ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 934 อาการเบื่ออาหาร + ตอนที่ 935 อร่อย อร่อย
ตอนที่ 934 อาการเบื่ออาหาร
อาหารของฟาร์มแห่งนี้เป็นอาหารที่อ่อนนุ่มมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะเฮ่อเหลียนชิงไม่ชอบทานอะไรเลย และเขายังมีอาการเบื่ออาหารชนิดรุนแรง ซึ่งมันเรื้อรังมานับหลายปี
เดิมทีผู้ป่วยที่มีอาการเบื่ออาหารรุนแรงอย่างเขา ในตอนนี้บนหลุมศพคงมีหญ้าแห้งขึ้นเต็มไปหมดอย่างแน่นอน
แต่ใครใช้ให้ประเทศนี้ทนเห็นเฮ่อเหลียนชิงตายไม่ได้กันล่ะ เพราะงั้นข้างกายของเขาจึงมีทีมแพทย์ประจำตัวที่คอยประจำการอยู่ในทุกช่วงเวลา หน้าที่เดียวของพวกเขาก็คือการคิดค้นวิธีการที่จะทำให้เฮ่อเหลียนชิงนั้นมีชีวิตที่ยืนยาว
ไม่กี่ปีมานี้อาการของเขาก็เบาลงไปเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะตัวเขาเองนั่นแหละที่ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ!
เขามักจะฝืนใจตัวเองให้กินอาหารอ่อนพวกนั้น แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หากมากไปก็จะทำให้อาเจียน สิ่งที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สำคัญของเขา นั่นก็คือการที่เขายังคงต้องพึ่งยาบำรุง
เฮ่อเหลียนชิงกัดน่องไก่เข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นเนื้อที่ห่างหายไปนานได้แทรกซึมไปทั่วทั้งช่องปาก ต่อมรับรสที่ไม่ได้ทำงานมานานได้รับรู้ถึงรสชาติแสนอร่อยของเนื้อไก่ จากนั้นจึงส่งสัมผัสแสนอร่อยของเนื้อไก่ไปยังเปลือกสมองของเขา เพียงแต่…
ส่วนเปลือกสมองของเขานั้นกลับทำให้รสชาติที่แสนอร่อยนี้เปลี่ยนเป็นรสชาติที่น่าสะอิดสะเอียนไปโดยอัตโนมัติ จนกลายเป็นความรู้สึกผะอืดผะอมชวนอ้วกขึ้นมา
เฮ่อเหลียนชิงไม่อยากแสดงด้านที่อ่อนแอของตนต่อหน้าเหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่น จึงฝืนทนต่อความรู้สึกสะอิดสะเอียนด้วยการกลืนเนื้อไก่ลงไป ท่าทีของเขาดูแย่ลงไปมากกว่าเดิม
ลูกน้องของเขาจึงรีบถามด้วยเสียงเบา ๆว่าให้หยิบกระโถนมาให้ไหมครับ เฮ่อเหลียนชิงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้อง คีบหอยขมมาให้ฉันหน่อย”
เห็นภาพที่เหมยเหมยนั่งกินราวกับผีจอมหิวโหย รสชาติหอยขมคงจะไม่เลวนัก!
ลูกน้องของเขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะออกอาการดีใจ หลายปีมานี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่คุณท่านบอกเองว่าต้องการทานอาหาร!
เขารีบคีบหอยขมหลายตัวมาวางบนจานใบเล็ก จากนั้นวางลงตรงหน้าของเฮ่อเหลียนชิง “คุณท่าน ให้ผมแคะเนื้อออกมาให้ไหมครับ?”
“ไม่ต้อง ฉันจะดูดกินเอง!”
เอาเข้าจริงนี่นับว่าเป็นการกินหอยขมครั้งแรกของเฮ่อเหลียนชิงเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เขาเป็นคนทางเหนือจึงไม่เคยกินของพวกนี้ แต่เขากลับคิดว่าคงดูดไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก ไม่เห็นหรือว่าจ้าวเหมยดูดขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย!
หรือคิดว่าเขาจะสู้แม่เด็กคนนี้ไม่ได้?
แต่ในจังหวะที่เขาคีบหอยขมตัวเล็ก ๆ ลื่น ๆขึ้นมาด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆเพียงแค่ส่งเข้าปากก็เกิดเสียง ‘เคร้ง’ ดังขึ้นหนึ่งครั้ง และนั่นคือเสียงหอยขมที่หล่นล่วงและหมุนติ้ว ๆกลิ้งลงสู่พื้น…
เฮ่อเหลียนชิงหน้าแข็งทื่อ เหลือบมองไปทางเหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นแค่แวบเดียว ยังดีที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่ จึงไม่เห็นว่าเขาได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า
และอีกครั้งที่เขาคีบหอยขมตัวเล็กขึ้นมา คีบไว้แน่นโดยใช้พละกำลังทั้งหมดที่เขามีอยู่
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มใส่เจ้าหอยขมอย่างได้ใจ แล้วก็ส่งหอยขมเข้าปาก ลอกเลียนแบบท่าทีของเหมยเหมย โดยใช้ปากออกแรงดูด…ไม่มีเนื้อ…จากนั้นก็ออกแรงดูดอีกครั้ง…
ดูดจนแสบร้อนที่มุมปาก ทำให้เขาเกิดอาการสำลักจนไอ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว น้ำหูน้ำตาไหลพราก แต่นั่นกลับช่วยลดอาการผะอืดผะอมตอนกินเนื้อไก่นั้นไปได้จนหมด
ลูกน้องของเขาจึงรีบตักน้ำแกงมาให้เขาถ้วยหนึ่ง เฮ่อเหลียนชิงยกขึ้นดื่มราวกับว่านั่นเป็นน้ำวิเศษที่ช่วยชุบชีวิตก็มิปาน เขาดื่มแกงชามนั้นไปจนหมด ถึงทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แต่เขากลับไม่รู้ตัวเองว่าเมื่อครู่เขาได้ดื่มแกงถ้วยเล็กเข้าไป และยังดื่มมันจนหมดอีกด้วย
ข้างตัวของเฮ่อเหลียนชิงมีลูกน้องสองคนยืนอยู่ พวกเขาได้ผลัดกันส่งความตื่นเต้นผ่านทางสายตา แต่ท่าทียังคงสงบนิ่งดังเดิม ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้นและยังคงยืนนิ่งอยู่เหมือนเดิม
เหมยเหมยก็กินหอยขมตัวเล็กเข้าไปอีกหลายสิบตัว มันเผ็ดร้อนจนทนไม่ได้ จึงซดน้ำแกงเข้าไปอีกเกินครึ่งถ้วย จากนั้นจึงคีบกินอาหารอื่นเข้าไปด้วย ฉับพลันเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“กับข้าวพวกนี้อร่อยนะคะ แต่ดูเละไปหน่อย เหมาะกับการทำให้คนชรากินเป็นที่สุด!”
เธอไม่ได้กินอาหารอย่างอื่นอีก ถึงแม้ว่ารสชาติจะไม่เลวนักแต่ความเป็นจริงคือมันเละเกินไปจนแทบไม่ต้องเคี้ยว ก็เหมือนกับโจ๊กหูหู่ที่ทำจากแป้งข้าวโพด ต่อให้อร่อยแค่ไหนแต่ตอนนี่เธอก็ไม่ได้ป่วยสักหน่อย
เฮ่อเหลียนชิงกลอกตามองเหมยเหมยไปทีหนึ่ง ไม่รู้จักการพูดเอาเสียเลย อะไรคือคำว่าเหมาะที่จะทำให้คนชรากิน อาหารที่ทำจนเละแบบนี้สิถึงจะมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย!
หอยขมที่ใช้เวลาอันเนิ่นนานก็ยังไม่อาจจะเอาชนะได้ และนั่นก็กระตุ้นให้เฮ่อเหลียนชิงรู้สึกอยากที่จะเอาชนะขึ้นมา เขาจึงอดทนต่อความเผ็ดที่ลำคอเอาไว้ จากนั้นคีบหอยขมขึ้นมาแล้วออกแรงดูด
ในที่สุดก็ดูดออกมาได้ แม้แต่ลำไส้ก็ยังหลุดออกมาด้วยนะ
…………………………………………………….
ตอนที่ 935 อร่อย อร่อย
ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมยเหมยเห็นเข้าพอดี จึงรีบพูดห้ามเสียงดัง “นั่นส่วนตูดมันกินไม่ได้ สกปรก!”
เฮ่อเหลียนชิงที่กำลังได้ใจอยู่นั้น พอรู้สึกตัวจึงรีบคายเนื้อหอยขมที่มีลำไส้ติดอยู่ออกมาจากปาก
เนื้อหอยขมเล็กเท่าขนาดเล็บมือ แต่ไส้กลับขดเป็นก้อน
“ลำไส้กินไม่ได้ ข้างในมีเชื้อโรคอยู่มาก พอเราดูดมันออกมาต้องกัดทิ้ง กินได้เฉพาะเนื้อส่วนหน้า นี่ กินเหมือนหนูแบบนี้”
เหมยเหมยมองปราดเดียวก็รู้ได้ว่าเฮ่อเหลียนชิงไม่เคยกินหอยขมมาก่อน จึงหวังดีทำเป็นตัวอย่างให้กับเขา ดูดเบา ๆ เพียงเล็กน้อยเนื้อหอยขมก็ออกมา เธอใช้ฟันกัดไว้ และยังทำให้เขาได้เห็นส่วนของลำไส้ที่อยู่ด้านในของเปลือกหอย
“กินแบบนี้ค่ะ ถ้าหากคุณดูดไม่ออก ก็ใช้ไม้จิ้มฟันแทงออก นี่ แทงแบบนี้ ง่ายมาก ๆเลยล่ะ”
เหมยเหมยหยิบไม้จิ้มฟันที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งก้าน ใช้มันแทงเอาฝาเปลือกหอยออก และเสียบลงไปในเนื้อหอย จากนั้นใช้แรงเพียงเล็กน้อยเพื่อแคะมันออกมา พร้อมกับตัดส่วนลำไส้เข้ากับส่วนคมของขอบเปลือกหอยให้ขาด เพียงเท่านี้เนื้อหอยขมก้อนกระจิ๋วก็เสียบคาอยู่บนไม้จิ้มฟันแล้ว
เธอวางเนื้อหอยขมไว้ในจานของเฮ่อเหลียนชิง พร้อมทั้งอมยิ้มพูดว่า “คุณลองลิ้มรสดูสิคะ อร่อยมากเลยนะ แต่ช่วงนี้เนื้อหอยขมไม่ค่อยอร่อย ช่วงที่อร่อยที่สุดเป็นช่วงหนึ่งเดือนก่อนถึงวันเช้งเม้ง ที่บ้านเกิดของแม่ฉันมีกรรมวิธีในการทำเนื้อหอยขม(เช้งเม้ง) และเนื้อห่าน(พันธุ์จีน) เนื้อทั้งแน่นทั้งนุ่ม กินได้ทุกวันอย่างไม่รู้เบื่อเลยล่ะ”
เฮ่อเหลียนชิงลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบไม้จิ้มฟันในจานขึ้นมา และกัดเข้าที่เนื้อหอยขมก้อนเล็ก ๆนั่น แล้วเคี้ยวอยู่ในปากอย่างช้า ๆ
แววตาของลูกน้องข้างตัวเขามีแต่ความกังวล จับจ้องไปที่ปากของเฮ่อเหลียนชิงโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตา
ขอบคุณสวรรค์ แม้ว่าเฮ่อเหลียนชิงจะเคี้ยวได้ช้ามาก และเคี้ยวอยู่นานสองนาน แต่ในที่สุดเขาก็กลืนเนื้อหอยลงไป และยังมีท่าทีสงบนิ่งเอามาก
บรรดาลูกน้องต่างลอบถอนหายใจกันไปพลาง พร้อมทั้งรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
นึกไม่ถึงว่าคุณท่านจะชอบทานเนื้อหอยขม ต่อไปนี้ต้องบอกให้ในห้องครัวทำให้ทุกวัน ขอแค่คุณท่านเต็มใจที่จะกิน ต่อให้เป็นนกแพนกวินจากขั้วโลกใต้ พวกเขาก็จะพยายามหามันมาให้ได้
“อร่อยใช่ไหมค่ะ? ดูดกินเองยิ่งอร่อย ต่อให้อยากหยุดก็หยุดไม่ได้”
เหมยเหมยมองแววตาที่ตื่นเต้นของลูกน้องทั้งสองด้วยความแปลกใจ แค่กินเนื้อหอยขมเองไม่ใช่หรือ ไม่ได้กินเนื้อปลาฉลามสักหน่อย จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น?
เฮ่อเหลียนชิงมองเธอแค่แวบเดียว ในเวลานี้เหมยเหมยได้เริ่มดูดกินหอยขมอีกครั้ง เสียงซู้ด ๆดังเข้ามาในโสตประสาทหูอยู่ตลอดเวลา ฟังแล้วก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกคันยุบยิบในใจ และยิ่งทำให้น้ำลายสอไปทั่วปาก
สิบกว่าปีมาแล้ว นับว่าเป็นครั้งแรกที่ความอยากอาหารของเขาทำงานได้แข็งขันขนาดนี้ และสิ่งที่กระตุ้นเขานั้นกลับเป็นแค่หอยขมจานใหญ่ที่ไม่เข้าตานัก
เป็นอีกครั้งที่เขาคีบหอยขมตัวหนึ่งขึ้นมา และไม่ได้ใช้ไม้จิ้มฟันอีก แต่เลือกที่จะดูดมันอีกครั้ง สองสามครั้งแรกยังคงเก้ ๆ กัง ๆอยู่บ้าง แรงที่ใช้ควบคุมยังไม่ดีพอ และมักจะดูดเอาลำไส้ออกมาด้วยตลอด แต่พอดูดไปหลาย ๆครั้ง เขาก็สามารถควบคุมแรงดูดได้
แต่ความเร็วของเขายังคงช้าอยู่ ในขณะที่เขาออกแรงดูดได้เพียงหนึ่งตัว เหมยเหมยนั้นสามารถดูดได้สี่ถึงห้าตัว เขาเห็นดังนั้นจึงรู้สึกคันปากอยากทำได้อย่างนั้นขึ้นมา
“อิจฉาเหรอคะ? กว่าฉันจะทำได้เนี่ยฝึกวิชามานับสองปีเลยนะ แม่ของฉันดูดออกมาได้เร็วกว่านี้อีก แม้แต่เสียงดูดก็ไม่มีให้ได้ยินด้วยล่ะ”
เหมยเหมยรับรู้ถึงสายตาอิจฉาริษยาของฝ่ายตรงข้ามอย่างเฮ่อเหลียนชิง จึงรู้สึกได้ใจเป็นอย่างมาก ความน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกเฮ่อเหลียนชิงด่าเมื่อครู่นั้นได้หายไปจนหมด และยังจงใจทำท่าทางประกอบให้ช้าลง ดูดหอยขมต่อหน้าของเฮ่อเหลียนชิงด้วยความสำราญ
เหยียนหมิงซุ่นเห็นดังนั้นจึงนึกขำขึ้นมา และตักน้ำแกงหนึ่งถ้วยส่งให้กับเหมยเหมย พร้อมทั้งพูดกับเฮ่อเหลียนชิง “หอยขมมีรสเผ็ดเล็กน้อย พ่ออย่าทานแค่อย่างเดียว ต้องทานกับข้าวหรือแกงด้วย”
เหมยเหมยยัดข้าวคำโตใส่ปากเคี้ยวตุ่ย ๆจนแก้มเขยื้อน พยักหน้าให้กับเฮ่อเหลียนชิงไม่หยุด ไม่ง่ายนักที่จะกลืนข้าวลงท้องได้ พอกลืนลงไปได้จึงเอ่ยออกมา “เนื้อหอยขมเหมาะกับข้าวสวยที่สุดแล้ว ทุกครั้งที่กินหอยขมหนูจะกินข้าวเพิ่มอีกหนึ่งจาน”
พูด ๆอยู่ก็ตักข้าวคำโตใส่ปาก ตอนกลางวันเอาแต่นอนอยู่กับเหยียนหมิงซุ่น ไม่ได้กินอะไรเข้าไปเลย ปล่อยให้ท้องว่างอยู่ตั้งนานสองนาน
เฮ่อเหลียนชิงได้แต่กลืนน้ำลายไม่หยุด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แค่เห็นสาวน้อยคนนี้ทานข้าวตนก็รู้สึกตะกละตะกลามขึ้นมาทันที ภายในปากก็เปลี่ยนไปจนรับรู้รสชาติได้ กระเพาะอาหารที่หยุดทำงานมาหลายสิบปีก็กลับมาขยับเขยื้อนอีกครั้ง
ไม่มีแม้แต่อย่างเดียวที่จะไม่กระตุ้นสมองของเขาเลย มันบอกกับเขาว่า…
อร่อย…อร่อย…
……………………………………………………