ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 201 อยู่กับฉันเธอรู้สึกปลอดภัยมากไหม / ตอนที่ 202 ทำตัวเองขายหน้าอีกแล้ว!
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 201 อยู่กับฉันเธอรู้สึกปลอดภัยมากไหม / ตอนที่ 202 ทำตัวเองขายหน้าอีกแล้ว!
ตอนที่ 201 อยู่กับฉันเธอรู้สึกปลอดภัยมากไหม
หลินเยียนไม่มีทางเลือกได้แต่นั่งรออยู่ที่โซฟา เธอหันไปหยิบหมอนอีกใบมาบังกระเป๋าตัวเองไว้
อาหารมื้อนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือน…กำลังจะเลิกกัน
เธอจะได้กลับเมื่อไหร่
หลินเยียนนั่งกระสับกระส่าย เวลาไม่กี่นาทีรู้สึกราวกับนานเป็นชั่วนิรันดร์
ในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยเดินมาทางด้านหลังของเธอ เงาของเขาทาบทับตัวเธอตามมาด้วยกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ
เผยอวี้เฉิงหยุดยืนข้างหน้าเธอก่อนที่จะคุกเข่าลงช้าๆ ตรงหน้าเธอ
หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก!
นี่…ท่านี้นี่มัน…
ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตายด้าน เธอมักรู้สึกเฉยๆ ทุกครั้งที่ดูฉากรักโรแมนติกของชายหนุ่มที่กำลังคุกเข่าขอหญิงคนรักแต่งงาน
แต่ถึงกระนั้นเมื่อเห็นเผยอวี้เฉิงที่จู่ๆ ก็คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ เธอรู้สึกราวกับมีบางอย่างพุ่งเข้าใส่หัวใจเธอไม่ยั้ง
เกิด…เกิดอะไรขึ้น
เผยอวี้เฉิงไม่ได้มองที่เธอ แต่เขากำลังมองที่หัวเข่าซ้ายของเธอแทน
เขายื่นมือออกมาและกดฝ่ามือลงบนต้นขาของเธอ
หลินเยียนหดขากลับและพยายามยกขาออกโดยอัตโนมัติ
เผยอวี้เฉิงบอกเธอ “อย่าขยับ”
หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก…
เธอนั่งตัวแข็งทื่อเดี๋ยวนั้น
ไม่กี่อึดใจเธอก็เห็นเผยอวี้เฉิงกำลังพับขากางเกงของเธอขึ้นมาที่หัวเข่า
สงสัยวันนี้เธอน่าจะหักโหมไปหน่อย ทั้งขาและหัวเข่าของเธอเลยแดงและบวมตุ่ย
หลินเยียนทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อเห็นหัวเข่าซ้าย
ถ้าเป็นคนอื่นเจออุบัติเหตุร้ายแรงแบบนั้นคงตายไปแล้ว เธอโคตรโชคดีที่รอดมาได้
ต้องขอบคุณความสามารถในการเยียวยาตัวเองอย่างรวดเร็วของเธอ ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ขาของเธอจะต้องกลับมาหายเป็นปกติ
หลังจากที่เผยอวี้เฉิงพับขากางเกงของเธอขึ้นเสร็จแล้ว เขาก็หยิบขวดเคลือบสีขาวและรินน้ำสีเขียวลงบนฝ่ามือ จากนั้นเขาทาบฝ่ามือลงไปบนขาของเธอและนวดอย่างช้า…
หลินเยียนตกตะลึงกับสิ่งที่เขาทำ
วันนี้เธอลงแข่ง ไหนจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องชกต่อย อันที่จริงหลังจากแข่งเสร็จเธอก็รู้สึกปวดขาแล้ว แต่เธอไม่ได้บอกใครหรือเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย
แม้แต่เผยอวี่ถังก็ยังดูไม่ออก
เผยอวี้เฉิงรู้เรื่องที่เธอเจ็บขาได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้จุดที่ปวดได้อย่างเป๊ะๆ…
ฝ่ามือของเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นขึ้น ความเจ็บปวดค่อยๆ บรรเทาลงจากที่เขานวด
เธอคุ้นชินกับความเจ็บปวดนี้เมื่อนานมาแล้วและไม่เคยบ่นออกมาแม้เพียงสักครั้ง…
ขณะที่หลินเยียนมองชายหนุ่มนวดขาของเธออย่างเงียบๆ เธอก็เกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูก…
ห้องนั่งเล่นสงบเงียบเช่นเดียวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนภายนอกหน้าต่าง
เผยอวี้เฉิงหยุดนวดหลังจากนวดไปได้สิบนาที ขณะที่ยังอยู่ในท่านั่งคุกเข่า เขายื่นมือออกไปช้าๆ และเลิกเสื้อเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา
เขาป้ายน้ำมันลงบนฝ่ามืออีกรอบและเริ่มนวดตรงบริเวณเอวด้านขวา
หลินเยียนสะดุ้งอีกรอบ
นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่เธอได้รับบาดเจ็บระหว่างประสบอุบัติเหตุซึ่งเกือบทำให้เธอเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงไป โชคดีที่เธอฟื้นตัวเร็วกว่าคนปกติ เธอเลยรอดจากการเป็นคนพิการได้อย่างฉิวเฉียด อาการบาดเจ็บครั้งก่อนๆ ไม่ได้ทำให้เธอลำบากเท่าไหร่ ยกเว้นบางครั้งที่เธอออกแรงบ้าพลังเกินไป
ชายคนนี้…เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอได้ยังไง
เขาสิงอยู่ในร่างเธอหรือเปล่าเนี่ย
หลินเยียนนั่งนิ่งไม่พูดอะไร
ก่อนที่เธอจะฟุ้งซ่านไปไกล เผยอวี้เฉิงก็พูดขึ้น “ถอดแจ็คเก็ตออก”
หลินเยียนทำตามอย่างว่าง่าย “โอ้…ได้ค่ะ”
ขณะที่เผยอวี้เฉิงมองหญิงสาวที่ทำทุกอย่างตามที่เขาบอกอย่างไม่ขัดขืน เขาหัวเราะน้อยๆ กับตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องหญิงสาวด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปหมุนวนในแววตา “เธอว่านอนสอนง่ายซะจริง…อยู่กับฉันเธอรู้สึกปลอดภัยมากไหม”
หลินเยียนกระแอมเบาๆ ก่อนที่จะรีบตอบ “แน่นอนค่ะ! คุณเผย คุณเป็นสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อมไปด้วยกิริยาและความภูมิฐาน! ฉันจะไม่เชื่อใจคุณได้ยังไง”
“คุณหลิน…”
นิ้วเรียวยาวของเผยอวี้เฉิงที่นวดคลึงเอวของเธออย่างเบามือหยุดชะงัก ส่วนลึกในดวงตามืดดำลงตอนที่เขาถาม “ใครบอกคุณว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ”
ตอนที่ 202 ทำตัวเองขายหน้าอีกแล้ว!
“ใครบอกคุณว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ…”
เมื่อได้ยินที่เผยอวี้เฉิงพูด สมองของหลินเยียนจู่ๆ ก็สับสนไปหมด
บริเวณที่เขาสัมผัสตัวเธอร้อนรุ่ม ความร้อนแผดเผาไปทั่วร่างกายเธอ…
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านที่เข้าจู่โจมเธอในทันทีที่เผยอวี้เฉิงพูดทำให้หลินเยียนรู้สึกกระวนกระวายและกลัวจับใจ
เธอพยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติ แต่เธอก็ทำคอย่นโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มเหมือนจะสัมผัสได้ว่าหญิงสาวกลัวและรู้สึกไม่มั่นคงในตอนนี้ เขาเลยเบนสายตาไปทางอื่นก่อนที่จะหัวเราะหึๆ เบาๆ “ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
หลินเยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินที่เขาพูด หัวใจเธอไม่เต้นรัวแล้ว
จากนั้นเผยอวี้เฉิงก็พูดต่ออย่างสบายๆ “อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้”
หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก!
เขาหมายความว่าในอนาคตเขาจะทำอย่างงั้นเหรอ
หลังจากที่เผยอวี้เฉิงดูแลแผลให้เธอเสร็จ เขาก็จัดเสื้อผ้าให้เธออย่างอ่อนโยน “เว้นแต่เธอจะขอให้ฉันทำ”
หลินเยียนได้แต่พูด “เอ่อ…”
เผยอวี้เฉิงพูดจากลับไปกลับมาจนทำให้แก้มหลินเยียนแดงปลั่งขึ้นมาอีกครั้ง
หลินเยียนพึมพำเบาๆ ปลอบใจตัวเองโดยอัตโนมัติ “เขาล้อเล่น ต้องเป็นเรื่องล้อกันเล่นแน่ เผยอวี้เฉิง…ไม่มีทางเลือกผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้า…”
หลินเยียนรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างไว “ขอบคุณค่ะคุณเผย แต่คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันเจ็บสองจุดนั้น”
แววตาของเผยอวี้เฉิงไหววูบก่อนที่จะตอบอย่างสบายๆ “ฉันแค่สังเกตว่าเธอเดินไม่ค่อยคล่องและก็อาศัยการเดาเอา”
หลินเยียนอุทาน “ว้าว สุดยอดไปเลย…”
เขาเดา? เขาเดาได้ถูกเผง! เขารู้แม้กระทั่งจุดที่เจ็บ
หลินเยียนยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักแต่เธอก็ไม่ได้คาดคั้นเขา
เธอคิดว่าเขาน่าทึ่งสมคำร่ำลือจริงๆ เขาเป็นคนช่างสังเกตมากกว่าคนทั่วๆ ไป
หลังจากที่เผยอวี้เฉิงปิดฝาขวดและเอาขวดไปเก็บ หลินเยียนฉวยโอกาสนี้พูด “คุณเผยคะ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันว่าฉันกลับบ้านดีกว่าคุณจะได้พักด้วย”
เผยอวี้เฉิงตอบ “เดี๋ยวฉันไปส่ง”
ตอนแรกหลินเยียนกลัวว่าเขาจะขอให้เธอค้างคืนที่นี่ เธอไม่คิดว่าเผยอวี้เฉิงจะตอบอย่างไม่ลังเลโดยไม่ต้องคิดเลยขนาดนี้
อันที่จริงเผยอวี้เฉิงเป็นผู้ชายที่สูงส่ง! เขาจะมาทำอะไรคนอย่างเธอได้ยังไงกัน เธอปล่อยให้ความคิดตัวเองไหลไปเรื่อยเปื่อย!
ด้วยความโล่งใจหลินเยียนรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข
จังหวะเดียวกับที่เธอเดินไปถึงประตู เผยอวี้เฉิงก็พูดขึ้น “คุณหลิน คุณลืมกระเป๋า”
กระเป๋า?
กระเป๋าไหน?
เออใช่! กระเป๋าเสื้อผ้า!
หลินเยียนยืนแข็งทื่อก่อนที่จะรีบพุ่งกลับไปหาเผยอวี้เฉิง
เธออยากรีบไปเอากระเป๋ามา แต่ด้วยความลนเธอคว้ากระเป๋าได้ไม่ดี กระเป๋าเธอเลยร่วงหล่นลงพื้นจนโปสเตอร์กระเด็นออกมาแผ่กระจายกางเต็มพื้น…
โปสเตอร์รุ่นลิมิเต็ดของเผยหนานซวี่กางออกทั้งแผ่นต่อหน้าต่อตาเขาและเธอ…
หลินเยียนอึ้งพูดอะไรไม่ออก…
เผยอวี้เฉิงเงียบไม่พูดอะไร…
หนึ่งวินาทีผ่านไป ต่อด้วยสองและสามวินาที….
พวกเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นท่ามกลางความเงียบที่แสนอึดอัด
หลินเยียนอยากเอาหัวไปโขกกำแพงให้ตายไปตรงนั้นเลย
ทำไม ทำไมเธอต้องซุ่มซ่ามและลนลานทุกครั้งที่ต้องอยู่ใกล้เผยอวี้เฉิงจนทำเรื่องน่าอับอายออกไปทุกทีด้วย
เธอจะไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าสักครั้งได้ไหมเนี่ย