ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 828 ตระกูลของพวกคุณเป็นคนอกตัญญู + ตอนที่ 829 หูหนวกถึงจะดี
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 828 ตระกูลของพวกคุณเป็นคนอกตัญญู + ตอนที่ 829 หูหนวกถึงจะดี
ตอนที่ 828 ตระกูลของพวกคุณเป็นคนอกตัญญู
อู่เหมยไม่นึกว่าจะเจอเหมยซูหานที่นี่ ยิ่งเห็นว่าอู่เยวี่ยยืนอยู่ข้าง ๆเขา เหมยเหมยยิ่งหมดอารมณ์
คุณย่าที่มีความประทับใจต่อเหมยซูหานที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยนดั่งหยก ยิ้มให้พลางถามว่า “เหมยเหมย นี่เพื่อนหนูใช่ไหม?”
เหมยซูหานยิ้มพลางกล่าว “สวัสดีครับคุณย่า ผมชื่อเหมยซูหาน เป็นเพื่อนของเหมยเหมย อยู่ที่เมืองจินครับ”
เขาไม่ได้แนะนำอู่เยวี่ย ซึ่งนั่นทำให้อู่เยวี่ยไม่พอใจและยิ่งรู้สึกอิจฉามากขึ้น เธอยังจำคำที่ผู้จัดการอวี๋พูดเมื่อสักครู่ได้!
ตระกูลจ้าวแย่งห้องอาหารส่วนตัวของพวกเขา เพื่อฉลองวันเกิดให้คุณหนูคนเล็กของตระกูลจ้าว
ตอนนี้ดูเหมือนว่า คุณหนูคนเล็กของตระกูลจ้าวที่ผู้จัดการอวี๋พูดถึง คือจ้าวเหมย!
สมัยก่อนจ้าวเหมยถูกเธอหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า อ่อนน้อมจนดูไร้ศักดิ์ศรีเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ วันนี้กลับกลายเป็นคุณหนูของตระกูลที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง อู่เยวี่ยปวดใจราวกับถูกเข็มทิ่มแทงก็ไม่ปาน
เกลียดที่สุด!
อู่เยวี่ยก้มลงมองกระโปรงตัวใหม่ของเธอที่ตัดโดยเหอปี้อวิ๋น แม้ว่าจะตัดได้พอดีตัว วัสดุและผ้าก็ไม่เลว แต่เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าของจ้าวเหมยแล้ว มันทำให้เธอเหมือนกับเด็กผู้หญิงบ้านนอกขึ้นมาทันที จะให้เธอทนอยู่ได้อย่างไร!
เหมยเหมยไม่ยอมพูดกับเหมยซูหาน ตัวเองมาถึงเมืองหลวงแต่ก็ยังพาอู่เยวี่ยมาด้วย คงจะรักกันอย่างลึกซึ้งตั้งแต่เด็กเหมือนที่คิดไว้
เธอชายตามองสองคนนี้เพียงปราดเดียว ในแววตามีแต่ความเย้ยหยัน แต่เธอไม่ปริปากพูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆก็เท่านั้น และพูดกับย่า “คุณย่าคะ พวกเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ ก็แค่คนรู้จักเท่านั้นค่ะ”
เหมยซูหานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขารีบพูดอย่างร้อนใจ “ เหมยเหมย โกรธฉันใช่ไหม? ฟังฉันอธิบาย…”
เหมยเหมยรำคาญจริง ๆ วันนี้จะถือโอกาสพูดกับเหมยซูหานให้ชัดเจนเสียเลย เขาจะได้ไม่ต้องมากวนใจเธออีก เธอชี้ไปที่อู่เยวี่ยและเย้ยหยันว่า “เขาเป็นศัตรูกับฉัน แต่นายกลับอยู่กับศัตรูของฉัน ดังนั้นนายไม่ได้เป็นเพื่อนของฉันอีกแล้ว เป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น”
“เหมยเหมย มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ฉันทำเพื่อตอบแทนบุญคุณครูอู่เท่านั้น ฉัน…” เหมยซูหานรีบอธิบาย อู่เยวี่ยรู้สึกปวดใจ เธอยิ่งเกลียดชังและรู้สึกริษยาจ้าวเหมยมากขึ้น
เหมยซูหานเป็นของเธอคนเดียว จ้าวเหมยอย่าคิดที่จะมาแย่งเธอไปนะ!
สำหรับอู่เยวี่ยในตอนนี้ เหมยซูหานไม่เพียงเป็นแค่ผู้ชายที่เธอชอบเท่านั้น เขายังเป็นเหมือนฟางที่ช่วยชีวิตเธอขึ้นมาจากบ่อโคลน เป็นธรรมดาที่อู่เยวี่ยต้องรีบคว้าเอาไว้ให้มั่น เธอไม่ยอมทนทุกข์ทรมานในหลุมไปกับเหอปี้อวิ๋นแน่ ๆ
เหมยเหมยไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเหมยซูหานแม้แต่นิด เขากับอู่เยวี่ยจะเป็นอย่างไร เธอไม่สนใจสักนิด ตอนนี้เธอมีเหยียนหมิงซุ่นคอยเอาอกเอาใจ ไหนจะมีคนในครอบครัวคอยเอาใจพะเน้าพะนอ ตอนนี้เธอมีชีวิตที่ดีกว่าอู่เยวี่ยหลายร้อยเท่าพันเท่า เธอไม่สนใจหรอกว่าอู่เยวี่ยกับเหมยซูหานจะเป็นยังไง!
“นายจะตอบแทนบุญคุณก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่ต้องมาอธิบายให้ฉันฟัง!”
เหมยเหมยแสดงสีหน้ารำคาญออกมา เหมยซูหานเสียใจมาก เขารู้สึกว่าเหมยเหมยได้เปลี่ยนไปแล้ว
เหมยเหมยที่อยู่ในฝันทั้งอ่อนโยน จิตใจดี มีเมตตา ขนาดแมวน้อยป่วยก็ยังร้องห่มร้องไห้ แถมยังชอบเอาอาหารไปให้แมวจรจัดตรงลานขยะเป็นประจำ
“เหมยเหมย เธอเปลี่ยนไปนะ เมื่อก่อนเธอไม่ใช่คนแบบนี้ อย่างไรเสียครูอู่ เขาก็มีบุญคุณที่เลี้ยงดูเธอมานะ!”
ในสายตาของเหมยซูหานไม่เห็นด้วย เขารู้สึกว่าเหมยเหมยจิตใจโหดร้ายมาก ถึงแม้อู่เจิ้งซือจะทำผิดแต่เขาก็มีบุญคุณที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเหมยเหมย บุญคุณที่ให้กำเนิดมาก็เทียบกับบุญคุณที่เลี้ยงดูมาไม่ได้ เหมยเหมย ทำไมเธอถึงได้ไร้น้ำใจเช่นนี้?
จ้าวเสวียหลินเอื้อมมือออกไปผลักเหมยซูหาน พร้อมตะคอกใส่ “สมองแกมีปัญหาเหรอ?” พวกเราให้ความเมตตาต่อตระกูลอู่มากที่สุดแล้ว จะมาพูดถึงบุญคุณเลี้ยงดูไร้สาระอะไรกัน ถ้าขืนแกยังพูดจาเหลวไหลอีก ฉันจะอัดแกให้น่วม!”
อู่เยวี่ยดูทนไม่ได้เธอจึงตะโกนออกไป “ตระกูลของพวกคุณเป็นพวกอกตัญญู ตระกูลของเราเลี้ยงดูจ้าวเหมยมาจนโตขนาดนี้ จะไม่มีบุญคุณที่เลี้ยงดูมาได้อย่างไรกัน?”
……………………………
ตอนที่ 829 หูหนวกถึงจะดี
คนตระกูลจ้าวไม่รู้จักอู่เยวี่ยแต่พวกเขาก็พอจะเดาออก เพียงแต่พวกเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้แล้วไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเด็ก แต่สีหน้าของทุกคนนั้นดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก
สยงมู่มู่โมโหอยากจะด่าอู่เยวี่ย แต่ถูกเหมยเหมยห้ามเอาไว้ เธอเดินไปหยุดตรงหน้าอู่เยวี่ยอย่างช้า ๆ สองปีมานี้ตัวเธอสูงขึ้นเร็วมาก ตอนนี้เธอกับอู่เยวี่ยสูงไล่เลี่ยกันแล้ว
เธอมองอู่เยวี่ย ไม่ทันพูดอะไร ก็สะบัดมือตบไปสุดแรงเกิดของเธอ
อู่เยวี่ยที่ถูกตบโดยไม่ทันตั้งตัว ล้มลงไปกองกับพื้น เหมยซูหานรีบประคองเธอขึ้นมา อู่เยวี่ยร้องไห้สะอึกสะอื้นถือโอกาสซบในอ้อมอกของเหมยซูหาน
“เหมยเหมย เธอตบเยวี่ยเยวี่ยทำไม? หูของเธอเพิ่งจะดีขึ้นเอง” เหมยซูหานตำหนิอย่างไม่พอใจ
เหมยเหมยมองสองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสะอิดสะเอียน ฉากที่เธอเห็นก่อนที่จะตายในชาติที่แล้วปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ ภาพสองคนนั้นที่มีอะไรกันกับสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอมันทับซ้อนกันอยู่ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน
“หูของเธอจะดีหรือไม่ดี มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” หูหนวกไปเลยสิยิ่งดี!
เหมยเหมยหัวเราะเยาะ เหมยซูหานรู้สึกแปลกอีกครั้ง เขาไม่สามารถเชื่อมโยงเหมยเหมยที่อยู่ตรงหน้า กับเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนและใจดีที่อยู่ในฝันได้
“เหมยเหมย ไม่ว่าเยวี่ยเยวี่ยจะเป็นอย่างไร ก็เป็นพี่สาวของเธอนะ ทำไมเธอถึงได้ทำเหมือนไร้เยื่อใยเช่นนี้?”
คำพูดของเหมยซูหานทำให้เหมยเหมยโมโหสุดขีด ตวาดออกไปย่างโกรธเคือง “ จิตใจชั่วช้า ต่ำทราม มั่วผู้ชายอย่างเธอ มีคุณสมบัติอะไรมาเป็นพี่สาวฉัน? เหมยซูหานถือดีอะไรมายุ่งกับฉัน? คุณเป็นอะไรกับฉัน?”
พูดจบ เธอก็เดินออกไปข้างนอกโดยไม่มองเหมยซูหานอีก เธอไม่ต้องการเห็นคนสองคนที่น่าสะอิดสะเอียนนี้อีกแล้ว
จ้าวเสวียหลินกล่าวอย่างเด็ดขาด “อยู่ห่าง ๆน้องสาวผมเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ!”
พวกจ้าวเสียวกง เหวี่ยงหมัดไปมาใส่เหมยซูหาน ส่วนอู่เยวี่ย พวกเขาไม่สนใจสักนิด
ผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดเหมือนหมีตัวเมียเห็นแล้วจะอ้วก ไหน ๆก็ลงไม้ลงมือไม่ได้ สู้ไม่มองมันเสียเลยดีกว่า
โอหยางปินที่รับภารกิจ กลับเข้ามาและแอบอยู่ในมุมหนึ่งของร้าน เขาเห็นฉากนี้อย่างชัดเจน และมองสีหน้าของอู่เยวี่ยที่อยู่ในอ้อมอกของเหมยซูหาน คนปลิ้นปล้อน กลับกลอกอย่างเขา แค่มองแวบเดียวก็ดูออกว่าอู่เยวี่ยเป็นผู้หญิงแบบไหน
หลังจากคนตระกูลจ้าวจากไป โอหยางปินเดินไปทางเหมยซูหาน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
ระหว่างทางกลับบ้าน คนตระกูลจ้าวถามเหมยเหมยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเล่าถึงความสัมพันธ์ของตัวเธอเองกับอู่เยวี่ยให้ฟัง สมาชิกตระกูลจ้าวต่างก็รู้สึกไม่พอใจ
“เหมยเหมยอย่ารู้สึกแย่ไปเลยนะ พวกเขาผิดต่อเธอ คนที่ควรจะรู้สึกแย่คือพวกเขา!” หานซู่ฉินปลอบเธอ
เหมยเหมยหันไปยิ้มให้เธอ “หนูไม่ได้รู้สึกแย่ค่ะ คนพวกนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับหนูนานแล้ว”
เธอไม่ได้รู้สึกแย่จริง ๆแต่รู้สึกขยะแขยง และตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกขยะแขยงเหมยซูหานที่เอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับอู่เยวี่ย แต่ต่อหน้าเธอกลับมาแสดงความรักกับเธอ
หรือว่าเขาอยากจะเหยียบเรือสองแคมเหมือนชาติก่อน?
ฝันไปเถอะ!
พวกจ้าวอิงสยง พอกินข้าวเสร็จก็กลับกัน ก่อนไปหานซู่ฉินยังพูดถึงหานป๋อหย่วนหลานชายของเธอให้ฟังอีก แต่เหมยเหมยก็ไม่ได้ใส่ใจ ก็แค่ญาติพี่น้องที่เกี่ยวดองกันเท่านั้นเอง ถ้าคุยกันถูกคอก็เป็นเพื่อนกันได้ คุยไม่ถูกคอก็ไปมาหาสู่กันน้อยลงหน่อย
วันถัดมาหลังจากฉลองวันเกิดแล้ว หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกก็มาที่บ้าน พวกเธอหิ้วตะกร้ามัลเบอร์รี่สด ๆ มาด้วย แถมยังบอกว่าปลูกไว้ในเรือนกระจกเอามาให้กับคุณย่า
พอคุณย่าเห็นพวกเธอก็ดีใจมาก แต่จู่ ๆก็นึกถึงเรื่องซุบซิบนินทาที่ได้ยินในสวนสาธารณะขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็จางหายไปโดยไม่รู้ตัว
………………………………