ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 449 เก็บตก / ตอนที่ 450 เข้าสู่โหมดหลอกล่อ
ตอนที่ 449 เก็บตก
ตอนเที่ยง หลินเยียนมาที่สำนักงานใหญ่ของทีมดีวัน ซึ่งเป็นทีมรถแข่งยักษ์ใหญ่เก่าแก่ระดับประเทศแห่งหนึ่งเพียงลำพัง
ทีมดีวันเป็นทีมรถแข่งยักษ์ใหญ่เก่าแก่ของจีน มีชื่อเสียงมากกว่าทีมซีเอ็ชวันเสียอีก
มิหนำซ้ำหลังจากหลินเยียนทำความเข้าใจมาแล้ว นักแข่งที่มีฝีมือของทีมดีวัน นั้นมีมากมายเหลือเกิน กระทั่งว่านักแข่งหนุ่มหลายคนหลังจากถอนตัวออกจากวงการแล้วก็มาทำหน้าที่ฝึกสอนที่ทีมดีวัน
หลินเยียนใช้สถานะของผู้เข้าชมเตร่อยู่ในทีมดีวันครึ่งค่อนวันก็หาโอกาสพูดคุยกับนักแข่งหนุ่มทีมดีวันได้ อีกทั้งยังชิงคนด้วยวิธีการที่เกือบจะเป็นการยั่วยวนอีกด้วย
เพียงแต่เห็นชัดว่าหลินเยียนชิงคนไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก คนที่ถูกหลินเยียนดึงตัวต่างมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงคนสติไม่ดีกันแทบจะทุกคน
สุดท้ายหลินเยียนจึงได้แต่แอบออกไป และกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน
ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็อยู่ในความคาดหมายของหลินเยียน ถ้าดึงตัวนักแข่งที่มีความสามารถไม่ธรรมดาออกมาจากทีมยักษ์ใหญ่ชั้นนำพวกนั้นได้ง่ายดายขนาดนี้ นั่นก็คงเกินไปสักหน่อย
ไม่ต้องพูดถึงว่าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อมีสถานะอย่างไรในวงการระดับประเทศ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ หลินเยียนกับทีมตระกูลเฮ่อจนมาก การดึงตัวคนอะไรที่ว่านี้ อันที่จริงถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือหลินเยียนอยากจับเสือมือเปล่า สร้างความฝันลมๆ แล้งๆ เอาไว้ก่อน ดังนั้นหลินเยียนจึงถูกคนมองว่าสติไม่ดี
ถ้าหากเป็นไปได้หลินเยียนก็อยากใช้สถานะของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาเช่นกัน อย่าว่าแต่ไม่มีเงินเดือนเลย เกรงว่านักแข่งระดับสุดยอดระดับประเทศพวกนั้นคงยินดีมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้หลินเยียน ขอร้องเธอเพื่อเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อแน่
เมื่อครั้งแรกล้มเหลว หลินเยียนไม่ได้ท้อใจเช่นกัน วันต่อมาเธอไปที่ทีมยักษ์ใหญ่อีกทีมหนึ่ง ทว่าผลลัพธ์ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเมื่อวาน นอกจากจำนวนคนที่เป็นห่วงคนสติไม่ดีจะมากขึ้นอีกสักหลายคนเท่านั้น
เมื่อไม่ได้อะไรกลับมาต่อเนื่องสองวันติด หลินเยียนจึงทำได้แค่สงบจิตใจและครุ่นคิดหาแผนการให้ดีเท่านั้น
ตัวเธอในตอนนี้ไม่มีอำนาจในการพูดโน้มน้าวใจจริงๆ คงได้แต่เปลี่ยนมุมมองเสียแล้ว
บางทีเธอไม่ควรไปดึงตัวคนจากทีมยักษ์ใหญ่พวกนั้น แต่ให้ไปหานักแข่งดาวรุ่งดวงใหม่ที่มีความสามารถเพียงพอดีกว่า…
วันที่สาม
หลินเยียนมาที่สำนักงานใหญ่ของทีมไฟเออร์
เดิมทีหลินเยียนคิดจะใช้แผนการเหมือนเมื่อสองวันก่อน ทำตัวเป็นผู้เข้าชมเพื่อเข้าไปในสำนักงานใหญ่ แต่กลายเป็นว่า…ทีมไฟเออร์ไม่ได้เปิดให้เข้าชมเสียอย่างนั้น บัดซบเอ๊ย คราวนี้เธอไม่ได้เข้าประตูเลยด้วยซ้ำ!
ขณะที่หลินเยียนกำลังคิดว่าจะจากไปนั้น เด็กหนุ่มสวมชุดสะอาดสะอ้านท่าทางเหนียมอายเล็กน้อยคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ด้านนอกสำนักงานใหญ่ของไฟเออร์เช่นเดียวกัน กำลังแอบมองสำรวจหลินเยียนอยู่เป็นระยะ
ขณะที่เด็กหนุ่มมองสำรวจหลินเยียน หลินเยียนก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของเด็กหนุ่มได้เช่นเดียวกัน
ไม่นานนักสายตาหลินเยียนก็ไปอยู่ที่ร่างของเด็กหนุ่ม ดวงตาทั้งสองข้างประสานกันทันที
เด็กหนุ่มหลบสายตาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังก้มหน้าลงไปอีกด้วย
เด็กหนุ่มคนนี้ท่าทางอายุยังไม่มาก อย่างมากก็ประมาณยี่สิบปี คงเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย
“คะ…คุณเป็น…เจ้าหน้าที่ของไฟเออร์เหรอครับ…” ขณะที่หลินเยียนกำลังจะจากไป จู่ๆ เด็กหนุ่มก็เอ่ยปากถามหลินเยียนขึ้นมา
เมื่อได้ยิน สายตาหลินเยียนก็กลับไปที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง จากนั้นก็ส่ายหน้าทันที “ฉันไม่ใช่”
“อ้อ…งั้น คุณมาสมัครเหมือนกันเหรอครับ?” คล้ายเด็กหนุ่มจะสงสัยใคร่รู้ในตัวหลินเยียนอยู่บ้าง
“มาสมัครเหมือนกัน?”
หลินเยียนเดินถึงตัวเด็กหนุ่ม พร้อมกล่าวระคนยิ้ม “นายมาสมัครเข้าไฟเออร์อย่างงั้นเหรอ?”
“อืม” เด็กหนุ่มพยักหน้า “เพียงแต่เพิ่งจะถูกปฏิเสธไปครับ…”
“เธอมาสมัครตำแหน่งอะไรที่ไฟเออร์?” หลินเยียนถาม
“มะ…มาสมัครนักแข่งรถครับ…” เสียงของเด็กหนุ่มไม่ดังนัก
“นักแข่งรถ?!” หลินเยียนอึ้ง
เด็กหนุ่มคนนี้มาสมัครนักแข่งรถที่ไฟเออร์?
เพียงแต่ดูจากนิสัยใจคอของเด็กหนุ่มคนนี้ เหมือนไม่เหมาะที่จะขับรถเร็วนะ
ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่บอก หลินเยียนยังนึกว่าเขาแค่มาสมัครตำแหน่งธรรมดาทั่วไป
มิหนำซ้ำทีมรถแข่งดาวรุ่งอย่างไฟเออร์ ต่อให้ไม่ใช่ทีมยักษ์ใหญ่ระดับสุดยอดของประเทศ แต่ก็เข้มงวดต่อการรับสมัครนักแข่งรถมาก ถ้าไม่มีชื่อเสียงหรือว่าความสามารถอยู่ในระดับหนึ่ง ไฟเออร์ไม่มีทางรับเอาไว้แน่นอน
ตอนที่ 450 เข้าสู่โหมดหลอกล่อ
คนที่ไม่เคยสัมผัสกับสนามแข่ง หรือไม่ก็ไม่เคยสร้างชื่อในสนามจนทำให้คนอื่นเห็นความสามารถแบบนี้ โดยปกติแล้วทีมธรรมดาทั่วไปไม่มีทางรับแน่นอน ดังนั้นจึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงทีมดาวรุ่งอย่างไฟเออร์
“นายเคยลงแข่งหรือเปล่า”
หลินเยียนมองเด็กหนุ่มพร้อมเอ่ยถามเบาๆ
“อืม…”
ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ผงกศีรษะให้หลินเยียน “แข่งกระชับมิตรมาบ้าง…เป็นการแข่งประชันฝีมือระหว่างกันของคนที่มีความชอบในการแข่งรถนั่นล่ะครับ”
หลินเยียน “…”
แข่งกระชับมิตรไม่ถือว่าเป็นการแข่งอย่างเป็นทางการ
“คุณก็มาสมัครด้วยเหรอครับ”
ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็จ้องมองหลินเยียนด้วยความสงสัยใคร่รู้เล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาถามไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา
“ฉันเปล่า” หลินเยียนมองเด็กหนุ่มพร้อมกล่าวระคนยิ้ม “ฉันมารับสมัครนักแข่งรถน่ะ”
“หา?”
พอได้ยินคำพูดหลินเยียน เด็กหนุ่มก็อึ้งเล็กน้อย เหมือนรู้สึกเหนือความคาดหมายอย่างนั้น
“อย่างงั้นคุณคือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการรับสมัครนักแข่งรถของทีมไฟเออร์เหรอครับ” เด็กหนุ่มถามต่อไป
“ฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทีมไฟเออร์ ฉันมาจากทีมอื่น” หลินเยียนไม่ได้ปิดบังเช่นกัน
“มาจากทีมอื่น…ทีมอะไรเหรอครับ?” ตอนนี้เด็กหนุ่มเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว
“เอ่อ…”
หลินเยียนครุ่นคิด ถึงกระนั้นกลับไม่รู้ว่าควรพูดคำว่าทีมตระกูลเฮ่อสี่พยางค์นี้ออกมาจากปากหรือไม่
“คือว่าฉันขอดูเรซูเม่ของนายได้หรือเปล่า” หลินเยียนเลี่ยงคำถามที่เกี่ยวข้องกับทีมรถแข่งทันที
“อืม ได้ครับ” เด็กหนุ่มเปิดกระเป๋าเอกสารที่ตัวเองพกติดตัวมา จากนั้นก็หยิบเอกสารปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสารด้วยความระมัดระวัง จากนั้นก็ส่งให้หลินเยียนเบาๆ ทันที
เมื่อรับเรซูเม่ของเด็กหนุ่มมา หลินเยียนก็เริ่มรู้จักเด็กหนุ่มขึ้นมาคร่าวๆ บ้างแล้ว
เด็กหนุ่มชื่ออวิ๋นเซวียนเพิ่งเรียนจบมาได้ไม่นาน ชอบการแข่งรถมาก สมัยเรียนเคยเข้าร่วมทีมรถแข่งมือสมัครเล่นภายในมหาวิทยาลัย
เพียงแต่เนื่องจากเป็นแค่นักศึกษาเลยไม่ได้มีอุปกรณ์ที่ดีมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่ายืม เคยร่วมการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมระดับล่างมาหลายครั้ง
ส่วนผลการแข่งของอวิ๋นเซวียน ได้ที่หนึ่งมาทุกครั้งจากการแข่งสิบหกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีการแสดงความเข้าใจต่อการแข่งรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งทักษะความรู้ของการเป็นเนวิเกเตอร์ที่มีความเป็นมืออาชีพอย่างยิ่งอยู่ในเรซูเม่ของอวิ๋นเซวียนอีกด้วย
เพียงแต่หากมีแค่นี้ ถ้าคิดจะเข้าทีมดาวรุ่งอย่างทีมไฟเออร์ก็ยังไม่ถึงขั้นอยู่ดี
สำหรับทีมระดับท็อปขนาดใหญ่ คนที่รับส่วนใหญ่นั้นต้องเป็นคนที่มีผลงานโดดเด่นสะดุดตา
เมื่ออ่านเรซูเม่ของอวิ๋นเซวียนจบ หลินเยียนก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้านายอยากเข้าทีมรถแข่งระดับสูงก็ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนถึงจะได้นะ”
ไม่ว่าจะเป็นทีมภายในหรือภายนอกประเทศ โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นแบบนี้กันทั้งสิ้น
“งั้น…ผมควรทำยังไงดีล่ะครับ” อวิ๋นเซวียนมองหลินเยียน
พอได้ยินหลินเยียนก็ตอบตามตรง ให้เข้าทีมขนาดเล็กก่อน จากนั้นก็สร้างผลงานและชื่อเสียงของตัวเอง ถ้านายมีความสามารถจริง ถึงเวลาจะมีทีมมาดึงตัวนายไปเอง”
“ทีมขนาดเล็กอย่างงั้นเหรอ…”
อวิ๋นเซวียนมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย “แต่…ผมไม่อยากเข้าทีมเล็กพวกนั้นสักเท่าไหร่เลย ไม่ใช่เรื่องค่าจ้างหรอกนะครับ ที่สำคัญคือทีมเล็กนั้นอ่อนแอเสียเหลือเกิน ผมเรียนรู้อะไรไม่ได้เลยสักนิด…”
หลินเยียนมองอวิ๋นเซวียนด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
หมายความว่าวัตถุประสงค์ที่เด็กหนุ่มอยากจะเข้าทีมชื่อดังนั้นเพราะต้องการเรียนรู้อย่างนั้นเหรอ?
ทีมรถแข่งชื่อดังจ่ายค่าจ้างด้วยราคาที่สูงมาก จ้างนักแข่งรถก็เพื่อทำให้พวกเขาชนะการแข่งขัน ไม่ใช่จ่ายเงินราคาสูงเพื่อให้นักแข่งรถไปเรียนรู้อะไรทั้งสิ้น นอกเสียจากช่วงแรกจะแสดงพรสวรรค์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ซึ่งปกติแล้วเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นน้อยมาก