ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 918 เศษเสี้ยวของความทรงจำ + ตอนที่ 919 หนอนบุ้งกับกุนเชียง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 918 เศษเสี้ยวของความทรงจำ + ตอนที่ 919 หนอนบุ้งกับกุนเชียง
ตอนที่ 918 เศษเสี้ยวของความทรงจำ
เหมยซูหานคิดดูแล้วว่าจริง ๆในตอนนี้ต่อให้เขาหนีก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของเฮ่อเหลียนเช่อ หากเขายังแสดงอาการไม่ดีใส่ผู้ชายคนนี้ แล้วถ้าหากเฮ่อเหลียนเช่อหมดความอดทนเมื่อไรนั่นอาจจะไม่ใช่ผลดีสำหรับเขาแน่ ๆ
ในเมื่อหนีไม่พ้น ถ้าอย่างนั้นสู้ให้เขาคอยอยู่สังเกตการณ์ข้าง ๆเฮ่อเหลียนเช่อเลยยังดีกว่า
เชื่อว่าจากเศษเสี้ยวความทรงจำที่ปรากฏในฝันของเขานั้น เขาสามารถทำให้เฮ่อเหลียนเช่อไม่บังคับฝืนใจเขาได้
ต่อให้ตัวเขายังไม่มีความมั่นใจเลยสักนิดแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องลอง นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขา ไม่แน่เขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้นก็ได้!
เหมยซูหานพยายามย้อนคิดถึงเศษเสี้ยวความทรงจำเหล่านั้น ตามวันเวลาที่ผ่านไปเขาเริ่มนึกบางสิ่งบางอย่างของชาติที่แล้วได้บ้างเป็นครั้งคราว ช่วงนี้สิ่งที่ปรากฏล้วนเป็นหนังสือจิตวิทยา เขาอ่านมันทุกหน้าอย่างละเอียดและมีการบันทึกโน้ตไว้
ชาติที่แล้วเขาอ่านหนังสือจิตวิทยาชื่อดังของต่างประเทศมากมาย เศษเสี้ยวความทรงจำเหล่านี้ ณ ตอนนี้กลายเป็นคลังความรู้ของเขา ขอแค่เขาย้อนนึกดี ๆก็จะได้ความรู้ทุกอย่างกลับคืนมาโดยไม่มีข้อผิดพลาด
สำหรับอาการป่วยของคนประเภทเฮ่อเหลียนเช่อนั้นก็เคยถูกพูดถึงในหนังสือ เป็นอาการที่จิตปฏิเสธตัวตนและปฏิเสธสังคม ทำทุกอย่างที่อยากทำตามอำเภอใจ
ถึงแม้คนประเภทนี้ดูเหมือนจะใจกล้าไร้ขอบเขตและไม่มีท่าทีสนใจต่อใครหรือสิ่งใด แต่ในความเป็นจริงในหัวใจของพวกเขาล้วนมีปมในชีวิต หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดที่อ่อนโยนที่สุด
ขอแค่เขาจัดการกับจุดอ่อนจุดนี้ของเฮ่อเหลียนเช่อได้ เฮ่อเหลียนเช่อก็จะต้องเชื่อฟังเขา
เหมยซูหานได้คิดถึงแผนการต่อไปเรียบร้อยแล้ว เขาก็รู้ว่านี่เป็นขั้นตอนที่ยาวนานและแสนจะเจ็บปวด แต่เขาจะต้องเข้มแข็งเพราะเขาอยากมีชีวิตที่ดี และอีกอย่างเขาก็อยากให้เหมยเหมยยังมีชีวิตต่อไป
“ฉันอยากให้อู่เยวี่ยกลับเมืองจิน ช่วยจัดการให้ทีได้ไหม?” เหมยซูหานแอบให้กำลังใจตัวเองพลางใช้น้ำเสียงปกติคุยกับเฮ่อเหลียนเช่อ
เฮ่อเหลียนเช่อชะงักไปก่อนที่จะรู้สึกดีใจตามมาแล้วพยักหน้าตอบรับรัว ๆ “ไม่มีปัญหา เรื่องเล็กน้อย ฉันจะสั่งให้คนจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้ เดินทางได้ในวันพรุ่งนี้เลย”
และแล้ววันนี้ก็มาได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ!
ดอกเหมยน้อยของเขาคิดได้แล้วหรือนี่?
นอกจากจะทำตัวอ่อนโยนนุ่มนวลกับเขาแล้ว ยังเป็นคนเสนอให้ส่งตัวอู่เยวี่ยที่น่ารำคาญกลับไปก่อน ฮ่า ๆไม่เลว เลย เขาต้องสู้ต่อไปเพื่อให้ดอกเหมยน้อยโผเข้าหาอยู่ในอ้อมกอดด้วยตัวเองถึงจะดี!
เฮ่อเหลียนเช่อจินตนาการอย่างมีความสุข จู่ ๆเขาก็รู้สึกว่าการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองชอบโดยไม่ต้องทำสิ่งที่มักจะกันทำบ่อย ๆ เอาเข้าจริงแค่ได้คุยกันเฉย ๆก็ดีเหมือนกัน!
เหมยซูหานดื่มน้ำแตงโมไปก็แอบสังเกตเฮ่อเหลียนเช่อไป บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์ดีสินะ สีหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อถึงดูผ่อนคลายมากไม่ได้เย็นยะเยือกเฉกเช่นปกติ แถมยังแฝงความอบอุ่นอยู่บ้างเล็กน้อย
ความจริงเฮ่อเหลียนเช่อที่ไม่ตีหน้านิ่งก็ดูสบายตาดี…
วันรุ่งขึ้นเหมยเหมยก็ได้ข่าวว่าอู่เยวี่ยไปที่สนามบินโดยมีเหมยซูหานเป็นคนไปส่ง แต่เหมยซูหานไม่ได้ขึ้นเครื่อง มีเพียงอู่เยวี่ยที่กลับไปเพียงลำพัง
เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เหมยซูหานมาเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองหลวงก็ต้องอยู่ต่อ อู่เยวี่ยก็ไม่ใช่คนที่นี่สักหน่อย อย่างไรเสียเธอก็ต้องกลับเมืองจินอยู่แล้ว เพียงแต่แค่กลับเร็วไปหน่อยก็เท่านั้น
ถึงเหมยเหมยจะแปลกใจแต่ก็ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องพวกนี้ หลายวันมานี้เธอกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่!
เดิมทีเธออยากให้ลุงเฉินช่วยหาเรือนสี่ประสาน แต่พอเหยียนหมิงซุ่นรู้ก็ให้ลูกน้องของเขาช่วยตามหา คนพวกนี้ทำงานมีประสิทธิภาพ นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันก็หาได้ตั้งหลายหลัง มีทั้งเล็กทั้งใหญ่มากกว่าสิบหลัง
เรือนสี่ประสานพวกนี้มีแค่สองหลังที่อยู่ในเขตเมืองนอกนั้นอยู่แถบชานเมือง ตอนนี้อาจจะดูไกลหน่อยแต่หากผ่านไปสักยี่สิบปี เมืองหลวงขยายเขตไปไกลถึงวงแหวนที่ห้าที่หกก็นับว่าอยู่เขตในเมืองแล้ว
บ้านราคาทองทั้งนั้น!
…………………
ตอนที่ 919 หนอนบุ้งกับกุนเชียง
“เอาหมดเลย!”
เหมยเหมยตบมือตกลงซื้อบ้านทั้งหมดตามสไตล์คนมีเงิน
“พรวด”
เซียวเซ่อที่กำลังดื่มน้ำแตงโมอยู่ไม่ทันปิดปาก ทำน้ำพุ่งใส่ตัวสยงมู่มู่ที่อยู่ข้างเธอจนเปียกชุ่ม ทำเอาสยงมู่มู่กระโดดลุกพรวดด้วยความโมโห
“เซียวเซ่อเธอจงใจใช่ไหม? เธอจะพ่นน้ำทำไมไม่พ่นไปตรง ๆ? ทำไมต้องโค้งกลับมาพ่นใส่ตัวฉันด้วย!”
สยงมู่มู่มองน้ำแตงโมบนตัวบนมืออย่างรังเกียจ สีแดงเหมือนสีเลือด แล้วยังเคยอยู่ในปากของปีศาจที่ไม่รู้ว่าเพศชายหรือเพศหญิงนี่อีก สยงมู่มู่โวยวายอย่างบ้าคลั่ง
แม้เซียวเซ่อรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดแต่ก็ทำท่าทางเหมือนว่า ‘สมน้ำหน้า’ แถมยังเถียงคอเป็นเอ็น “ข้างหน้าคือเหมยเหมย ฝั่งซ้ายคือเจ้าอ้วนน้อย ถ้าฉันไม่พ่นใส่ฝั่งขวาจะให้พ่นใส่ทางไหน? ใครให้นายมานั่งฝั่งขวาฉันล่ะ!”
สยงมู่มู่โกรธจนแทบกระอักเลือด เขากลอกตาใส่ไปทีแล้วหยิบน้ำแตงโมที่ดื่มไปแล้วครึ่งแก้วอมไว้ในปากคำโต สบโอกาสที่เซียวเซ่อไม่ทันระวังก็พ่นใส่เธอ
“ใครให้เธอมานั่งฝั่งซ้ายฉันล่ะ…”
สยงมู่มู่เองก็ทำหน้าราวกับสมน้ำหน้า น้ำแตงโมบนตัวเซียวเซ่อมีมากกว่าเขาจนเลอะไปถึงผม
“อา…สยงมู่มู่นายตายแน่…”
“…มาสิ…แน่จริงก็มาจับฉันสิ…ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว…อ๊าก…นี่เธอยังใช่ผู้หญิงอยู่ไหมเนี่ย ฉันถอดเสื้อผ้าแล้ว เธอโรคจิตหรือไง…รีบออกไปสิ…”
เซียวเซ่อกับสยงมู่มู่มัวแต่วิ่งไล่จับกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยไม่ทันระวังเซียวเซ่อก็ตามไปจนถึงห้องอาบน้ำ
“ตะโกนอะไร…อีกอย่างของนายที่เล็กยิ่งกว่าหนอนบุ้ง ให้ดูฟรี ๆฉันก็ไม่อยากดูหรอก เหอะ…”
เซียวเซ่อกอดอกมองท่อนบนที่เปลือยเปล่าและขาวราวกับไก่ต้มของสยงมู่มู่ด้วยมาดเท่ ๆ ดวงตากลับจ้องที่กึ่งกลางลำตัวของเขาพลางทำหน้ารังเกียจ
สยงมู่มู่จึงเปลี่ยนจากความอายเป็นความโกรธ และโมโหตามมา…
ความโกรธมักทำให้คนเสียสติได้ง่ายโดยเฉพาะกับคนสองคนที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างคนอัจฉริยะกับคนโง่ อย่างพวกอัจฉริยะด้านความรู้แต่เป็นคนโง่ด้านความรัก อารมณ์ผลีผลามมักจะทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในอารมณ์ชั่ววูบ
สยงมู่มู่ที่ถูกเซียวเซ่อยั่วโมโหเข้า ต่อให้ตายก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ ภายใต้ความโกรธเขาจึงปลดกระดุมกางเกง…แล้วถอด…
“ลืมตาดูให้ดี ของฉันใหญ่กว่าหนอนบุ้งใช่ไหมล่ะ?” เสียงตะคอกอย่างได้ใจเรียกให้เหมยเหมยกับเจ้าอ้วนน้อยที่อยู่ห้องนั่งเล่นเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน แล้วต่างมองหน้ากัน
นี่มันเรื่องอะไร?
อะไรที่ใหญ่กว่าหนอนบุ้ง?
เหมยเหมยเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ คงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอกนะ?
สองคนนี้เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ?
เซียวเซ่อจะรู้ได้อย่างไรว่าสยงมู่มู่จะถอดกางเกงจริง ๆ จนเธอเห็นทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง อีกทั้งดวงตาที่ผ่านการฝึกวาดรูปมาของเธอนั้นก็เริ่มวาดรูปร่างในหัวได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่คลาดเคลื่อนเลยสักนิดเดียว
แน่นอน…ว่าต้อง…ใหญ่กว่าหนอนบุ้งอยู่มาก…
ทำให้เธอต้องทึ่งกับสิ่งที่เห็น…
ไก่อ่อนตัวนี้ก็รูปร่างดีเหมือนกันนี่!
เซียวเซ่อเหลือบมองนิ่ง ๆด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ก็แค่นั้นแหละ ดีกว่าหนอนบุ้งนิดหน่อย…”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปข้างนอกอย่างไร้อารมณ์ โดยไม่มีใครสังเกตเห็นปลายหูที่กำลังแดงเถือกของเธอ
สยงมู่มู่ที่เพิ่งรู้สึกตัวทีหลังก็เริ่มเขินอาย เขาดึงกางเกงขึ้นอย่างหงุดหงิดแล้วตะคอกเสียงดังปานใจจะขาด “จะยังไงก็ดีกว่าทอมบอยอย่างเธอ ข้างหน้าแบนราบ เจ้าอ้วนยังดูมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าเธอด้วยซ้ำ…”
เจ้าอ้วนน้อยที่อยู่ ๆก็โดนพาดพิงตัวสะท้าน จากนั้นก็นึกโกรธแล้วพูดเสียงค้านไปยังทิศทางของห้องอาบน้ำ “สยงมู่มู่นายกับเซียวเซ่อหยอกเอินกันทำไมต้องลากฉันไปเกี่ยวด้วย? เดี๋ยวฉันจะโกรธแล้วนะ!”
“ใครหยอกเอินกับเจ้าทอมบอยนั่น? ฉันไม่ได้ตาบอดสมองเสื่อมสักหน่อย!” สยงมู่มู่รู้สึกโดนหยามอย่างถึงที่สุด
เซียวเซ่อที่เดินไปถึงครึ่งทางก็ย้อนกลับมาถีบประตูห้องอาบน้ำออก พลางพูดเสียงเย็นชาใส่หนุ่มรูปงามที่ใบหน้าบูดบึ้งประโยคหนึ่ง “กุนเชียงอย่างนาย ฉันมาหานายแล้วต่างจากคู่รักเลสเบี้ยนยังไง?”
……………………..