ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 605 สนุกไหม? / ตอนที่ 606 อาจจะเป็นบั๊ก
ตอนที่ 605 สนุกไหม?
“มาสิพวกกระจอก เดี๋ยวข้าจะตบให้ตายกันหมดนี่เลย!” ทันใดนั้น หลินเยียนทำหน้าไม่แยแส ล้อเล่นอะไรกัน ตัวละครหลินฮวดไช้ของเธอทรงพลังยิ่งนัก ไม่กลัวพวกมดน้อยแบบนี้หรอกนะ มาส่งค่าประสบการณ์ให้ตัวเองสินะ!
“เจ้าโจรยังกล้าทำตัวกร่างอีกรึ รีบมอบตัวมาเสียเถิด!” หนึ่งในชายหนุ่มตะคอกขึ้น
“เอาไปเลยคราดหนึ่งดอก!”
ขณะนี้ หลินเยียนได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว เธอกำคราดเก้าฟันไว้ในมือเหวี่ยงเข้าหาชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างสุดแรง
ต้องยอมรับว่าตัวละครที่หลินเยียนสร้างคนนี้ ถึงแม้จะตัวยักษ์ใหญ่ แต่พลังแทบจะพุ่งเต็มหลอด ใช้งานคราดเก้าฟันนี้ก็เหมือนกับโบกของเล่นไปมา
“หึ หาเรื่องตาย!”
หนึ่งในชายวัยรุ่นหยิบกระบี่ยาวออกมาดัง ‘เคร้ง’ แล้วฟาดไปทางหลินเยียนทันที
หลินเยียนเห็นพลังแสงที่เลื่อนลอยบนกระบี่คมกริบเล่มนั้นอีกด้วย
“นี่ฉันเล่นเกมอะไรอยู่เนี่ย จอมยุทธ? แฟนตาซี? เทพนิยาย”
หลังจากเห็นพลังดาบนั่นแล้ว หลินเยียนถึงกับไปต่อไม่ถูก
ทำไมตัวเองถึงได้ของไร้สาระเหมือนคราดเก้าฟันนี่ล่ะ ไม่ยุติธรรมเลย!
ทันใดนั้น พลังกระบี่ได้ฟันชุดเกราะบนตัวหลินเยียนจนเละ
หลินเยียนยังไม่ทันทำได้ทำอะไร ความเจ็บปวดรวดร้าวทำให้หลินเยียนชะงักไปทันที
“บ้าเอ้ย ไม่หรอกมั้ง!”
นี่มันแค่เกมเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมพอโดนตัวละครในเกมฟันไปหนึ่งทีแล้วกลับมีความเจ็บปวดที่สมจริงขนาดนี้?!
นี่มันเจ็บเกินไปหรือเปล่า เหมือนโดนคนฟันจริงๆ เลย!
ต่อสู้กันได้สักพักแล้ว หลินเยียนพบว่าตัวเองไม่ใช่คู่แข่งของเอ็นพีซีพวกนี้เลย!
อย่าว่าแต่เอ็นพีซีสิบกว่าตัวนี่เลย แค่ต่อสู้กันตัวต่อตัวเธอยังไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะเลยล่ะ
เอ็นพีซีพวกนี้จะใช้ท่าทางแปลกประหลาดตลอด พลังกระบี่บ้าง วิถีเทพบ้าง แต่เธอนอกจากคราดเก้าฟันในมือแล้ว ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง!
นอกจากนั้น ทุกครั้งที่หลินเยียนบาดเจ็บ จะรับรู้ความรู้สึกปวดร้าวนั่นอย่างสมจริงยิ่งนัก แบบนี้ใครจะไปไหว!
ทันใดนั้น หลินเยียนเกิดไอเดียบรรเจิด รีบเลือกออกจากเกม
แต่แล้ว…
ระบบ : [ระหว่างการต่อสู้ไม่สามารถออกจากเกมได้]
หลินเยียน “…” บ้าเอ้ย!
เกมนี้มันโกงกันชัดๆ ไม่สามารถออกจากเกมระหว่างการต่อสู้ จะต้องรอให้เธอโดนฟันจนตายก่อนถึงจะออกจากเกมได้งั้นเหรอ!!
“ช้าก่อน!”
จู่ๆ หลินเยียนตะคอกขึ้น ในขณะเดียวกันเธอหยิบตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งพันที่พ่อในเกมให้เธอมา “จอมยุทธทุกท่าน พ่อหนุ่มทั้งหลายเอ๋ย พวกเราไม่มีเวรมีกรรมต่อกัน ได้โปรดอย่าตีข้าเลย เอาไปแบ่งกันเสียเถิด”
พ่อหนุ่ม : [เจ้าโจร กล้าดูถูกลูกศิษย์สำนักอย่างพวกข้า!]
หลินเยียน “…”
พ่อหนุ่ม : [มาเลย!]
บ้าจริง ใช้เงินซื้อไม่ได้ด้วย
“ไว้ชีวิตข้าเถิด!” หลินเยียนกำคราดเก้าฟันแล้วหันหลังวิ่งหนีไปเลย
แต่ตัวเองหนีได้ไม่เร็ว ผ่านไปไม่นานก็โดนวัยรุ่นสิบกว่าคนรุมล้อมไว้
หลังจากหายใจไปสิบกว่าครั้ง หลินเยียนโดนฟันจนเละ
“การล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา จอมยุทธโปรดจงเริ่มใหม่อีกครั้ง…”
หลินเยียนสาบานว่าเธอจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว เจ็บจนอยากหาแม่เลยเว้ย!
หลังจากหลินเยียนลืมตาขึ้น เธอได้ออกจากเกมแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เกมมิ่งแคปซูลถูกเปิดออก
“สนุกไหม” นัยน์ตาสีมรกตของชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนที่ปีนออกมาจากเกมมิ่งแคปซูล
มุมปากหลินเยียนกระตุก “…”
สนุกก็จริง แต่ตอนโดนต่อยเนี่ยเจ็บเกินไปน่ะ!
“บอสคะ เกมนี้คุณเป็นคนคิดค้นเหรอ?” สายตาหลินเยียนเปล่งประกาย จ้องมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ
ตอนที่ 606 อาจจะเป็นบั๊ก
นัยน์ตาสีมรกตของชายหนุ่ม มองไปทางหลินเยียนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นเผยยิ้มบางๆ พลันพูดขึ้น “ไม่ใช่น่ะ”
“บอสคะ เกมนี้มันสมจริงเกินไปหรือเปล่าคะ แล้วก็เกมมิ่งแคปซูลนี่…ตอนที่ฉันโดนเอ็นพีซีต่อยในเกม รู้สึกเจ็บจริงเลยล่ะค่ะ…” หลินเยียนมองไปทางชายหนุ่ม ประสบการณ์เกมโฮโลกราฟิกครั้งนี้ ทำให้หลินเยียนติดใจไม่น้อย
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็พยักหน้าแล้วอธิบายให้หลินเยียนฟัง “เกมมิ่งแคปซูลนี้มีไว้เพื่อช่วยให้ผู้เล่นหลับลึก หมวกกันน็อกเอาไว้เชื่อมไปยังชั้นผิวหนังสมองและระบบประสาท คุณคิดซะว่าจิตของคุณเข้าไปในโลกของเกม ส่วนระดับการรับรู้คือร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกเจ็บ”
ได้ยินแบบนั้นแล้ว หลินเยียนมองไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้ามึนงง
เธอไม่เข้าใจ…
แต่หลังจากเข้าไปในโลกของเกมโฮโลกราฟิกแล้ว แทบจะไม่มีอะไรทางกายภาพที่ต่างไปจากโลกแห่งความเป็นจริงเลย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้หลินเยียนรู้สึกเซอร์ไพรส์และดึงดูดเธอได้มากที่สุด
“เกมจะสะท้อนถึงความเป็นจริงเหมือนกัน”
สุดท้ายชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยบางอย่าง
“เกมจะสะท้อนถึงความเป็นจริงงั้นเหรอ”
สิ้นเสียงชายหนุ่ม หลินเยียนแอบรู้สึกตลกขึ้นมา เกมจะสะท้อนถึงความเป็นจริงได้ไงล่ะ
ในโลกของความเป็นจริงเป็นไปได้ไงที่เธอจะเป็นเหมือนตัวละครที่น่าไม่อายเหมือนในเกมล่ะ
แน่นอนหลินเยียนไม่เก็บคำพูดของชายหนุ่มมาใส่ใจ
“อ้อ” จู่ๆ เหมือนหลินเยียนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “บอสคะ เกมโลกเสมือนจริงโฮโลกราฟิกแบบนี้ต้องลงทะเบียนอะไรไหม…”
“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนพลันเอ่ยปากขึ้น “เกมมิ่งแคปซูลและหมวกกันน็อกจะล็อกและวิเคราะห์ระดับจิตใต้สำนึกของผู้เล่น คุณคิดซะว่าตั้งแต่วินาทีที่คุณเข้าไปในเกม ไอดีของคุณก็ได้ผูกกับตัวคุณไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนทุกอย่างที่อยู่ในไอดีก็จะเป็นของคุณเท่านั้น”
ได้ยินที่ชายหนุ่มพูดแล้วหลินเยียนชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นด้วยความตะลึง “ไม่หรอกมั้ง ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในเกมก็มีตัวละครแล้ว ระบบยังบอกอยู่เลยว่ายินดีต้อนรับ เรียกตัวละครที่ฉันเคยสร้างกลับมา…”
มองเห็นหลินเยียนทำสีหน้าสงสัยอยู่ ประกายอันประหลาดเกิดขึ้นในแววตาสีมรกตของชายหนุ่ม
ผ่านไปสักพักชายหนุ่มถึงพูดขึ้น “อาจจะเป็นบั๊กน่ะ”
“อ้อ…”
ในความทรงจำหลินเยียน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับเกมโฮโลกราฟิกเสมือนจริง เธอไม่เข้าใจกลไลของเกมประเภทนี้เลย ดังนั้นบอสบอกว่าเป็นบั๊ก เธอก็ต้องเข้าใจว่าเป็นบั๊กนั่นแหละ
“บอส เกมนี้สนุกและมหัศจรรย์จริงๆ เลย…ฉันเล่นต่อได้ไหม” หลินเยียนมองไปทางเกมมิ่งแคปซูลข้างๆ รู้สึกยังอยากเล่นอยู่
ในเกมก่อนหน้านั้น เธอโดนระบบเกมโกงโดยสิ้นเชิง ทำให้ตัวเองกลายเป็นฝ่ายที่ซวย กลายเป็นตัวละครที่ก้าวร้าวเอาแต่ใจ ไม่งั้นเธอจะโดนเอ็นพีซีในเกมไล่ล่าได้ไงล่ะ
“พักก่อน” ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียน “คุณตายในเกมแล้วครั้งหนึ่ง ต้องพักเยอะๆ ตอนนี้ไม่ควรเล่นต่อ”
หลินเยียน “…”
ถึงแม้ชายหนุ่มจะพูดเป็นคุ้งเป็นแคว แต่ตัวเองในชีวิตจริงกลับกระปรี้กระเปร่าดี ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ไม่เห็นต้องพักผ่อนอะไรเลย
อีกอย่างคนที่ตายคือคนในเกม ไม่ใช่ตัวเธอสักหน่อย
“ถ้าเกมนี้เล่นได้หลายคนคงจะสนุกนะ” หลินเยียนอดพูดไม่ได้
เกมสนุกก็จริง ตื่นเต้นก็จริง แต่พอเข้าไปในเกมแล้ว ทำได้แค่มีปฏิสัมพันธ์กับเอ็นพีซี รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ถ้ามีผู้เล่นหลายคน…
“คุณอาจจะเข้าใจผิดกับเกมรุ่นนี้สินะ”
นัยน์ตาสีเขียวมรกตของชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียน “ในเกมน่ะมีผู้เล่นอยู่เยอะเลย”