ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 413 เป็นคนที่ฉันเทิดทูนมากที่สุด / ตอนที่ 414 มีแฟนแล้วหรือยัง?
ตอนที่ 413 เป็นคนที่ฉันเทิดทูนมากที่สุด
“พี่คะ บังเอิญจังเลยนะ!” หลินซูหย่าเก็บงำประกายชั่วร้ายภายในดวงตา ยิ้มแย้มพลางกล่าวทักทาย หลินเยียน
ไม่รอให้หลินเยียน เว่ยสวีเฟิงที่อยู่ด้านข้างก็ก้าวเข้ามาหาแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าเธอจะร่วมแสดงเรื่อง เลเจนด์ด้วยเหรอ?”
เมื่อหลินซูหย่าเห็นเว่ยสวีเฟิงเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับตัวเอง จึงเอ่ยปากตอบด้วยท่าทีสนิทสนม “ใช่แล้วล่ะ เรื่องหลักๆ ทั่วไปก็กำหนดกันเรียบร้อยแล้ว”
เว่ยสวีเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยทันที “กำหนดแล้ว? เล่นบทอะไร?”
หลินซูหย่าตอบด้วยท่าทีลำบากใจ “ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้นะ…”
จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปอีก “เพียงแต่จะบอกนายก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ตอนนี้บทของแฟนสาวลั่งหมั่งน่าจะกำหนดตัวให้เป็นเฉียวเข่อเซวียนแล้วล่ะ ฉันน่าจะแสดงเป็นตัวละครตัวอื่น ความหมายของผู้กำกับก็คือบทอื่นน่าจะเหมาะกับฉันมากกว่าน่ะ”
หลินซูหย่าพูดไปพลาง เหลือบมองไปทางหลินเยียนอย่างจงใจไปพลาง
ถึงเธอจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็บอกเป็นนัยๆ อย่างชัดเจนเหลือเกิน
ในภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์นี้ มีตัวละครหญิงจีนสองคนที่ยังไม่ได้กำหนด ในเมื่อบทแฟนสาวของลั่งหมั่งกำหนดให้เป็นเฉียวเข่อเซวียน ถ้าอย่างนั้นบทของเยวาคงตกเป็นของหลินซูหย่าแน่นอนแล้ว
ถึงหลินซูหย่าจะไม่ได้ใช้น้ำเสียงยืนยันด้วยความแน่ใจ แต่ฟังจากการพูดแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง
เมื่อหลินเยียนได้ยินก็เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
กลับเป็นเว่ยสวีเฟิงเสียอีกที่เหมือนจะมีปฏิกิริยารุนแรงมากกว่าเธอ ขมวดคิ้วมุ่นพร้อมพูดขึ้นมาว่า “บทสำคัญมากขนาดนี้ ทำไมถึงกำหนดกันอย่างลวกๆ แบบนี้ได้ล่ะ? ที่แท้พวกเขาศึกษาชีวิตของเยวากันอย่างจริงจังบ้างหรือเปล่า?”
เมื่อหลินซูหย่าได้ยินคำพูดนี้ของเว่ยสวีเฟิงสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพียงแต่ก็กลับคืนสู่ความสง่างามและใจกว้างอย่างที่เคยเป็นมาอย่างรวดเร็ว เธอตอบด้วยเสียงอันอ่อนโยนกลับไปว่า “สวีเฟิง ฉันรู้ว่านายชอบ เยวามาก แต่ว่านะ นายวางใจเถอะ ทีมของผู้กำกับให้ความสำคัญกับบทนี้มากเลย เตรียมอะไรตั้งหลายอย่างให้ฉัน ถ้าได้รับบทนี้มา ฉันมั่นใจว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่”
หลินซูหย่าพูดพลางยิ้มและมองไปทางหลินเยียน “พี่ชอบแข่งรถมากขนาดนั้น น่าจะเทิดทูนเยวามากเหมือนกันสินะคะ? เหมือนฉันจะเห็นชื่อของพี่ในรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกด้วยนะคะ…พี่อยากจะแสดงบทนี้ด้วยเหรอ?”
หลินซูหย่ารู้ทั้งรู้ว่าหลินเยียนแข่งรถไม่ได้อีกแล้ว แต่กลับยังจงใจเอ่ยถึงการแข่งรถต่อหน้าเธออีก เอ่ยถึงเยวาซึ่งเป็นที่เทิดทูนและเป็นตำนานของคนในวงการรถแข่งทุกคน นี่จงใจจี้ใจดำเธอชัดๆ
“เทิดทูน…” หลินเยียนหลุบตาพร้อมหัวเราะ ผงกศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้วล่ะ! เทิดทูนมากจริงๆ ! เธอเป็นคนที่ฉันชอบมากที่สุดเทิดทูนมากที่สุดและเคารพมากที่สุดเลย!”
เธอเทิดทูนตัวเธอเองมากเหมือนกันนะ ไม่ได้แปลกอะไร…
เว่ยสวีเฟิงที่อยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินถึงตรงนี้สีหน้าก็แย่หนักไปกว่าเดิม
เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย! ผู้หญิงคนนี้กลับอยากแสดงเป็นเยวาอย่างงั้นเหรอ?
ต่อให้หลินซูหย่าเป็นคนแสดงก็ยังดีกว่าให้ผู้หญิงคนนี้แสดงรึเปล่า?
ไม่ใช่สิ! ใครแสดงก็ไม่ได้ทั้งนั้น!
ขณะที่เว่ยสวีเฟิงกำลังจะเอ่ยปาก ผู้ช่วยของเขาที่อยู่ด้านข้างก็ดึงเขาเอาไว้ “พี่เฟิง! พี่เฟิง รีบไปกันเถอะ! เดี๋ยวพวกเราต้องมีงานแถลงข่าวกันอีกนะ! จะไปไม่ทันแล้ว!”
ผู้ช่วยตัวน้อยมีสีหน้าร้อนรน คุณชายคนนี้พอเป็นเรื่องของเยวากลับวู่วามได้อย่างง่ายดาย มาพูดว่าคนอื่นไม่ได้ความต่อหน้าทีมกองถ่ายของเขา แถมยังสงสัยการเลือกตัวแสดงของคนอื่นเขาอีก นี่ไม่ใช่การวอนหาเรื่องหรือไง?
เนื่องจากถูกผู้ช่วยขัดขวาง เว่ยสวีเฟิงจึงแค่นเสียงด้วยความไม่ยินยอมออกมาครั้งหนึ่งพร้อมเดินจากไป
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะหนีตามไปด้วย จู่ๆ หลินซูหย่าก็พูดกดเสียงต่ำข้างตัวเธอ “จริงสิ พี่คะ ได้ยินว่าหนังของพี่ได้รายรับสูงมาก ยังไม่ทันได้แสดงความยินดีกับพี่เลยนะคะ!”
หลินเยียนกวาดตามองหลินซูหย่าด้วยความเฉยเมยครั้งหนึ่ง “ไม่ต้องรีบ วันหลังเธอยังมีโอกาสที่จะมาแสดงความยินดีกับฉันอีกเยอะ”
หลินซูหย่าหน้าบึ้งเล็กน้อย “เหอะๆ พี่นี่ช่างไร้เดียงสาซะจริงเชียว…หวังว่าพี่จะโชคดีแบบนี้ตลอดไปนะ…”
ตอนที่ 414 มีแฟนแล้วหรือยัง?
เมื่อมาถึงด้านหลังเวที
หลินเยียนกำลังเตรียมเก็บข้าวของเพื่อออกไป โปรดิวเซอร์เฝิงอันหวาก็เดินยิ้มร่าเข้ามาหาเธอ
“หลินเยียนเอ้ย รอเดี๋ยว เดี๋ยวค่อยไป!”
“โปรดิวเซอร์เฝิง?” หลินเยียนรั้งฝีเท้า “คุณมีธุระอะไรงั้นเหรอคะ”
เฝิงอันหวาเอ่ย “หลินเยียนเอ้ย หนังของพวกเราขายตั๋วได้เยอะขนาดนี้ เธอมีผลงานมากที่สุดเลยนะ ฉันเลยให้ฝ่ายบัญชีส่งอั่งเปาซองใหญ่ให้เธอ กลับไปแล้วเธอเช็กบัญชีของเธอสักหน่อยนะ!”
หลินเยียนดวงตาเปล่งประกายทันที “อั่งเปาซองใหญ่?”
เฝิงอันหวาผงกศีรษะ “ใช่แล้วล่ะ ไม่ต่ำกว่าหกหลักเลยนะ!”
ไม่ต่ำกว่าหกหลัก นั่นมันต้องหลายแสนเลยไม่ใช่หรือไง
หลินเยียนรู้สึกว่าเฝิงอันหวาที่อยู่ตรงหน้าพลันมีรูปร่างใหญ่โตขี้นมาภายในชั่วพริบตา เอ่ยปากพูดด้วยความรู้สึกที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ “ขอบคุณ! ขอบคุณค่ะ โปรดิวเซอร์เฝิง! โปรดิวเซอร์เฝิง คุณคือผู้มีพระคุณ ชี้นำชีวิตของฉัน! ถ้าไม่ใช่คุณ ฉันจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ได้ยังไงกันล่ะคะ!
คุณนี่ช่างเกรงอกเกรงใจเกินไปแล้ว ฉันแค่ทำงานตามหน้าที่เท่านั้น ที่หนังของเราประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โด่งดังพุ่งพรวดขนาดนี้ เป็นเพราะการกำกับดูแลจากขงเบ้งอย่างคุณทั้งนั้น!”
“…” เฝิงอันหวายืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ถูกคำพูดประจบเอาใจของหลินเยียนทำเขาแทบจะเป็นลมไปเลยทีเดียว
ที่ผ่านมาหลินเยียนทำตัวเงียบๆ อยู่ในกองถ่าย พูดจาก็น้อยมาก คิดไม่ถึงว่าเธอกลับพูดเก่งมากขนาดนี้!
แม้เขาจะรู้ทั้งรู้ว่าหลินเยียนจงใจประจบเอาใจ แต่ก็ทำให้เขาจิตใจเบิกบานอยู่ดี
สำหรับเฝิงอันหวา ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นคนเสนอให้ตัดบทของตัวเธออย่างแรงกล้า แต่หลินเยียนกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเขา คนอย่างเฝิงอันหวา เมื่ออยู่ในสถานะอย่างเขา เขาไม่เคยมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ผลประโยชน์อยู่ที่ไหน จุดยืนของเขาก็อยู่ที่นั่น
หลินเยียนออกมาทำงานหางานมานานมากแล้ว เจออะไรมามากมายเหลือเกิน แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอปฏิบัติตัวด้วยท่าทีแบบเดียวกันก็พอแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ” เฝิงอันหวาอารมณ์ดีอย่างยิ่งดังที่คาดเอาไว้ “เด็กอย่างเธอนี่ ช่างรู้จักพูดซะจริงนะ!”
เมื่อเฝิงอันหวาพูดจบก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองหลินเยียนแล้วเอ่ยว่า “จริงสิ หลินเยียน ต่อจากนี้เธอวางแผนว่าจะทำอะไรรึเปล่า ได้ยินว่าเธอยกเลิกสัญญากับฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์แล้วเหรอ งั้นตอนนี้ใครเป็นคนดูแลงานของเธอล่ะ”
หลินเยียนตอบกลับไปว่า “ใช่ค่ะ ยกเลิกไปแล้ว เพียงแต่พี่หลิงยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉันเหมือนเดิม เธอเป็นคนรับผิดชอบค่ะ”
เฝิงอันหวาผงกศีรษะ “เจ้าหงหลิงเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่มีคุณธรรมที่หาได้ไม่มากในวงการบันเทิง เธอกลับมีสายตายาวไกลมากกกว่าเจี่ยงซือเฟยนะ”
เฝิงอันหวาหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อไปว่า “แต่ว่านะ ตอนนี้เธอกับเจ้าหงหลิงไม่มีสังกัดกันแล้ว เกรงว่าการขยับขยายในอนาคตคงไม่ราบรื่นแน่เลยนะ…ตามที่ฉันรู้มา สาเหตุที่คำวิจารณ์ก่อนที่หนังของพวกเราจะเข้าโรงแย่มากขนาดนี้ มีคนเล่นตุกติกอยู่เบื้องหลังมากมายเหลือเกิน คนที่จ้องเล่นงานเธอก็มีไม่น้อย…”
“ขอบคุณโปรดิวเซอร์เฝิงที่เตือนนะคะ ฉันเข้าใจ” หลินเยียนรู้ว่าเฝิงอันหวาตั้งใจเตือนตนเอง ดังนั้นจึงขอบคุณเขาจากใจจริง
เฝิงอันหวามองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เข้าใจความรู้สึกที่เสียดายคนมีความสามารถของเจียงอีหมิงทันที
มิหนำซ้ำเขามักรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เธอไม่มีทางหยุดฝีเท้าอยู่ตรงนี้แน่ การมาช่วยเหลือเธอในตอนนี้ เก็บสายสัมพันธ์เอาไว้สักหน่อย ถือเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขามาก
ดังนั้นเฝิงอันหวาจึงเอ่ยปากถามขึ้นมาว่า “จริงสิ หลินเยียน เธอมีแฟนแล้วหรือยัง”
คำถามที่มาโดยไม่ทันให้ตั้งตัวของเฝิงอันหวาแทบทำให้หลินเยียนเอวหักเลยทีเดียว หลินเยียนรีบตั้งสติแล้วตอบเขากลับไป “เอ่อ…ไม่มีค่ะ…ทำไมจู่ๆ โปรดิวเซอร์เฝิงถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะคะ”