ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 425 ปากทาน้ำผึ้งเหรอ? / ตอนที่ 426 ช่วยแก้ไข้สถานการณ์ด้วยความใส่ใจ
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 425 ปากทาน้ำผึ้งเหรอ? / ตอนที่ 426 ช่วยแก้ไข้สถานการณ์ด้วยความใส่ใจ
ตอนที่ 425 ปากทาน้ำผึ้งเหรอ?
หลินเยียนหันไปมองเผยอวี้เฉิงโดยอัตโนมัติ
เห็นว่าใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเฉยชาดังเดิม ปราศจากความรู้สึกพิเศษอะไร เหมือนความรู้สึกเย็นวาบที่หายวับไปอย่างรวดเร็วเมื่อครู่เหมือนเป็นแค่อาการหลอนของเธอเท่านั้น
เผยอวี้เฉิงพูดโดยมีท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ “ปกติแล้ว…พวกเขาด่าเธอแบบนั้นอย่างงั้นเหรอ?”
หลินเยียนเกาศีรษะแล้วตอบว่า “ที่จริงแล้วมีหลายคนที่รอดูตามสถานการณ์ ใครว่าอะไรก็ว่าตามกัน แค่ชินกับมันก็พอแล้ว…”
“เกาจื้อเวย…ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเก่าเธอ?” เผยอวี้เฉิงจ้องมองชื่อหนึ่งบนหน้าจอพร้อมเอ่ยปากถาม
ลูกพี่ระดับเวิลด์คลาสที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กลับถามเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งของศิลปินตัวเล็กๆ ที่ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงในทีมเล็กๆ ที่อยู่ใต้สังกัดบริษัทย่อยเล็กๆ อย่างเธอแบบนี้ ทำให้หลินเยียนรู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง
หลินเยียนรีบตอบว่า “ใช่แล้วค่ะ เป็นเขาที่มาแทนที่พี่หลิง ต่อมาฉันกับพี่หลิงก็ออกจากบริษัท เขาคงเห็นว่าช่วงนี้ฉันดัง เลยอยากดึงตัวฉันกลับไปอีก
ตอนนี้ฉันเป็นคนที่อยู่ใต้สังกัดคุณเผยแล้วนะคะ ฉันไม่มีทางตกลงแน่นอน ดังนั้นจึงปฏิเสธเขาทันที! เขาคงอยากบีบให้ฉันยอมถึงทำแบบนี้!”
พอได้ยินประโยคที่ว่า ‘ตอนนี้ฉันเป็นคนที่อยู่ใต้สังกัดคุณเผยแล้วนะคะ’ คล้ายเผยอวี้เฉิงจะยกมุมปากขึ้น “งั้นเธอจะแก้ปัญหายังไง?”
หลินเยียนตอบว่า “ที่จริงเรื่องนี้จัดการง่ายมากสุดๆ เลยค่ะ ถึงยังไงฉันก็เซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มาตั้งแต่แรกแล้ว คุณคิดดูนะคะ ฉันเซ็นสัญญากับบริษัทดูแลศิลปินที่เจ๋งที่สุดในวงการบันเทิงอย่างพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไปแล้ว แล้วจะยังอยากกลับไปบริษัทเล็กๆ อย่างฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ แถมยังทำทุกอย่างเพื่อมีอะไรกับผู้อำนวยการอย่างเขาด้วยล่ะคะ? ตรรกะเพี้ยนสุดๆ!
ดังนั้นถึงเวลาขอแค่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าฉันเซ็นสัญญากับบริษัทไปแล้ว ข่าวลือทุกอย่างก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องทำอะไร
เผยอวี้เฉิงฟังหลินเยียนอธิบายวิธีการแก้ปัญหาด้วยความอดทน ผ่านไปเนิ่นนานถึงจะผงกศีรษะพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ต้องให้ฉันช่วยไหม?”
หลินเยียน “หา…? ช่วยฉันเรื่องอะไรคะ?”
เผยอวี้เฉิง “ประกาศอย่างเป็นทางการ”
“พรวด…” หลินเยียนแทบสำลักข้าวตาย “แค่กๆๆ…”
ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย!!!
ให้เผยอวี้เฉิงแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อเธอ!
แล้วจะแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการยังไง?
เปิดแอคเคาท์เวยปั๋วที่ยืนยันแล้วว่าเป็นเผยอวี้เฉิง ซีอีโอเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นไปแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการอย่างงั้นเหรอ?
ยังจะไม่สั่นสะเทือนทั้งวงการอีกเหรอ!
หลินเยียนรีบโบกมือแล้วตอบว่า “ไม่ต้องๆ! อย่าโดยเด็ดขาดเลยนะคะ!”
“ทำไมเหรอ?” เผยอวี้เฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย
ทำไม…
หรือว่าเขาจะไม่รู้อยู่แก่ใจอย่างงั้นเหรอ?
หลินเยียนพูดด้วยสีหน้าจนใจ “นี่…ฉันจะอธิบายคุณยังไงดีล่ะคะ…”
ฆ่าหมูไยต้องใช้มีดฆ่าโค!
เพียงแต่เธอรู้สึกว่าใช้คำว่า ‘มีดฆ่าโค’ มาบรรยายลูกพี่มันช่างไม่คู่ควรเลยจริงๆ …
ดังนั้นหลินเยียนจึงเค้นสมองแล้วตอบกลับไปว่า “นี่เหมือนใช้ง้าวมังกรเขียว[1]ไปหั่นผัก ใช้กระบี่อิงฟ้า[2]ปอกผลไม้ ใช้ตราลัญจกรหยกของจิ๋นซีไปทุบวอลนัท…ไม่ว่ายังไงก็ไม่เหมาะสมเลยนะคะ…คนแบบเขา คู่ควรที่ไหนกัน! ต่อให้คุณอยากจะช่วยฉัน ฉันก็หักใจใช้งานไม่ได้หรอกค่ะ!”
เผยอวี้เฉิงพอได้ยินคำสาธยายพวกนั้น รวมถึงคำว่า ‘หักใจไม่ได้’ ของหญิงสาวก็ก้มหน้าหัวเราะเบาๆ ออกมา “ปากทาน้ำผึ้งอย่างงั้นเหรอ?”
หลินเยียนตอบด้วยสีหน้าจริงใจ “เปล่าค่ะ เปล่าเลยนะคะ! ฉันพูดออกมาจากใจจริงเลย!”
เผยอวี้เฉิงใช้มือรองศีรษะพร้อมตะแคงเล็กน้อย ดวงตาผุดรอยยิ้ม จ้องมองหญิงสาวอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ค้อมตัวเล็กน้อย ค่อยๆ เข้าใกล้หญิงสาวทีละนิดทันที…
สุดท้ายก็ประทับจุมพิตลงบนริมฝีปากของหญิงสาวเบาๆ พร้อมดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ของหลินเยียน
วินาทีต่อมา เสียงแหบต่ำของชายหนุ่มก็ดังข้างใบหู “หวานชัดๆ …”
[1] ง้าวมังกรเขียว อาวุธประจำกายของกวนอู
[2] กระบี่อิงฟ้า หนึ่งในสุดยอดศัตราวุธจากเรื่องดาบมังกรหยก
ตอนที่ 426 ช่วยแก้ไข้สถานการณ์ด้วยความใส่ใจ
หลินเยียน “…”
เธอรู้สึกว่าถ้าอยู่ร่วมชายคาแบบนี้ต่อไป สงสัยว่าเธอคงทนการกัดเซาะของระเบิดถ้อยคำหวานเหล่านี้ไม่ไหวแน่!
ไม่ได้!
เธอต้องเยือกเย็น! เยือกเย็นหน่อย!
หลินเยียนรีบกินอาหารเพิ่มขึ้นอีกหลายคำ ซึ่งได้ผลชะงัดอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เธอสงบเยือกเย็นลงไปไม่น้อยทันที…
……
สามวันต่อมา
วันนี้เป็นวันเทศกาลภาพยนตร์เมืองตี้ตู ทีมกองถ่ายคู่ปรับมหากาฬถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายสาขา อาทิ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเนื่องจากบทหลินเผี่ยนรั่วของหลินเยียนได้รับความนิยมสูงยิ่ง ดังนั้นเธอจึงได้รับคำเชิญด้วย
โดยทั่วไปแล้วแขกที่มาร่วมงานจะจับคู่เดินร่วมกัน เพียงแต่ด้วยสถานการณ์ของหลินเยียนในตอนนี้ย่อมไม่มีใครอยากเข้าร่วมงานพร้อมกับเธอแน่
ขณะนี้เองเผยหนานซวี่ที่อยู่ด้านข้างก็แย้มยิ้มพร้อมเอ่ยปากพูดขึ้นมา “หนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดมาจากความพยายามที่มีร่วมกันของพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นเรามาเข้างานพร้อมกันเถอะนะครับ!”
เดิมทีเผยหนานซวี่ควรต้องเข้างานพร้อมนางเอกอย่างเจี่ยงซือเฟย แต่ในเมื่อเผยหนานซวี่เสนอด้วยตัวเองขนาดนี้แล้ว แถมข้อเสนอของเขาก็มีเหตุผลมาก ปราศจากปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นทุกคนจึงไม่ได้มีความเห็นขัดแย้ง
เนื่องจากเป็นข้อเสนอของเผยหนานซวี่ เฝิงอันหวาจึงต้องให้เกียรติอยู่แล้ว เขารีบพูดเสริมขึ้นมาทันที “ราชาภาพยนตร์เผยพูดถูก ทุกคนเข้างานพร้อมกันเถอะนะ!”
เจียงอีหมิงผงกศีรษะ แสดงความหมายว่าไม่มีข้อโต้แย้ง “ได้”
หลินเยียนรู้ว่าเผยหนานซวี่กลัวว่าเธอจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ไม่สะดวกที่จะเดินเข้าไปพร้อมกับเธอเช่นเดียวกัน ดังนั้นถึงใช้วิธีการแบบนี้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงผงกศีรษะให้เผยหนานซวี่เล็กน้อยด้วยความซาบซึ้งใจ
เจี่ยงซือเฟยมีสีหน้าบึ้งตึง เดิมทียังคิดที่จะพูดอะไรออกมา แต่พอเห็นว่าเฝิงอันหวากับเจียงอีหมิงต่างเอ่ยปากพูดกันไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงเงียบไป
ขณะนี้เองดาราสาวในชุดเดรสสีเหลืองซึ่งเป็นนางรองหมายเลขสองในภาพยนตร์ที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากพูดพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง “ทำไมต้องให้พวกเราเข้างานพร้อมกับคนแบบนี้ด้วยนะ! ไม่รู้ว่าไปนอนกับใครมาตั้งกี่คนแล้ว! ไม่แน่นะ แม้แต่บทนี้ก็ได้มาเพราะไปนอนกับใครมาเหมือนกัน! รู้สึกสกปรกจริงๆ ถ้าต้องให้ยืนร่วมกับเธอ…”
เจี่ยงซือเฟยพูดด้วยท่าทางอันใจกว้าง ออกมาว่า “ในเมื่อราชาภาพยนตร์เผยพูดแล้ว ทุกคนก็เข้าไปพร้อมกันเถอะ!”
เจี่ยงซือเฟยกลับปลงได้ จะไปมีอารมณ์กับผู้หญิงคนนี้ทำไม ถึงยังไงเดี๋ยวเธอก็ต้องไสหัวออกจากวงการบันเทิงอยู่แล้ว!
“หึ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมราชาภาพยนตร์เผยถึงชอบเอาใจใส่หลินเยียนมากขนาดนี้ นางปีศาจจิ้งจอกคนนี้หน้าด้านเหลือเกิน พอเห็นผู้ชายก็รีบโผเข้าไปยั่วยวน…” จากนั้นดาราสาวคนนี้ถึงจะเดินตามไปด้วยท่าทางไม่ยินดีนัก
“ลำดับต่อไปคือทีมจากภาพยนตร์เรื่องคู่ปรับมหากาฬ…”
หลังการประกาศของพิธีกร เผยหนานซวี่กับพวกของหลินเยียนก็เดินก้าวขึ้นพรมแดงพร้อมกัน
ทุกคนเดินขึ้นเวทีพร้อมกัน ทำให้สะดุดตามาก ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากโดยรอบไม่น้อย ในนั้นมีคนที่พุ่งเป้าไปยังหลินเยียนจำนวนไม่น้อย
ถึงยังไงมนุษย์ก็ชอบนินทากับชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะข่าวฉาวแบบนี้…
“ถูกด่าในเน็ตซะขนาดนั้นแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลินเยียนยังกล้าออกมาข้างนอกอีกนะ!”
“เธอก็หน้าด้านแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง? จะมีอะไรให้ไม่กล้าอีกล่ะ! จึ๊ๆๆ ไปนอนกับผู้จัดการส่วนตัวเพราะอยากให้จ้างต่อ เธอนี่ช่างทำได้ทุกอย่างจริงๆ เลยนะ!”
“พรืด ที่ตลกที่สุดก็คือถูกคนเขาปฏิเสธด้วยนะ…น่าขายหน้าจะตายอยู่แล้ว! ถ้าเป็นฉันคงออกจากวงการไปแล้วล่ะ ยังจะมีหน้าอยู่ต่อได้ยังไงกัน! จริงสิ ได้ยินว่าวันนี้ผู้อำนวยการฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์คนนั้นมางานด้วยนะ พวกเธอว่าเดี๋ยวจะมีการแหกหน้ากันรึเปล่า”
……
ไม่นานนักทุกคนก็ทยอยมาถึงงาน
คู่ปรับมหากาฬพลิกสถานการณ์ครั้งใหญ่จนกลายเป็นผู้ชนะที่ได้รับรางวัลมากที่สุด ได้รับรางวัลจากทุกสาขาที่เข้าเสนอชื่อชิง
“ผู้ที่ได้รับรางวัลสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมได้แก่…” พิธีกรมองจอขนาดยักษ์ไปพลาง เอ่ยปากพูดไปพลาง “เฉินจิ้งจากคู่ปรับมหากาฬ! ขอแสดงความยินดีกับเผยหนานซวี่ด้วยครับ!”