ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 681 เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้ว / ตอนที่ 682 ถูกใจอัจฉริยะอย่างคุณพ่อ
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 681 เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้ว / ตอนที่ 682 ถูกใจอัจฉริยะอย่างคุณพ่อ
ตอนที่ 681 เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้ว
การฉลองวันเกิดเผยอวี้เฉิงครั้งนี้นับว่าน่าอกสั่นขวัญหายเสียจริง…
ทำให้หลินเยียนจดจำฝังใจ ล้มละลายจนหมดตัว
เงินที่เก็บสะสมอยู่ในการ์ดช่วงนี้ของหลินเยียนถูกใช้ไปกว่าครึ่ง ปวดใจจนเธอนอนไม่หลับไปหลายคืน
วันนี้
หลินเยียนนั่งพิงโซฟา นิ้วมือสไลด์อ่านข่าวจากโทรศัพท์มือถือเหมือนเช่นที่เป็นมา
ตอนนี้กงสี่ฟาไฉแมวส้มตัวน้อยปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังขดตัวหลับอยู่ข้างเท้าหลินเยียนด้วยความสุขสบาย
นับตั้งแต่การแข่งขันจัดอันดับคราวนั้นสิ้นสุดลง คำวิจารณ์ที่มีต่อเธอในโลกไซเบอร์เหมือนจะต่างไปจากเดิมเล็กน้อย กระทั่งว่าหลินเยียนเองก็ยังรู้สึกไม่คุ้นชินไปชั่วขณะอยู่บ้าง
ถ้าเป็นที่ผ่านมา ในข้อความคอมเมนต์จากชาวเน็ตที่ด่าทอเธอจำนวนหนึ่งหมื่นข้อความ อาจจะมีสักคนสองคนที่โดดออกมาพูดแก้ต่างให้เธอบ้าง แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นตัวเธอเองอีกด้วย
แต่ตอนนี้ในคอมเมนต์ที่ด่าทอเธอจำนวนหนึ่งหมื่นข้อความ อย่างน้อยที่พูดแก้ต่างให้หลินเยียนก็มีถึงร้อยข้อความ
ก่อนหน้านี้ไม่นานนักหลินซูหย่าโพสต์เวยปั๋วมาข้อความหนึ่ง เนื้อหาก็คือแสดงความยินดีต่อทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อของคุณตาเธอที่ได้คะแนนที่ค่อนข้างดีในการแข่งขันจัดอันดับ
เพราะฉันหล่อเกินไปเลยติดหนี้รักจำนวนนับไม่ถ้วน : [ซูหย่า ฉันได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อครั้งนั้นแล้วนะ พี่สาวเนรคุณไร้คุณธรรมของเธอจะต้องคุยกับทีมอื่นก่อนแล้วแน่ๆ ว่าจะแข่งขันกันแบบหลอกๆ ไม่อย่างนั้นทีมระดับต้นทีมหนึ่งจะเอาชนะทีมระดับแนวหน้าได้ยังไง]
เจ๊สวยเกินไป ทำให้เธอหน้าเหมือนผี : [ซูหย่าๆ รีบหาวิธีไล่หลินเยียนออกจากทีมตระกูลเฮ่อไปทีสิ ทีมตระกูลเฮ่อควรได้เป็นทีมระดับสูง ซูหย่าเธอต้องรับสืบทอดทีมตระกูลเฮ่อนะ ไม่อย่างนั้นหลินเยียนจะต้องก่อความวุ่นวายแน่ มีแค่ซูหย่าเท่านั้นที่คู่ควรรับสืบทอดทีมตระกูลเฮ่อ]
เธอคืนคนบ้าฉันคือคนปัญญาทึบ : [พับผ่าสิ ข้างบนน่ะอายบ้างหรือเปล่า ถ้าทีมตระกูลเฮ่อไม่มีหลินเยียนคงถูกคัดออกไปนานแล้วนะ ยังจะมาทีมระดับสูงอะไรกันอีก มีความคิดเป็นของตัวเอง มีสติกันหน่อยได้หรือเปล่า!]
ฉันคือกระดาษชำระในชักโครก : [นั่นแล้วจะทำไม ไม่มีหลินเยียน ซูหย่าก็ทำให้ทีมตระกูลเฮ่อเป็นทีมระดับสูงได้เหมือนกัน นั่นเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง หลินเยียนมีคุณสมบัติอะไรถึงได้มาอยู่ในทีมรถแข่งระดับสูงอย่างทีมตระกูลเฮ่อ
ถ้าพูดถึงเรื่องคุณสมบัติความเป็นคนก็ถูกซูหย่าของพวกเราทิ้งห่างไปสิบช่วงถนนภายในชั่วพริบตา ถ้าพูดถึงเรื่องฝีมือการแสดง ก็ยังถูกทิ้งห่างไปสิบช่วงถนนอยู่ดี ถ้าเอ่ยถึงฝีมือการแข่งรถ ก็ยังถูกทิ้งห่างไปสิบช่วงถนนอยู่ดีนั่นแหละ]
ถ้าให้เอ็นดูเธอไม่สู้เอ็นดูหมาดีกว่า : [เหอะ หลินเยียนเป็นคนแบบไหนทุกคนต่างรู้ดี คงไม่ต้องให้พูดมากแล้วสินะ แม้แต่บทที่น้องสาวของตัวเองต่อสู้เพื่อให้ได้มาก็ยังจะแย่งอีก บทเยวานี้เดิมทีควรเป็นของซูหย่า หลินเยียน คู่ควรรึไง?]
…
หลินเยียนอ่านคอมเมนต์ข้างล่างโพสต์เวยปั๋วของหลินซูหย่าอย่างออกรสชาติ ถ้อยคำด่าทอพวกนี้หลินเยียนคุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติมาตั้งนานแล้ว
ขณะที่กำลังจะอ่านต่อไป โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา เผยอวี่ถังเป็นคนโทรมานั่นเอง
“ฮัลโหล คุณพ่อ เกิดเรื่องใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้ว!”
เผยอวี่ถังพูดอย่างรีบร้อนจากทางปลายสาย
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เรื่องใหญ่อะไร เธอเป็นอะไรน่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
“อ้อ ผมอยู่บ้านครับ” เผยอวี่ถังตอบ
หลินเยียน “…”
“อยู่บ้านแล้วเธอโทรหาฉันนี่นะ? มาคุยกันไม่ได้หรือไง?” หลินเยียนรู้สึกอับจนปัญญาอยู่บ้าง
“เอ่อ เรื่องนี้ไม่สำคัญ คุณพ่อรู้หรือเปล่า แอคเคาท์รองของลั่งหมั่งก่อนหน้านี้ อันที่ถูกด่าสาดเสียเทเสีย…บอกว่าเขาเป็นลั่งหมั่งตัวปลอม ที่ช่วงนี้ถูกด่าจนยับนั่นน่ะครับ!” เผยอวี่ถังเอ่ย
หลินเยียนครุ่นคิด นี่เธอยังจำได้อยู่บ้าง เพียงแต่นั่นไม่ใช่ลั่งหมั่งตัวปลอม แต่เป็นแอคเคาท์รองของลั่งหมั่งจริงๆ
“คุณพ่อ แต่เขาไม่ใช่ตัวปลอม เป็นตัวจริงครับ!” เผยอวี่ถังพูด
“เธอรู้ได้ยังไง” หลินเยียนรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
แอคเคาท์รองของลั่งหมั่งนั่นมีเพียงคนสนิทจำนวนไม่มากที่จะรู้
“ผมก็ต้องรู้แน่นอนสิ!” เผยอวี่ถังพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แอคเคาท์หลักที่ได้รับการยืนยันแล้วของลั่งหมั่งถูกด่าจนต้องออกมาด่ากลับ ภาษาค่อนข้างรุนแรงเลยทีเดียว ด่าคนที่ด่าแอคเคาท์รองของเขาพวกนั้นอย่างสาดเสียเทเสีย แถมยังปล่อยภาพหน้าจอการสนทนาของตัวเองกับเยวาออกมาอีกด้วยนะครับ!”
ตอนที่ 682 ถูกใจอัจฉริยะอย่างคุณพ่อ
“คุณพ่อเจ๋งเป้งเหลือเกิน คุณพ่อรู้หรือเปล่าว่าที่คุณพ่อได้แสดงเป็นเยวานั้นไม่ใช่เพราะมีฝีมือการแสดงที่ดี ความสามารถยอดเยี่ยม แต่นั่นเพราะคุณพ่อถูกเลือกโดยเยวาครับ!”
หลินเยียนได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่พอใจ ตัวเธอนอกจากจะเป็นนักแสดงที่เยวาเลือกแล้ว ฝีมือการแสดงก็ดีมากด้วย หรือว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่เหมาะสมที่จะแสดงประวัติชีวิตการทำงานของเยวามากกว่าเธออีกหรือไง
“คุณพ่อ คุณพ่อช่างเจ๋งจริงๆ เลยนะ!” น้ำเสียงของเผยอวี่ถังทวีความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ “ถูกเลือกโดยเยวา แถมยังยืนกรานท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้คนอีกด้วย คุณพ่อ คุณพ่อว่าคุณพ่อมีอะไรดี เยวาถูกใจอะไรคุณพ่อกันแน่ เยวาคิดยังไงกันแน่!”
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอว่าอะไรนะ”
เสียงของเผยอวี่ถังทางปลายสายหยุดชะงักอย่างชัดเจน จากนั้นเสียงหัวเราะกระอักกระอ่วนใจก็ดังมาจากโทรศัพท์ทันที “อ๊ะ ฮ่าๆ คุณพ่อ ความหมายของผมก็คือเยวาช่างมีสายตาล้ำเลิศเหลือเกิน ไม่เสียทีที่เป็นบุคคลในตำนานของวงการรถแข่ง มีสายตาที่เป็นเอกลักษณ์…มีความเฉพาะตัว แค่มองปราดเดียวก็ถูกใจอัจฉริยะอย่างคุณพ่อแล้ว
หลินเยียน “…” ประจบสอพลอชัดเกินไปแล้ว
“คุณพ่อ พูดตามความเป็นจริงนะ คุณพ่อไม่ได้รู้จักกับเยวาใช่ไหมครับ!” เผยอวี่ถังสงสัยเล็กน้อย
“ไม่รู้จัก” หลินเยียนตอบ
หลินเยียนตัดสายทิ้งทันที โดยไม่ปล่อยโอกาสให้เผยอวี่ถังพูดจาไร้สาระต่อไป
ไม่นานนักหลินเยียนก็เปิดโทรศัพท์เพื่อค้นหาข่าวอีกครั้งหนึ่ง
จริงดังคาด กระทู้อันน่าตื่นตะลึงกระทู้หนึ่งขึ้นอันดับการค้นหายอดนิยมทันที
‘ลั่งหมั่งปรากฏตัว โต้กลับอย่างเดือดดาล พลิกสิ่งที่คุณรู้มาทั้งหมด’
“รุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ” หลินเยียนสงสัยอย่างยิ่ง
บนโลกนี้พูดได้ว่าหลินเยียนเป็นหนึ่งในคนที่เข้าใจลั่งหมั่งมากที่สุด เขาทนรับการใส่ความและความ อยุติธรรมใดๆ ไม่ได้เลย นิสัยอารมณ์รุนแรงอย่างยิ่ง ถ้าหากด่าคนขึ้นมา นั่นอาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าการด่าคำหยาบสามคำต่อเนื่องเสียอีก อาจด่าได้ถึงสิบแปดคำเสียด้วยซ้ำ
หลังจากคลิกเข้าไปในกระทู้ก็ปรากฏภาพแคปจากเว็บนอกเป็นพรวน
แอคเคาท์ออฟฟิศเชียลของลั่งหมั่งลงมาเล่นเองจริงด้วย
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [ฉันขอ***เจ้าพวก***อย่างพวกแก ฉันจะ***พวกแกให้ตายไปเลย***ปีนี้ทั้งครอบครัวแกจะต้อง***ฉันต้อง***!]
มุมปากหลินเยียนกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพแคปภาพแรก
สงสัยว่าคงด่าจนอ่านไม่ได้ เลยถูกชาวเน็ตรวมหัวกันเมินแล้วล่ะสิ…
ดูสิ พอเทียบกันแล้ว อะไรคือนักเลงคีย์บอร์ด นี่ต่างหากเล่าถึงจะเป็นนักเลงคีย์บอร์ด!
เธอเคยพูดเอาไว้ไม่ผิดเลยจริงๆ ลูกศิษย์ของเธอคนนี้เป็นปลาที่หลุดรอดจากแหของการศึกษาเชิงคุณภาพ
ไม่นานนักหลินเยียนก็มองไปยังภาพแคปภาพที่สอง
เหมือนลั่งหมั่งจะรู้ว่าตัวเองทำเกินไปจนถูกคนพร้อมใจกันเมิน ครั้งนี้จึงประนีประนอมขึ้นบ้าง
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [ฉัน***พวกผายลมสุนัขอย่างพวกแก ฉันหาเรื่องพวกแกไปแล้ว อย่าแจ้นมาทิ้งข้อความด่าฉันในแอคเคาท์รองส่วนตัวของฉันอีก ฉันจะบอกพวกแกให้ นั่นคือแอคเคาท์รองของฉัน ฉันเป็นคนโพสต์เอง
อีกอย่างนะ ดาราสาวชาวจีนอะไรนั่นน่ะ ฉันไม่รู้จักเลยสักนิด แถมไม่เคยเจอหน้ากันด้วย เยวา อาจารย์ของฉันเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง พวกแกไม่พอใจนักแสดง พวกแกก็ไปด่าอาจารย์ของฉันสิ มาด่าฉันทำไมเล่า พวกแก***?
รังแกคนอ่อนแอกลัวคนแข็งแกร่งกว่างั้นเหรอ คิดว่าฉันเป็นคนสุภาพเรียบร้อย อ่อนโยนน่าเคารพนับถือและน่าเข้าใกล้ บริสุทธิ์ผุดผ่อง เรียบง่ายเป็นกันเองและเข้าหาได้ง่ายมากหรือไง
พวกแกผิดแล้ว ฉันน่ะเป็นงูพิษ ฉัน***!
ข้างล่างคือภาพแคปการคุยระหว่างฉันกับอาจารย์ของฉัน ถ้าไม่เชื่อก็ดูเอาเอง ถ้าเก่งจริงก็ไปด่าอาจารย์ของฉัน เอาฉันมาด่าคนเดียวใช่ลูกผู้ชายที่ไหนกัน ถุย ขยะ เศษสวะ พวกแกไปตายซะเถอะ อย่าให้ฉันรู้นะว่าพวกแกเป็นใคร ช่วงนี้ระบบเบรกกับพวงมาลัยของรถฉันเสีย เกิดขัดข้องได้ง่าย แม่แก ABCDEFG! ฉัน***!]
เมื่ออ่านคำพูดอันดุเดือดของลั่งหมั่ง หลินเยียนก็เกือบจะหัวเราะพรวดออกมา
นักเลงคีย์บอร์ดคนอื่นที่มีความสามารถสักหน่อยอย่างมากก็เป็นแค่คนร้ายกาจ แต่ลั่งหมั่งไม่เหมือนกัน เขายังร้ายกาจยิ่งกว่าคนร้ายกาจ เขาคือมนุษย์หมาป่า