ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 912 เหมยเหมยคนหน้าด้าน + ตอนที่ 913 สาวคนสำส่อน
ตอนที่ 912 เหมยเหมยคนหน้าด้าน
เซียวจิ่งหมิงเดินตัวลอยกลับไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ถึงแม้จะเดินชนเสาไปถึงสามครั้งแต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ แถมยังยิ้มอย่างมีความสุข
เซียวจิ่งหมิงที่เดินไปจนถึงหน้าประตูใหญ่ จู่ ๆก็วิ่งกลับมาตะโกนใส่อาจารย์เซียวเสียงดัง “พ่อต้องจัดการอย่างยุติธรรม ถ้าเซ่อเซ่อของผมโดนรังแก ผมไม่มีวันรามือแน่”
พูดจบเขาก็ส่งสายตาให้ลูกสาวอีกครู่หนึ่งราวกับกำลังบอกว่า ‘ลูกสาวอย่าได้กลัวไป มีป่าปี๊อยู่ไม่มีใครกล้ารังแกหนูหรอก…’
เพียงแต่–
ยัยหนูเซียวกลับยืนกอดอกหันหลังให้เขาด้วยความเท่
ยัยหนูคนนี้กำลังนึกเสียใจภายหลัง…เมื่อกี้เธอต้องสมองพร่าเบลอไปแล้วแน่ ๆ ทำไมถึงจูบลาแตงกวาแก่นั่นไป?
หัวเธอต้องโดนช้างถีบเข้าแล้วแน่ ๆ!
เซียวเซ่อเมินเฉยต่อความรู้สึกอบอุ่นที่วาบขึ้นมากลางใจในตอนที่เธอกอดเซียวจิ่งหมิง รวมถึงความรู้สึกที่เหมือนเลือดในกายกำลังสูบฉีด
มันเป็นความรู้สึกทั้งสองแบบที่เธอไม่ชอบ เธอชอบความเย็นชากับความหนาวเหน็บและดื่มด่ำกับความโดดเดี่ยว
สิบปีก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี ทำไมตอนนี้เธอถึงมีความรู้สึกแบบนี้ได้ล่ะ?
เซียวจิ่งหมิงไม่สนใจความเย็นชาของลูกสาวใบหน้ายังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากเตือนพ่อตัวเองเสร็จคุณศิลปินคนเก่งแสนบื้อคนนี้ก็เดินชนเสาอีกครั้งก่อนจากไป
โดยครั้งนี้ไม่ได้พุ่งตัวย้อนกลับมาอีก!
อาจารย์เซียวสีหน้าดูแย่เล็กน้อย เขาไม่ชอบเวลาที่จัดการกับปัญหาในครอบครัวแล้วมีคนนอกอยู่ด้วย หากไม่ใช่เพราะลูกชายบอกไว้ เขาต้องเชิญให้จ้าวเหมยออกไปรออยู่ข้างนอกเป็นแน่
หวังว่าจ้าวเหมยจะรู้มารยาท ไม่ต้องให้เขาเตือนก็ถอยออกไปอย่างรู้หน้าที่ แต่–
เหมยเหมยทำสีหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงแต่เธอที่รู้ว่ากำลังเผชิญกับสายตาดุดันของอาจารย์เซียวแต่ยังต้องทำตัวปกติ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้เลย
“จ้าวเหมย งานเลี้ยงเลิกแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่พ่อฉันจะจัดการกับปัญหาในครอบครัว เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาทไปหน่อยเหรอ?” เซียวเวยพูดตำหนิ
เหมยเหมยยังเรียบนิ่งดังภูผาพลางตอบกลับอย่างใจเย็น “คุณลุงเซียวฝากฝังฉันไว้ เรื่องที่ถูกไหว้วานมาฉันคงผิดคำพูดไม่ได้”
ไฟโทสะของเซียวเวยปะทุขึ้นมาอีกรอบ ด่ากราด “เธอหมายความว่ายังไง? คิดว่าเราจะรังแกเซียวเซ่อหรือไงกัน?”
เหมยเหมยลูบจมูกหน่อย ๆ พลางอมยิ้มตอบ “ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นนะ…”
ทั้งที่เธอเป็นคนพูดเองนี่นา!
เห็นเซียวเวยโกรธจนหน้าดำหน้าแดงเพราะตัวเอง เหมยเหมยก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็เพราะยัยนี้เพิ่งช่วยอู่เยวี่ยมาสั่งสอนตัวเอง ตอนนี้เธอยังไม่หายโกรธเลย!
อาจารย์เซียวกระแอมเสียงไอทำให้ทุกคนยืนตัวตรงไม่กล้าโหวกเหวกโวยวายอีก เหมยเหมยที่เห็นดังนั้นก็ไม่กล้าทำตัวเสียมารยาท ยืนตัวตรงอยู่กับที่
“เซ่อเซ่อ หลานอธิบายให้ฟังหน่อยว่ารูปนี้มันยังไงกัน?”
อาจารย์เซียวชี้ไปที่ภาพวาดบนกำแพงด้วยน้ำเสียงที่ไม่เร่งเร้าเท่าไร
“ก็แค่ภาพวาดภาพเดียว หนูไม่เข้าใจว่าภาพของหนูไม่ดีตรงไหน เหมยเหมยเธอรู้มั้ย?” เซียวเซ่อมองไปทางเพื่อนสนิท
เหมยเหมยส่ายศีรษะอย่างจริงจัง “ไม่รู้ ฉันว่ารูปนี้วาดได้ดีมาก เซ่อเซ่อฝีมือเธอเก่งขึ้นอีกขั้นแล้วนะ ดูการไล่สีอันนี้สิ แรงของพู่กัน การจัดภาพ…มันสมบูรณ์แบบมาก…เซ่อเซ่อ ฉันต้องขยันกว่านี้แล้ว ไม่งั้นฉันคงไล่ตามเธอไม่ทัน…”
เธอพูดยกยอปอปั้นเซียวเซ่อไม่หยุด ชื่นชมจนเกินจริง ชมจนเซียวเซ่อหน้าบานเป็นดอกไม้หนึ่งดอก เซียวเซ่อที่ไม่รู้สึกผิดสักนิดก็รับคำชมไว้แต่โดยดี
“จ้าวเหมยเธอแกล้งโง่ทำไม รูปนี้เซียวเซ่อกำลังประชดแม่ฉันอยู่ชัด ๆ คนตาบอดยังดูออกเลย” เซียวเวยแย้งขึ้นมาเสียงดัง
………………………………………………………………………….
ตอนที่ 913 สาวคนสำส่อน
ในเวลานี้เหมยเหมยทำได้เพียงแค่แกล้งโง่ให้ถึงที่สุด เธอแสร้งมองไปที่รูปอย่างสงสัย จ้องอยู่ครู่ใหญ่ถึงแบมืออย่างใสซื่อ “ฉันดูไม่ออกจริง ๆ ฉันดูซ้ายดูบนดูล่างก็ไม่รู้ว่าตรงไหนที่กำลังประชดคุณนายเซียวสี่”
เซียวเวยที่กำลังโกรธจึงหลุดปากออกมา “จ้าวเหมยเธอมันโง่ รูปนี้กำลังบอกว่าแม่ฉันเป็นคนสำส่อน…”
“อุ๊บ”
เซียวเซียงอดไม่ได้จึงเผลอหลุดอุทานออกมา ด้วยความที่พ่อแม่ของเธอเป็นคนสงบเสงี่ยมเลยรีบยิ้มเป็นเชิงว่าขอโทษให้อาจารย์เซียวก่อนจะถลึงตาดุใส่ลูกสาว เซียวเซียงเบะปากอย่างไม่ใส่ใจแล้วก็กลับมาเบิกบานราวดอกไม้อีกครั้ง
รูปนี้ของเซียวเซ่อแก้แค้นได้สะใจจริง ๆ!
เหมยเหมยกับเซียวเซ่อเบิกตากว้างอย่างพร้อมเพรียงแล้วถามเซียวเวย “เธอดูออกได้ยังไงว่ากำลังหมายถึงคนสำส่อน?”
เซียวเวยชี้ไปที่รูปด้วยความโกรธแล้วตะคอกเสียงดัง “บนผิวน้ำมีแต่กลีบดอกหยาง ถ้านี่ไม่ได้กำลังสื่อว่าสำส่อนแล้วหมายความว่ายังไง? พวกเธอจะแกล้งโง่ทำไมอีก?”
เหมยเหมยยิ้มตอบกลับอย่างจริงใจ “คุณเซียว ฉันโง่จริง ๆ ดูไม่ออกจริง ๆ ว่ารูปนี้มันสื่อความหมายลึกซึ้งขนาดนั้น”
เซียวเซ่อเองก็ตอบกลับอย่างจริงใจ “ฉันก็แค่วาดไปอย่างนั้น แต่พวกเธอดูแล้วสื่อความหมายได้ขนาดนี้ เก่งจริง ๆ!”
เธอยกนิ้วโป้งให้เซียวเวย พร้อมขอรับคำสอนอย่างถ่อมตัว “สำส่อนหมายถึงยังไงเหรอ? เป็นคำที่ไม่ดีเหรอ?”
ความโกรธของเซียวเวยถูกอัดอั้นไว้กลางอก เธอใกล้จะบ้าตายเพราะยัยสองคนที่แกล้งโง่นี้อยู่แล้ว อยากจะเอาค้อนมาไล่ทุบให้รู้แล้วรู้รอด แต่คุณพ่อต้องไม่เห็นด้วยแน่ ๆ
หูเซียงหลันยิ่งโกรธมากกว่าเพราะรูปของเซียวเซ่อจี้จุดอ่อนของเธอพอดี เธอไม่ชอบได้ยินคนอื่นหาว่าเธอสำส่อนเป็นที่สุด บอกว่าเธอยั่วอาจารย์เซียว แม้ความจริงจะเป็นเช่นนั้นแต่เธอไม่มีวันยอมรับ
“เหล่าเซียวคุณดูสิ ฉันอยู่บ้านนี้ไปจะมีความหมายอะไรอีก? ไม่มีใครเห็นฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันสักคน…”
หูเซียงหลันปิดหน้าร้องไห้ท่าทางดูเสียใจจับใจ
เซียวเซ่อแค่นเสียงใส่ “อยู่ไปไม่มีความหมายยังหน้าด้านอยู่มาตั้งหลายปี?”
หูเซียงหลันถูกกระตุ้นความโกรธจนหยุดร้องไห้ ไม่สนใจว่าจะเสียภาพความเป็นหญิงอ่อนโยนต่อหน้าสามีอีกต่อไป หยิบไม้ขนไก่บนโต๊ะตวัดมาทางเซียวเซ่อ
“ไอ้เด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่เคารพผู้ใหญ่!”
เดิมเหมยเหมยคิดว่าเซียวเซ่อจะหลบแต่ใครจะคาดคิดว่ายัยโง่นี้กลับไม่หลบแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เชิดมองอย่างไม่ยอมแพ้ ดูท่าทางจะยอมรับไว้แต่โดยดี
โอ้แม่เจ้า!
เหมยเหมยหลุดปากด่าว่า ‘โง่’ ไปทีแล้วก็รีบคว้าเซียวเซ่อให้หลบจากการจู่โจมของหูเซียงหลัน ก่อนตะคอกใส่หูเซียงหลัน “คุณนายเซียวสี่อย่าล่วงเกินเชียว คุณย่าแท้ ๆของเซ่อเซ่ออยู่ประเทศอังกฤษ เรื่องสั่งสอนเป็นหน้าที่ของย่าแท้ ๆของเธอ คุณจะก้าวก่ายเรื่องนี้ทำไม!”
ว่าแล้วเธอก็ถีบเซียวเซ่อแรง ๆไปอีกทีพร้อมตะคอกเสียงต่ำ “เธอโง่หรือไง ถ้าโดนเมียน้อยตีเธอแบบนี้ ย่าแท้ ๆเธอต้องโกรธตายแน่ ๆ เธอเชื่อไหมล่ะ?”
เซียวเซ่อได้สติกลับมาทันที นั่นสิ เธอจะยอมโดนศัตรูของคุณย่าทำร้ายร่างกายได้อย่างไร?
ไม่ได้การแล้ว!
เซียวเซ่อที่เพิ่งได้สติก็ใช้ไหวพริบเล็กน้อยแย่งไม้ขนไก่จากหูเซียงหลันแล้วจงใจโยนออกไปให้หล่นลงในแจกันโบราณตรงมุมกำแพงอย่างแม่นยำ
ไม่มีใครทันสังเกตเห็นว่าขณะที่เหมยเหมยเอ่ยถึงคุณย่าแท้ ๆของเซียวเซ่อ สีหน้าอาจารย์เซียววูบไหวเล็กน้อย แววตายังสื่อความว่าคิดถึง ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งคนนั้นเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เขากำราบไม่ได้ และเป็นเรื่องที่เขาลืมไม่ลงจนชั่วชีวิต
“พอแล้ว คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด ในเมื่อเซ่อเซ่อไม่ได้ตั้งใจเรื่องนี้ก็จบลงแค่นี้ จากนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามพูดถึงอีก”
อาจารย์เซียวตัดสินคำขาด ตัดสินว่ารูปที่สื่อด้วยความหมายประชดประชันนี้เป็นเพียงความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
………………………