ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 395 ตีให้ตายก็ไม่ไปดู / ตอนที่ 396 หน้าแตก!
ตอนที่ 395 ตีให้ตายก็ไม่ไปดู
ระหว่างที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวตัวติดตามหลินเยียนมาตลอด ดังนั้นจึงรู้ดีว่าการแสดงของหลินเยียนนั้นดีมาก ตอนนี้จึงกำลังโอดครวญร้องขอความเป็นธรรมให้เธออยู่เช่นเดียวกัน “เรื่องนี้เบื้องหลังต้องมีคนตั้งใจชี้นำความเห็นแน่นอน! เพียงแต่เจ้าคนในเน็ตพวกนี้เป็นพวกลอยตามลม ใครว่าอะไรก็ว่าตามกันเกินไปแล้ว! ดูก็ไม่เคยดูก็มาเริ่มด่ากันเสียแล้ว! หรือพวกเขาไม่มีความคิดของตัวเองเลยหรือไง?”
“ฉันเชื่อหลักการหนึ่งมาตลอด” หลินเยียนเอ่ย
ตัวตัว “หลักการอะไร?”
“ความพยายามเอาชนะทุกอย่าง ไม่ว่าจะแผนการชั่วร้ายอะไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังของความจริง ก็จะต้องพังทลายจนหมดสิ้น”
ตัวตัว “เอ่อ…”
เริ่มหลงตัวเองประจำวันอีกแล้ว…
…
ห้องประธานบริหารชั้นบนสุดของอาคารบริษัท พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์
ฉู่จยาเหยา ประธานของบริษัทพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มองชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าสงสัยใคร่รู้ “หนานซวี่ รีบบอกมาตามตรง ให้ฉันเซ็นสัญญากับดาราหญิงเกรดต่ำที่ชื่อเสียงย่อยยับป่นปี้คนหนึ่งได้! นายเป็นอะไรกับหลินเยียนกันแน่?”
เผยหนานซวี่ถูกฉู่จยาเหยาไล่บี้ถามต่อเนื่องมาหลายวัน เขาได้แต่ตอบกลับไปด้วยความจนใจอีกครั้ง “บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ? การร่วมงานกันครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถมากจริงๆ คุณเซ็นสัญญากับเธอไม่มีทางผิดหวังแน่”
“นายแน่ใจนะว่านายไม่ได้ชอบเธอ?” ความสงสัยปรากฎอยู่เต็มใบหน้าฉู่จยาเหยา “นายต้องรู้นะว่าผลกระทบของเรื่องนี้มันหนักมาก ถ้านายมีความรัก แถมยังมีความรักกับนักแสดงตัวเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงป่นปี้แบบนี้อีก บริษัทเราต้องล้มครืนแน่ ถึงเวลาฉันคงไปบอกกล่าวบอสไม่ได้นะ!”
เผยหนานซวี่ “…”
แต่ความจริงก็คือคนที่กำลังมีความรักน่ะคือบอสของคุณนั่นแหละ…
“วางใจเถอะครับ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดแน่ ผมไม่ได้คิดจะมีความรักเหมือนกัน ถ้าหากมี จะต้องแจ้งคุณที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวแน่” เผยหนานซวี่หมดหนทาง ได้แต่รับประกันครั้งแล้วครั้งเล่าเท่านั้น
เผยหนานซวี่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบผู้จัดการส่วนตัวคนไหนในบริษัทพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ให้ฉู่จยาเหยารับหน้าที่ดูแลเรื่องทุกอย่างของเขาโดยตรง
ก็หมายความว่าประธานอย่างฉู่จยาเหยาคนนี้คือผู้จัดการส่วนตัวของเขานั่นเอง
“ก็เพราะเคยร่วมงานกันมาแล้ว และรู้สึกว่าเธอมีความสามารถมาก เลยออกปากกับฉันเอง ให้ฉันหาวิธีเซ็นสัญญากับเธอ แล้วฉันจะไม่เชื่อนายได้ยังไง? มีดาราหญิงที่มีความสามารถตั้งมากมายขนาดนั้น นายไม่เคยเอ่ยปากพูดกับฉันเลย แล้วทำไมต้องช่วยเธอด้วย?” ฉู่จยาเหยาย่อมยังคงสงสัยเป็นธรรมดา
เผยหนานซวี่รู้ว่าฉู่จยาเหยาไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น ดังนั้นจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า “เพราะผมเชื่อว่าต่อไปเธอจะเป็นดาราที่ดังที่สุดของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ เหตุผลนี้ใช้ได้รึเปล่าครับ?”
สายตาฉู่จยาเหยาไปอยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่อยู่บนโต๊ะทำงาน กวาดตามองคำก่นด่าจำนวนมหาศาลจากเหล่าแฟนคลับที่มีต่อหลินเยียนบนหน้าจอ “นายแน่ใจนะ…?”
นักวิจารณ์ภาพยนตร์นิรนาม [ก่อนหน้านี้นึกมาตลอดว่าเจียงอีหมิงเป็นผู้กำกับที่มีคุณธรรมมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ ตอนนี้ผมขอถอนคำพูด! ขอทายว่าคู่ปรับมหากาฬต้องเป็นหนังห่วยแน่นอน! ชาตินี้ผมไม่มีทางเข้าโรงหนังไปดูผลงานของผู้กำกับเจียงอีหมิงแน่ ช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน!]
แอคเคาท์แฟนคลับใหญ่รายหนึ่ง [พับผ่าสิ! ฉันนึกว่ากองถ่ายจะเปลี่ยนตัวหลินเยียนไปแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ยังใช้งานเธออยู่ดี คนคนเดียวทำให้ลดเกรดกองถ่ายไปทั้งกองเลย กองถ่ายกองนี้บ้าไปแล้วรึเปล่า?
นึกว่าเงินของแฟนคลับอย่างพวกเราหากันได้ง่ายๆ ขนาดนั้นรึไง คิดจะยัดอะไรให้เราก็ได้อย่างงั้นเหรอ? ขอโทษจริงๆ คราวนี้พวกเราไม่เอา!]
กองกำลังช่วยเหลือเว่ยสวีเฟิงอย่างเป็นทางการ [นี่คิดจะยัดคู่แสดงอะไรให้เราก็ได้อย่างงั้นเหรอ กลับให้คนอย่างหลินเยียนมาแสดงเป็นคู่รักกับคุณชายของพวกเราได้ แถมยังอยากให้แฟนคลับอย่างพวกเราไปดูหนังบ้าบอแบบนี้อีก? ขอบอยคอตคู่ปรับมหากาฬสุดๆ ไปเลย!]
แฟนหนังสือผู้ซื่อสัตย์คนหนึ่ง [แม่เจ้าโว้ย! เลือกคนแบบนี้มาแสดงเป็นราชินีเผี่ยนรั่วของฉัน! กองถ่าย แม่แกตายสิ! แบบนี้แล้วยังคิดให้แฟนหนังสืออย่างพวกเราซื้อตั๋วเข้าโรงหนังเพื่อดันรายได้อีกอย่างงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงตายก็ไม่สนับสนุนตั๋วสักใบ!]
ตอนที่ 396 หน้าแตก!
กลางดึก ณ ห้องวีไอพีในบาร์แห่งหนึ่ง
เฮ่อซานซานชี้ไปที่ข่าวในโทรศัพท์มือถือพวกนั้น หัวเราะจนตัวโยน “ไอ้หยา ขำจะตายอยู่แล้ว! นังแพศยาหลินเยียนนั่น ก่อนหน้านี้ยังทำตัวจองหองต่อหน้าพวกเราอยู่เลย! ตอนนี้ถูกด่าจนเป็นหมาไปแล้ว! ฉันก็บอกแล้วไง มันนึกว่าของที่มันเคยแย่งไปจะเป็นของของมันอย่างงั้นเหรอ งั้นก็ต้องดูว่ามันจะมีปัญญาได้ไปรึเปล่า!”
“เดิมทีก็เป็นเรื่องที่คาดเอาไว้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเคยโน้มน้าวผู้กำกับเจียง เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาไม่ฟัง ยังคงยืนกรานว่าจะเข้าฉายตามเดิม ทำให้ดาราที่อยู่ในกองทั้งหมดต้องพลอยเดือดร้อนไปฟรีๆ ด้วย” เจี่ยงซือเฟยถอนหายใจพร้อมเอ่ยปากพูด
หลินซูหย่านั่งอยู่กึ่งกลางโซฟา มือชูแก้วเหล้าด้วยท่าทางสง่างาม “พอล้มจนหัวร้างข้างแตก พวกเขาก็จะรู้สึกได้เอง”
“เพียงแต่น่าเสียดาย กว่าคุณหลินจะช่วยให้ฉันได้บทนางเอกของหนังเรื่องนี้มาได้…” เจี่ยงซือเฟยเอ่ยปากพูดโดยรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่บ้าง
หลินซูหย่าย่อมรู้ดีว่าเจี่ยงซือเฟยกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ ดังนั้นจึงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “วางใจได้ ที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แค่อยากทำให้พวกเขาเข้าใจเรื่องหนึ่ง ในวงการบันเทิงนี้ขอเพียงมีใครกล้าใช้งานหลินเยียน สิ่งที่ต้องเผชิญคืออะไรก็เท่านั้นเอง
เมื่อถึงเวลา เฝิงอันหวาก็จะตัดฉากหลินเยียนและเข้าฉายใหม่เอง ถึงตอนนั้นเธอค่อยติดต่อสื่อใหญ่อื่นๆ เพื่อโปรโมทอีกทีก็ได้แล้ว”
หลินซูหย่าไม่ได้ใส่ใจเจี่ยงซือเฟย สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้มากที่สุดก็คือ…ให้หลินเยียนไม่มีวันฟื้นคืนชีพได้อีก!
เมื่อเจี่ยงซือเฟยได้ยินก็แสดงสีหน้ายินดีปรีดาทันที “ก็ยังเป็นคุณหลินที่คิดอ่านรอบคอบ!”
……
สองวันต่อมาคู่ปรับมหากาฬก็เข้าฉายรอบปฐมทัศน์
จำนวนคนในโรงภาพยนตร์มีน้อยมาก โดยเฉพาะรอบค่ำซึ่งแทบจะไม่ค่อยมีผู้ชมเลย
ณ โรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตี้ตู
นักวิจารณ์ภาพยนตร์คนหนึ่งนั่งอยู่ ณ มุมหนึ่งที่ไม่สะดุดตา สีหน้าตื่นตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นตัวละครหลินเผี่ยนรั่วปรากฎตัวอยู่ในฉาก…
หญิงสาวสวมชุดเดรสสีดำ เย็นชาและสูงสง่า ออร่ามีพลังมาก แทบจะทำให้คนเข้าถึงตัวละครที่เธอแสดงได้ภายในชั่วพริบตา
“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง…”
เดิมทีนักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้มาเพราะราชาภาพยนตร์เผยและราชินีภาพยนตร์อย่างเจี่ยงซือเฟยโดยเฉพาะ แต่พอดูหนังเรื่องนี้จบก็ไม่อาจสงบจิตใจได้เป็นเวลานาน
ฝีมือการแสดงของราชาภาพยนตร์เผยไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้นักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้รู้สึกเหลือเชื่อก็คือตัวละครที่ดูเหมือนไม่ค่อยเด่นตัวหนึ่งในนั้นกลับแย่งความเด่นของนางเอกไปโดยสิ้นเชิง
ดาราสาวคนนี้คือหลินเยียนที่กำลังถูกด่าสาดเสียเทเสียมากที่สุดบนอินเตอร์เน็ตช่วงนี้ไม่ใช่หรือไง
แต่สิ่งที่ต่างจากข่าวลือโดยสิ้นเชิงก็คือเธอวิเคราะห์ตัวละครหลินเผี่ยนรั่วนี้ได้อย่างถ่องแท้ เป็นตามต้นฉบับที่อยู่ในหนังสืออย่างสมบูรณ์แบบ…
ขณะนี้เอง นอกจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้แล้วก็มีผู้ชมประปรายอยู่ไม่กี่คน แถมยังเป็นแอนตี้แฟนของหลินเยียนอีกด้วย
วัตถุประสงค์ที่พวกเขามาดูก็คือเพื่อให้พอกลับไปแล้วจะได้ด่าหลินเยียนได้มากกว่าเดิม เพื่อบอกทุกคนว่าขยะซึ่งทั้งน่าเกลียดทั้งเป็นเศษสวะอย่างหลินเยียนคนนี้แสดงได้เหมือนอุจจาระ…
ถึงอย่างนั้น…
แวบแรกที่หลินเยียนปรากฏตัว ความรู้สึกแรกที่ทุกคนมีก็คือตื่นตะลึงเพราะความงาม
ตอนที่เจี่ยงซือเฟยปรากฏตัวก่อนหน้านี้ พวกเขายังรู้สึกเซอร์ไพรส์ บอกว่าที่แท้พอราชินีภาพยนตร์ไม่แต่งตัวน่าเกลียดแล้วก็สวยมาก เพียงแต่ชั่วพริบตาที่หลินเยียนปรากฏ นักแสดงหญิงที่อยู่ในเรื่องทุกคนก็ถูกบดบังจนกลายเป็นฝุ่นไป
สิ่งที่ยิ่งทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อก็คือฉากที่เธอแสดงกับพ่อเทพบุตรน้อยเว่ยสวีเฟิง ไม่เพียงไม่ได้น่าเบื่อและห่วยแตกอย่างที่ลือกันในเน็ต ตรงข้ามกลับทำให้จิตใจของหนุ่มสาวแตกสลาย!
ฉากสุดท้ายที่เธอแสดงกับเผยหนานซวี่ ออร่าก็ยิ่งรุนแรง!
เมื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้จนจบบริบูรณ์ สิ่งที่คงเหลืออยู่ในสมองของทุกคนมีแค่อย่างเดียว…
หน้าแตก!