ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 892 ช่วยแทงเพิ่มอีกแผล + ตอนที่ 893 จัดการคุณย่า
ตอนที่ 892 ช่วยแทงเพิ่มอีกแผล
คุณย่าเพิ่งเดินเข้าไปถึง ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากพูดอะไร คุณหญิงโอหยางที่ตบตีอย่างสมใจ จึงเหล่ตามองพร้อมกับพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่สั่งสอนนางลูกสะใภ้ที่ชอบลักกินขโมยกินของคนอื่น คุณพี่จ้าวต้องเข้ามายุ่งด้วยหรือ? พี่จะล้ำเส้นกันเกินไปหน่อยหรือเปล่านะ!”
“ไม่ใช่…ฉัน…ฉัน…”
คุณย่าอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ไม่กี่คำ กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอเองก็รู้สึกขายหน้าเช่นกัน!
รวมทั้งฉากเหตุการณ์ในภาพถ่าย เธออายุมากจนป่านนี้แล้ว แค่ได้เห็นยังรู้สึกหน้าร้อนฉ่าหูแดงเถือก จังหวะการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ทำไมอวี้เหลี้ยนถึงได้เหลวแหลกขนาดนี้ล่ะ!
จ้าวเสวียหลินลอบถอนหายใจไปหนึ่งเฮือก จากนั้นได้ลากตัวคุณย่าจ้าวกลับมา “เรื่องของครอบครัวคนอื่น คุณย่าอยากเข้าไปยุ่งนักเหรอ?”
คุณย่าจ้าวมองหลานชายอย่างนึกละอายใจ และหันมองท่าทีของเหมยเหมยที่ไม่แยแสกับอะไร ในตอนนี้เธอเพิ่งได้รู้ว่าตัวเธอนั้นได้ทำอะไรผิดไป…
เหมยเหมยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคุณย่าเลยสักนิด ต่อให้คุณย่าจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน แม้จะยอมขอโทษเธอ
แต่เธอคงไม่มีทางมอบความจริงใจให้กับหญิงชราได้อีก!
อย่างมากก็แค่เป็นการรักษาหน้า!
โอหยางซานซานที่นอนอยู่บนพื้น ได้สติฟื้นคืนกลับมากะทันหัน เธอพยายามปีนป่ายลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปช่วยหวงอวี้เหลียน เธอพยายามออกแรงฉุดรั้งมือของคุณหญิงโอหยางเอาไว้ อ้อนวอนอย่างเจ็บปวด…
แม้ว่าคุณหญิงโอหยางจะไม่ชอบหลานสาวนัก แต่ถึงอย่างไรก็นับเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลโอหยาง นับว่าในใจเธอยังอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญกว่าหวงอวี้เหลียนมาก
น้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนของโอหยางซานซานได้ทำให้คุณหญิงโอหยางใจอ่อนลงไปบ้าง เธอคิดว่าอย่างน้อยควรไว้หน้าหลานสาวบ้าง คิดเพียงว่าจะลากนางชั่วช้านี่กลับไปสั่งสอนที่บ้าน จึงได้ลดท่าทีและการกระทำลง
เหมยเหมยที่ยืนดูละครสนุกๆฉากนี้อยู่ แน่นอนว่าเธอ ไม่มีทางปล่อยหวงอวี้เหลียนไปง่ายๆ เธอจงใจเดินเข้าไป จากนั้นกระซิบกระซาบที่ข้างหูของคุณหญิงโอหยางเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้สีหน้าท่าทีของคุณหญิงโอหยางเปลี่ยนไปมาก ราวกับการได้เห็นผีก็มิปาน
“ทั้งหมดที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ?” คุณหญิงโอหยางถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง เธอไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเหมยเหมย
เหมยเหมยหัวเราะร่า “คุณยายคะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เป็นความลับ ข่าวคราวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว หรือไม่งั้นคุณคิดว่าฉันได้ภาพถ่ายพวกนี้มาจากไหนล่ะ ตลาดตงต้า หวังฝูจิ่ง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็มีคนแจกจ่ายไปทั่ว อยากได้เท่าไหร่ก็มีเท่านั้น”
อารมณ์โมโหของคุณหญิงโอหยางจุกอยู่ในอก เรื่องราวที่เกิดขึ้นรุนแรงกว่าที่เธอคิดไว้มาก
จากตอนแรกเธอตั้งใจที่จะหาคนมาจัดการเก็บภาพถ่ายพวกนั้นเสีย แล้วค่อยให้ลูกรองหย่าร้างกับหวงอวี้เหลียนไป เรื่องภายในครอบครัวแน่นอนว่าต้องจัดการภายในครอบครัว หากเป็นเรื่องใหญ่โตคงจะไม่ดีต่อลูกชายและหลานชายนัก
แต่ตอนนี้…
เหมยเหมยหัวเราะ พร้อมกับชี้ไปยังหวงอวี้เหลียนที่นั่งจมอยู่กับพื้น และพูดขึ้นว่า “คุณหญิงยายอย่ามาโทษหนูละกัน ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้เอาหนูไปพูดเสียๆ หายๆ แล้วก็สร้างข่าวจอมปลอมนั้นขึ้นมาล่ะ หนูจำต้องหาเหตุมาหักล้างกับผลเป็นธรรมดา เพียงแต่หนูก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าลูกสะใภ้รองของคุณหญิงยายนี่ช่างทำให้หนูทึ่งจริงๆ!”
แน่นอนว่าคุณหญิงโอหยางเคยได้ยินข่าวลือของเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลจ้าว ในตอนนั้นเธอเองก็ยังพูดหัวเราะเยาะกับคนอื่นๆ อยู่เลย
แต่มาตอนนี้กลายเป็นเธอเองที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะใส่…
อีกทั้งยังนับว่าเป็นเรื่องขบขันที่ทำให้เธออับอายขายขี้หน้าไปจนถึงบรรพบุรุษถึงสิบแปดชั่วโคตร คุณหญิงโอหยางรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ต่างไปจากหวงอวี้เหลียนในภาพเลย ที่ถูกคนอื่นปลดเปลื้องจนเปลือยเปล่า…
“นางชั่ว ทั้งหมดเป็นเพราะคนชั่วอย่างแก…”
แม้ว่าคุณหญิงโอหยางจะเกลียดเหมยเหมย แต่เธอก็ทำอะไรเหมยเหมยไม่ได้ จึงทำได้เพียงสาดเอาไฟโทสะทั้งหมดที่มีใส่หวงอวี้เหลียนแทน และยังสะบัดโอหยางซานซานลงพื้นอย่างไม่นึกรักษาน้ำใจแต่อย่างใด!
มีมารผจญแบบนี้อยู่ในบ้าน จะต้องนำเอาหายนะมาสู่บ้านเป็นแน่ เธอจะต้องทำเพื่อหลานชายโดยการคิดไตร่ตรองใหม่!
เหมยเหมยมองดูหวงอวี้เหลียนอย่างพึงพอใจที่เธอถูกตบจนแน่นิ่ง จากนั้นหันไปบุ้ยหน้าให้จ้าวเสวียหลิน “เราไปกันเถอะ!”
ตอนนี้เรื่องราวได้บานปลายใหญ่โตไปแล้ว เชื่อว่าคุณหญิงโอหยางคงไม่มีทางเก็บหวงอวี้เหลียนไว้แน่ นอกเสียจากว่าพวกเขาต้องการจะเป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง
…………………………………….
ตอนที่ 893 จัดการคุณย่า
เหมยเหมยไม่ได้กลับไปที่บ้านของตระกูลเซียว จัดการกับหวงอวี้เหลียนและโอหยางซานซานไปแล้ว บัญชีระหว่างเธอและคุณย่ายังไม่ได้สะสางเลย!
เธอคงไม่คิดว่าเพราะคุณย่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จึงต้องเกรงใจสักนิด ใครใช้ให้ตัวเธอเป็นผู้หญิงใจแคบล่ะ!
“คุณย่ายังไม่กลับบ้านอีกหรือ?” จ้าวเสวียหลินเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมาตะโกนเรียกคุณย่าที่ยืนนิ่งงันอยู่
คุณย่าตอบกลับขานรับไปอย่างเลื่อนลอย สติปัญญาของเธอไม่สูงพอที่จะรับรู้เข้าใจกับเหตุการณ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ ในตอนนี้สมองของเธอสับสนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น เหมยเหมยจึงให้เซียวเซ่อกลับไปก่อน สวนสาธารณะนั้นห่างจากบ้านไม่ไกลนัก เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงที่หมาย
วันนี้คุณปู่ไม่ได้ออกไปข้างนอก เขากำลังรอคอยให้คุณย่ากลับมา เมื่อครู่เขาได้สั่งให้จ้าวเสวียไห่และจ้าวเสวียกงออกไปตามหาบริเวณใกล้ๆ รอบหนึ่ง แต่ก็ไม่พบคุณย่า จึงทำได้แค่รออยู่ที่บ้าน
เขาที่เห็นว่าเหมยเหมยกลับมาก็พลันดีอกดีใจ คิดว่าหลานสาวนั้นคิดได้แล้ว พอจะเปิดปากพูด กลับมองเห็นคุณย่าที่มีท่าทีแปลกๆ เดินตามอยู่ด้านหลัง จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เช้าจนไก่โห่ขนาดนี้คุณหายไปไหนมา?”
คุณย่าชะงักงัน ไม่กล้าตอบออกไปตรงๆเหมือนเมื่อก่อน อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นาน จนสุดท้ายจึงเลือกพูดออกมา “ฉันออกไปเดินเล่นแถวๆ สวนสาธารณะใกล้ๆ นี้มา”
เหมยเหมยหัวเราะเยาะกับตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอไปเจอหวงอวี้เหลียนมา กล้าทำแต่กลับไม่กล้ายอมรับ!
คุณปู่คิดว่าเป็นเรื่องจริงจึงเชื่อ และพูดติดตำหนิไปว่า “ต่อไปนี้จะออกไปไหนก็บอกกับคนในบ้านเสียก่อน เจ้าสี่กับเจ้าห้าไปตามหาเธอจนทั่วแล้ว เธอนี่อายุยิ่งเยอะก็ยิ่งไม่รู้ความจริง ๆ”
คุณย่าไม่ได้ถกเถียงกับคุณปู่เหมือนดั่งแต่ก่อน เพียงแค่รับคำ เชื่อฟังอย่าว่าง่าย
คุณปู่รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ เหตุใดยายแก่ถึงได้ว่านอนสอนง่ายถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาพูดแค่ประโยคเดียว เธอก็มักจะเถียงกลับมานับสิบประโยคได้!
เหมยเหมยหัวเราะเยาะไปพลาง พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง “คุณปู่ คุณย่าไม่ได้ไปสวนสาธารณะเพื่อเดินเล่น แต่นัดกับหวงอวี้เหลียนไว้ที่สวนสาธารณะ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบต่างหาก!”
ท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นจ้องหน้าคุณย่าอย่างเคร่งขรึม พร้อมทั้งถามขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง “เป็นแบบนั้นใช่ไหม?”
คุณย่าโกรธเหมยเหมยอยู่ในใจที่ไม่ยอมไว้หน้าเธอ เธอไม่อยากยอมรับ แต่ทั้งชีวิตเธอไม่เคยโกหก เธอไม่อยากสบตาคุณปู่ จึงก้มหน้าแล้วพูด “ฉันเดินเล่นอยู่ในสวนแล้วบังเอิญเจอกับหวงอวี้เหลี้ยนสองแม่ลูกที่มาออกกำลังกายเหมือนกัน จึงนั่งคุยกัน…”
สามีที่เข้าใจภรรยาอย่างถ่องแท้ คุณปู่เห็นท่าทีหลบสายตาของเธอ ก็รู้ได้ในทันทีว่าภรรยาของตนนั้นไม่ได้พูดความจริง ไฟโทสะที่มีจึงเดือดพล่านและปะทุขึ้นมา
เหมยเหมยหยิบเอาภาพถ่ายที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่ออกมาจากกระเป๋า ในภาพนั้นหวงอวี้เหลียนและคุณย่าพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ หวงอวี้เหลียนสวมชุดเดรสกระโปรงรัดรูป เซ็ทผมตีโป่งยกสูงราวกับผู้รากมากดี มองยังไงก็ไม่เหมือนกับการแต่งตัวเพื่อมาออกกำลังกาย
“คุณปู่ดูเอาเองเถอะ!”
เหมยเหมยยื่นภาพถ่ายส่งให้ชายแก่ หากว่าคุณปู่ไม่ได้ทำเรื่องโง่เขลาเหมือนกับคุณย่า มองแวบเดียวก็คงเข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องให้เธออธิบายให้เสียน้ำลาย
แน่นอนว่าคุณปู่นั้นเข้าใจดี การแต่งตัวของหวงอวี้เหลียนแค่เห็นก็รู้ได้ว่าไม่ได้มาเพื่อออกกำลังกาย ยายแก่นี่โกหกล้วนๆ และนั่นยิ่งทำให้ไฟโทสะของคุณปู่ปะทุเดือดพล่านมากขึ้นเป็นทวี
ทั้งชีวิตเขาเกลียดที่สุดคือคนโกหก!
หญิงชรานึกไม่ถึงว่าเหมยเหมยจะถึงขั้นถ่ายเก็บไว้ พลันหันไปมองหน้าเธออย่างตกใจ จึงเกิดอารมณ์โมโหขึ้น
“ยัยเด็กบ้าแกสะกดรอยตามฉัน?”
เหมยเหมยมองเธอด้วยสายตาเยาะเย้ย พูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “หนูไม่ได้สนใจที่จะสะกดรอยตามคุณหรอก แต่หนูสะกดรอยตามหวงอวี้เหลียน เพียงแต่หนูก็นึกไม่ถึงว่าความรู้สึกของคุณและเธอจะลึกซึ้งถึงเพียงนี้!”
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างเธอยุ่งอะไรด้วย?”
คุณย่าเถียงเหมยเหมยไม่ได้ จึงเลือกที่จะเอาความเป็นผู้ใหญ่ออกมาพูด เธอต้องการจะกดพละกำลังของเหมยเหมย
“แล้วฉันมีสิทธิ์ยุ่งไหม?”
คุณปู่ถามขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น
………………………………………