ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 611 รับสมบัติตกทอดของเขา? / ตอนที่ 612 โดนบังคับให้แต่งงาน
ตอนที่ 611 รับสมบัติตกทอดของเขา?
หลินเยว่ทงเข้าใจความหมายอีกนัยของหยางปั๋วฉง ก็คงจะคิดว่าชื่อเสียงในวงการของหลินเยียนไม่ค่อยดี ความสัมพันธ์เรื่องผู้ชายก็วุ่นวาย
หลินเยว่ทงมองไปทางหลินเยียนด้วยสายตาไม่พอใจ จากนั้นเสยยิ้มขึ้นแล้วมองไปทางหยางปั๋วฉง “ผมเข้าใจความหมายของคุณหยาง ก่อนหน้านั้นลูกผมค่อนข้างจะดื้อไปหน่อย แต่คุณไม่ต้องห่วง หลังจากแต่งงานกันแล้ว เธอจะอำลาวงการบันเทิง รับใช้สามีดูแลลูกๆ ทำหน้าที่แม่ศรีเรือนอย่างดี”
หลินเยียนฟังอยู่ข้างๆ จนปากกระตุก เธอผิดไปแล้ว นี่ไม่ใช่การคลุมถุงชน นี่คือการขายเธอไปบ้านคนอื่น…ไม่แม้แต่จะถามเธอ อีกทั้งยังตัดสินใจเรื่องหลังแต่งงานของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว
หยางปั๋วฉงได้ยินที่หลินเยว่ทงพูดแล้ว เผยสีหน้าเห็นด้วยโดยปริยาย จากนั้นถามขึ้นอีกครั้ง “ปีนี้คุณหลินอายุเท่าไหร่ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยไหนเหรอ?”
สีหน้าหลินเยว่ทงดูเจื่อนลงอีกครั้ง หยางปั๋วฉงเห็นเช่นนั้นได้เอ่ยปากพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดเล็กน้อย “ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกสาวคุณเรียนจบแค่ระดับมัธยมปลาย ไม่ได้เรียนต่อใช่ไหม? ดีเอ็นเอของแม่จะเป็นผลกระทบต่อรุ่นลูกโดยตรงเลยนะ”
หลินเยียนฟังจนรู้สึกอกสั่นขวัญหนี
รุ่นลูกงั้นเหรอ…
อายุป่านนี้แล้ว ลูกสาวลูกชายลูกเล็กลูกน้อยมีเต็มไปหมด ยังคิดจะผลิตลูกอีกงั้นเหรอ!
“เฮ้อ ลูกสาวผมน่ะ หลังจากผมหย่ากันแล้ว เธอก็ใช้ชีวิตกับแม่เธอมาตลอด โดนแม่เลี้ยงจนเสียคน หลังจากนี้ยังต้องให้คุณหยางคอยสั่งสอนหน่อยน่ะครับ” หลินเยว่ทงพูดประโยคเดียว ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้แม่หลินเยียนไปหมด
“แค่เธอเชื่อฟัง สอนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่แค่ แม่ของเธอ…” หยางปั๋วฉงพูดไปด้วยพลันเผยสีหน้าดูถูก “หลังจากคุณหลินแต่งงานกับฉันแล้ว ต้องตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกไปด้วย ประธานหลิน อย่าหาว่าฉันพูดเลย ผู้หญิงสำส่อนแบบนั้น จะสอนลูกสาวออกมาดีแค่ไหนเชียว?”
สิ้นเสียงหยางปั๋วฉง แววตาขี้เกียจแลดูไม่แยแสของหลินเยียนเปลี่ยนไปทันที
หลินเยว่ทงคอยประจบประแจงอยู่ข้างๆ “คุณหยางพูดถูก หลังจากเสี่ยวเยียนแต่งงานกับคุณแล้ว ผมไม่ให้เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางนั้นอีกแน่นอน คุณไม่ต้องห่วงเลยครับ…”
“เหอะ” หลินเยียนหัวเราะขึ้นเบาๆ
“แกหัวเราะอะไร?” หลินเยว่ทงไม่พอใจกับท่าทางไม่แยแสของเธอ
“หนูหัวเราะพ่อน่ะ…หัวเราะที่พ่อวางแผนได้ดี” หลินเยียนค่อยๆ พูดขึ้น
“วางแผน…แผนอะไร?” หลินเยว่ทงเผยสีหน้าไม่พอใจ
หลินเยียนเสยมุมปากขึ้นเล็กน้อย ตั้งใจกวาดสายตามองหยางปั๋วฉงตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นพูดขึ้นด้วยหน้าตาเฉยชา “คุณหยางคะ…พ่ออยากให้หนูแต่งงานกับคุณเพื่อได้สืบทอดมรดกตกทอดของคุณใช่ไหมคะ”
“แก…แกแก…แกว่าไงนะ!!!” ยัยหลินเยียนนี่ไม่ได้เข้าหาตัวเขาแค่อย่างเดียว ยังสาปแช่งให้เขารีบตายอีกด้วย หยางปั๋วฉงแทบจะโมโหจนเป็นลม
หลินเยว่ทงตกใจเพราะคำพูดของหลินเยียนเช่นกัน โมโหจนแทบตายคาที่ เขาตะคอกขึ้นสุดเสียง “หลินเยียน แกมันบ้าไปแล้ว!? แกพูดบ้าอะไรอยู่!”
แววตาของหลินเยียนไม่มีอุณหภูมิใดๆ “หลินเยว่ทง ฉันว่าคนที่บ้าคือคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินเรื่องการสมรสของฉัน?”
หลินเยว่ทงชักสีหน้าแล้วพูดขึ้น “สิทธิ์ที่ฉันเป็นพ่อแก ฉันเป็นคนให้กำเนิดแก แกมีเลือดของฉันหลินเยว่ทงอยู่ในตัว เรื่องการสมรสเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่เป็นคนจัดการให้ แกไม่มีสิทธิ์จะพูดด้วยซ้ำ”
หลินเยียนหัวเราะเบาๆ “ทำไมฉันถึงจำได้ว่าคุณหลินตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับฉันไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
คืนที่เธอขอร้องเขาให้ช่วยหลินซูหย่าที่ป่วยหนักด้วยน้ำตา แต่เขากลับทิ้งเธอไว้ในวันที่ฝนตกกระหน่ำเพียงแค่ว่าเธอด่าเมียน้อยรักแรกของเขา อีกทั้งยังด่าว่าเธอและแม่ของเธอเป็นเจ้ากรรมนายเวร…
ตอนที่ 612 โดนบังคับให้แต่งงาน
หลินเยว่ทงพูดด้วยความโมโห “หลินเยียน แกช่างไม่รู้อะไรดีอะไรไม่ดีจริงๆ เลย แกคิดว่าฉันอยากมาสั่งสอนแกเหรอ หลายปีที่ผ่านมาแกตามแม่ของแก ไม่เรียนรู้อะไรดีๆ มาล่ะ ทำอะไรเป็นบ้าง ฉันหน้าแตกเพราะแกหมดแล้ว!
ถ้าไม่ใช่เพราะซูหย่าพูดแทนแก แกคิดว่าฉันจะสนใจแกหรือไง แกเป็นผู้หญิงที่ไม่ตั้งใจอ่านหนังสือ งานก็ไม่ทำ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไปแต่งงานมีครอบครัวซะ!”
ไม่คิดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย…
หลินเยียนทำเสียงเหยียดหยาม “แต่งงาน? แต่งงานกับโรคจิตอายุเท่าพ่อที่ชอบใช้ความรุนแรงน่ะเหรอ ช่างเป็นพ่อที่ดีของฉันจริงๆ เลย!”
หยางปั๋วฉงโมโหแทบหัวใจวาย เขายังไม่เคยโดนคนอื่นหยามหน้าขนาดนี้เลย เขามองไปทางหลินเยว่ทงด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “คุณหลินสอนลูกได้ดีจริงๆ!”
มุมของห้องวีไอพีเป็นโซฟาทรงยูดูหรูหรา ด้านหน้าโซฟาเป็นโต๊ะหินอ่อนใหญ่หนึ่งตัว แขกกลุ่มหนึ่งที่นั่งเล่นไพ่กับทอยลูกเต๋าอยู่บนโซฟาต่างคุยซุบซิบถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“นี่คือหลินเยียนที่แสดง ‘คู่ปรับมหากาฬ’ สินะ? วันนี้มาแสดงฉากไหนกันแน่เนี่ย”
“จะฉากไหนไปได้ล่ะ หลินเยว่ทงอยากถวายลูกสาวให้หยางปั๋วฉง แต่ดาราน้อยคนนี้น่ะมีตาหามีแววไม่ แหกหน้าหยางปั๋วฉงเลยซะงั้น!”
“ไม่จริงหรอกมั้ง! กล้าเกินไปหรือเปล่า กล้าหาเรื่องหยางปั๋วฉงด้วยเหรอ”
……
ในขณะเดียวกันหลินเยว่ทงจ้องเขม็งใส่หลินเยียน ดึงหลินเยียนไปข้างๆ แล้วกดเสียงลงต่ำพลันพูดขึ้นข้างหู “หลินเยียน แกหุบปากไปเลยนะ! อย่าพูดว่านั่นเป็นการใช้ความรุนแรงสิ แค่แกเชื่อฟัง อยู่ดีๆ เขาจะไปตีแกได้ไงล่ะ อีกอย่าง ผู้ชายลงไม้ลงมือบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดามาก
ประธานหยางไม่ดีตรงไหน? เขาก็แค่อายุมากไปหน่อย! เขาหย่าเรียบร้อยแล้ว ถ้าแกแต่งงานด้วย อย่างน้อยแกก็ยังมีฐานะอย่างถูกต้อง แกแต่งงานกับเขานะ ไม่ต้องทำอะไรเลย เรื่องกินเรื่องใช้ไม่ต้องห่วงทั้งนั้น ผู้หญิงต่อแถวกันเพื่ออยากโชคดีเหมือนที่แกเป็น แกยังจะเอาอะไรอีก!”
ฟังน้ำเสียงการพูดของหลินเยว่ทงเหมือนกับกำลังจะบอกว่าเธอได้เปรียบกว่าใคร หลินเยียนพลันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ดีขนาดนี้ พ่อไม่เก็บไว้ให้หลินซูหย่าล่ะ”
หลินเยว่ทงสูบลมหายใจลึกๆ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห “แกยังมีหน้าพูดถึงซูหย่าอีกเหรอ แกจะเอาอะไรไปเทียบกับซูหย่าได้ ทำตัวเหลวไหลอยู่ข้างนอกทั้งวัน มัธยมปลายก็เรียนไม่จบ สร้างชื่อเสียงเละเทะในวงการจนต้องยกนิ้วให้ ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ฉันหลินเยว่ทงนะ แกไม่มีสิทธิ์แม้จะได้เจอคนอย่างหยางปั๋วฉงเลย!
ไม่สำเหนียกตัวเองจริงๆ คนอย่างแกใครจะไปอยากแต่งงานด้วย หรืออยากหาลูกชายจากตระกูลใหญ่โตเหมือนหันอวี้เซวียน? เพ้อเจ้อ!”
หลินเยว่ทงพูดจบแล้ว ได้ออกคำสั่งทันที “ยังไม่รีบไปขอโทษคุณหยางอีก! แกคิดจะตายก็อย่ามาฉุดฉันไปด้วย! อย่าหาว่าฉันไม่เตือนแกนะ คนอย่างหยางปั๋วฉงน่ะ ถ้าแกทำให้เขาเคืองเมื่อไหร่ ต่อให้เป็นฉันก็ช่วยแกไม่ได้!”
นิสัยและการกระทำของหยางปั๋วฉง หลินเยียนก็พอจะได้ยินมาบ้าง
คนแบบนี้ฟอร์มจัดอีโก้สูง ชอบคิดเล็กคิดน้อย คิดแค้นฝังใจ เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องใจคอโหดเหี้ยมในวงการบันเทิง ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขาเลย
คนใจคอโหดเหี้ยมแบบนี้ ถ้าได้มีเรื่องกับเขาเมื่อไหร่ ก็ยากที่จะหลุดพ้นได้
ขณะนี้ คนที่อยู่ในห้องต่างมองอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางเย็นชา ไม่มีใครอยากเสนอหน้าพัวพันกับเรื่องนี้
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณหลิน!”
เผยหนานซวี่…
ไม่รู้ว่าเผยหนานซวี่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายืนอยู่ตรงหน้าหลินเยียนด้วยรอยยิ้มแสนจะอบอุ่น เขามองมาทางหลินเยียนแล้วพูดขึ้น “คุณหลิน บังเอิญจังเลยนะครับ ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่!”