ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 251 ก็เก่งเหมือนกันหนิ / ตอนที่ 252 ความฝันของแกต้องสำเร็จแน่
ตอนที่ 251 ก็เก่งเหมือนกันหนิ
หลินเยียนจ้องบุหรี่ครึ่งมวนในมือด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ก้นบุหรี่นี้ควักออกมาจากกระเป๋าตัวเองก็จริง แต่เธอไม่สูบบุหรี่จะมีก้นบุหรี่ได้ไงล่ะ
หลินเยียนไม่ได้ครุ่นคิดต่อไป เธอหันหลังแล้วเดินออกไปจากที่นี่
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลายามวิกาลแล้ว
ในห้องโถงของบ้านหลังเก่านี้เหลือเพียงแต่เฮ่อเล่อเฟิง น้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งพ่อคนเดียว
“พี่เยียน ไปไหนมาเหรอ กลับมาดึกดื่นแบบนี้” เฮ่อเล่อเฟิงมองไปทางหลินเยียนพลันเอ่ยถามขึ้น
“ไปรับลมริมทะเลน่ะ” หลินเยียนหัวเราะเบาๆ แล้วตอบเฮ่อเล่อเฟิง
สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้หลินเยียนไม่อยากพูดให้ใครฟัง ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นด้วย
พรุ่งนี้เช้าก็เป็นรอบคัดเลือกของทีมรถแข่งแล้ว ในฐานะผู้นำทางของเฮ่อเล่อเฟิง คืนนี้หลินเยียนก็เลยต้องนอนพักในบ้านหลังนี้
“เสี่ยวเฟิง ดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิงแล้วถามขึ้น
“พี่เยียน ผมค่อนข้างตื่นเต้นน่ะ” เฮ่อเล่อเฟิงมองไปทางหลินเยียนแล้วถอนหายใจเบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอก ผ่อนคลายหน่อยน่า” หลินเยียนหัวเราะใส่เฮ่อเล่อเฟิง
“เฮ้อ…” เฮ่อเล่อเฟิงส่ายหัว “พี่เยียนน่าจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับทีมรถแข่งเท่าไหร่ จริงๆ ถ้าจะเอาชนะทีมรถแข่งอีกสองทีมในการแข่งขันพรุ่งนี้ด้วยความสามารถของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ ยากเลยนะนั่น”
ในสมัยแรกๆ ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อยังพอมีนักแข่งรถที่สร้างผลงานได้ดี อีกทั้งยังมีผู้นำทางที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง พวกเขาล้วนสามารถสู้ได้สูสีในการแข่งขันทั้งใหญ่ทั้งเล็ก
แต่แล้วจนมาถึงวันนี้ ด้วยความทรุดโทรมของทีมรถแข่ง เหล่าผู้นำทางและนักแข่งรถทั้งหลายได้ออกจากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อไปทีมอื่นตั้งนานแล้ว
ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อในทุกวันนี้แทบจะดูไม่ได้เลย พูดได้ว่ารั้งท้ายได้แค่นั้น
“เสี่ยวเฟิง นี่ยังไม่ได้แข่งเลย ผลจะออกมาเป็นยังไงก็พูดยากนี่นา” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิงแล้วหัวเราะ
“พี่เยียน จริงๆ แล้วฝีมือของผมแย่เกินไป สภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดี กลัวจะไปถ่วงพี่หมิงไข่แล้วจะทำให้ทั้งทีมเดือดร้อนไปด้วย…ถึงตอนนั้นถ้าทีมจะแยกทางจริงๆ …” เฮ่อเล่อเฟิงขมวดคิ้วเข้มขึ้น
หลินเยียน “…”
จริงๆ แล้ว หลินเยียนเองก็เข้าใจความกังวลของเฮ่อเล่อเฟิง
เพราะยังไงการแข่งขันในวันพรุ่งนี้มีความหมายสำหรับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อมาก ถ้าแพ้ในครั้งนี้ ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออาจจะต้องถูกบังคับให้สลายตัวไปก็ได้
“เออใช่ พี่เยียน หลายวันที่ผ่านมาผมดูการแข่งขันทั่วโลกเมื่อสองปีที่แล้วมาตลอด” จู่ๆ เฮ่อเล่อเฟิงเปลี่ยนประเด็นแล้วมองไปทางโทรทัศน์ในห้องโถง
ขณะนี้การแข่งขันระดับโลกเมื่อหลายปีก่อนกำลังฉายอยู่บนภาพหน้าจอใหญ่ รถแข่งวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“นี่มันการแข่งขันลีกโลกที่สองหนิ” หลินเยียนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฮ่อเล่อเฟิงชะงักไปเล็กน้อย “พี่เยียนรู้จักการแข่งขันลีกโลกที่สองด้วยเหรอ”
หลินเยียนพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “อื้ม พอรู้นิดหน่อยน่ะ”
“นี่คือการแข่งขันแจ้งเกิดของลั่งหมั่งเลยนะ” เฮ่อเล่อเฟิงหัวเราะแล้วพูดต่อ “พี่เยียนดูนั่นสิ รถแข่งสีแดงคันนั้นแหละ เท่สุดๆ …ลั่งหมั่งเป็นลูกศิษย์ของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาเลยล่ะ”
“เก่งพอใช้ได้อยู่นะ” หลินเยียนพูดขึ้น
“ผมได้ข่าวว่าต่างประเทศอยากถ่ายทำภาพยนตร์รถแข่งที่อิงมาจากการแข่งขันลีกโลกที่สอง พระเอกก็คือลั่งหมั่ง”
“หืม” สีหน้าหลินเยียนเปลี่ยนไป “ลั่งหมั่งไปถ่ายหนังงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ให้ลั่งหมั่งไปถ่ายหนัง แต่พระเอกอ้างอิงมาจากลั่งหมั่งน่ะ ตอนนี้เหลือแค่คัดเลือกนัก แสดงของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา แต่กองถ่ายทำเหมือนจะสร้างเรื่องการแข่งขันระหว่างเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวากับลั่งหมั่งในตอนจบ สมกับการรอคอยแน่นอน แต่เสียดายที่ยังเลือกนักแสดงเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาไม่ได้น่ะสิ” เฮ่อเล่อเฟิงพูดขึ้น
ตอนที่ 252 ความฝันของแกต้องสำเร็จแน่
หลินเยียนนั่งกินแอปเปิลอยู่บนโซฟา มองเฮ่อเล่อเฟิงที่สีหน้าดูคึกคะนองด้วยความรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องว่าต่างประเทศกำลังเตรียมถ่ายภาพยนตร์แบบนี้อยู่ล่ะ
จากที่เฮ่อเล่อเฟิงพูดมา พระเอกของเรื่องนี้คือลั่งหมั่ง ส่วนการคัดเลือกนักแสดงบทของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาก็เป็นแค่การโฆษณาว่าเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาได้ทำการแข่งขันกับลูกศิษย์ตัวเองอย่างลั่งหมั่ง
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ กองถ่ายก็ควรแจ้งเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาตัวจริงสักหน่อยสิ
แต่พอคิดไปคิดมา เธอโดนห้ามลงแข่งแล้ว ต่อให้กองถ่ายจะหาเธอก็คงไม่รู้จะหาจากไหน
หลินเยียนเดาว่าลั่งหมั่งต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ตกลงกับกองถ่ายว่าสามารถเลือกตัวนักแสดงที่อ้างอิงมาจากเขาและเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาผู้เป็นอาจารย์ของเขา รวมถึงการถ่ายทำต่อไปอีกด้วย
แต่ว่า เอาเรื่องประเด็นความสัมพันธ์มาถ่ายทำหมายความว่ายังไงกัน เธอยังไม่ตายแท้ๆ
ภายในเสี้ยววินาที ในหัวของหลินเยียนมีภาพแทรกเข้ามา
ณ ลู่แข่งขันอันดุเดือด ลั่งหมั่งคว้ารางวัลชนะเลิศด้วยความสามารถสุดตัว
พระอาทิตย์ตกดินสาดแสงบนสนามรถแข่ง ลั่งหมั่งกอดหมวกกันน็อกเอาไว้ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เขานึกถึงอาจารย์ของตัวเองอย่างเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา
ประกายจากพระทิตย์สาดส่องลงบนสนามจนกลายเป็นสีทอง ลั่งหมั่งเดินมุ่งหน้าไปที่รถแข่งโดยลำพัง
ในขณะนั้นเอง เรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาปรากฎตัวขึ้น
เมื่อเห็นอาจารย์ตัวเอง ลั่งหมั่งน้ำตาคลอเบ้า
สุดท้ายทั้งสองทำการประลองฝีมืออันดุเดือดในสนามรถแข่ง…
หลินเยียน “…”
ทำไมจุดจบก็ยังเหมือนกับว่าเธอต้องตายอยู่ดีล่ะ
นี่มันอะไรกัน อย่าแสดงแบบนี้เด็ดขาดนะ
จะว่าไปแล้วใครจะเหมาะกับตัวละครอย่างเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาได้ ห้ามทำให้ภาพลักษณ์เธอเสียหายเป็นอันขาด
ขณะที่หลินเยียนกำลังครุ่นคิด เฮ่อเล่อเฟิงดึงชายเสื้อของหลินเยียน “พี่เยียน ดูนี่เร็ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเยียนทอดสายตาไปทางโทรทัศน์
ภาพบนหน้าจอ ณ ตอนนี้คือการแข่งขันลีกโลกครั้งที่หนึ่ง
รถแข่งสีเงินคันหนึ่งขับผ่านด้วยความเร็วเต็มแม็กซ์ พุ่งเข้าสู่เส้นชัยภายในเวลาอันสั้น
วินาทีต่อมา ทั้งสนามเข้าสู่ความคึกคัก
“เยวา!”
“เยวา!”
“love! (รัก!)”
ผู้ชมทุกคนลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพียง มองไปยังผู้ครองบัลลังก์แชมป์ตลอดกาลสีเงินคันนั้น
ในเวลานี้ ในแววตาของหลินเยียนเผยความตื่นเต้นที่ไม่ค่อยได้เห็นออกมา
รถแข่งพิเศษเฉพาะของเธอ “ซิลเวอร์กาแล็กซี่”
ผ่านไปไม่นาน ประตูรถถูกเปิดออก เรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาในชุดแข่งรถสีเงินค่อยๆ ก้าวออกมาจากรถ โบกมือแสดงความเคารพต่อทุกสารทิศ
“เท่สุดๆ พระเจ้า เท่มากเลย”
อยู่ดีๆ เฮ่อเล่อเฟิงก็เด้งตัวขึ้นจากโซฟา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“พี่เยียนเห็นไหม นี่แหละอาจารย์ของลั่งหมั่ง เยวา! ไม่เพียงแค่ลั่งหมั่ง รวมถึงฆาตกรมรณะก็เป็นลูกศิษย์ของเยวาเหมือนกัน” เฮ่อเล่อเฟิงตื่นเต้นสุดๆ
หลินเยียน “รู้แล้วหน่า รู้แล้ว แกหยุดกระโดดสักที โซฟาแทบจะแยกร่างแล้ว”
“พี่เยียน ในตลอดชีวิตอาชีพการงานของผม ถ้าผมได้แข่งกับเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา… ไม่สิ ถ้าได้แข่งกับลูกศิษย์ของเยวาสักคน ผมตายตาหลับเลย” เฮ่อเล่อเฟิงพูดขึ้น
“สู้ๆ ต้องมีสักวันที่ความฝันแกจะเป็นจริง” หลินเยียนหัวเราะ
เฮ่อเล่อเฟิงส่ายหัว “ยากเกินไป ระดับพวกผมเนี่ย ในสายตาเขาแค่มดยังเทียบไม่ติด”
หลินเยียนลุกขึ้น หันไปทางเฮ่อเล่อเฟิงแล้วพูดขึ้น “รีบไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรง แต่ถ้าพรุ่งนี้โดนคัดออกจริงๆ ไปแข่งกับพวกเขาสักหน่อยก็คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอก”
สิ้นประโยค หลินเยียนหันหลังเดินไปทางห้องรับแขกแล้วโบกมือให้เฮ่อเล่อเฟิง
“พี่เยียน…รอก่อนสิ” จู่ๆ เฮ่อเล่อเฟิงเรียกหลินเยียน
ในนาทีนี้ เฮ่อเล่อเฟิงมองดูเยวาในจอและหันไปมองหลินเยียนอีกครั้ง