ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 948 คนเนรคุณ + ตอนที่ 949 คัดสรรด้วยความใส่ใจ
ตอนที่ 948 คนเนรคุณ
พอได้ฟังประวัติอันแสนเศร้าของเฮ่อเหลียนชิง เหมยเหมยก็ใจอ่อนยวบจึงไม่บ่นอีกแต่ถามด้วยความสงสัยแทน “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? ฉันไม่ใช่คุณหมอ รักษาอาการเบื่ออาหารกับนอนไม่หลับของนายท่านของคุณไม่ได้นี่นา!”
เสี่ยวเมิ่งยิ้มกล่าว “ไม่ครับ คุณหนูจ้าวมีผลมากกว่าคุณหมออีก ขอแค่ได้ทานข้าวร่วมโต๊ะกับคุณหนูจ้าว นายท่านก็จะเจริญอาหาร ข้าวที่ทานเข้าไปก็ไม่อ้วกออกมา แถมพอนายท่านทานอิ่มก็จะหลับสบาย”
เหมยเหมยแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะเก่งขนาดนี้?
กลายเป็นยาวิเศษไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เสี่ยวเมิ่งกล่าวอีก “หลายวันมานี้นายท่านกินอิ่มนอนหลับ สุขภาพแข็งแรงขึ้นไม่น้อยแถมยังหนักเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งกิโลกรัม เลยต้องลำบากคุณหนูจ้าวอีก”
จู่ ๆเขาก็จอดรถแล้วโค้งคำนับให้เหมยเหมยอย่างนอบน้อมจนเหมยเหมยตกใจเฮือกใหญ่ รีบลุกแล้วโค้งคำนับกลับด้วยความเกรงใจ เดิมทีเธอเป็นคนที่ยอมจำนนต่อคนที่ใช้ไม้อ่อนมากกว่าใช้ไม้แข็งอยู่แล้วเลยตอบตกลงไปอย่างไม่คิดลังเล
ทำบุญช่วยคนตายยังไม่สู้ช่วยคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถือว่าเป็นการสร้างบุญให้ตัวเองแล้วกัน!
เพราะเหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่เหมยเหมยเลยไม่ได้ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน แค่ก้มหน้าทานข้าว ดีที่กับข้าวอร่อยจริง ๆเธอเลยทานไปไม่น้อย รวมถึงเฮ่อเหลียนชิงก็ทานไปไม่น้อยเช่นกัน
ทานข้าวอิ่มท้องไปหลายวันติดเฮ่อเหลียนชิงดูมีชีวิตชีวาขึ้นจริง ๆ ใบหน้าที่ผอมซูบดูอวบอิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ดูดีกว่าผีเยอะเลย ไหนจะดูแข็งแรงอย่างก้าวกระโดดไม่เหมือนที่ผ่านมา
ความจริงระยะนี้ทานข้าวอิ่มท้องตามเหมยเหมย กระเพาะของเขาเริ่มชินกับอาหาร ต่อให้ไม่มีเหมยเหมยอยู่เขาก็ทานบ้างเล็กน้อย หนึ่งมื้อทานได้ปริมาณไม่มากแต่ทานหลาย ๆมื้อก็ไม่ขย้อนออกมาแล้ว
คุณหมอของเขายังดีใจมากบอกว่าอาการเบื่ออาหารของเขากำลังค่อย ๆหายดี รอผ่านไปอีกสักระยะเขาก็ไม่ต้องฉีดสารอาหารเข้าร่างกายอีกแล้ว เฮ่อเหลียนชิงเองก็ดีใจที่ได้ยินข่าวนี้ ฉีดสารอาหารมาสิบกว่าปี เขาเบื่อเต็มทีแล้ว
ส่วนที่เหมยเหมยมาทานข้าวเป็นเพื่อนเขานั้นล้วนเป็นเสี่ยวเมิ่งที่ตัดสินใจเองโดยพลการ เขาหวังอยากให้เฮ่อเหลียนชิงทานให้มากกว่านี้อีกหน่อย
ส่วนเฮ่อเหลียนชิงคิดว่าเหมยเหมยมาทานข้าวกับเขาเพราะต้องการเอาใจเขามากกว่า อาจจะเพื่อเหยียนหมิงซุ่น หรือเพื่อตัวเธอเอง
ซึ่งทำเอาเฮ่อเหลียนชิงได้ใจอย่างมาก ยายนี่ปากคอเราะราย สุดท้ายก็ต้องมาประจบประแจงเขาอยู่ดี!
เหมยเหมยทานได้เพียงครึ่งเดียวก็ไปเข้าห้องน้ำ หลายวันนี้ประจำเดือนมาเยือนเธอเลยต้องเปลี่ยนผ้าอนามัย เผื่อมันเลอะเปื้อนกางเกง
ผ้าอนามัยในยุคนี้เป็นของนำเข้าทั้งนั้น ของที่ผลิตในประเทศต้องรออีกหลายปีถึงจะมี ผ้าอนามัยนำเข้ามีราคาสูงที่ชาวบ้านปกติทำใจเสียเงินไปซื้อมาใช้ไม่ได้ แต่เหมยเหมยใช้ผ้าอนามัยนำเข้ามาตลอด เธอไม่อยากใช้ผ้ารองประจำเดือนที่ใช้ซ้ำอย่างนั้นเพราะมันน่าขายหน้าจะตาย
เฮ่อเหลียนชิงเบะปากใส่แผ่นหลังเหมยเหมยทีและไม่พอใจกับท่าทีเย็นชาของเธอมาก ในเมื่อจะเอาใจเขา ก็ไม่รู้จักจะกระตือรือร้นสักหน่อยล่ะ!
“รูปที่ให้นายรวบรวมคราวก่อนล่ะ? ได้มาหรือเปล่า?” เฮ่อเหลียนชิงถาม
“ครับ เด็กผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันมีทั้งหมดยี่สิบเอ็ดคน” เสี่ยวเมิ่งตอบ
เฮ่อเหลียนชิงพยักหน้าอย่างพอใจ พลางกล่าว “นายเข็นฉันไปนั่งที่ลานหลังบ้านสักหน่อย แล้วรวดเอารูปมาดูด้วย ฉันจะเลือกคนที่ดูดีให้หมิงซุ่นหลาย ๆคนเลย”
เสี่ยวเมิ่งปากกระตุก รู้สึกว่าเจ้านายตนนั้นช่างเป็นคนเนรคุณเหลือเกิน
อย่างไรเสียคุณหนูจ้าวก็มีบุญคุณต่อนายท่านหรือเปล่า ถ้าให้ขยายความก็นับเป็นบุญคุณที่ช่วยชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่หากพูดโดยไม่ให้ความสำคัญก็เป็นบุญคุณที่ช่วยรักษาอาการป่วย
พลันอาการดีขึ้น พอหายป่วยก็เริ่มทำตัวกลับกลอกทำเป็นจำบุญคุณเขาไม่ได้!
ต่อให้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเฮ่อเหลียนชิงมากนักแต่เสี่ยวเมิ่งที่ชินกับการทำตามคำสั่งได้แต่เข็นเฮ่อเหลียนชิงไปใต้ซุ้มต้นองุ่น รวมทั้งหยิบรูปถ่ายหนึ่งปึกจากห้องพร้อมข้อมูลออกมา
เหมยเหมยกลับออกจากห้องน้ำกลับพบว่าทั้งเฮ่อเหลียนชิงกับเสี่ยวเมิ่งไม่อยู่แล้ว เธอเลยหมดความอยากอาหารไปด้วย กำลังคิดจะไปบอกเฮ่อเหลียนชิงให้เสี่ยวเมิ่งส่งเธอกลับบ้านอยู่พอดี
เธอเดินตรงไปยังซุ้มต้นองุ่นลานหลังบ้าน มาทานข้าวมาหลายวันจนเธอคุ้นทางหมดแล้ว ขณะที่ใกล้ถึงซุ้มต้นองุ่นเธอก็ได้ยินเสียงสนทนาของเฮ่อเหลียนชิงกับเสี่ยวเมิ่ง
…………………….
ตอนที่ 949 คัดสรรด้วยความใส่ใจ
ความจริงเสี่ยวเมิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าของเหมยเหมยแล้วเลยตักเตือนเสียงเบา “นายท่าน คุณหนูจ้าวมาแล้ว”
ความหมายก็คือคุณช่วยเก็บรูปพวกนี้ได้แล้วอย่าให้คุณหนูจ้าวเห็น
เฮ่อเหลียนชิงกลับไม่สนใจ นิสัยอย่างยัยจ้าวเหมยพอได้ทานข้าวด้วยกันหลายมื้อก็คิดว่ายังพอไหว แต่หน้าตาของเธอไม่ได้เด็ดขาด หน้าตาที่ไม่เป็นมงคลอย่างนั้นจะปล่อยให้มาทำลายเหยียนหมิงซุ่นที่เขาทุ่มเทกับการฝึกไม่ได้
เขาคัดค้านอย่างเปิดเผยโดยเสมอมา ต่อให้ต่อหน้ายายนี่เขาก็ยืนยันด้วยท่าทีคัดค้าน
“เมื่อกี้ที่ฉันเลือกไว้หกคนนายจัดการเองแล้วกัน ช่วยทำให้หมิงซุ่นได้รู้จักกับพวกเธอ แล้วดูว่าเขามีความรู้สึกพิเศษกับใครมากกว่ากัน”
สายตาอันหลักแหลมของเฮ่อเหลียนชิง เพียงกวาดสายตาแวบเดียวก็ปัดเด็กสาวตกไปสิบห้ารายชื่อจนเหลือเพียงหกรายชื่อที่เบื้องหลังครอบครัวไม่โดดเด่น ไม่แม้แต่จะเทียบกับตระกูลจ้าวได้
เสี่ยวเมิ่งกวาดตามองรูปหกใบนั่นแล้วปากก็กระตุกอีกครั้ง หรือว่านายท่านของเขามักเลือกอีกาจากฝูงหงส์ เลือกหกคนที่หน้าตาอัปลักษณ์ที่สุดในบรรดารูปถ่ายออกมาหมดแล้ว
ใช้นิ้วเท้าคิดเขารู้เลยว่าเด็กสาวหกคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนไหนเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่มีทางรู้สึกอะไรด้วยแน่นอน!
เคยได้ลิ้มรสหอมหวานอย่างคุณหนูจ้าวมาแล้วจะให้เหยียนหมิงซุ่นกลับไปแทะก้อนกรวด นอกจากว่าเขาตาบอด ไม่อย่างนั้นจะให้เกิดความรู้สึกได้อย่างไร?
เสี่ยวเมิ่งเองก็คร้านจะถกเถียงกับเจ้านายตนได้แค่รับปาก เขาเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง เหยียนหมิงซุ่นกับคุณจ้าวไม่มีวันโทษเขาได้
เพียงแต่นายท่านทำแบบนี้มันดูไม่ดีเลยจริง ๆ หากคุณหนูจ้าวได้ยินเข้าไม่รู้จะทำอย่างไร?
เหมยเหมยที่อยู่ห่างไปหน่อยได้ยินไม่ค่อยชัด แต่คำสำคัญเธอกลับได้ยินชัดเจนทั้งหมด
รูปถ่าย…เด็กสาว…ไหนจะให้เหยียนหมิงซุ่นไปพบ…
สัญญาณเตือนภัยส่งเสียงทันที สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าตาแก่โรคจิตนี่ไม่หวังดีแน่ เหมยเหมยที่โกรธถึงขีดสุดไม่คิดจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ ต่สับเท้าพุ่งตัวไปใต้ซุ้มต้นองุ่น
รูปถ่ายบนโต๊ะยังไม่ทันเก็บ นั่นเป็นตัวเลือกศรีภรรยาหกคนที่เฮ่อเหลียนชิงคัดสรรให้เป็นว่าที่ลูกสะใภ้นั่นเอง
เหมยเหมยสุ่มหยิบมาหนึ่งใบ เด็กสาวในรูปผิวขาวรูปร่างอวบอ้วนเหมือนซาลาเปาที่เพิ่งยกจากหม้อ จมูกแบนตาตี่ ปากหนาเตอะ ดูแล้วให้ความรู้สึกเป็นมงคลดีเสียจริง…
เธอหยิบมาอีกหนึ่งใบ ยังเป็นเด็กสาวเหมือนเดิมที่รูปร่างผอมกว่าคนก่อนนิดหน่อยแต่ตัวสูงร่างบึกบึน โครงร่างใหญ่กว่าเหยียนหมิงซุ่น ผิวค่อนไปทางคล้ำใบหน้าทรงเหลี่ยมดูสง่า พอใส่ชุดทหารกลับดูน่าเกรงขามกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ
สี่รูปที่เหลือก็ต่างมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ล้วนเป็นหญิงสาวอายุน้อย อีกทั้งยังมีหนึ่งจุดร่วมที่คล้ายกัน–
หากพูดรักษาน้ำใจก็คือหน้าตาธรรมดา หากพูดตรงไปตรงมาก็คือหน้าตาอัปลักษณ์
เด็กสาวทั้งหกคนอัปลักษณ์กันคนละแบบ ทำให้ยากจะลืมเลือนได้
เหมยเหมยเหลือบเห็นมุมรูปถ่ายที่โผล่มาจากกระเป๋าเสี่ยวเมิ่งเห็นว่ายังมีจำนวนไม่น้อย เธอกระชากออกมาทีเดียวพบว่ายังเป็นรูปหญิงสาววัยรุ่นหนึ่งกอง แต่หญิงสาวเหล่านี้สวยกว่าหกคนนั้นมากโข
“หกคนนี้คุณเลือกดีแล้วเหรอ?” เหมยเหมยสะกดกลั้นอารมณ์โกรธไว้ถามอย่างใจเย็น
เฮ่อเหลียนชิงมองเธออย่างนึกแปลกใจแวบหนึ่ง ทำไมใจเย็นขนาดนี้? ควรระเบิดอารมณ์แล้วไม่ใช่หรือ?
“ใช่ ฉันคัดสรรอย่างดี” เขาเองก็ไม่ปฏิเสธเลยยอมรับไปตรง ๆ
เหมยเหมยแค่นเสียงหัวเราะใส่ จงใจพูด “นี่เป็นสะใภ้ที่คุณเลือกให้เองเหรอ? แววตาใช้ได้นี่ แต่ละคนดูเหมาะกับคุณมาก”
เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้อยคำของเหมยเหมยจี้จุดอ่อนเขาเข้าอย่างจังเลยทำหน้าเย็นชาขึ้น พูดเสียงแหลม “นี่เป็นคู่ที่ฉันหาให้หมิงซุ่น เลือกมาหนึ่งในหก ถ้าถูกใจกันก็ให้พวกเขาแต่งงาน”
เสี่ยวเมิ่งชำเลืองมองเหมยเหมยที่สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลันด้วยความเห็นใจ ประโยคทำร้ายจิตใจของนายท่านมันช่างโหดร้ายจริง ๆ!
……………………..