ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 970 ฉิวฉิวผู้ที่ข้ามแม่น้ำเสร็จก็จะถอนสะพานทิ้ง + ตอนที่ 971 คิดถึงคะนึงหา
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 970 ฉิวฉิวผู้ที่ข้ามแม่น้ำเสร็จก็จะถอนสะพานทิ้ง + ตอนที่ 971 คิดถึงคะนึงหา
ตอนที่ 970 ฉิวฉิวผู้ที่ข้ามแม่น้ำเสร็จก็จะถอนสะพานทิ้ง
เดิมเหมยเหมยยังสงสัยอยู่ว่าใครเป็นคนช่วยเธอไว้ คุณปู่ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว เหตุผลก็คือตาแก่จิตวิปริตคนนั้นนั่นเอง!
คิด ๆไปก็ใช่ เมืองหลวงทั้งเมืองคนที่สามารถสู้กับเฮ่อเหลียนชิงได้ นอกจากตาแก่จิตวิปริตก็ไม่มีคนอื่นแล้ว!
“เฮ่อเหลียนชิงคือใคร? เขากับเฮ่อเหลียนเช่อเป็นอะไรกัน? พี่น้องเหรอคะ?” เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆ แสร้งทำเป็นสับสนงงงวย
คุณปู่มองดูท่าทางที่ไม่เหมือนโกหกของเธอ ถึงแม้ว่าจะยังรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างแต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก ที่สำคัญคือเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่หลานสาวของเขาจะไม่รู้จักเฮ่อเหลียนชิง รู้จักสิถึงจะแปลก!
เฮ่อเหลียนชิงและเฮ่อเหลียนเช่อเป็นศัตรูกัน ทั้งสองคนวัน ๆเอาแต่กัดกันเหมือนหมา บางทีอาจเป็นเพราะหลานสาวเขาโชคดี บังเอิญพบกับลูกน้องของเฮ่อเหลียนชิงที่ติดตามมาจึงได้ช่วยหลานสาวเขาไว้!
“อะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้น เหมยเหมยพักผ่อนอย่างสบายใจเถอะ คุณย่าของหลานตุ๋นซุปไก่เอาไว้ให้ที่บ้าน อีกครู่ให้คนเอามาส่งให้!”
คุณปู่อธิบายเหตุผลว่าทำไมคุณย่าถึงไม่ได้มา เหมยเหมยตอบรับอย่างเชื่อฟังแต่ในใจกลับยิ้มเยาะ
ตั้งแต่ที่เชฟหยวนมา คุณย่าก็ไม่เคยเข้าห้องครัวอีกเลย เธอไปตุ๋นซุปไก่ที่ไหนกัน?
เห็นชัด ๆว่าไม่อยากมา!
แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้สนใจว่าคุณย่าจะมาหรือไม่มา อยากจะมาหรือไม่มา ถึงอย่างไรวันหลังเธอก็ไม่มีทางทุ่มเทความจริงใจให้กับคุณย่าผู้เลอะเลือนอีกแน่นอน!
คุณปู่และพวกจ้าวเสวียหลินต่างกลับกันไปหมดแล้ว คุณปู่ดูยุ่งมาก ๆแต่ดูแล้วมีชีวิตชีวา พวกจ้าวเสวียเอ๋อร์และจ้าวเสวียกงไปดูแลร้านอาหาร กิจการยังคงไปได้สวย ไม่มีเวลาพักผ่อนเลยสักนิด
จ้าวเสวียหลิน สยงมู่มู่และยังมีเด็กอ้วนน้อยอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอ ห้องที่เธอพักก็คือห้องเดี่ยว รวม ๆแล้วถือว่าไม่เลว อีกทั้งยังมีนางพยาบาลพิเศษมาดูแล ดูแลเหมือนระดับแขกวีไอพีเลยทีเดียว
เหมยเหมยก็ไล่พวกจ้าวเสวียหลินกลับไปแล้วเหมือนกัน เธออยากจะอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ ครั้งนี้ที่เธอโดนจับตัวไป เธอรู้สึกว่าเธออ่อนแอเกินไปแล้ว จะอย่างไรก็ควรจะมีความสามารถในการปกป้องตนเองบ้าง ไม่อย่างนั้นเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ เธอคงทำได้แค่เพียงนั่งรอความตายเท่านั้น
เธออยากจะหาฉิวฉิวเพื่อปรึกษาหารือแต่กลับพบว่าฉิวฉิวไม่อยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเจ้าหนุ่มนี่วิ่งไปไหนแล้ว!
ฉาฉาค่อย ๆเคลื่อนจากข้อมือไปจนถึงฝ่ามือของเหมยเหมย หัวยกขึ้นสูง เหมยเหมยรู้สึกถึงการโทษตัวเองและรู้สึกผิดจากเจ้าตัวเล็ก อดไม่ได้ที่จะจูบหัวฉาฉา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉาฉา เป็นพี่สาวเองที่อ่อนแอ ฉาฉาเก่งมาก ๆแล้วนะ!”
เหมยเหมยหักกล้วยบนโต๊ะน้ำชาออกมาหนึ่งลูก ตัวเองก็กินไปคำใหญ่ที่เหลือคำน้อยก็ป้อนให้กับฉาฉา เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเจ้าหนุ่มน้อย
“ฉาฉา รู้ไหมว่าฉิวฉิวไปไหน? มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นไหม?” เหมยเหมยบ่นพึมพำกับตัวเอง
ฉาฉาที่กำลังจดจ่ออยู่กับการกินกล้วยอยู่ก็ส่ายหัว ในความเป็นจริงมันต้องการจะบอกว่าพี่ฉิวไม่เป็นอะไรทั้งนั้น สบายดีจริง ๆ แต่เหมยเหมยกลับเข้าใจผิดคิดว่ามันไม่รู้
“ฉันนี่โง่จริง ๆเลย แกจะไปรู้ได้ไงกัน!”
เหมยเหมยหัวเราะกับตัวเองจูบที่หัวของฉาฉาอีกครั้ง เธอไม่ได้กังวลเกี่ยวกับฉิวฉิวมากนัก เจ้าตัวน้อยนี่ฉลาดจะตาย น่าจะแอบหนีไปนานแล้ว ไม่แน่บางทีมันอาจกลับมาในตอนเย็น
ฉาฉามุดหัวลงด้วยความหงุดหงิด เมื่อไหร่มันจะสามารถเป็นเหมือนพี่ฉิวแบบนั้นได้สักที สามารถทำให้เจ้านายเข้าใจในสิ่งที่มันจะพูดก็พอแล้ว!
คุณชายฉิวที่ทำให้เหมยเหมยเป็นห่วง เวลานี้กำลังฟุบอยู่บนเถาองุ่นอย่างสบายใจไร้กังวล หยอกล้อกับใครบางคนอยู่ ไม่ว่าเฮ่อเหลียนชิงจะเรียกยังไงมันก็ไม่ยอมลงมา!
เสี่ยวเมิ่งพาคนกลับมาแล้ว พูดกับเฮ่อเหลียนชิงว่าเหมยเหมยไม่เป็นอะไรแล้ว เฮ่อเหลียนชิงเข้าใจขึ้นมาโดยฉับพลัน หันไปหัวเราะและก็ด่าฉิวฉิวที่อยู่ด้านบนว่า “แกมันกระรอกเจ้าเล่ห์ ข้ามแม่น้ำเสร็จก็รื้อสะพานทิ้ง มีความสามารถมากนักวันหลังก็อย่ามาขอร้องฉันอีก!”
ฉิวฉิวแยกเขี้ยวยิงฟันส่งเสียงจี๊ด ๆใส่เขา ลองคิด ๆดูแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายอีกในอนาคต ไม่ควรทำให้ไม่พอใจ อ้อนเอาไว้ก่อนจะดีกว่า!
แสงเงาสีขาวพุ่งผ่านไป ฉิวฉิวโถมตัวกลับไปที่อ้อมกอดของเฮ่อเหลียนชิงอีกครั้ง ทำเอาใครบางคนยิ้มแป้นด้วยความดีใจและปอกเปลือกช็อคโกแลตให้คุณชายฉิวอย่างตั้งใจ
……………………………………………
ตอนที่ 971 คิดถึงคะนึงหา
ท้ายที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็ได้รู้เรื่องนี้เข้า ตอนที่เขาเข้าไปรายงานเรื่องงานต่อเฮ่อเหลียนชิง ทันทีที่ได้เห็นฉิวฉิวอยู่ในอ้อมแขนของเฮ่อเหลียนชิงจึงเกิดความสงสัยว่าได้เกิดเหตุอันใดขึ้นต่อเหมยเหมย
มิเช่นนั้นฉิวฉิวจะห่างกับเจ้านายของมันได้อย่างไร?
ในตอนแรกเฮ่อเหลียนชิงไม่ยอมรับ แต่ภายใต้แววตาอันดุดันของเหยียนหมิงซุ่นเขาจึงจำต้องพูดความจริงออกมา และไม่ลืมที่แอบแจงความดีความชอบไปด้วย “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฉันเห็นแก่หน้าของแก ไม่งั้นฉันคงหน่ายที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวกับความเป็นความตายของแม่เด็กนั้น!”
“ขอบคุณมากครับพ่อ!”
เหยียนหมิงซุ่นขอบคุณจากใจจริง เพราะไม่งั้นเขาเองก็ไม่อยากจะนึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดกับเหมยเหมยว่าจะเป็นอย่างไร
ฝากไว้ก่อนเถอะเฮ่อเหลียนเช่อ เขาไม่มีทางปล่อยคนชั่วช้าแบบนี้ไปง่าย ๆแน่!
“ส่วนเฮ่อเหลียนเช่อถ้าแกอยากจัดการก็ได้ แต่ถ้าแกทิ้งร่องรอยเอาไว้ล่ะก็ไม่ต้องกลับมาอีก ฉันไม่ต้องการลูกชายที่ไร้ประโยชน์”
เฮ่อเหลียนชิงลูบขนฉิวฉิวไปมาอยู่อย่างนั้น แต่วาจาคำพูดกลับไร้ซึ่งเยื่อใย
“ทราบครับ!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางทิ้งร่องรอยไว้ให้เฮ่อเหลียนเช่อได้เห็น เขาในตอนนี้มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถทำให้เฮ่อเหลียนเช่อแพ้ราบคาบจนสับสนได้เลย
“มื้อเย็นผมไม่อยู่กินที่บ้านนะครับ พ่อกินไปคนเดียวก็แล้วกัน!”
เหยียนหมิงซุ่นหมุนตัวกลับและมุ่งหน้าออกไป เขาต้องไปเยี่ยมเหมยเหมย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าตัวแสบจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน!
เฮ่อเหลียนชิงที่ได้ยินดังนั้นก็รับรู้ได้ว่าเหยียนหมิงซุ่นต้องไปหาจ้าวเหมยที่โรงพยาบาลเป็นแน่ จึงเอ่ยขึ้นแกมประชด “ไปเถอะไป คนแก่อย่างฉันกินข้าวคนเดียวก็อร่อยเหมือนเดิม!”
มีเจ้าฉิวฉิวอยู่ เขากินหนึ่งคำ เจ้าฉิวฉิวกินหนึ่งคำ เข้าท่ากว่าแม่เด็กนั่นตั้งเยอะ!
เพียงแต่…
เหยียนหมิงซุ่นที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้วเดินวกกลับมาอีกครั้ง เอื้อมแขนอุ้มฉิวฉิวขึ้นมาพร้อมทั้งจ้องสบตากับเฮ่อเหลียนชิงก่อนจะเอ่ย “เหมยเหมยคงจะคิดถึงฉิวฉิวแล้วล่ะ ผมคงต้องเอามันไปส่งคืนให้เธอ พ่อเก่งกาจถึงเพียงนี้มื้อเย็นคงทานข้าวได้เป็นชาม ๆนะครับ”
คนแก่นั่งกินข้าวคนเดียวได้อย่างไม่มีหยุด ยังจะทำตัวเหมือนเด็กไปได้ ที่จะต้องคอยพูดปลอบโยน คอยเรียกร้อง จากที่เขาเห็นคงติดเป็นนิสัยไปแล้ว ลงมือทำไปเลยครั้งเดียวจะได้จบ!
ฉิวฉิวที่หมอบอยู่บนหัวไหล่ของเหยียนหมิงซุ่นหันไปหาเฮ่อเหลียนชิงพร้อมกับยกเท้าหน้าปัดป่ายส่งให้ บอกลาเขาด้วยความลั้นลา!
ยามค่ำคืนเหมยเหมยนอนอยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย จ้าวเสวียหลินต้องการจะอยู่เฝ้าไข้เธอ แต่กลับถูกเหมยเหมยไล่ตะเพิดกลับไปเสียได้
บาดแผลของเธออาจดูเหมือนร้ายแรง แต่ความจริงเป็นเพียงบาดแผลถลอกเท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำเลยสักนิด ไหนจะต้องให้ใครมาเฝ้าอีกเล่า ไม่ใช่ผู้ป่วยอาการโคม่านี่นา
ฉิวฉิวยังไม่กลับมาเลย เจ้าตัวเล็กต้องไปเจอกระรอกสาวสวย ๆเข้าแน่ ช่างใจจืดใจดำนัก เห็นคนอื่นดีกว่าเจ้านายมัน ไม่คิดจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอบ้างเลยหรือไง!
พี่หมิงซุ่นเองก็ไม่รู้ว่ามัวไปทำอะไรอยู่ เขาไม่รู้เรื่องที่เธอบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ จู่ ๆเหมยเหมยก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
หากเหยียนหมิงซุ่นอยู่ตรงนี้ จะต้องรู้สึกสงสารเห็นใจเธอเป็นแน่ แถมยังสามารถพูดปลอบใจเธอได้ด้วย!
ไม่ได้ จะให้เหยียนหมิงซุ่นรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด จะเป็นตัวถ่วงต่อการฝึกซ้อมของเขาไม่ได้ เธอจะต้องไม่ดื้อดึง ไม่อย่างนั้นตาแก่จอมวิปริตจะต้องว่าเธอเอาได้ อาจบอกว่าเธอเป็นตัวถ่วงของเหยียนหมิงซุ่นก็ได้…
พยาบาลพิเศษเข้ามาเปลี่ยนยาให้กับเธอ และยังช่วยล้างหน้าล้างตาให้เธออีกด้วย คุณป้าพยาบาลทั้งอ่อนโยนและเอาใจใส่เป็นอย่างดี จึงทำให้เหมยเหมยรู้สึกเกรงอกเกรงใจขึ้นมา
เธอนอนนับแกะอยู่บนเตียง นับไปจนดวงตาฝ้าฟางแต่ก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับได้ เป็นเพราะช่วงกลางวันนอนมากจนเกินไป
บริเวณหน้าต่างมีเสียงเคาะก๊อก ๆที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น เหมยเหมยดวงตาเป็นประกายอย่างฉับพลัน รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็นร้อยเท่าจึงย่องเดินไปยังบริเวณริมหน้าต่าง เพียงแค่ผลักออกเบา ๆ ฃก็ได้เจอกับบุคคลที่เธอกำลังเฝ้าคะนึงหาไปเมื่อครู่
เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาใช้อุ้งมือพาดกับหน้าต่างไว้ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เธอ ฉิวฉิวเองก็หมอบอยู่บนหัวของเขาอย่างสบายใจเฉิบเสียเป็นไหน ๆ…
เหมยเหมยกลับดวงตาแดงก่ำ อึดอัดไปหมด…แต่พอได้เห็นท่าทางของฉิวฉิวที่อยู่บนหัวของเหยียนหมิงซุ่นนั้นดูแปลกประหลาดจึงหลุดหัวเราะคิกคักขำพรืดออกมา…
……………………………………………………..