ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 990 ลงทะเบียน + ตอนที่ 991 โลกมันกลมจึงมักจะได้เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 990 ลงทะเบียน + ตอนที่ 991 โลกมันกลมจึงมักจะได้เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ
ตอนที่ 990 ลงทะเบียน
เด็กอ้วนน้อยก็โตขึ้นมากในช่วงสามปีที่ผ่านมา ภายใต้คำแนะนำของเหมยเหมย เด็กอ้วนน้อยดื่มนมครึ่งแก้วทุกวัน ไม่ละทิ้งความพยายามกลางคัน จากนั้นหากมีเวลาว่างก็จะไปเล่นบาสที่สนาม สูงกว่าชาติที่แล้วสองสามเซนติเมตร พยายามเคี่ยวเข็ญจนสูงถึง 170 เซนติเมตร
อีกทั้งยังเป็นเพราะว่าออกกำลังกายทุกวัน ไขมันในร่างกายก็ลดลงไปมาก โครงหน้าชัดเจนขึ้นจนสามารถมองออกถึง ’คิ้วดาบดวงตาดาราอันหล่อเหลา’ ที่อยู่ลึก ๆออกแล้ว
ด้วยเหตุที่พอจะมีเงินบ้างแล้ว และมีเพื่อนสายตาดีอย่างเหมยเหมยและสยงมู่มู่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเสื้อผ้า รสนิยมสไตล์เสื้อผ้าของเด็กคนอ้วนน้อยก็ดีขึ้นอย่างมาก
ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง ตอนนี้เด็กอ้วนน้อยไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนแล้ว มีท่วงท่าอันสง่างามเหมือนกับเจ้าชายน่าหลานอยู่หลายส่วนแล้ว!
เจียงซินเหมยยืนอยู่กับเด็กอ้วนน้อยซึ่งเตี้ยกว่าเขาอยู่เป็นคืบ สูงกว่าเหมยเหมยนิดหน่อย
รูปร่างเธอก็ผอมเพรียวสวยงามเพราะเรียนเต้น รูปร่างและนิสัยไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้ว่าจะเทียบความสวยกับเหมยเหมยไม่ได้ แต่เดินอยู่บนถนนก็เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามเลยทีเดียว
อีกทั้งฐานะของครอบครัวของเจียงซินเหมยนั้นก็ถือว่าไม่เลว พ่อแม่ต่างก็เป็นผู้ปฎิบัติงานระดับกลางของบริษัทปิโตรเคมี เงินเดือนสวัสดิการดีมาก เธอเป็นลูกสาวคนเดียว แน่นอนว่าพ่อแม่ก็ต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกสาวในทุก ๆสิ่ง
หน้าตางดงาม รูปร่างก็ดี อีกทั้งยังแต่งตัวทันสมัย จะไม่สวยได้อย่างไรกัน?
“พวกเธอทำไมมาเร็วขนาดนี้? ฉันยังนอนอยู่เลย!”
เหมยเหมยหยุดรถมองค้อนพวกเขาอย่างตำหนิ เช้าขนาดนั้นก็ยังโทรศัพท์มา ทำเอาเธอรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนไม่ได้นอน
เจียงซินเหมยชี้ไปที่จุดสูง ๆที่มีดวงอาทิตย์อยู่ พูดเกินจริงว่า “เธอแหกตาดูเถอะพระอาทิตย์ส่องก้นแล้ว ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ยังไม่ร้อนจนเกินไป พวกเราไปลงทะเบียนเร็ว ๆหน่อย เดี๋ยวร้อนขึ้นมาคงเหนื่อยแย่”
“เด็กอ้วนน้อยพงกหัวไม่หยุด “ใช่ ๆ รีบไปรีบกลับ อีกเดี๋ยวฉันเลี้ยงเคเอฟซีพวกเธอเอง!”
“ไม่เอา…”
เหมยเหมยและเจียงซินเหมยปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกัน
หลังจากที่เด็กอ้วนน้อยออกหนังสือเล่มแรก เจ้าหมอนี่ก็ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้จึงจัดเคเอฟซีมื้อใหญ่ให้เหมยเหมย สยงมู่มู่และเจียงซินเหมย สั่งให้กินจนหนำใจ กินจนจะอ้วกถึงหยุด
มีเพียงเด็กอ้วนน้อยเท่านั้นที่กินไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ได้ค่าต้นฉบับ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการเชิญเพื่อน ๆไปกินเคเอฟซี แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพิจารณาร้านอาหารอื่นเลย
ทำเอาตอนนี้แค่เหมยเหมยและเจียงซินเหมยได้ยินคำว่าเคเอฟซีสามคำนี้ก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียนออกมาอย่างไม่รู้ตัว เหมือนกับปฏิกิริยาของสตรีมีครรภ์เสียอย่างนั้น
“เคเอฟซีอร่อยจะตาย…”
เด็กอ้วนน้อยไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ของอร่อยขนาดนี้จะสามารถกินจนเบื่อได้อย่างไรกัน?
“อยากจะกินก็ไปกินเอง นายเอาเงินที่จะเลี้ยงพวกฉันมาให้พวกฉัน พวกเราจะไปกินข้าวที่ภัตตาคารจุ้ยเซียน” เหมยเหมยพูดหยอกล้อ เจียงซินเหมยก็ตบมือเห็นด้วย
เด็กอ้วนน้อยลังเลอยู่ครู่ใหญ่ก็กัดฟันพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปภัตตาคารจุ้ยเซียนเถอะ ไปกินคนเดียวมันไม่สนุก”
เพื่อนสนิททั้งสามคนยิ้มให้กัน ต่างคนต่างขี่จักรยานของตัวเอง พูดคุยหยอกล้อมุ่งหน้าไปทางหน้าโรงเรียน แสงสีทองยามเช้าส่องประกายมาที่พวกเขาสามคน เป็นวัยรุ่นก็ดีแบบนี้
อีจงก็ยังเป็นเหมือนเดิม คุณปู่ที่ป้อมยามก็ยังเป็นคนเดิม เขารู้จักเหมยเหมยจึงหันมาทักทายเธอ ใบหน้ามีความเมตตาอ่อนโยน
โรงเรียนเต็มไปด้วยนักเรียนและผู้ปกครอง วันนี้เป็นวันที่นักเรียนใหม่เข้าโรงเรียน หลายคนเป็นนักเรียนที่มาจากชนบท ข้าง ๆคือพ่อแม่ที่แบกกระเป๋าเดินทางจนเหงื่อไหลซก ทุกคนมีรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า
ถึงแม้ว่าพวกเหมยเหมยจะเป็นนักเรียนชั้นม.5 แต่อันที่จริงก็ถือว่าเป็นนักเรียนใหม่ ขั้นตอนก็ค่อนข้างซับซ้อน อาจารย์ประจำชั้นของพวกเขาอันที่จริงก็เป็นคนคุ้นเคย นั้นก็คืออาจารย์จางผู้ที่เคยอาศัยอยู่ข้างบ้านของบ้านอู่ เมื่อเขาได้เห็นเหมยเหมยก็ดีใจแทนเหมยเหมยมาก
และห้องของพวกเขาก็ยังมีคนคุ้นเคยอีก เหยียนหมิงต๋า เจ้าหมอนี่คะแนนแย่จนเกินไปจึงได้ซ้ำชั้นอีกแล้ว
………………………………………….
ตอนที่ 991 โลกมันกลมจึงมักจะได้เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ
เหยียนหมิงต๋าที่สูงตัวใหญ่ถึง180 เซนติเมตรเหมือนวัว ไม่เหมือนกับเหยียนหมิงซุ่นพี่ของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว โตดูรูปร่างแข็งแรงล่ำสันมาก
อันที่จริงถ้าผ่านไปอีกหลายปี ผู้ชายที่รูปร่างเหมือนเหยียนหมิงต๋านั้นจะถูกเรียกย่างน่าฟังว่า——ผู้ชายแมน ๆ
เพียงแต่ว่าตอนนี้ผู้ชายแมน ๆแบบเขายังไม่ได้รับความนิยม ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายที่ดูหล่อเหลาผิวขาว สุภาพเรียบร้อยเป็นปัญญาชน ผู้ชายอย่างเหมยซูหานและหานจั่นเผิงเป็นจำพวกที่เป็นที่นิยมที่สุด หรืออย่างเช่นเหยียนหมิงซุ่นก็ด้วย
แต่สรุปแล้วไม่ว่าจะเวลาไหน แล้วก็ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หน้าตาดีก็เป็นที่นิยมที่สุดอยู่เสมอ!
เดิมทีเหยียนหมิงต๋าควรจะขึ้นม.6แล้ว เขาเป็นนักเรียนพิเศษด้านกีฬา แม้คะแนนจะแย่หน่อยก็ไม่เป็นไร แต่เขาขอซ้ำชั้นด้วยตัวเอง ทำเอาคู่สามีภรรยาเหยียนโฮ่วเต๋อโมโหจนแทบจะกระอักเลือด ตีก็ตีแล้ว ด่าก็ด่าแล้ว แต่เหยียนหมิงต๋าก็ยังดึงดันที่จะเรียนซ้ำชั้นให้ได้
เพราะว่าอู่เยวี่ยก็ซ้ำชั้นเหมือนกัน อู่เยวี่ยนั้นตั้งแต่ขึ้นม.3 คะแนนก็ตกลงไปเยอะมาก ๆ จากเมื่อก่อนที่เป็นนักเรียนดีเด่น บัดนี้กลับกลายเป็นนักเรียนเรียนเกเรที่อาจารย์ต่างก็เบื่อหน่าย
อีกทั้งอู่เยวี่ยสอบไม่ติดที่อีจงจึงต้องไปเรียนในโรงเรียนที่ไม่ค่อยดีแถบชานเมืองแห่งหนึ่ง แต่เหมยซูหานก็ใช้เงินเพื่อช่วยเหลือเธอให้ได้เรียนที่อีจง ดังนั้นอู่เยวี่ยก็เลยยังได้เรียนอยู่ที่อีจง
เพียงแต่คะแนนของเธอช่างแย่เอามาก ๆ ตัวเธอเองก็คงจะคิดว่าไหน ๆก็พังแล้วก็ให้มันพังต่อไปเลยแล้วกัน ไม่มีใจที่จะเล่าเรียนใด ๆทั้งนั้น ตอนที่เพิ่งจะเข้ามาเรียนยังสามารถสอบได้ที่สิบกว่าจากข้างหลัง แต่พอถึงชั้นม.5 ลำดับก็คงที่ไม่มีเปลี่ยน รักษาระดับไว้ได้ดีได้ลำดับหนึ่งจากท้ายสุด
อาจารย์ที่อีจงส่วนใหญ่ก็รู้จักอู่เยวี่ยกันทั้งนั้น แน่นอนว่ารู้ถึงประวัติอันรุ่งโรจน์ของอู่เยวี่ยในอดีตจึงรู้สึกปวดใจกับความเฉื่อยชาและความไม่พยายามที่อยากจะก้าวหน้าของเธออยู่มาก
ไม่ว่าอาจารย์จะพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เข้าหูอู่เยวี่ยเลย ผลการเรียนก็ยังคงที่เหมือนเดิม ในที่สุดอาจารย์ก็ยอมแพ้ และขอให้เธอทำเรื่องซ้ำชั้นเพราะการเลื่อนชั้นอาจจะส่งผลต่อการเรียนของเธออย่างแน่นอน!
เหยียนหมิงต๋าที่เป็นคนประเภทคลั่งรัก พอเห็นอู่เยวี่ยซ้ำชั้นไม่ต้องพูดอะไรมากก็จะซ้ำชั้นด้วย เหยียนโฮ่วเต๋อและถานซูฟางไม่เห็นด้วย เขาเลือกที่จะไม่ทะเลาะกับพวกเขาทั้งสองแต่เลือกที่จะประท้วงอดอาหารแทน ทนหิวอยู่สามวัน แม้กระทั่งข้าวสักเม็ดก็ไม่ตกถึงท้อง
เหยียนโฮ่วเต๋อนั้นสามารถทนได้แต่ถานซูฟางนั้นปวดใจแทนลูกจึงไปพูดโน้มน้าวสามี เหยียนโฮ่วเต๋อไม่มีทางเลือกจึงจำใจโทรศัพท์หาผู้อำนวยการอีจง เพื่อทำเรื่องซ้ำชั้นให้กับเหยียนหมิงต๋า
เหยียนหมิงต๋าและเหมยเหมยอยู่ห้องเดียวกัน อู่เยวี่ยอยู่อีกห้องหนึ่ง นี่จึงทำให้เหมยเหมยถอนหายใจ
มาเรียนทุกวันแต่ต้องเห็นคนที่เกลียด ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยจริง ๆ!
พวกเหมยเหมยไปที่ฝ่ายวิชาการเพื่อทำขั้นตอนการสมัครเรียน เพราะว่าเป็นนักเรียนที่ไม่อยู่หอดังนั้นขั้นตอนจึงค่อนข้างง่ายครู่เดียวก็เสร็จแล้ว และก็ได้เจอคนที่แสนจงเกลียดจงชังบนถนน
คำพูดที่ว่าโลกมันกลมจึงมักจะได้เจอกับคนที่ไม่อยากเจอนั้นไม่ผิดเลยจริง ๆ สามปีก่อนครอบครัวของหวงอวี้เหลียน โดนเหมยเหมยจัดการจนไม่เหลือพื้นที่ให้ยืนในเมืองหลวง โอหยางเซี่ยงหมิงจึงต้องย้ายออกจากเมืองหลวง เหมยเหมยคาดไม่ถึงเลยจริง ๆว่าจะย้ายกันมาอยู่ที่เมืองจิน
โอหยางเซี่ยงหมิงก็ยังอยู่ในสายงานเดิมเป็นรองหัวหน้าของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในเมืองจิน โอหยางซานซานก็เรียนอยู่ที่อีจง อีกทั้งยังเป็นคนสำคัญของสมาคมนักเรียน พูดได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลของโรงเรียนเลยทีเดียว
ภูมิหลังของครอบครัวดี หน้าตาก็ดูดี ร้องเพลงและเต้นรำได้แถมยังวาดรูปเป็น อีกทั้งยังเป็นตระกูลเก่าแก่ในเมืองหลวง ถึงแม้ว่าตระกูลโอหยางจะไม่ได้เป็นตระกูลชั้นสูง แต่ถ้าอยู่ ในท้องถิ่นแน่นอนว่ามันดูสูงส่งมาก
ด้วยท่าทางที่เปล่งประกายมากมายขนาดนี้ หลังจากที่โอหยางซานซานมาถึงเมืองจิน ก็เหมือนปลาได้น้ำได้รับการดูแลจากอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนเสมือนเจ้าหญิงตัวจริงยังไงอย่างนั้น แต่อย่าหวังจะได้เป็นสุขเลย!
โอหยางซานซานที่เวลานี้กำลังช่วยเพื่อนนักเรียนในสมาคมอยู่เพื่อช่วยอาจารย์ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ พอเธอเห็นเหมยเหมยแล้ว รอยยิ้มอันอบอุ่นและแสนหวานบนใบหน้าของเธอก็เจื่อนลงในทันที
…………………………………………