ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 992 เจอกันแล้ว + ตอนที่ 993 วนเวียนอยู่ระหว่างความหวังและสิ้นหวัง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 992 เจอกันแล้ว + ตอนที่ 993 วนเวียนอยู่ระหว่างความหวังและสิ้นหวัง
ตอนที่ 992 เจอกันแล้ว
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่นแล้วเดินไปอีกทางหนึ่ง ไม่อยากจะเจอหน้าโอหยางซานซาน สามปีมานี้แม่ลูกโอหยางซานซานถือว่าทำตัวดี ไม่ได้มีแผนการชั่วร้ายอะไร
ในเมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็จะไม่ยึดติดกับเรื่องเล็ก ๆพวกนั้นอีกแต่เธอก็ยังคงเกลียดคู่แม่ลูกนี้มากอยู่ดี โชคดีที่เมื่อก่อนเธอกับโอหยางซานซานไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน เวลาสามปีนั้นไม่เคยได้เจอหน้ากันเลยไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่ออารมณ์ของเธอ
เพียงนึกถึงหนึ่งปีที่จะมาถึง เธอกับโอหยางซานซานผู้หญิงที่เธอเกลียดต้องมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน อารมณ์ของเหมยเหมยก็ยิ่งไม่ดี
เธอหันหลังกลับ เดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมาอีกครั้งแล้วลอบด่าตัวเองว่าโง่ในใจ
ทำไมเธอต้องหลบเลี่ยงโอหยางซานซานด้วย?
เธอไม่ได้มีความผิดเป็นวัวสันหลังหวะเหมือนนังนั่นเสียหน่อย คนที่ควรจะกลัวควรจะเป็นโอหยางซานซานสิถึงจะถูก เธอจะหลบทำไม?
เหมยเหมยที่คิดได้แล้วก็มุ่งตรงไปทางโอหยางซานซาน เชิดหน้าขึ้นสูงยืดอก ตามองตรงไม่วอกแวก ราวกับไม่เห็นโอหยางซานซานอยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว
พอเห็นเหมยเหมยที่ทำท่าทางหยิ่งยโส โอหยางซานซานก็โกรธเกลียดในใจ กัดฟันกรอด มองข้ามไป ไม่ได้มองเหมยเหมยอีก แล้วทักทายนักเรียนใหม่อย่างกระตือรือร้น
แม่บอกว่ายังมีข้อมูลเรื่องฉาวอยู่ในกำมือของนังสารเลวจ้าวเหมย ตราบใดที่ข้อมูลเรื่องฉาวยังไม่ถูกชิงเอากลับมา อย่าไปยั่วโมโหนังจ้าวเหมย ดังนั้นตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงอดทน เกลียดแค่ไหนก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
เหมยเหมยเดินผ่านโอหยางซานซานไปแล้ว เธอคิดแล้วคิดอีกก็เดินถอยหลังกลับมาหลายก้าว ก่อนจะหันไปยิ้มให้โอหยางซานซานอย่างมีเลศนัย หลังจากนั้นก็เดินจากไป
นังนี่ความจำไม่ค่อยดี ต้องเตือนกันหน่อย ให้โอหยางซานซานรู้ถึงความเจ๋งของเธอสักหน่อย เหมยเหมยคิดเช่นนี้
โอหยางซานซานมองหลังของเธอที่เดินไป ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อครู่ทำไมจ้าวเหมยถึงได้หันมายิ้มให้เธอนะ?
อีกทั้งยังยิ้มอย่างมีเลศนัยแบบนั้นอีกด้วย!
นังสารเลวนี่มันคิดจะทำอะไร?
โดนเหมยเหมยหันกลับมามองยิ้มให้ทีเดียว ก็ทำเอาโอหยางซานซานใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยทีเดียว ไม่เป็นตัวของตัวเอง พาลทำผิดอยู่หลายครั้ง
คนอื่น ๆเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดีก็คิดไปว่าเธอเป็นไข้แดดต่างก็บอกให้เธอกลับไปพักผ่อน มีเพื่อนนักเรียนชายแสดงท่าทีกระตือรือร้นที่จะส่งเธอกลับบ้าน แต่โดนโอหยางซานซานปฎิเสธไป
ถึงแม้ว่าการมาที่เมืองจินจะทำให้เธอรู้สึกสูงส่ง มีความสุขที่มีคนมากมายมาชื่นชอบ เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากเมืองหลวง แต่ในความงดงามก็ยังมีสิ่งที่ขาดอยู่ ——
ก็คือผู้ชายที่ดีเลิศช่างมีน้อยจริง ๆ คุณสมบัติในตัวของแต่ละคนก็นับว่าไม่เลว เพียงแต่ภูมิหลังครอบครัวกลับต่ำมาก!
คนเดียวที่เข้าตาเธอก็คือจ้าวเสวียหลิน เพราะว่านังสารเลวจ้าวเหมยก็เลยต้องล้มเลิกไป ที่เหลืออยู่พวกนั้นก็ไม่เข้าตาเธอเลยแม้แต่น้อยจริง ๆ!
โอหยางซานซานมองผู้ชายที่เธอพึ่งปฏิเสธไปอย่างเสียดาย เพื่อนนักเรียนชายก็ดูผิดหวังมากนั่นจึงทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าตาแต่กลับอาลัยอาวรณ์สายตาที่เร่าร้อนและกระตือรือร้นของเพื่อนนักเรียนชายพวกนั้น ——
ทำให้เธอรู้สึก…ตัวเธอเองเหมือนกับเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ!
เหมยเหมยและเพื่อนทั้งสามคนเข็นจักรยานแล้วเดินไปที่ประตูโรงเรียน แต่กลับเห็นคนที่ทำให้ไม่มีความสุขอีกแล้ว นั้นก็คือสองแม่ลูกเหอปี้อวิ๋น ดูเหมือนเพิ่งจะทำเรื่องสมัครเรียนเสร็จเตรียมจะกลับบ้าน
หลายปีที่ผ่านมาคนที่เปลี่ยนไปมากที่สุดน่าจะเป็นเหอปี้อวิ๋น เธอตกต่ำกลายเป็นแม่ค้าขายปลาที่เนื้อตัวผมเผ้ารุงรังสกปรกไปแล้ว บนตัวมีแต่กลิ่นปลาเหม็นเน่าน่ารังเกียจแผ่กระจายออกมา มันทำให้คนอยากจะหลีกหนีไปให้ไกล
รวมถึงลูกสาวแท้ ๆของเธอด้วยเช่นกัน ——อู่เยวี่ย
อู่เยวี่ยขมวดคิ้วแน่นยืนอยู่ห่างจากเหอปี้อวิ๋นครึ่งเมตร ถึงแม้ว่ารอยยิ้มยังคงอ่อนหวาน แต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เพียงแต่เหอปี้อวิ๋นไม่รู้สึกถึงเธอมองลูกสาวอย่างรักใคร่พูดไปเรื่อยเปื่อยไม่หยุดว่า “เยวี่ยเยวี่ย เทอมนี้ลูกต้องขยันท่องหนังสือนะลูก จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำให้ได้นะ แบบนี้พ่อของลูกจะได้รับลูกกลับไป เชอะ ลูกสิถึงจะเป็นหลานสาวแท้ ๆของตระกูลอู่ อย่าไปยอมเสียเปรียบนังจิ้งจอกนั่น!
…………………………………………..
ตอนที่ 993 วนเวียนอยู่ระหว่างความหวังและสิ้นหวัง
เหอปี้อวิ๋นท่าทางดูโมโหมากเพราะว่าการทำงานหนักและชีวิตที่ไม่ราบรื่นจึงทำให้เธอแก่เร็วมาก ผมหงอกผมขาวก็เห็นได้ชัด ร่องรอยตีนกาตรงใต้ตาก็เป็นริ้วรอยลึก
และเพราะด้วยความที่ผอมเกินไป ใบหน้าที่เคยกลมของเธอแต่เดิมก็เปลี่ยนเป็นซูบตอบ โหนกแก้มยกสูง ดวงตาเป็นมุมสามเหลี่ยม มุมปากคว่ำทำให้ดูเป็นคนขี้เหวี่ยง แถมยังหน้าเลือดค้ากำไรเกินควรอีกด้วย
ทุกครั้งที่มีคนเดินผ่าน เหอปี้อวิ๋นมักจะมองกลับไปอย่างมีนัยยะ
อีกทั้งตอนที่เธอมองดูคนก็มักจะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า มองที่รองเท้าก่อนแล้วค่อยมองไล่ขึ้นมา ไม่ถึงสิบวินาทีเธอก็สามารถประเมินได้คร่าว ๆว่าคน ๆนี้เป็นแค่คนยากจนที่ซื้อได้แค่ปลาตายกับกุ้งตายเท่านั้น
อู่เยวี่ยเห็นการกระทำของเหอปี้อวิ๋นก็ยิ่งรังเกียจมากยิ่งขึ้น เธอตอบรับอย่างรำคาญแล้วเร่งให้เหอปี้อวิ๋นรีบ ๆกลับไป อีกครู่ถ้าเพื่อนนักเรียนเห็นเธอจะมีหน้าที่ไหนไปมองคนอื่น?
“แม่คะ หนูรู้แล้ว แม่รีบกลับไปขายปลาเถอะ ทางนี้หนูยังมีธุระต่ออีก”
พอนึกถึงความโหดร้ายของผู้ชายคนนั้น เหอปี้อวิ๋นก็อดตัวสั่นไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นให้เธอลาได้แค่สองชั่วโมง หากว่าเกินเวลาไปกว่านั้นกลัวว่าจะต้องโดนตีอีกเป็นแน่
“ได้ งั้นแม่กลับไปก่อน วันนี้อากาศร้อนอย่าอยู่ข้างนอกนานเกินไปนะ รีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือ เยวี่ยเยวี่ยลูกเป็นคนที่มีพื้นฐานดี ขอเพียงแค่ตั้งใจอ่านหนังสือ จะต้องสอบได้ที่ดีแน่ ๆ…”
เหอปี้อวิ๋นเริ่มพูดพร่ำอีกครั้ง เธอพูดเรื่องอู่เยวี่ยซ้ำ ๆตลอดปิดเทอมฤดูร้อนเลย
อู่เยวี่ยรีบไล่เหอปี้อวิ๋นกลับไปอย่างเกินที่จะทนแล้ววิ่งไปยืนหลบร่มใต้ต้นไม้ ใบหน้ามีรอยยิ้มเยาะเย้ยที่เย็นชา
เรียนดีแล้วมีประโยชน์อะไร?
ยุคสมัยนี้นักเรียนที่ยากจนจะเรียนดีเพียงใดก็ไม่สามารถสู้คนที่มีพื้นฐานครอบครัวดีพวกนั้นได้!
ไม่ได้ เธอไม่สามารถอยู่กับเหอปี้อวิ๋นได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าชีวิตความเป็นอยู่จะไม่ได้แย่เท่าไร เทียบกับคนที่ไม่มีก็ถือว่าดีกว่า เทียบกับคนที่มีก็ด้อยนิดหน่อยแต่เธอก็ยังไม่พอ
ลูกสาวแม่ค้าขายปลา…
แค่พูดออกไปก็ขายขี้หน้าแล้ว!
เธอต้องคิดวิธีกลับไปอยู่ข้างกายของอู่เจิ้งซือ ตอนนี้อู่เจิ้งซือเป็นผู้จัดการใหญ่ในบริษัทของพี่ซูหาน ที่นำเข้ารถ แถมยังพักบ้านแบบตะวันตกมีสวนดอกไม้อีกด้วย…
ค้าขายเหมือนกัน แต่พ่อของเธอดีกว่าแม่ค้าขายปลาอย่างแม่เธอเป็นหลายร้อยเท่า!
ทว่าอู่เจิ้งซือกลับไม่ยอมรับเธอ แต่ส่วนค่าเลี้ยงดูก็ยังให้ไม่น้อยให้ร้อยหยวนทุกเดือน ไม่มีมากหรือน้อยไปกว่านี้ โดยเงินจะเข้าบัญชีของเธอทุกต้นเดือน
เงินพวกนั้นเธอยังไม่เคยใช้เลยสักหยวน เก็บออมไว้ทั้งหมด เพราะในเวลาปกติก็ยังมีเงินค่าขนมที่เหมยซูหานให้เธอไว้อีก เงินในบัญชีของเธอเลยมีไม่น้อย นี่ถึงทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้นหน่อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนนักเรียน
อู่เยวี่ยไม่เห็นพวกเหมยเหมย เธอยืนพิงต้นไม้ก้มหน้าคิดเรื่องต่าง ๆ ใช้สมองคิดว่าจะทำยังไงอู่เจิ้งซือถึงจะรับเธอกลับบ้าน
ตอนนี้อู่เจิ้งซือยังไม่ได้แต่งกับนังจิ้งจอกนั่น ถ้าหากรอให้นังจิ้งจอกแต่งเข้าบ้านแล้วคลอดลูกชาย อู่เจิ้งซือก็จะไม่สนใจเธอแล้ว!
เหมยเหมยรอให้เหอปี้อวิ๋นไปก่อนถึงจะเดินออกมาจากประตูโรงเรียน เธอมองไปทางอู่เยวี่ยที่แต่งตัวได้ทันสมัยสวยงามแวบหนึ่ง เทียบกับเหอปี้อวิ๋นแล้ว มองดูไม่เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันเลยสักนิด
ถ้าให้อู่เยวี่ยอยู่ข้างกายเหอปี้อวิ๋นหนึ่งวัน หนึ่งวันนั้นของนังสารเลวนี่ก็จะไม่รู้สึกถึงความสุข!
ดังนั้นสามปีมานี้เหมยเหมยจึงไม่ได้คิดที่จะกระทำอะไรมากมายกับอู่เยวี่ย เพราะว่าการที่ในบ้านมีกลิ่นปลาอยู่ทุกหนทุกแห่งมันเป็นการลงโทษที่ใหญ่ที่สุดของอู่เยวี่ยแล้ว!
แน่นอนว่าเธอจะยอมปล่อยอู่เยวี่ยไปง่าย ๆได้อย่างไรกัน?
วันเวลามันยังอีกยาวไกลให้ความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆกับอู่เยวี่ยหน่อยแล้วค่อยทำให้เธอหมดหวังอย่างถึงที่สุด…ทำให้เธอตกอยู่ในระหว่างความหวังและความหมดหวัง เวลานั้นก็รอดูว่าอู่เยวี่ยจะสามารถทนรับได้นานแค่ไหน!
หลังจากที่เหมยเหมยไปได้ไม่นานโอหยางซานซานก็เข็นจักรยานเดินออกมา เห็นอู่เยวี่ยที่ยังพิงต้นไม้อยู่ โอหยางซานซานก็ตาเป็นประกายเดินเข้าไปหาด้วยตัวเอง
…………………………………………..