ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 645 ผมสงสารตัวเอง / ตอนที่ 646 ความหวังของนายคงเสียเที่ยวเปล่าแล้ว
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 645 ผมสงสารตัวเอง / ตอนที่ 646 ความหวังของนายคงเสียเที่ยวเปล่าแล้ว
ตอนที่ 645 ผมสงสารตัวเอง
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็มีท่าทีครุ่นคิด
ซูไฉ่หัวหน้าทีมหญิงของเควันคนนี้ หลินเยียนกลับพอจำได้บ้าง
ครั้งก่อนที่หลินซูหย่าเชิญตัวปลอมมา ซูไฉ่หัวหน้าทีมหญิงของเควันคนนี้ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานด้วย
หลินเยียนไม่ได้คิดอะไรมาก รับรายชื่อกลุ่มซีมาจากมือมั่วซูอวิ๋นแล้วมองสำรวจ
“ทีมรถแข่งบลาสท์…”
เมื่อเห็นชื่อที่อยู่บรรทัดแรก หลินเยียนก็มีสีหน้างุนงงเล็กน้อย ชื่อทีมนี้เหมือนเธอจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเยียนก็นึกขึ้นมาได้ทันที เหมือนว่าทีมของเผยอวี่ถังจะชื่อบลาสท์นะ?
มิน่าหลายวันนี้เผยอวี่ถังเอาแต่มาหาเธอ วิงวอนร้องขอให้เธอยอมอ่อนข้อให้ ด้วยการจัดอันดับรายชื่อของกลุ่มซี มีความเป็นไปได้มากจริงๆ ว่าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อกับทีมรถแข่งบลาสท์ของเผยอวี่ถังจะได้เจอกันบนสนามแข่งจริงๆ
นอกจากทีมรถแข่งบลาสท์แล้ว ยังมีทีมใต้สังกัดเควันทีมหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของหลินเยียน
เช่นเดียวกัน
ทีมเคทู
ทีมนี้เป็นทีมระดับสูง เป็นหนึ่งในทีมใต้สังกัดทีมเควัน เนื่องจากต้องแข่งจัดอันดับ ทีมเควันจึงให้ซูไฉ่หัวหน้าทีมหญิงคนนั้นเป็นหัวหน้าทีมเพื่อสร้างผลงานให้ออกมาดี
นอกจากนี้หลินเยียนยังพบอีกว่านอกจากทีมเคทูแล้ว ยังมีทีมระดับแถวหน้าอีกสองทีม นั่นก็คือทีมวินด์เชสเซอร์กับทีมเดอะแฟลช
สองทีมนี้เป็นทีมยักษ์ใหญ่เก่าแก่ของประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุนหรือว่าขุมกำลังล้วนไม่ใช่สิ่งที่ทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูจะเทียบได้เลย
“เฮ้อ…”
ไม่นานนักมั่วซูอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างก็ถอนหายใจกับหลินเยียน “ถึงแม้ทีมระดับต้นกับระดับกลางจะมีค่อนข้างมาก แต่ทีมระดับสูงกับระดับแถวหน้าก็มีเหมือนกัน กลุ่มซี สำหรับพวกเราถือว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย ถ้าหากเจอทีมระดับสูงกับทีมระดับแนวหน้าเข้าล่ะก็…”
ในสายตามั่วซูอวิ๋น ทีมระดับสูงก็ช่างมันเถอะ ถึงอย่างไรอาจจะยังพอสุ่มจับได้หลินเยียน แต่ถ้าเจอทีมวินด์เชสเซอร์กับทีมเดอะแฟลช นั่นคงต้องรับกรรมแล้วจริงๆ
ยังมีทีมเคทูที่แสนจะตึงมือนั่นอีกทีมหนึ่ง เพราะถึงอย่างไรคนที่นำทีมก็เป็นถึงหัวหน้าทีมที่มาจากทีมเควัน ไม่อาจใช้ทีมระดับสูงธรรมดาทั่วไปมาวัดกันได้
“นายมีความเห็นยังไง?”
เมื่อเห็นมั่วซูอวิ๋นมีท่าทีอ้ำอึ้ง หลินเยียนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
เมื่อได้ยิน มั่วซูอวิ๋นจึงมองหลินเยียน มุมปากกระตุกเล็กน้อย “ผมสงสารตัวเอง…เพิ่งเข้าทีมใหม่ก็ต้องเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากขนาดนั้นเสียแล้ว ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อช่างมีอาถรรพ์จริงๆ !”
หลินเยียน “…”
ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจะมีอาถรรพ์ได้อย่างไร หรือว่าตัวมั่วซูอวิ๋นจะไม่มีอาถรรพ์ พอเข้าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็เจอเรื่องหนักหนาแบบนี้เสียแล้ว
หลังจากผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงกว่า การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น
บริเวณที่นั่งแขกวีไอพีมีคนนั่งจนเต็มแล้ว
ฉีเซ่าหยวนกับเว่ยสวีเฟิงย่อมไม่พลาดแน่นอน พวกเขามาถึงสนามแข่งก่อนเวลา อดทนรอมาตั้งแต่เช้า
“นั่นมันหลินเยียน?”
เว่ยสวีเฟิงมองลงไปจากบริเวณที่นั่งวีไอพี มองเห็นสมาชิกทีมตระกูลเฮ่อโดยบังเอิญ และหลินเยียนก็อยู่ในนั้นด้วย
“ไหนๆ ?!”
เมื่อได้ยิน ฉีเซ่าหยวนก็รีบลุกขึ้นพร้อมมองสำรวจโดยรอบทันที
“นี่นายจะตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม?”
เว่ยสวีเฟิงมองฉีเซ่าหยวนด้วยสีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย
ตอนที่ฉีเซ่าหยวนได้รับเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัว เว่ยสวีเฟิงก็เห็นฉีเซ่าหยวนออกหน้าให้หลินเยียนแล้ว ตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจมาก
“ตื่นเต้นอะไรกัน ฉันตื่นเต้นที่ไหน พูดเพ้อเจ้อ” ฉีเซ่าหยวนเหลือบมองเว่ยสวีเฟิง
“นายกับหลินเยียน…”
เว่ยสวีเฟิงมองฉีเซ่าหยวนด้วยท่าทีแฝงความนัย “คงไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกนะ?”
“เปล่า!”
ฉีเซ่าหยวนส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่อันที่จริงก็เป็นอะไรกันอยู่บ้างนั่นแหละ ไอดอลกับแฟนคลับไง!
ส่วนความสัมพันธ์ที่มันลึกซึ้งกว่านั้น เขาน่ะอยาก…แต่ที่สำคัญคือเขาไม่กล้าน่ะสิ
เขาจะไปมีความคิดเป็นอื่นกับเยวาลูกพี่ของตัวเองได้อย่างไรกัน เขายังเป็นเด็กอยู่เลยนะ!
ตอนที่ 646 ความหวังของนายคงเสียเที่ยวเปล่าแล้ว
“งั้นก็ดีที่สุดแล้ว หลินเยียนคนนี้น้ำนิ่งไหลลึก ทั้งยังเจ้าแผนการ ฉันว่านายอย่าไปข้องเกี่ยวอะไรกับเธอเลยจะดีกว่า” เว่ยสวีเฟิงพูดโดยแฝงความนัยลึกซึ้ง
“เจ้าบ้า นายมาดูการแข่งขัน หรือมาคุยเรื่องผู้หญิงกันแน่” ฉีเซ่าหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เว่ยสวีเฟิงยักไหล่ทั้งสองข้างเล็กน้อยทันที “ฉันก็แค่สงสัยน่ะ หลินเยียนลงแข่งกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจริงๆ ด้วย ถ้าถูกสุ่มจับชื่อลงสนามจริงจะรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหรือเปล่านะ”
“กลืนไม่เข้าคายไม่ออก?” ฉีเซ่าหยวนยิ้มเย็นชา “ไม่มีทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแน่นอน”
เว่ยสวีเฟิงมีท่าทีครุ่นคิด “ก็ใช่ ถึงยังไงทีมระดับต้นที่ใกล้จะถูกยุบแบบนี้ก็…”
อย่างไรก็ตามเว่ยสวีเฟิงยังพูดไม่ทันจบดี ขณะที่กวาดสายตามองเล็กน้อย กลับมองเห็นมั่วซูอวิ๋นที่อยู่ข้างกายหลินเยียน
“มั่วซูอวิ๋น?”
เว่ยสวีเฟิงมีสีหน้าประหลาดใจ
มั่วซูอวิ๋นยืนอยู่ข้างหลินเยียน แถมยังสวมชุดแข่งของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออีกด้วย เห็นชัดว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ
“มั่วซูอวิ๋นเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อแล้ว นี่มันเป็นไปได้ยังไง!” เว่ยสวีเฟิงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
ถึงแม้มั่วซูอวิ๋นจะไม่ถึงขั้นเป็นนักแข่งรถมืออาชีพระดับสุดยอดของประเทศ แต่ก็มีชื่อเสียง ถือเป็นนักแข่งผู้โด่งดัง คนแบบนี้ไม่ไปอยู่ทีมระดับแถวหน้าดีๆ แต่กลับมาอยู่ทีมระดับต้นที่พร้อมจะถูกยุบได้ทุกเมื่อทีมหนึ่งแทนนี่นะ?
“คิดไม่ถึงว่าที่แฉกันในเน็ตจะเป็นเรื่องจริง…” เว่ยสวีเฟิงแอบครุ่นคิด
หลายวันก่อนเว่ยสวีเฟิงเคยอ่านข่าวแฉที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือข่าวหนึ่งในอินเทอร์เน็ต
เนื้อหาก็คือนักแข่งรถผู้มีชื่อเสียงเข้าร่วมรถแข่งตระกูลเฮ่อ และสาเหตุที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อนั่นเพราะหลินเยียน
และเนื้อหาข่าวที่ละเอียดมากไปกว่านั้นก็คือ หลินเยียนยอมใช้ตัวเองทำการแลกเปลี่ยนกับมั่วซูอวิ๋น ให้มั่วซูอวิ๋นเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ เพื่อรักษาทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเอาไว้
เว่ยสวีเฟิงไม่รู้ว่าคนที่แฉข้อมูลเป็นใคร และไม่เคยเชื่อข้อมูลแบบนี้เลยสักนิด
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าวันนี้เขากลับเห็นมั่วซูอวิ๋นที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจริง แถมมั่วซูอวิ๋นยังสวมชุดแข่งของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออีกด้วย
ดูท่าข่าวแฉในอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่ข่าวโคมลอย สร้างข่าวเพ้อเจ้อขึ้นมาเพื่อเรียกกระแสเสียแล้ว
เว่ยสวีเฟิงเองยังไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ ขณะที่เขาใช้สายตามองหลินเยียนนั้น ความรังเกียจเดียดฉันท์ก็ฉายวาบขึ้นมาภายในดวงตาโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงแบบนี้ เพื่อชื่อเสียงกับภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว ช่างยอมเสียอะไรออกไปก็ได้จริงๆ
ตัวเองไม่มีความสามารถ แล้วทำไมต้องสร้างภาพลักษณ์ว่าตัวเองเป็นนักแข่งรถมือฉมังด้วย
กระทั่งว่ายังใช้ตัวเองแลกเปลี่ยนเพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์พังครืนอีกต่างหาก
“ฉันยังตั้งหน้าตั้งตารอให้ลูกพ…แค่กๆ ฉันยังตั้งหน้าตั้งตารอให้หลินเยียนถูกสุ่มให้ลงสนามด้วยนะ” ฉีเซ่าหยวนที่อยู่ด้านข้างพูดระคนหัวเราะเบาๆ
“ถูกสุ่มให้ลงสนาม?”
เว่ยสวีเฟิงเหลือบมองฉีเซ่าหยวน จากนั้นก็หัวเราะเย้ยหยันทันที “เกรงว่าความหวังของนายจะเสียเที่ยวเปล่าแล้วล่ะ”
“เพราะอะไร?” ฉีเซ่าหยวนไม่เข้าใจ
“ฉันขอพนันกับนาย หลินเยียนไม่มีทางถูกสุ่มได้ หรือต่อให้ถูกสุ่มได้ เธอก็ไม่มีทางลงสนามแน่” เว่ยสวีเฟิงพูดเรียบๆ
เว่ยสวีเฟิงไม่แน่ใจว่าหลินเยียนจะมีวิธีการอะไรที่จะซื้อตัวเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่สุ่มจับสลากได้ ดังนั้นผลลัพธ์จึงมีแค่สองอย่าง
อย่างแรก หลินเยียนซื้อตัวเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่สุ่มจับสลากได้ ดังนั้นจึงไม่มีวันสุ่มได้ตัวเธอ เพราะหากถูกสุ่มได้ ภาพลักษณ์นักแข่งรถผู้แข็งแกร่งที่หลินเยียนสร้างขึ้นมาจะพังครืนลงไปทันที
อย่างที่สอง การแข่งใหญ่แบบนี้มีความยุติธรรมมาก หลินเยียนยังอาจถูกสุ่มได้เหมือนเดิม แต่เธอต้องหาข้ออ้างสารพัดอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องลงสนามแน่
แน่นอนว่าอาจจะมีอย่างที่สาม
หลินเยียนถูกสุ่มได้และฝืนลงสนาม ผลก็คือถูกบดขยี้อย่างน่าสมเพช