ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 267 ผมจะขอลาไปดูการแข่งขัน / ตอนที่ 268 เหมือนกันทุกประการเลย!
ตอนที่ 267 ผมจะขอลาไปดูการแข่งขัน
และแล้ว ยังไม่รอให้เจ้าหน้าที่ตรงหน้าพูดจบ หลินเยียนชูนิ้วทำสัญลักษณ์มือให้เงียบ
“ความลับ…ความลับ…” หลินเยียนพูดกับเจ้าหน้าที่
ด้วยความดื้อดึงตื้อเก่งอย่างเว่ยสวีเฟิง ถ้าเขารู้เข้าจริงๆ…
“ใช่ๆๆ ความลับ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าหน้าที่พยักหน้าแรงๆ
แน่นอนว่าให้เขาเก็บเป็นความลับไว้ก็จริง แต่ถ้าคนอื่นเห็นด้วยตัวเองก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขานะ
“ไอดอลครับ ผมมีคำขอร้องที่อาจจะเกินเลยมาก…ผมขอวิธีการติดต่อคุณได้ไหมครับ…” เจ้าหน้าที่จ้องไปยังหลินเยียนด้วยสีหน้าทำตัวไม่ถูก
เขากำลังคุยกับตำนานในสนามรถแข่งอย่างเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาตัวต่อตัวอยู่ ไม่ใช่แค่เท่านั้น เขากล้าหาญชาญชัยจนกระทั่งขอวิธีติดต่อกับเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาอีกด้วย!
โลกใบนี้ช่างบ้าบอคอแตกจริงๆ เลย…
หลินเยียนเขียนเบอร์แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ “ว่างเมื่อไหร่ก็เลี้ยงข้าวฉันด้วยนะ ฉันจะไปแข่งแล้ว!”
หลินเยียนพูดจบก็เดินออกจากออฟฟิศอย่างไม่หันหลังกลับ
มองดูกระดาษในมือตัวเอง เจ้าหน้าที่แทบจะสลบไปอย่างมีความสุข
ไอดอลของเขาให้วิธีการติดต่อเขาจริงๆ ซะด้วย
จากนั้น เจ้าหน้าที่หยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรออก “ฮัลโหล…ผมจะขอลาครับ…อะไรนะไม่ให้ลาเหรอ? ถ้างั้นก็นับว่าขาดงานเลยแล้วกัน ผมจะไปดูการแข่งขันในวันนี้!!!”
…
ณ สนามเตรียมแข่ง
ขณะนี้ สีหน้าของผู่เฒ่าเฮ่อติ้งคุนและเฮ่อเล่อเฟิงค่อนข้างจะไม่ค่อยดี
“พี่เยียน?”
ผ่านไปไม่นาน หลินเยียนเดินเข้ามาอย่างสบายใจ
“ไม่มีอะไรแล้ว แข่งได้ปกติ” หลินเยียนพูดขึ้น
สิ้นเสียงหลินเยียน ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนและเฮ่อเล่อเฟิงอึ้งทึ่งไปครู่หนึ่ง
เหล่าทังที่ยืนอยู่ข้างๆ เหมือนจะมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีใบอนุญาตเนวิเกเตอร์จริง
แต่ก็ไม่เป็นไร ให้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อได้แข่งในรอบสุดท้ายเถอะ
“แหม ดูสิ เกือบจะเข้าใจผิดกันซะแล้ว” เหล่าทังยิ้มเก้อ “งั้นพวกเราอย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย เดี๋ยวจะแข่งอยู่แล้ว”
พูดจบ เหล่าทังหันหลังแล้วเดินออกไป
เมื่อเหล่าทังเดินไปแล้ว เฮ่อเล่อเฟิงค่อยจะโล่งออกหน่อย เขาพูดไปทางหลินเยียน “พี่เยียน ทำเอาผมตกใจหมดเลย!”
“เสี่ยวเยียน ไม่มีอะไรจริงๆ แล้วใช่ไหม” คุณท่านขมวดคิ้วแล้วมองไปทางหลินเยียน
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะคุณตา” หลินเยียนหัวเราะแล้วพูดขึ้น
“อื้ม ถ้างั้นได้หายห่วงสักที” เฮ่อติ้งคุนพยักหน้าแล้วพูดไปทางเฮ่อเล่อเฟิง “รีบไปเรียกเฮ่อหมิงไข่มานี่ ขึ้นรถในอีกสิบนาที!”
…
ขณะนี้ นอกสนามแข่งขัน
รถสปอร์ตคันหนึ่งค่อยๆ มาเทียบจอดริมทาง
เว่ยสวีเฟิงสวมแว่นดำและหน้ากากปิดปากสีดำ ค่อยๆ เดินลงมาจากรถ
เว่ยสวีเฟิงเป็นแฟนคลับรถแข่งตัวยงที่ทุกคนรู้จัก ไม่ว่าจะทีมรถแข่งแบบไหนเขาก็ติดตามหมด ไม่ว่าจะการแข่งขันรูปแบบไหน ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่เขาก็จะไปดูในสนาม
“มาแล้ว”
ไม่นาน เจ้าหน้าที่ผู้สวมแว่นก่อนหน้านั้นรีบเดินเข้ามา
“วันนี้ไม่ได้ทำงานเหรอ?” มองเจ้าหน้าที่แล้วพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำงานอะไรเล่า วันนี้ฉันไม่ทำงานเว้ย!” เจ้าหน้าที่พูดขึ้น
“อ๋อ? ก่อนหน้านั้นเคยบอกว่าจะทำเพื่ออุตสาหกรรมรถแข่งไม่ใช่เหรอ เบื่อเร็วขนาดนี้เลย? ดูเหมือนว่าอยากใช้ชีวิตก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ” เว่ยสวีเฟิงหัวเราะ
“นายไม่เข้าใจหรอก ฉันขาดงานมาดูการแข่งขันเลยนะ!” เจ้าหน้าที่รีบพูดขึ้น
“นายบอกว่าไม่สนใจเกมระดับนี้ไม่ใช่เหรอ” เว่ยสวีเฟิงเหลือบมองเจ้าหน้าที่
“เอ่อ ฉัน…นายไม่รู้…จริงๆ แล้ว…” เหมือนเจ้าหน้าที่จะอยากพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็ชะงักไป
“ทำไมเหรอ?” เว่ยสวีเฟิงรู้สึกสงสัย
ตอนที่ 268 เหมือนกันทุกประการเลย!
เจ้าหน้าที่มองไปทางเว่ยสวีเฟิงแล้วไม่พูดต่อไป
“ฉีเซ่าหยวน ขอพูดตรงๆ นะ คิดว่าฉันยังไม่รู้จักนายอีกเหรอ นายจะไปเก็บความลับอะไรได้” เว่ยสวีเฟิงเหลือบมองเจ้าหน้าที่
“ความลับ นายรู้ไหมว่าอะไรคือความลับ พูดไม่ได้! ฉันรับปากเธอไว้แล้ว ตีฉันให้ตายก็บอกไม่ได้!” สีหน้าเจ้าหน้าที่เริ่มจะทรมาน
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว ความสงสัยปรากฎขึ้นในแววตาเว่ยสวีเฟิง
หลายปีก่อน เว่ยสวีเฟิงได้รู้จักกับฉีเซ่าหยวนในที่นั่งวีไอพีของการแข่งขันลีกระดับโลกอันดับหนึ่ง การแข่งขันหลังจากนั้นมา เขาทั้งสองคนไปไหนไปกันตลอด สำหรับฉีเซ่าหยวนแล้ว เว่ยสวีเฟิงรู้ไส้รู้พุงหมด ปากเขาสว่างจนเก็บอะไรไม่อยู่เลย อย่าว่าแต่เก็บความลับคนอื่น ขนาดความลับตัวเองยังเก็บไม่อยู่เลย
“โวะ ฉีเซ่าหยวน…”
“อย่าถามเลย ถามแล้วก็ไม่ใช่ความลับน่ะสิ” เจ้าหน้าที่ไม่รอให้เขาพูดจบก็ส่ายหัวอย่างไม่ลังเล “ถ้าเป็นเพื่อนล่ะก็อย่าบังคับฉันเลย ถ้าฉันบอกนายล่ะก็ ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เป็นแฟนบอยแล้ว!”
เว่ยสวีเฟิง “…”
“ปัญญาอ่อน ไปเป็นผึ้งน้อย[1]ไป” เว่ยสวีเฟิงชำเลืองมองเขาแล้วปิดประตูรถ เดินไปยังห้องวีไอพีโดยไม่หันหลังกลับมา
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนขึ้น “เฮ้ รอฉันด้วย ดูด้วยกันสิ วันนี้ฉันตั้งใจขาดงานเลยนะ…”
……
ในสนามเตรียมตัว
ทีมรถแข่งทั้งสามเจ้าได้เตรียมตัวเสร็จสิ้นแล้ว ฝั่งทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ เฮ่อหมิงไข่เข้าที่แล้ว ส่วนผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนกำลังวางกลยุทธ์อยู่
“จำไว้นะ ภารกิจของพวกแกทุกคนคือช่วยหมิงไข่ ห้ามไม่ให้นักแข่งคนอื่นผ่านไปได้!” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้น
“โดยเฉพาะเสี่ยวเฟิง” เฮ่อสยงหันไปมองข้างๆ ทางเฮ่อเล่อเฟิง “แกจำไว้ให้ดี หล่อนเป็นแค่คนที่มาร่วมด้วย เท่ากับว่าเสี่ยวเฟิงแกไม่มีเนวิเกเตอร์ ดังนั้นต้องระวังให้มากขึ้น!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฮ่อเล่อเฟิงพยักหน้าตอบรับ
ไม่นาน เฮ่อสยงหันไปมองหลินเยียนด้วยสายตาเย็นชา “จำไว้นะ นั่งที่ฝั่งคนนั่งแล้วไม่ต้องพูดกับเสี่ยวเฟิง อยากทำไรก็ทำ แต่ถ้ากระทบกับเสี่ยวเฟิงแล้วเดือดร้อนหมิงไข่ล่ะก็ แกโดนไม่เบาแน่!”
ได้ยินเฮ่อสยงพูดแล้ว หลินเยียนหัวเราะอย่างเย็นชา เมื่อกี้คิดจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เฮ่อเล่อเฟิงตรงหน้ากับพูดขึ้นอย่างลนลาน “ลุงไม่ต้องห่วงนะครับ พี่เยียนไม่ทำให้ผมเดือดร้อนหรอก!”
“เป็นแบบนั้นจะดีมาก” เฮ่อสยงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ต้องพูดมาก ไปที่จุดเริ่มต้นซะ” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้น
……
ผ่านไปไม่นาน ทุกคนได้เดินทางมาสู่จุดสตาร์ท
บนท้องฟ้ามีโดรนมากมายทำการเก็บภาพจากการบิน เนื่องจากครั้งนี้เป็นการแข่งขันนอกสถานที่ ด้านหน้ามีแต่เส้นทางเนินเขา ดังนั้นจึงไม่มีโซนผู้ชม มีเพียงแค่ห้องชมการแข่งขัน ถ่ายทอดภาพการแข่งขันผ่านโดรน
“ขึ้นรถ!” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็รีบเข้าไปในรถทันที
ในวินาทีนี้ หมวกกันน็อกในมือหลินเยียนก็ถูกยกขึ้นช้าๆ และสวมลงบนหัว
ขณะนี้มีผู้คนมากมายถูกหลินเยียนดึงดูดสายตาไป
ชุดแข่งสีเงิน หมวกกันน็อกสีเงิน รถสีเงิน…
โดยเฉพาะหุ่นของเธอ ช่างเหมือนกับใครบางคนในความทรงจำทุกคนเหลือเกิน
ภายในเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น เฮ่อติ้งคุนมองดูหลานสาวของตัวเองแล้วชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าหลานสาวของตัวเองและนักแข่งรถที่ตัวเองชอบที่สุดอย่าง เรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์เยวา เหมือนกันราวกับแกะสลักออกมา โดยเฉพาะหลินเยียนที่ใส่หมวกกันน็อกแล้ว ช่าง…เหมือนจริงๆ เลย…
ขณะนี้ ภายในห้องวีไอพี
เว่ยสวีเฟิงเข้ามาในห้อง เพิ่งจะนั่งลงบนเก้าอี้ สายตาก็ถูกการถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ดึงดูดไปทันที
“นี่…”
สีหน้าของเว่ยสวีเฟิงเหม่อลอยไปเล็กน้อย
[1] ผึ้งน้อย คำแสลงที่มีความหมายถึงคนที่เจ๊าะแจ๊ะเก่ง ขยันพูดจา ขยันทำงาน เหมือนกับผึ้ง