้ทันเหยียนหมิงซุ่น น้ำเสียงเย้ยหยันมากกว่าเดิม
“แค่เคยได้ยินข่าวลือมา ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”
เหยียนหมิงซุ่นกลับมาทำหน้าเคร่งขรึมจริงจังเหมือนเดิม พยายามสงบนิ่งไม่ให้แสดงความรู้สึกออกมาบนใบหน้า เมื่อก่อนเขายังนึกภูมิใจในตัวเองที่เป็นคนสงบนิ่ง ไม่เหมือนยัยโง่เหมยเหมยที่คิดอะไรก็เขียนไว้บนหน้าผากไปเสียหมด แต่เขากลับรู้สึกว่าต่อหน้าพี่เฉิง เขากับเหมยเหมยไม่ได้ต่างกันเลย
สมแล้วที่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหยียนหมิงซุ่นจำต้องลดความทระนงตัวลงบ้าง นับจากนี้ไปจะไม่ดูถูกใครแม้แต่คนเดียว
พี่เฉิงหัวเราะเสียงเย็นชา จะจริงหรือเท็จคงมีภรรยาที่ตายไปแล้วของเฮ่อเหลียนชิงเท่านั้นที่รู้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้คือเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของเฮ่อเหลียนชิงแน่นอน ก็ทำหมันแล้วจะมีลูกชายได้อย่างไร?
“เดี๋ยวไปถึงที่นั่น พูดให้น้อยดูให้มาก หวังว่านายจะเข้าตาเขาบ้างก็แล้วกัน!” พี่เฉิงพูดเตือน
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วถาม “ความหมายของลุงเฉินคือเรื่องที่ผมจะนับเฮ่อเหลียนชิงเป็นพ่อบุญธรรม อาจไม่สำเร็จสินะครับ?”
พี่เฉิงแค่นเสียงมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่ใช่ตาแก่เฮ่อเหลียนชิงสักหน่อย เขาจะฟังคำของฉันได้อย่างไร? อีกอย่างนายคิดว่าตัวเองเป็นของล้ำค่าที่ใครเห็นใครก็รักงั้นเหรอ? มีสิทธิ์อะไรที่เฮ่อเหลียนชิงจะถูกตาต้องใจนายตั้งแต่แวบแรก? ฉันเป็นแค่คนกลางที่แนะนำนายให้เฮ่อเหลียนชิงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่จะเข้าตาเฮ่อเหลียนชิงได้หรือเปล่าก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนายแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นใจดิ่งลงเหว เขามีความรู้สึกคล้ายจะถูกหลอก สองวันก่อนพี่เฉิงรับปากไว้อย่างดิบดี แต่ตอนนี้เจ้าหมอนี่กลับบอกว่าตนเป็นเพียงคนกลางที่แนะนำให้รู้จักกันเท่านั้น
แม้เขาจะไม่พอใจอยู่เต็มอกแต่กลับไม่แสดงออกทางสีหน้า แค่ยิ้มน้อยๆ ไม่ดีใจและไม่พร่ำบ่น แม้แต่พี่เฉิงยังเดาความคิดเขาไม่ได้
ข่าวลือเกี่ยวกับเหมยเหมยในแวดวงสังคมนี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และถ้อยคำก็ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมยเหมยที่อายุเพียงสิบห้าปีถูกลือว่าเป็นเด็กสาวใจแตกและสำส่อน คนตระกูลจ้าวยังไม่รู้แต่หานซู่ฉินนั้นเคยได้ยินมาบ้าง แต่นิสัยเธอคล้ายคลึงกับเว่ยชิวเยวี่ย
หากเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองก็อยู่ให้ห่าง ยอมเป็นแค่คนที่คอยขจัดปัญหาแค่บ้านตัวเอง เงื่อนไขเดียวที่จะทำให้เธอยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นคือผลประโยชน์ เอาเข้าจริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งดั่งหินผา แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่ดูใจดีมีเมตตาของเธออย่างสิ้นเชิง
“แม่คะ ยังจำหลานชายฝั่งสกุลของฉันที่ชื่อจื่อฟู่ได้มั้ยค่ะ? เมื่อก่อนสมัยเด็กๆ แม่ชมเขาว่าหน้าตาหล่ออยู่บ่อยๆ!”
ช่วงบ่ายหานซู่ฉินชวนคุณย่าพูดคุยและจงใจพูดถึงหลานชายที่เธอคิดจะจับคู่ให้กับเหมยเหมยขึ้นมา อย่างไรเสียก็โยนหินถามทางไปก่อนละกัน!
…………………………