ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 629 คุณหลินรู้ไหมว่าผลที่ตามมาคืออะไร? / ตอนที่ 630 อาหารหมาเป็นตัน
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 629 คุณหลินรู้ไหมว่าผลที่ตามมาคืออะไร? / ตอนที่ 630 อาหารหมาเป็นตัน
ตอนที่ 629 คุณหลินรู้ไหมว่าผลที่ตามมาคืออะไร?
สีหน้าเหยียดหยามของจงเสี่ยวเวยชะงักไปชั่ววูบ จงเสว่หนิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึงจนอ้าปากหวอ
“พู่วแฮ่กๆๆๆๆ ” ฉู่จยาเหยาตะลึงจนเกือบตายเพราะสำลักน้ำลายตัวเอง
“เอ่อ…” เผยหนานซวี่ก็ตะลึงไม่เบา
ถึงแม้เขาจะเป็นคนเดียวที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างหลินเยียนและเผยอวี้เฉิง แต่หลินเยียนปิดบังเรื่องนี้มาโดยตลอด กลัวคนอื่นจะรู้เรื่อง ดังนั้นเผยหนานซวี่เองก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรแบบนี้
เผยอวี้เฉิงเผลอไปชั่ววูบ จากนั้นสายตาเข้มขึ้นทันที
ส่วนหลินเยียน ในวินาทีที่เธอจูบเสร็จก็ตั้งสติได้
หลังจากรู้ว่าตัวเองทำเรื่องที่สะเทือนฟ้าดินลงไปแล้ว เธอเดินก้าวถอยหลังมาสองก้าวแล้วเอามือมาแตะหน้าผาก
บ้าเอ้ย! เธอทำอะไรลงไปเนี่ย?
บรรยากาศพาไป! บรรยากาศพาไปน่ะ!!!
สายลมเย็นๆ โชยผ่าน
หนึ่งวิผ่านไป…
สองวิผ่านไป…
สามวิผ่านไป…
ทุกคนตะลึงอยู่กับที่เพราะช็อกเกินไป หลินเยียนเองก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น บรรยากาศน่าอึดอัดจนประหลาด
ผ่านไปพักใหญ่ จงเสี่ยวเวยชี้ไปทางหลินเยียนด้วยนิ้วที่สั่นคลอน โมโหจนแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือด “หลิน…หลินเยียน! แกมันไร้ยางอาย! แก…แกกล้าทำเรื่องแบบนี้กับคุณเผยได้ไง! แกเป็นนักเลงหรือไง? ทำไมถึงมีคนหน้าไม่อายอย่างแก!”
จงเสว่หนิงตะลึงกับการกระทำกล้าหาญชาญชัยของหลินเยียน เธอหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา “คุณหลิน! เธอรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? ได้ยินว่าชีวิตส่วนตัวของคุณหลินวุ่นวาย ไม่คิดว่าวันนี้มาเจอกับตัว ถือว่าสมคำล่ำลือจริงๆ ! เธอขาดผู้ชายขนาดนี้เลยเหรอ? แม้กระทั่งกับคุณเผย ยังกล้าทำอะไรบ้าบอแบบนี้!”
ตอนแรกหลินเยียนใจเย็นลงหน่อยแล้ว แต่พอเห็นสองพี่น้องนี่ เปลวไฟที่อยู่ในอกลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง อดไม่ได้อีกต่อไป
บัดซับจริง เกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย!
หลินเยียนกวาดมองสองพี่น้องด้วยท่าทางไม่แยแส “จูบไปแล้ว เธอจะทำอะไรกับฉันได้?”
จงเสี่ยวเวย “…”
จงเสว่หนิง “…”
สองพี่น้องอึ้งกับความไร้ยางอายของหลินเยียน
ฉู่จยาเหยาที่อยู่ข้างๆ ก็เผยสีหน้าเหลือเชื่อ “ยัยหนูนี่ช่างกล้าหาญจริงๆ เธอไม่อยากหายใจต่อแล้วเหรอ?”
หลินเยียนมองไปทางฉู่จยาเหยาแล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่สนใจ “ใช่แล้ว ตายแบบนี้ เป็นผีก็น่าภูมิใจออก!”
เธอจำได้ว่าเมื่อกี้ฉู่จยาเหยาพยายามเสนอสองพี่น้องนี้ให้เผยอวี้เฉิงขนาดไหน…
ฉู่จยาเหยา “…”
เผยหนานซวี่ “แฮ่กๆๆ”
“เหอ…” ใบหน้าโมโหจนแก้มป่องของหญิงสาวสะท้อนอยู่ในแววตาราวกับมหาสมุทรของเผยอวี้เฉิง เขาหัวเราะขึ้นเบาๆ
จงเสี่ยวเวยจับสติกลับมา รีบมองไปทางเผยอวี้เฉิงแล้วฟ้องขึ้นด้วยท่าทางโมโห “คุณเผย! ผู้หญิงคนนี้ถือว่าหน้าไม่อายจริงๆ ! เธอ…เธอถึงขั้นคุกคามแล้วนะเนี่ย!”
จงเสว่หนิงเองก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคับแค้น “ถ้าปล่อยให้คนแบบนี้อยู่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ต่อไป จะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหมด”
“คนอย่างเธอน่ะควรโดนแบนไปเลย! กล้ามาตุกติกกับคุณเผย ยังมีอะไรที่หล่อนไม่กล้าทำอีกเหรอ! ถ้าปล่อยเธอไว้แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่น่าไม่อายอีก!” จงเสี่ยวเวยพูดขึ้นด้วยความโมโห
ฉู่จยาเหยากลืนน้ำลายลงคอแล้วมองไปทางหลินเยียน เขาเห็นด้วยกับคำพูดของสองพี่น้อง ยัยหลินเยียนนี่ ช่าง…ทำเกินไปจริงๆ
เผยอวี้เฉิงฟังคำพูดของสองพี่น้องแล้วพยักหน้าเป็นนัยว่ารับทราบ จากนั้นเขามองไปทางหลินเยียน พูดขึ้นด้วยโทนเสียงต่ำราวกับเชลโล “คุณหลิน คุณรู้ไหมว่าผลที่ตามมาของการกระทำคุณคืออะไร?”
หลินเยียนกลืนน้ำลายลงคอ “…”
เอ่อ ผล…ผลที่ตามมางั้นเหรอ?
เห็นเผยอวี้เฉิงเหมือนจะโกรธจริงๆ สองพี่น้องจงเสี่ยวเวยและจงเสว่หนิงเผยสีหน้าได้อกได้ใจทันที
ทำให้หยางปั๋วฉงโกรธยังพอรอดไปได้ แต่ตอนนี้มาหาเรื่องเผยอวี้เฉิง ทีนี้หลินเยียนต้องตายแหงๆ
“คุณเผยคะ ผู้หญิงคนนี้ช่างหน้าไม่อายจริงๆ…”
“ใช่ค่ะ ปล่อยคนแบบนี้ไว้ไม่ได้แล้ว…”
ภายใต้สายตาเย้นหยันและคาดหวังของสองพี่น้อง วินาทีต่อมาเขาเดินไปอยู่ตรงหน้าหญิงสาว จากนั้นเผยอวี้เฉิงค่อยๆ โน้มตัวลงแล้วจุมพิตลงที่มุมปากหญิงสาวเบาๆ “ผลก็คือ…ชาตินี้ห้ามจากฉันไป…”
ตอนที่ 630 อาหารหมาเป็นตัน
ตอนที่หลินเยียนกระโจนเข้าไปจูบเผยอวี้เฉิง ทุกคนแค่ตกใจ แต่ความรู้สึกของพวกจงเสี่ยวเวยในตอนนี้นั้นเหมือนประมาณโดนฟ้าผ่าลงกลางหัว
เผยอวี้เฉิง…
ซีอีโอเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นผู้สูงส่งดั่งเทพที่ทำได้แค่มองแต่ไม่มีทางเอื้อมถึงนั้น เมื่อกี้…
เข้าไปจูบหลินเยียนเองซะงั้น…
อีกทั้งยังพูดว่า ‘ชาตินี้ห้ามจากฉันไป’ อะไรแบบนั้นอีก…
โลกใบนี้จะแตกแล้วหรือเปล่า หรือว่าเผยอวี้เฉิงโดนเล่นของใส่?
ขณะที่ริมฝีปากของชายหนุ่มแนบชิด หลินเยียนตกใจจนขนลุกไปทั้งตัว หัวใจดวงเล็กๆ เข้าสู่โหมดดิสโก้ หยุดยั้งไม่ได้เลย
ระดับการอ่อย…ของเผยอวี้เฉิงถือว่าเข้าขั้นเทพแล้วล่ะ…
“คุณ…คุณเผย…คุณ” จงเสี่ยวเวยเผยสีหน้าเหลือเชื่อ
“…” จงเสว่หนิงตะลึงอยู่กับที่ราวกับคนเสียสติ เธอพูดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกัน สองพี่น้องเริ่มจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติแล้ว…
ท่าทางของเผยอวี้เฉิง…
เมื่อกี้หลินเยียนทำตัวเสียมารยาทขนาดนั้น เผยอวี้เฉิงแค่ตกใจเล็กน้อย ไม่เห็นวี่แววโกรธแต่อย่างใด และการตอบโต้ของเผยอวี้เฉิงในตอนนี้ถือว่าผิดปกติจริงๆ
หยางปั๋วฉงในคืนนี้ถือว่าประหลาดมากพอแล้ว ตอนนี้เผยอวี้เฉิงก็เป็นอีกคน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เกิด…เกิดอะไรขึ้น…” ฉู่จยาเหยาทำหน้าเหมือนเห็นผี
เผยหนานซวี่ถอนหายใจเบาๆ มองไปทางฉู่จยาเหยาด้วยสายตาเห็นใจ
ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ
แต่ก็โทษพวกเขาไม่ได้ ที่ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่กับหลินเยียนมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน พูดได้แค่เรื่องนี้เหลือเชื่อจริงๆ
“คุณเผย คุณ…ทำไมคุณถึง…”
จงเสี่ยวเวยมองดูหลินเยียนแล้วมองไปทางเผยอวี้เฉิงอย่างไม่ต้องการเชื่อ เธอกรี๊ดใส่หลินเยียนและโกรธจนแทบเป็นบ้า “หลินเยียน! แกทำอะไรกันคุณเผยกันแน่!”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หลินเยียนได้แต่ถอนหายใจ ไม่มีความคิดที่จะดิ้นรนปิดบังต่อไป
ดังนั้น หลินเยียนเอามือเกาหน้าผากเล็กน้อย เหลือบมองจงเสี่ยวเวยแล้วเอื้อมมือไปเก็บใบไม้ที่ตกอยู่บนบ่าเผยอวี้เฉิง จากนั้นเธอเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันไม่ได้ทำอะไรหนิ! คงจะเห็นว่าฉันหน้าตาดี น่ารัก น่าหลงใหลเกินไป คงจะคิดอยู่ในใจว่าทำไมถึงมีนางฟ้าที่แสนน่าเอ็นดูแบบนี้ ก็เลยหลงรักฉันตั้งแต่แรกพบน่ะสิ!”
จงเสี่ยวเวย “…”
จงเสว่หนิง “…”
ฉู่จยาเหยา “…”
สายตาจงเสี่ยวเวยที่มองหลินเยียน เหมือนกำลังมองคนบ้าอยู่ “หลินเยียนเธอมันบ้าไปแล้วหรือเปล่า จิตป่วยหรือเปล่า! เธอคิดว่าคุณเผยตาบอดหรือไง”
หลินเยียนผายมือ “ไม่เชื่อก็ดูเองสิ!”
หลินเยียนพูดจบ เธอจับมือเผยอวี้เฉิงไว้ “ฉันอยากจุ๊บก็จุ๊บ อยากจับก็จับ อยากจับมือก็จับมือ…”
นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เผยอวี้เฉิงเห็นท่าทางกวนโอ๊ยของหลินเยียน เขาบีบมือเล็กๆ ของหลินเยียนแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “อยากทำแค่นี้เองเหรอ”
ความหมายที่แอบแฝง… ‘อยากทำแค่นี้เองเหรอ’
หลินเยียน “เอ่อ…แฮ่กๆๆๆ”
ป๋าก็คือป๋า! ถ้าพูดถึงเรื่องยั่วคงไม่มีใครแข่งกับเขาได้…
โดนสังหารในชั่วพริบตาจริงๆ
ถ้าถึงขนาดนี้แล้วยังมองความสัมพันธ์ระหว่างเผยอวี้เฉิงและหลินเยียนไม่ออก ก็ถือว่าตาบอดจริงๆ แล้ว
ความสนิทสนมนัวเนียของเผยอวี้เฉิงและหลินเยียน อาหารเป็นตันกระจายอยู่ทั่วฟ้าให้มองเห็นชัดขนาดนี้ ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน…
เมื่อฉู่จยาเหยานึกถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้แล้ว ตกใจจนขาอ่อนแรง เขาพึมพำขึ้นอย่างเหม่อลอย “บ้าเอ้ย…หรือว่า…หรือว่าคุณเผยกับหลินเยียนจะเป็น…”