ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 409 คิดไม่ซื่อกับคุณชายอย่างฉันจริงๆ ด้วย / ตอนที่ 410 นี่มันคู่จิ้นระดับเทพเจ้าอะไรกันเนี่ย!
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 409 คิดไม่ซื่อกับคุณชายอย่างฉันจริงๆ ด้วย / ตอนที่ 410 นี่มันคู่จิ้นระดับเทพเจ้าอะไรกันเนี่ย!
ตอนที่ 409 คิดไม่ซื่อกับคุณชายอย่างฉันจริงๆ ด้วย
เว่ยสวีเฟิงเอนหลังพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลนัก เขาไม่พูดเลย เพียงแต่สายตากลับไปอยู่ที่ร่างหลินเยียนเป็นระยะ
เว่ยสวีเฟิงในตอนนี้ไม่สนใจภาพยนตร์ ไม่สนใจการโปรโมทอะไรทั้งนั้น เขาแค่สงสัยว่าวันนั้นหลินเยียนเอาชนะทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ได้อย่างไร?
นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
คงไม่ได้แข่งกันหลอกๆ หรอกนะ?!
ทีมอย่าง ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ถึงอย่างไรก็เป็นหนึ่งในทีมแข่งระดับสุดยอดของประเทศ ถึงจะไม่ได้เก่งมากที่สุด แต่ก็ไม่มีทางแพ้ทีมตระกูลเฮ่อแน่
เว่ยสวีเฟิงอย่างเดินเข้าไปถามหลินเยียนด้วยตัวเอง ถึงกระนั้นกลับไม่รู้ว่าควรเริ่มถามจากตรงไหน จะไปถามกันตรงๆ ว่าพวกเขาแข่งกันหลอกๆ ก็ไม่ได้
ถึงเขาจะคิดไม่ออกว่าทำไมทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ต้องร่วมมือเพื่อแข่งหลอกๆ กันด้วย เพียงแต่นี่กลับเป็นเพียงความเป็นไปได้เดียวที่เขานึกออกแล้ว…
ไม่อย่างนั้นภายในช่วงเวลาอันสั้น หลินเยียนใช้อะไรถึงพัฒนาฝีมือตัวเองจนถึงขั้นเอาชนะทีมรถแข่งอย่างทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ได้ เธอนึกว่าเธอเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาจริงอย่างนั้นเหรอ?
ตอนนี้เว่ยสวีเฟิงพบว่าหลินเยียนกวาดสายตามองตนเองเป็นระยะ ดังนั้นจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
“เธอมองฉันทำไม?” เว่ยสวีเฟิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
หลินเยียนเหลือบมองเว่ยสวีเฟิง พูดไม่เร็วไม่ช้าออกมาว่า “ถ้านายไม่มองฉันแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังมองนายอยู่?”
หมอนี้จ้องมองเธออย่างอุกอาจก่อนแท้ๆ เธอถึงต้องมองกลับไปไม่ใช่หรือไง?
“เธอ…!”
เว่ยสวีเฟิงจ้องหลินเยียน กัดฟันกรอด สุดท้ายก็ยังถามออกไปโดยไม่อาจยั้งไว้ได้ “การแข่งระหว่างตระกูลเฮ่อกับดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ครั้งนั้นมันเรื่องอะไรกัน? เธอเล่นลูกไม้อะไรกันแน่? ต่อให้เธอเกิดมาในตระกูลนักแข่งรถ มีฝีมือการแข่งรถอยู่บ้าง แต่ความสามารถของทีมตระกูลเฮ่อเป็นยังไง ในวงการต่างรู้ดี เธอบุกตะลุยบดขยี้ทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู เพียงลำพัง นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”
หลินเยียนยักไหล่อย่างจนปัญญา “คงเพราะ ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู อ่อนเกินไปล่ะมั้ง…”
นั่นเพราะ…ฉันเป็นโคตรบรรพบุรุษของพวกเขาไง…
เว่ยสวีเฟิงหน้าถมึงทึง “ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู อ่อนงั้นเหรอ?”
เธอเป็นคนของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ กลับมีหน้ามาบอกว่าทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู อ่อน? ผู้หญิงคนนี้กำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
ขณะนี้เองจู่ๆ เหมือนหลินเยียนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดเสียงดังขึ้นไปอีกว่า “เอ เดี๋ยวก่อนนะ พอพูดถึงการแข่งรถ…คุณชายเว่ย คุณคงไม่ได้ลืมอะไรไปหรอกนะ?”
เว่ยสวีเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยความรำคาญออกมาว่า “อะไร?”
“ฉันจำได้ว่าเหมือนนายจะเคยโพสต์เวยปั๋ว…บอกว่าถ้าฉันชนะ นายจะแก้ผ้าวิ่งไม่ใช่รึไง?” หลินเยียนเอ่ยปากพูดพลางยิ้มร่า
หลินเยียนเพิ่งพูดจบ ใบหน้าเว่ยสวีเฟิงก็ดำทะมึนเหมือนก้นกระทะทันที “เธอมันผู้หญิงไร้ยางอาย ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ! เธอคิดไม่ซื่อกับร่างกายของคุณชายอย่างฉันจริงๆ ด้วย!!!”
หลินเยียน “…”
โรคจิตหลงผิดคิดไปเองแฟนคลับตัวน้อยของเธอคนนี้ท่าทางจะหนักหนายิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว…
…
ไม่นานนักก็เริ่มกิจกรรมการโปรโมทคู่ปรับมหากาฬ ผู้ที่เกี่ยวข้องในกองถ่ายต่างทยอยกันขึ้นบนเวที
เผยหนานซวี่ที่เป็นพระเอกกับเจี่ยงซือเฟยที่เป็นนางเอกต้องอยู่ตำแหน่งกึ่งกลางอย่างไม่ต้องสงสัย และต้องขึ้นเวทีคนแรกสุดอีกด้วย พิธีกรสอบถามเรื่องราวกับกับภาพยนตร์รวมถึงเรื่องน่าสนุกบางอย่างระหว่างถ่ายทำด้วยความกระตือรือร้น
ก่อนหน้านี้การโปรโมททุกครั้งของกองถ่ายต่างไม่เอ่ยถึงหลินเยียนแม้แต่น้อย แต่คำถามจำนวนไม่น้อยของพิธีกรในวันนี้กลับชี้นำคำถามให้มีหัวข้อเกี่ยวข้องกับหลินเยียนด้วยท่าทีคล้ายเจตนาคล้ายไม่เจตนา
เพราะกิจกรรมครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดสดตลอดงาน ดังนั้นพิธีกรจึงสุ่มเลือกคำถามจากแฟนคลับจำนวนมากที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอเช่นกัน
ตอนนี้อักษรวิ่งที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอส่วนใหญ่เป็นของแฟนคลับที่สารภาพรักกับเผยหนานซวี่ นอกจากนี้ที่เหลือทั้งหมดกลับถามว่าเมื่อไหร่หลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงจะขึ้นเวที
ส่วนนางเอกอย่างเจี่ยงซือเฟยกลับแทบไม่มีใครถามถึง ส่วนคำวิจารณ์ที่มีอยู่น้อยนิดก็กำลังต่อว่าการแสดงของเจี่ยงซือเฟยในหนังเรื่องนี้ที่ทำให้คนผิดหวังทั้งสิ้น
ตอนที่ 410 นี่มันคู่จิ้นระดับเทพเจ้าอะไรกันเนี่ย!
[หรือว่ามีฉันคนเดียวที่รู้สึกว่าการแสดงของเจี่ยงซือเฟยในหนังเรื่องนี้ไม่สมกับฉายาราชินีภาพยนตร์เลย? แสดงจนนางเอกเป็นเหมือนแจกันดอกไม้!]
[เจ้าของโพสต์ ไม่ใช่เธอคนเดียว! แถมด้วยหน้าตาเจี่ยงซือเฟย ให้เธอเป็นแจกันดอกไม้ยังไม่พอเลยใช่หรือเปล่า ถูกหลินเยียนปลิดชีพไปแล้ว!]
[ก่อนหน้านี้มีความทรงจำที่ดีต่อเจี่ยงซือเฟยมาก รู้สึกว่าเธอดีมาตลอด ตั้งแต่ย้ายไปบริษัทใหม่ รู้สึกว่าสไตล์ของเธอเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่หน้าตาก็เปลี่ยนไปด้วย เหมือนเคยแอบศัลยกรรมมาหลายครั้งด้วย! หน้าเดิมดีมากอยู่แล้วนะ ตอนนี้ศัลยกรรมจนเหมือนเน็ตไอดอล ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง!]
……
เจี่ยงซือเฟยกวาดตามองคอมเมนต์ของเพื่อนชาวเน็ตในโทรศัพท์มือถือ หน้าที่เพิ่งผ่านการทำมาเล็กน้อยจนแข็งอยู่บ้างจึงยิ่งแข็งมากกว่าเดิม
เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่กับเจ้าหง เธอเดินอยู่บนเส้นทางของผู้ที่ใช้ความสามารถ ถึงไม่ค่อยดังมาก แต่แทบทุกคอมเมนต์ที่มีต่อเธอบนอินเทอร์เน็ตนั้นมีแต่เชิงบวก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผชิญกับการตั้งคำถามมากขนาดนี้
“คนต่อไปที่จะออกมาคือคู่รักที่พวกคุณชื่นชอบมากที่สุดในภาพยนตร์ หลินเผี่ยนรั่วกับฟังชั่นหลัน ทุกท่านโปรดให้การต้อนรับครับ!”
เว่ยสวีเฟิงกับหลินเยียนเดินออกมาจากหลังเวทีพร้อมเสียงของพิธีกร
แฟนคลับที่อยู่ในงาน โดยเฉพาะเหล่าแฟนหนังสือ เมื่อเห็นทั้งสองคนก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นทันที แฟนคลับที่ดูถ่ายทอดสดเองก็เริ่มส่งข้อความวิ่งอย่างบ้าคลั่ง
วันนี้หลินเยียนสวมชุดเดรสกระโปรงสั้นที่เรียบง่ายทะมัดทะแมงสีดำ ส่วนเว่ยสวีเฟิงแต่งตัวตามสไตล์ของฟังชั่นหยางในภาพยนตร์ เสื้อทีเชิ้ตสีขาวเข้าคู่กับกางเกงลำลอง ทั้งหนุ่มทั้งเจิดจ้า
ภาพที่ทั้งสองเดินเคียงคู่กันนั้นช่างน่าดูยิ่ง
เหล่าแฟนคลับที่ก่อนหน้านี้เคยคัดค้านการที่หลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงจะแสดงเป็นคู่รักกันมีจำนวนไม่น้อยที่พอดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วก็กลายเป็นชิปเปอร์
ไม่ว่าอย่างไรเจี่ยงซือเฟยก็คาดไม่ถึงว่าหลินเยียนกลับดังเพราะบทนางรองเบอร์สี่ตัวเล็กๆ บทนี้
“กรี๊ด! เผี่ยนรั่ว! ราชินีเผี่ยนรั่ว! วันนี้ขอร้องไห้ให้กับความรักอันสุดแสนเพอร์เฟกต์ของคู่จิ้นของฉัน!”
“นี่มันคู่จิ้นระดับเทพเจ้าอะไรกันเนี่ย! ฉันดันสุดๆ!”
“ชอบคู่จิ้นคู่นี้จะตายอยู่แล้ว ขอบคุณ! ขอบคุณ! แฟนหนังสือขอคุกเข่าขอบคุณ!”
……
ถูกด่ามานาน พอได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีด้วยความตื่นเต้นจากเหล่าแฟนหนังที่อยู่ในงาน หลินเยียนก็ไม่ค่อยชินอยู่บ้างจริงๆ
ข้อความวิ่งของแฟนคลับในตอนนี้ก็วิ่งขึ้นหน้าจอไม่หยุดหย่อน…
[ใครเป็นคนดูแลลุคใหม่ของหลินเยียน! ช่างเลิศเหลือเกิน! ก่อนหน้านี้ทำไมไม่รู้ว่าความสวยของหลินเยียนจะรุนแรงมากขนาดนี้? เธอไปศัลยกรรมมาหรือเปล่านะ]
[เธออยู่วงการด้วยสภาพน่าอนาถแบบนั้น คงไม่มีเงินไปทำมาหรอกน่า? แถมตอนที่หลินเยียนเพิ่งเข้าวงการ เดิมทีก็ดังเพราะความสวยอยู่แล้วนะ! พวกเธอจำรูปถ่ายของเธอที่ดังระเบิดไปทั่วอินเทอร์เน็ตในตอนนั้นไม่ได้งั้นเหรอ ก็รูปที่พิงรถรูปนั้นไง! ดูจากอวัยวะบนใบหน้าแล้วไม่น่าไปทำมานะ]
[ฉันว่าไม่ใช่เพราะปรับลุคสำเร็จหรอก แต่เป็นเพราะทีมก่อนหน้านี้ของเธอมันห่วยเกินไปล่ะสิไม่ว่า สร้างลุคเธอจนน่าเกลียดเหลือเกิน! กลับเป็นช่วงนี้ที่เธอเริ่มปลดปล่อยตัวเองที่ทำให้น่าดูไม่น้อย สวมชุดออกกำลังกายหลวมๆ ง่ายๆ ก็สวยมากแล้ว!]
คอมเมนต์ของเพื่อนชาวเน็ตรายนี้ได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับจำนวนไม่น้อย จากนั้นก็เริ่มรอคอยให้คู่จิ้นอย่างหลินเยียนกับเว่ยสวีเฟิงคู่นี้ปรากฏตัว
เจี่ยงซือเฟยมองดูหลินเยียนแย่งความเด่นของตัวเองไปครองจนหมด หน้าเริ่มดำทะมึนมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อคนในกองถ่ายมากันครบถ้วนแล้ว พิธีกรก็มองไปที่ผู้กำกับเจียงอีหมิงก่อน จากนั้นก็ถามระคนยิ้มออกมาว่า “ผู้กำกับเจียงครับ ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ของเรามีเรื่องบางอย่าง คำวิจารณ์ในเน็ตกับจำนวนการต่อคิวเข้าโรงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นก็กลับตาลปัตรอย่างน่าตกใจโดยสิ้นเชิง ช่วงแรกผู้กำกับเจียงเคยกังวลบ้างหรือเปล่าครับ”
เมื่อได้ยินเจียงอีหมิงก็ผงกศีรษะ “จะบอกว่าไม่กังวลก็โกหกครับ เพียงแต่ผมเชื่อว่าผลงานที่ดี ผู้ชมต่างมีตา ย่อมไปดูด้วยตัวเองแน่ๆ ครับ!”