ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 715 ต่างกันมากขนาดนี้เลยเหรอ / ตอนที่ 716 ไร้เดียงสาเกินไป
ตอนที่ 715 ต่างกันมากขนาดนี้เลยเหรอ
สำหรับฐานะหลินซูหย่าในตอนนี้ เงินทองไม่มีค่าใดๆ แล้ว ถ้าอยากไต่ขึ้นสูงกว่านี้ สิ่งที่ต้องการที่สุดคือชื่อเสียงและอิทธิพล
การเลือกแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสสุดเพอร์เฟกต์ก็ว่าได้
ไม่ว่าสังคมหรือมวลชน ต่างยินดีให้ความสนใจแก่ดาราที่ทุ่มเทกับการกุศล
คุณค่าทางการเงินของหลินซูหย่าก็จะเพิ่มพูนตามไปด้วย
“เขาแค่พูดไปงั้นแหละ ไม่นับเป็นจริงหรอก” หลินซูหย่าหัวเราะเบาๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้จริงๆ แต่รอยยิ้มที่ผ่านแว๊บเข้ามานั้นทำให้แลดูย้อนแย้งกับความถ่อมตัวของเธอ
“ทำไมถึงไม่นับล่ะ การเลือกแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลนี่มาจากการโหวตของทุกคน ตอนเธออายุสิบกว่าก็ก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์แล้ว เรื่องนี้ใครๆ เขาก็รู้กันหมด
ส่วนพี่สาวหลินเยียนของเธอน่ะ เพื่อแย่งชิงตำแหน่งแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศล เห็นเธอก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ จู่ๆ มาจัดฉากเอาแมวจากไหนไม่รู้มาโชว์ ตัวเดียวไม่พอ ยังหาแมวแร็คดอลล์ราคาแพงมาอีกตัว ตลกจริงๆ พี่สาวเธอคิดว่าทำเพื่อการกุศลมันง่ายกันขนาดนั้นเลยเหรอ?
เธอรู้ไหมว่าชาวเน็ตด่าพี่เธอจนหัวเน่าขนาดไหน ขนาดจัดฉากยังไม่ใช้สมองเลย” ผู้จัดการหัวเราะแล้วพูดขึ้น
ผู้จัดการนึกถึงคอมเมนต์ด่าทอที่เกลื่อนเต็มทั่วข้อความที่หลินเยียนโพสต์ในเวยปั๋วก็รู้สึกตลก
เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ทำไมต่างกันมากขนาดนี้ล่ะ?
หลินเยียนชอบเลียนแบบหลินซูหย่าอยู่เรื่อย ก่อนหน้านั้นก็หน้าด้านหน้าทนบอกว่าหันอี้เซวียนเป็นของเธอยังว่าไปอย่าง ตอนนี้มาทำอะไรแบบนี้ คิดจะตั้งคณะตลกหรือยังไงกัน
ไม่ส่องกระจกดูตัวเองบ้าง ทำการกุศลไม่ได้ทำกันได้ชั่วข้ามคืนนะ
ต้องรู้ด้วยว่าก่อนที่หลินซูหย่าจะเข้าสู่วงการบันเทิงก็ได้ก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์แล้ว ทุ่มเทมานานหลายปีโดยที่ไม่หวังผลประโยชน์และชื่อเสียงใดๆ
หลินซูหย่าฟังคำดูถูกหลินเยียนที่ออกมาจากปากผู้จัดการแล้ว ความสะใจปรากฎขึ้นในแววตา แต่กลับเสแสร้งทำหน้าลำบากใจขึ้น
“อย่าพูดแบบนี้สิ เธอยังเป็นพี่สาวฉันอยู่ดี” หลินซูหย่าถอนหายใจแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าอึดอัด
เมื่อผู้จัดการเห็นหลินซูหย่าออกตัวให้หลินเยียนเพราะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง จึงพูดขึ้น “ซูหย่า เธอใจดีเกินไปน่ะ ยังโหวตให้หลินเยียนอีก ตอนนี้ดาราที่ชิงตำแหน่งแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลนั้นมีคนไหนบ้างที่ไม่อยากแย่งคะแนนมาจากเธอ มีแค่เธอนั่นแหละที่แบ่งคะแนนให้พี่เธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หลินเยียนก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้ารอบ”
หลินซูหย่าหัวเราะเจื่อนๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก แค่เบี่ยงหน้าไปเล็กน้อย แกล้งทำเป็นเหมือนกำลังชมวิวอยู่
รอยยิ้มอันสะใจปรากฎบนหน้าเธอ ฉีกความเสแสร้งที่ทำตัวเหมือนลำบากใจและไม่แยแสเป็นเสี่ยงๆ
เธอไม่คิดจริงๆ เลยว่ากองขยะที่หลินเยียนโยนให้เธอในตอนแรกจะช่วยเธอได้ขนาดนี้
ตอนที่เธอเพิ่งเข้าวงการ ฐานะผู้ก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ สร้างชื่อเสียงและความรู้สึกดีๆ จากคนอื่นมากมาย จนได้รับตำแหน่งนางฟ้าแห่งชาติ
เธอคิดว่านั่นคือคุณค่าสุดท้ายของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ แต่ไม่คิดเลยว่า…
ตัวตนนี้ทำให้เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการเพื่อการกุศลที่ไม่ได้เข้ากันง่ายๆ อีกทั้งยังคว้าตำแหน่งแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลที่ดาราจำนวนมากแย่งชิงกันแทบตายไปข้างหนึ่งมาได้
แค่เดอะ แองเจิล เฮ้าส์ก็ทำให้เธอแซงหน้าดาราทั้งหลาย กวาดคะแนนมาได้ถล่มทลาย
ตอนนี้คะแนนเธอแซงโค้งมาแต่ไกล ทางฝ่ายจัดงานของมูลนิธิเพื่อการกุศลมอบโอกาสในการร่วมทำงานพร้อมกู้ซินหานอีก ดูเหมือนว่า…แอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลในรุ่นนี้ต้องเป็นเธอแล้วล่ะ
ตอนที่ 716 ไร้เดียงสาเกินไป
ขณะนี้ ผู้กำกับและตากล้องกำลังสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ถ่ายทำอย่างวุ่นวาย
อีกทั้งยังเตรียมน้องแมวน้องหมาจำนวนมากเพื่อให้มีการปฎิสัมพันธ์กับนักแสดง น้องๆ เหล่านี้ล้วนแต่รับมาจากเดอะ แองเจิล เฮ้าส์
เมื่อมาถึงแล้วก็ถูกน้องหมาน้องแมวล้อมอยู่ตรงกลาง บรรยากาศแลดูคึกคักมาก
“พี่หาน!”
“ซูหย่า มาแล้วเหรอ!” กู้ซินหานกำลังอุ้มแมวน้อยตัวหนึ่งอยู่ เธอยิ้มแล้วทักทายหลินซูหย่า
หน้าตากู้ซินหานไม่ถือว่าโดดเด่นในหมู่ดาราสาวทั้งหลาย แต่เธอมีบุคลิกอ่อนโยนและเป็นมิตรอย่างมาก
น้องแมวที่อยู่ในอ้อมกอดหญิงสาวค่อนข้างซน ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ดิ้นไปดิ้นมาและยื่นเล็บออกมา
“อุ๊ย…” กู้ซินหานส่งเสียงขึ้น จู่ๆ หลังมือก็มีรอยข่วนปรากฏขึ้น
เมื่อผู้กำกับและทีมงานเห็นก็รีบตรงเข้าไปด้วยความลนลาน “ซินหาน! เป็นอะไรไหม! เป็นยังไงบ้าง เจ็บอะไรหรือเปล่า”
“แมวนี่มันยังไงกัน! ดุไปหรือเปล่าเนี่ย! ทำไมไม่เลือกตัวที่เชื่องกว่านี้!”
หลินซูหย่ารีบเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง “พี่หานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
กู้ซินหานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี “ไม่เป็นไรๆ แผลเล็กๆ น้อยๆ พวกเธออย่ากังวลไป อย่าโทษน้องแมวเลย ฉันทำให้มันตกใจเองแหละ!”
“พี่หานเป็นคนอ่อนโยนจริงๆ เลยนะคะ!” หลินซูหย่าที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดขึ้น
กู้ซินหานเผยยิ้มแล้วพูดขึ้น “เพราะน้องๆ น่ารักจริงๆ นี่หน่า ฉันคิดว่าทุกคนจะกลายเป็นคนอ่อนโยนต่อหน้าพวกน้องๆ อยู่แล้วล่ะ”
ผู้จัดการหลินซูหย่ากระซิบอยู่ข้างหูหลินซูหย่า “ไม่น่าล่ะ กู้ซินหานถึงเป็นแอมบาสเดอร์เพื่อกุศลรุ่นที่แล้วได้ คาแรคเตอร์ดีจริงๆ เลย!”
“คาแรคเตอร์ หมายความว่าไงเหรอ” หลินซูหย่าเผยสีหน้าประหลาดใจ
พูดขึ้นด้วยความตกใจ “ซูหย่า อย่าบอกว่าเธอคิดว่ากู้ซินหานเป็นคนแบบที่หล่อนแสดงให้ทุกคนเห็นนะ? คงจะมีแค่เธอที่ไร้เดียงสาขนาดนี้น่ะ ไต่มาถึงระดับนี้แล้ว มีใครบ้างที่เป็นคนธรรมดาล่ะ หล่อนไม่เหมือนเธอหรอกนะ ที่ชอบทำเพื่อการกุศลแล้วไม่หวังผลประโยชน์แบบนี้ เธอเข้ามาในวงการช้าก็เลยไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นหล่อนมีเรื่องดราม่าในวงการ หลังจากนั้นมาถึงค่อยๆ ฟื้นคืนชีพจากการทำความดีการกุศล หลังๆ มายังคว้าตำแหน่งแอมบาสเดอร์เพื่อกุศลมาได้ด้วย”
“แต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าพี่หานจะชอบสัตว์จริงๆ นะ…” หลินซูหย่าพูดด้วยความไม่เข้าใจ
เผยสีหน้าอึดอัด “ไม่น่าล่ะ เถ้าแก่หลินถึงเป็นห่วงเธอ สั่งให้ฉันต้องคอยดูเธอข้างๆ ให้ดี เพราะเธอเป็นคนไร้เดียงสาเกินไปน่ะ”
หลินซูหย่าได้ยินแล้ว ลบความหยั่งรู้ในแววตาออก เผยสีหน้าเชื่อฟังน่าเอ็นดูขึ้น และไม่ได้พูดอะไรอีก
ผ่านไปไม่นาน การถ่ายทำได้เริ่มขึ้น
เนื่องจากว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากสัตว์น้อยทำให้การถ่ายทำไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ ตลอดการถ่ายทำวุ่นวายชุลมุนมาก
แต่ยังดีที่กู้ซินหานและหลินซูหย่าทั้งสองคนให้ความร่วมมือดี อีกทั้งยังมีความอดทนสูงอีกด้วย
สุดท้ายใช้เวลาถ่ายไปทั้งวัน ในที่สุดก็ถ่ายเสร็จสักที
“เอาล่ะๆ ปิดกอง! ซินหาน ซูหย่า สองคนคงเหนื่อยน่าดูเลยนะ! เยี่ยมยอดมาก!”
“ผู้กำกับก็คงจะเหนื่อยเลยนะคะ ทุกคนเหนื่อยเลยนะคะ!”
หลังจากการถ่ายทำจบลง ทีมงานเก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อยแล้วจากไป
“กู้ซินหานเป็นคนอ่อนโยนจริงๆ เลย! เมื่อกี้น้องแมวน้องหมาเกือบจะทำให้เธอเป็นแผลตั้งหลายครั้ง! แต่เธอไม่โกรธเลย!”
“ใช่แล้ว! หลินซูหย่าก็เหมือนกัน เธอดูมีความอดทนกับพวกน้องๆ มากเลยล่ะ!”
“สมกับที่เป็นแอมบาสเดอร์เพื่อกุศลจริงๆ ทั้งหน้าตาดีทั้งจิตใจงาม!”
“เทียบกันระหว่างกู้ซินหานและหลินซูหย่า จริงๆ แล้วฉันชอบหลินซูหย่ามากกว่า กู้ซินหานดูเหมือนสร้างภาพยังไงไม่รู้ แต่หลินซูหย่าไม่เหมือนกัน ได้ข่าวว่าเธอเริ่มทำเพื่อการกุศลตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการเลย! เธอรักสัตว์จริงๆ และรักในการกุศลด้วยล่ะ!”