ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 894 หย่าร้าง + ตอนที่ 895 ลงโทษหญิงชรา
ตอนที่ 894 หย่าร้าง
เป็นเพราะคุณย่ารู้สึกละอายใจ จึงไม่กล้าสบสายตากับคุณปู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่กล้าตวาดใส่คุณปู่เหมือนแต่ก่อน ด้วยท่าทีที่สยบลงไปมาก
คุณปู่มองคุณย่าที่เคยทุกร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายสิบปี อีกทั้งยังเป็นคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ ซึ่งในท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
เขาไม่อาจยอมให้คุณย่าต้องทำเรื่องเลอะเลือนเหล่านี้อีกแล้ว มิเช่นนั้นลูกหลานคนอื่นๆ จะต้องเดือดร้อนเพราะยายแก่จอมฟั่นเฟือนคนนี้อีกแน่!
คุณปู่กัดฟันแน่น พร้อมทั้งพูดเสียงขรึม “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่มีสิทธิ์อยู่ในบ้านเพื่อรับแขกอีก แล้วก็ห้ามออกจากบ้านคนเดียวอีก หากว่าสองอย่างนี้ยังทำไม่ได้ เราก็…”
หยุดเงียบไปนานสองนาน ในที่สุดคูณปู่ก็ยอมพ่นคำสองคำนั้นออกมา “…หย่ากัน!”
ทุกคนต่างชะงักงัน พลันนึกไม่ถึงว่าคุณปู่จะพูดถึงเรื่องหย่าร้างออกมา?
คุณย่านั้นยิ่งไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง ร่างกายของเธอเกิดอาการสั่นเทา พลางถามออกไปด้วยความสงสัย “…คุณพูดอะไร…”
คุณปู่พูดซ้ำอีกครั้งอย่างแน่วแน่ “กฎที่ฉันตั้งขึ้นมาหากว่าคุณไม่ทำตาม เราสองคนก็หย่ากัน ต่อไปนี้คุณก็เดินทางพระอาทิตย์ของคุณไป อย่าเข้ามาทำลายลูกหลานในตระกูลจ้าวอีก…”
“จ้าวหวายซาน คุณมันไร้หัวใจ…ทำไมคุณถึงกล้าพูดออกมาแบบนี้? คุณแอบไปมีใครนอกบ้านใช่ไหมอายุมากจนจะลงโลงอยู่แล้ว ยังคิดจะออกไปหาเศษหาเลยอีกรึไง? โธ่เอ้ย…ตอนนั้นฉันไม่น่าช่วยชีวิตคุณเลย…”
คุณย่าโกรธจนเนื้อเต้น พร้อมกับตะโกนใส่หน้าคุณปู่ ร่างกายคุณย่าได้รับการฟื้นฟูจากเหมยเหมยจนแข็งแรง เอาพละกำลังที่เคยรับมือกับพวกทหารญี่ปุ่นในสมัยนั้นออกมา นึกไม่ถึงว่าจะทำให้คุณปู่ถอยหลังไปนับหลายก้าว เสื้อผ้าบนร่างกายถูกดึงจนขาดวิ่น
เหมยเหมยมีปฏิกิริยาตอบสนองได้เป็นคนแรก จึงถีบจ้าวเสวียหลินที่มองดูอย่างซื่อบื้อออกไป พลางออกคำสั่ง “ยังไม่รีบเข้าไปลากคุณย่าอีก!”
นั่นถึงทำให้จ้าวเสวียหลินและคนอื่นๆ ได้สติ บรรดาพี่น้องทั้งหลายจึงรีบเร่งเข้าไปจับตัวของคุณย่าที่มีท่าทีดุร้ายเอาไว้ เพราะไม่กล้าทำให้เธอบาดเจ็บ แต่พวกเขาต้องใช้แรงกำลังอย่างมหาศาล กว่าจะดึงคุณย่าที่เอาแต่พ่นคำด่าทอออกมาไม่หยุดไว้ได้
คุณปู่ในตอนนี้มีสภาพน่าเวทนามาก เสื้อผ้าถูกดึงจนขาดวิ่น เส้นผมถูกดึงหลุดเป็นกระจุกจนเผยให้เห็นหนังศีรษะ ส่วนเส้นผมนั้นอยู่ในกำมือของคุณย่า เป็นกำใหญ่ๆ หนึ่งกำ เหมยเหมยเห็นยังรู้สึกเจ็บแทน
มิน่าล่ะที่คุณปู่จะได้รับฉายาว่ากลัวเมีย ใจไม่สู้เอาเสียเลย!
“จ้าวหวายซาน…ถ้าคุณกล้าที่จะหย่ากับฉัน…ฉันนี่แหละจะเอาปืนมายิงความใจดำอำมหิตคนชั่วอย่างคุณเอง ฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณไว้ ฉันช่วยชีวิตของคุณมากับมือ…”
คุณย่าที่เดือดดาลจนด่าไม่หยุด อารมณ์โกรธมาเต็ม แผ่รังสีอาฆาตออกมา
คุณปู่แยกเขี้ยวยิงฟันพร้อมกับลูบผมตัวเอง เจ็บปวดจนน้ำตาไหล ไม่ง่ายเลยที่จะเหลือผมเพียงอันน้อยนิดนี้ไว้ แต่กลับถูกยายแก่นี่ดึงถลกไปเสียได้ เจ็บหัวมาก แต่เจ็บใจยิ่งกว่า!
“ซ่างกวนจินเหยี่ยน เอ็งน่ะปากร้าย เอ็งบอกว่าตอนนั้นช่วยชีวิตตาแก่อย่างข้าไว้ แล้วข้าไม่ได้ช่วยชีวิตเอ็งหรือไง? เป็นข้าเสียมากกว่าที่ช่วยชีวิตเอ็งไว้หลายครั้ง หรือเอ็งกันแน่ที่ช่วยข้าไว้หลายครั้ง?
…หย่ากัน…เสียวหลี่…ไปขับรถมา…แล้วตรงไปที่ว่าการอำเภอ จะทำเรื่องหย่าร้าง…”
ไฟโทสะของคุณปู่นั้นมีมากกว่า อยู่ต่อหน้าของลูกหลานทุกคน ยายแก่นี่ไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!
เขาไม่ต้องการศักดิ์ศรีหรือไง!
ครั้งนี้จะต้องสั่งสอนยายแก่ให้เข็หลาบบ้าง จะต้องทำให้เธอได้รู้ถึงความน่าเกรงขามของคนอย่างจ้าวหวายซาน!
ผู้พิทักษ์เสียวหลี่ลอบมองคุณปู่อย่างลำบากใจ เขาจะเอาความกล้าจากไหนมาขับรถ?
เขาเองก็กลัวว่านายหญิงซ่างกวนจะเอาปืนมายิงนี่!
คุณปู่ไม่พอใจต่อเสียวหลี่ที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง จึงตะโกนออกไปอีกครั้ง จ้าวเสวียเอร่อจึงลากเสียวหลี่ออกมา ให้เขาอยู่ด้านนอกเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย คุณปู่เขานั้นก็พูดไร้สาระเสียจริง ต่อให้เขาต้องการจะหย่าร้างกันจริง ทางสำนักกิจการพลเรือนจะกล้าทำเรื่องให้หรือ?
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น เธอรู้ดีว่าการหย่าร้างของคุณย่าและคุณปู่นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก บอสใหญ่คงไม่มีทางยอมให้สามีภรรยาตัวอย่างยุคปฏิวัติคู่นี้แยกทางกันแน่
……………………………………………
ตอนที่ 895 ลงโทษหญิงชรา
ละครฉากตลกของตระกูลจ้าวจบลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองเฒ่าต่างก็เข้าสู่ภาวะสงครามเย็น การตัดสินใจของคุณปู่ในครั้งนี้นับว่าเด็ดเดี่ยวมาก ไม่ว่าคุณย่าจะไปที่ไหน ข้างกายจะต้องมีคนตามเสมอ ราวกับเป็นนักโทษ
คุณย่าอาละวาดอยู่หลายครั้งหลายหนก็ไร้ประโยชน์ คุณปู่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้ว!
บอสใหญ่ได้ส่งคนมาตามให้คุณปู่เข้าไปพบเพื่อถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนทหารเก่าหลายๆ คน ก็เข้ามาแวะเวียนเกลี้ยกล่อมให้คืนดีกันอยู่หลายหน แต่ถึงอย่างไรคุณปู่ก็ไม่ยอมก้มหัวให้ก่อน
อีกทั้งยังได้พูดอย่างใจกล้า หากว่าครั้งนี้ยายแก่ไม่ยอมก้มหัวให้ก่อน เขาก็จะทำสงครามเย็นกับยายแก่นี่ให้ถึงที่สุด!
จ้าวอิงสยงและจ้าวอิงหย่งทั้งสองครอบครัวต่างพากันรีบกลับมา ต่อให้เป็นหานซู่ฉินที่พูดจนลิ้นพันกันแค่ไหน ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจของคุณปู่ได้เลย ทุกๆ คนช่วยกันพูดจนหมดปัญญา
จ้าวอิงหย่งสองสามีภรรยาหลังจากที่ได้ถามจนรู้ความเป็นมาเป็นไปแล้ว จึงรู้สึกผิดหวังกับอาการเลอะเลือนของคุณย่าไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรมาอันหย่าฟางเป็นคนสงบเสงี่ยมเยือกเย็นและโอหัง ยังแทบอดไม่ได้ที่จะโมโห “แม่คะ เมื่อไหร่แม่จะเลิกทรมานทุกคนสักที? แม่ยังอยากจะให้บ้านนี้เจอเรื่องราวแย่ๆ ไปถึงเมื่อไหร่กัน? ตอนนั้นแม่ได้ทำลายหลานสาวคนหนึ่งไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้แม่ยังจะช่วยเหลือคนนอกเพื่อทำร้ายเหมยเหมยอีก หากไม่เป็นเพราะเหมยเหมยที่เข้มแข็งด้วยตัวเอง น้ำสกปรกโสโครกที่หวงอวี้เหลียนสาดมา ตอนนี้เหมยเหมยคงจมน้ำตายไปแล้ว!”
จ้าวอิงหย่งเองที่นึกถึงเหตุการณ์ที่หลานสาวคนเล็กตายในครรภ์ ขอบตาของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาและแดงก่ำ
ในปีนั้นตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลจ้าว ทุกคนในบ้านต่างเร่ร่อนไปทั่วทั้งปฐพีของจีน ในตอนนั้นอันหย่าฟางกำลังตั้งท้อง โดยมีอายุครรภ์ราวๆ สี่เดือนแล้ว แต่เป็นเพราะการเดือนทางที่แสนลำบากยากเข็ญ รวมทั้งขาดแคลนอาหารบำรุงร่างกาย ทำให้ลูกสาวคนเล็กที่กำลังมีตัวตนต้องสูญสิ้นไป
เพราะเหตุการณ์นี้ จึงทำให้อันหย่าฟางเคลือบแคลงใจต่อคุณย่ามาตลอด นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปเย็นชามากกว่าเดิม
“แม่ แม่ต้องการให้ทุกคนในบ้านต้องพบเจอแต่ความผิดหวังใช่ไหม แต่ก่อนที่ไม่มีหลานสาว วันๆ แม่เอาแต่บ่นว่าอยากได้หลานสาว ตอนนี้ก็ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีหลานสาวได้ แม่กลับไม่ดูแลเธอให้ดี แม่พูดสิว่าทุกวันนี้แม่กำลังทำอะไรลงไป?”
จ้าวอิงหย่งจ้องมองคุณย่าที่หวังว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หากว่านี่ไม่ใช่แม่ของเขา เขาคงได้ตบสั่งสอนไปฉาดใหญ่แล้ว!
หานซู่ฉินหัวเราะพร้อมกับพูดขึ้น “น้องสามและแฟนน้องสามอย่าพึ่งโกรธเลย พวกเราค่อยๆ พูดกับแม่…”
“พูดดีด้วยจะฟังเข้าใจเหรอ? ถ้าเธอเก่งมากเธอก็มาจัดการพูดดีๆ สิ!”
อันหย่าฟางตัดบทเธอด้วยท่าทีเยือกเย็น
หานซู่ฉินมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและหานซู่ฉินนั้นจืดชืดมาตลอด โชคดีที่ไม่ได้อยู่ร่วมพื้นที่เดียวกันในเขตทหาร ในปีหนึ่งยากนักที่จะเจอหน้ากันสักครั้ง
“แฟนน้องสามนี่โมโหรุนแรงนัก!”
หานซู่ฉินทำทีเป็นยิ้มและพูดไปเพียงประโยคเดียว สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้
แม้ว่าตอนนี้ตระกูลอันจะเทียบไม่ได้กับตระกูลจ้าว แต่ในขณะเดียวกันก็เก่งกาจกว่าตระกูลหานเป็นไหนๆ อีกทั้งพ่อและบรรดาพี่ชายน้องชายของเธอต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลอัน เธอจะกล้ามีเรื่องกับอันหย่าฟางได้อย่างไรเล่า!
เพราะงั้นเธอถึงอยากให้หลานชายแต่งงานกับเหมยเหมย เพราะต้องการหลุดพ้นจากการกดขี่ของตระกูลอัน หลายปีมานี้เธอทนต่อนิสัยสันดานเสียของอันหย่าฟางมามากพอแล้ว ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นถึงสะใภ้ใหญ่!
อันหย่าฟางสบถไปที แต่ก็ไม่ได้สนใจหานซู่ฉินอีก เพียงครู่เดียวก็กลับคืนสู่สภาพสุขุมเยือกเย็นอีกครั้ง
“หลังจากหมดปิดเทอมฤดูร้อนนี้ ให้เสวียเอร่อและเสวียกงไปพักที่บ้านของพ่อแม่ฉัน ใครจะรู้ว่าพอถึงเวลานั้นคุณแม่ของพวกเราจะเลอะเลือนจนอาจทำร้ายลูกชายฉันอีก!”
อันหย่าฟางพูดขึ้นอย่างเย็นชา ไม่ไว้หน้าคุณย่าแม้แต้น้อย หานซู่ฉินมองดูด้วยความอิจฉา
หากตระกูลเธอนั้นแข็งแกร่งได้เท่าตระกูลอัน เธอคงไม่จำเป็นต้องนั่งปั้นหน้ายิ้มให้ยายแก่ และทำตัวอ่อนน้อมอยู่แบบทุกวันนี้หรอก?
อย่าว่าแต่จ้าวอิงหย่งที่ปกติเป็นคนโมโหร้าย พออยู่ต่อหน้าของภรรยาเขาเชื่อฟังเสียยิ่งกว่าบรรดาลูกชาย ไม่กล้าค้านแม้แต่ประโยคเดียว และเห็นพ้องต้องด้วยไปโดยปริยาย
ในบรรดาลูกชายทั้งหมด คนที่คุณย่าเป็นกังวลมากที่สุดคือจ้าวอิงหย่ง คนที่เธอทำอะไรไม่ได้ที่สุดคือจ้าวอิงหัว พอจ้าวอิงหย่งได้ระเบิดอารมณ์ เธอก็ดูหงอยไปเลย ความกำเริบเสิบสานที่เคยมีก็หายไปจนเกลี้ยง
………………………………………….