ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 41 ท่านผู้นำสูงสุดที่เสด็จมาปราบเขาโดยไร้ความปรานี
ทักษะการขับรถของเธอน่าประทับใจมาก!
ผู้หญิงคนนี้…เป็นใครมาจากไหนกันแน่
นอกจากซ่งเย่าหนานแล้ว บรรดาชายหญิงคนอื่นๆ ก็ตะลึงงันไม่แพ้กัน
“อะไรกัน…สุดยอด…”
“เมื่อกี้เห็นรึเปล่า?”
“เห็น…เห็นชัดเลย…ผู้หญิงคนนั้นควบคุมรถตอนเข้าโค้งยากๆ กับในลูปได้สมบูรณ์แบบ…พี่หนานแพ้ยับตลอดทั้งการแข่งขันเลย…”
“มือโปร! ท่านอาจารย์! ที่จริงแล้วหล่อนต้องเป็นท่านผู้นำสูงสุดที่เสด็จมาปราบเขาโดยไร้ความปรานี!”
…
แต่คนที่ช็อกที่สุดคือชายที่นั่งอยู่ด้านในรถเฟอร์รารีที่ชื่อ เผยอวี่ถัง
ชายหนุ่มกำเข็มขัดนิรภัยแน่นด้วยสีหน้าซีดเผือด เขารู้สึกเหมือนกับจะคายของเก่าออกมา สายตาจับจ้องไปที่หลินเยียนราวกับเห็นผี
“เธอ…เธอ เธอ เธอ…” เผยอวี่ถังพูดตะกุกตะกัก
หลินเยียนเปิดประตูแล้วก้าวออกจากรถ
ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผมของเธอจนปลิวไสว ในขณะที่ดวงตาของเธอเปล่งประกายอย่างสวยงามดุจท้องฟ้าที่มืดมิด ไม่มีเค้าเดิมของผู้หญิงที่บอบบางและอ่อนแออีกต่อไป
“นายน้อยซ่ง ทำตามที่เราสัญญาได้ไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยท่าทีเป็นกันเอง
ซ่งเย่าหนานขบฟันพลางจ้องมองเผยอวี่ถัง “ไม่คิดเลยว่าจะต้องแพ้ผู้หญิงอย่างน่าอนาถแบบนี้ เผยอวี่ถัง แกนี่มันฉลาดจริงๆ วางแผนดักฉันสินะ?”
เผยอวี่ถังไม่ตอบอะไร
ซ่งเย่าหนานพูด “จะเอาอะไรก็บอกมา”
หลินเยียนกะพริบตาก่อนจ้องมองฝากระโปรงรถของซ่งเย่าหนาน เธอเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “เครื่องยนต์ของนายน้อยซ่งนี่สุดยอดไปเลยนะคะ”
ดวงตาของซ่งเย่าหนานเบิกโพลงด้วยความตกใจ “เธอ…”
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงละโมบได้ขนาดนี้
บัดซบ! ไอ้ขี้แพ้อย่างเผยอวี่ถังไปหาคนเก่งขนาดนี้มาได้ยังไงกัน
“ถอดเครื่องแล้วยกให้เธอซะ!”
“อะไรนะ? พี่หนานครับ นั่นนำเข้าจากเยอรมัน…”
“ฉันสั่งให้ถอดแล้วยกให้เธอ ไม่ได้ยินหรือไง”
“ครับ…”
หลินเยียนยิ้มแป้นอย่างมีความสุขเมื่อเห็นเครื่องยนต์ถูกยกออกจากรถ “ให้คนอื่นมาเรียกพ่อแล้วจะได้อะไร สู้เอาของที่ใช้งานได้แถมยังราคาแพงดีกว่า…” เธอพึมพำกับตัวเอง
เมื่อเผยอวี่ถังเห็นท่าทีหน้าเลือดของหลินเยียน ภาพเทพธิดาที่น่านับถือก็พลันมลายหายไปจนหมดสิ้น
เป็นแค่ภาพลวงตารึเปล่านะ?
เธอเปลี่ยนจากกระต่ายน้อยที่อ่อนแอไปเป็นคนละคน…
หลินเยียนจ้องมองเผยอวี่ถังเมื่อเครื่องยนต์ถูกยกมาไว้ในรถของพวกเขา “ไปกันเถอะ!”
เผยอวี่ถังพยักหน้าเร็วๆ ขณะที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับอย่างว่าง่าย
สุดท้าย ซ่งเย่าหนานและบรรดาเพื่อนๆ ได้แต่จ้องมองหลินเยียนกับเผยอวี่ถังขับรถออกไปพร้อมเครื่องยนต์ด้วยท่าทีของผู้ชนะ
แม้ว่าเผยอวี่ถังจะเป็นคนควบคุมรถในตอนนี้ แต่เขาไม่กล้าที่จะอวดทักษะการขับรถอีกต่อไป เพียงแต่ขับอย่างระมัดระวังราวกับว่าบังคับให้รถค่อยๆ คลานไป
ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันอีก ภายในห้องโดยสารจึงเงียบกริบ
เผยอวี่ถังมีคำถามเป็นร้อยที่อยากรู้คำตอบ สุดท้ายแล้วเขาจึงสุ่มเลือกมาอันหนึ่ง “เธอ…เอาเครื่องยนต์ของซ่งเย่าหนานมาทำไม”
หลินเยียนตอบ “ฉันแค่จะขออะไรสักอย่างจากเขาเท่านั้นแหละค่ะ ขอแค่อย่างเดียวก็ถือว่าใจดีแล้วนะ!”
มุมปากของเผยอวี่ถังกระตุก…
ใจดีเหลือเกิน นั่นมันส่วนที่แพงที่สุดของรถเลยนะ!
เผยอวี่ถังจ้องหลินเยียนต่อไปอย่างไม่พอใจ ดูเหมือนเขามีเรื่องที่อยากจะพูดมากมายติดอยู่ในลำคอ
หลินเยียนหันไปประจันหน้ากับเขา “นายน้อย มีอะไรจะพูดก็พูดมาค่ะ”
ดวงตาของเผยอวี่ถังที่กำลังจ้องหลินเยียนส่องประกายวิบวับ “พ่อครับ!” เผยอวี่ถังตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น