ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 743 เธอรู้จักประธานเฉิงไหม / ตอนที่ 744 พวกเราก็อยากอวดประธาน
ตอนที่ 743 เธอรู้จักประธานเฉิงไหม
ทางด้านหลินซูหย่ามีพนักงานใหม่ช่วยยืนยันได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือยังมีใบเสร็จการโอนเงินทุกครั้ง ต่อให้หลินเยียนพูดจนปากฉีกก็ไม่มีประโยชน์
หลินซูหย่าได้ฟังหลินเยียนพูดสีหน้าก็เปลี่ยนไป แต่เธอก็ปรับอารมณ์ให้นิ่งได้อย่างรวดเร็ว “พี่สาวพูดอะไรน่ะ ฉันไม่เข้าใจ เห็นๆ อยู่ว่าฉันเป็นสร้างเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ขึ้นมาและฉันก็เป็นคนดูแลมาตลอด ยอดเงินบริจาคทุกครั้งฉันก็มีหลักฐาน ทำไมพี่ถึงพูดแบบนี้ล่ะ…”
หลินซูหย่าย่อมไม่เชื่อว่าหลินเยียนจะมีหลักฐานอะไรจริงๆ หากมีหลักฐาน ทำไมไม่รีบเอาออกมาแต่แรก
คิดจะหลอกเธอไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
หลินเยียนมองหลินซูหย่าที่ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยสักนิด เธอแสยะยิ้ม “เธอรู้จักเฉิงจิ้งชิวประธาน
ของสมาคมมูลนิธิเพื่อการกุศลไหม”
หลินซูหย่าไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ หลินเยียนก็พูดถึงเฉิงจิ้งชิว เธอพูดอย่างใจเย็น “ใครบ้างไม่รู้จักประธานเฉิง คนที่เป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงการกุศล ชาวจีนเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลผู้ประสบความสำเร็จตลอดกาลจากมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ เมื่อหลายวันก่อนฉันยังไปกินข้าวกับรองประธานเฉิงลูกสาวของประธานเฉิงจิ้งชิวอยู่เลย”
หลินเยียนพยักหน้า “อ่อ รู้จักก็ดี”
เวลานี้ในมือถือของหลินเยียนยังมีข้อความที่ประธานเฉิงส่งมานอนรออยู่
ประธานเฉิงส่งมาให้เธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
[เสี่ยวหลิน ช่วงนี้สบายดีไหมจ๊ะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่ติดต่อย่าบ้างเลย หยวนเป่าน้อยคิดถึงเรามากเลยนะ ได้ยินเสียวหมิ่นบอกว่าตอนนี้เราก้าวหน้ามาก กลายเป็นดาราใหญ่ แถมยังเข้ารอบแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลด้วย คะแนนมาเป็นอันดับแรก ย่าไม่ได้เจอเรานานแล้ว พอดีเลย เดี๋ยวเย็นนี้ย่าจะไปดูเรานะ จะไปมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้เรา…]
พอหลินเยียนเห็นข้อความนี้ก็รู้ได้ทันทีว่า ประธานเฉิงน่าจะเข้าใจผิดอะไร
ประธานเฉิงเรียกเธอว่าเสี่ยวหลินตลอด น่าจะสับสนระหว่างเธอกับหลินซูหย่าตอนคุยกับเฉิงหมิ่น
แต่ประธานเฉิงบอกว่าเย็นนี้จะมามอบรางวัลด้วยตัวเอง พอถึงตอนนั้นก็คงได้รู้…
เดิมทีหลินเยียนสามารถส่งข้อความไปอธิบายเรื่องนี้กับประธานเฉิงได้โดยตรง แบบนั้นหลินซูหย่าก็คงไม่ถึงกับขายหน้ามากนัก
แต่นึกถึงบาดแผลบนใบหน้าของตัวตัว หลินเยียนก็เปลี่ยนความคิดในทันที
เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้ และก็ไม่อยากเอาการกุศลที่เดิมทีบริสุทธิ์ผุดผ่องมาแปดเปื้อนกับสิ่งไม่ดีพวกนั้น เพียงแต่หลินซูหย่าไม่ควรมาท้าทายขีดจำกัดความอดทนของเธอ
หลินเยียนรีบตอบกลับประธานเฉิงพร้อมกับทักทายเล็กน้อย
ขณะที่กำลังส่งข้อความหาประธานเฉิงอยู่นั้น คนที่นั่งอีกด้านของหลินเยียนก็เข้ามานั่งที่
คนที่เพิ่งมาถึงจ้องหลินเยียน ตื้นตันจนเกือบหลั่งน้ำตา “ประ…ประ…”
พอหลินเยียนเห็นเฉียวจื้อหรูรองประธานของมูลนิธิเบบี้โกโฮมก็รีบส่งสายตาบอกให้เขาใจเย็น
เฉียวจื้อหรูถึงได้พูดเสียงเบาลง พูดด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ประธานหลิน…”
หลินเยียนแสร้งทำเป็นคนแปลกหน้า ทักทายเฉียวจื้อหรูอย่างเป็นธรรมชาติ “อ้าว รองประธานเฉียว สวัสดีค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานาน”
“สวัสดีครับ สวัสดี…” เฉียวจื้อหรูพยักหน้าให้ความร่วมมือ
หลินซูหย่าสังเกตเห็นเฉียวจื้อหรูยิ้มให้หลินเยียน ท่าทีที่แสดงออกก็ดี สีหน้าเธอก็อดบึ้งลงเล็กน้อยไม่ได้
หรือว่า…คนที่หลินเยียนพึ่ง…จะเกี่ยวข้องกับทางเฉียวจื้อหรู
ถ้าใช่จริง แบบนั้นก็น่าสนใจแล้วสิ…
จากนั้นโทรศัพท์มือถือของหลินเยียนก็เริ่มมีข้อความเด้งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
เป็นข้อความจากในกลุ่มวีแชท ‘เบบี้โกโฮม’
รองประธานเฉียว : [อื้อหือ! ท่านประธาน! มานั่งในที่ที่ผมจัดไว้ให้ด้วย! ผมคิดว่าท่านจะไม่มาแล้วซะอีก! ท่านประธานจะเปิดตัวแล้วเหรอ เยี่ยมไปเลย!]
ตอนที่ 744 พวกเราก็อยากอวดประธาน
เลขาหลิว : [รองประธานใจเย็นก่อน เมื่อกี้ผมเห็นประธานเข้ามาแล้ว ก็แค่อดทนไว้ไม่กล้าเข้าไปทักทาย เอ่อ ท่านประธาน จะเปิดตัวแล้วจริงเหรอครับ]
รองประธานเฉียว : [มูลนิธิอื่นมีประธานกันหมด มูลนิธิเพื่อนบ้านอย่างชุนหนีช่วงนี้มีประธานสาวสวยเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง อวดพวกเราทุกวัน น่าโมโหเป็นบ้า!]
เลขาหลิว : [ใช่ๆ! ท่านประธาน! พวกเราก็อยากอวดประธานบ้าง!]
รองประธานเฉียว : [+1 อยากอวดประธานด้วย!]
หลินเยียนอ่านข้อความในกลุ่ม จากนั้นหันมองไปยังเฉียวจื้อหรูที่แสร้งทำเป็นขรึมอยู่ข้างๆ เธอก็รู้สึกหมดคำจะพูด
เคยได้ยินแต่อวดรวย ยังไม่เคยได้ยินใครอวดประธาน…
เลขาหลิว : [ท่านประธานไม่เห็น ตอนนี้ในโซเชียลด่าแรงมาก ให้พวกเราช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ดีกว่า ต่อให้ยืนยันเรื่องเดอะ แองเจิล เฮ้าส์แล้วช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็ช่วยกู้ชื่อเสียงกลับมาได้บ้าง!]
รองประธานเฉียว : [ถูกต้องๆ!]
ประธานหลิน : [ใจเย็นก่อนทั้งสองท่าน เรื่องเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ ฉันมีวิธีจัดการแล้ว]
พอเห็นข้อความของหลินเยียน เลขาหลิวกับรองประธานเฉียวก็ผิดหวังมากในทันที
รองประธานเฉียว : [อวดประธานไม่ได้อีกแล้วเหรอ (สติกเกอร์แมวร้องไห้)]
เลขาหลิว : [ชาวบ้านเขามีประธานกัน มีแค่พวกเราที่ไม่มี ท่านประธานทนได้จริงเหรอ (สติกเกอร์แมวน้อยใจ)]
ชายหนุ่มทั้งสองคนส่งสติกเกอร์แมวน่ารักอวดความแบ๊วกันรัวๆ หลินเยียนหมดคำจะพูด…
…
หลังจากแขกเหรื่อทั้งหมดเข้ามานั่งกันแล้ว งานการกุศลใหญ่ในคืนนี้ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
กล้องที่ถ่ายภาพรวมของงานกวาดไปทั่วทั้งงาน หลินเยียนที่นั่งติดกับหลินซูหย่าย่อมเข้าไปอยู่ในกล้องถ่ายทอดสดด้วย
พอภาพหลินเยียนปรากฏ ห้องถ่ายทอดสดก็ร้อนระอุยิ่งกว่าเมื่อกี้ตอนที่หลินเยียนปรากฏตัวในจุดตรวจรักษาความปลอดภัย
[โวะ หลินเยียนบุกเข้าไปได้จริงเหรอ ฝ่ายจัดงานมัวทำอะไรอยู่น่ะ]
[เมื่อกี้มีคนที่รู้เรื่องบอกว่าหลินเยียนไม่ยอมตัดใจไปหาบัตรเชิญมาได้ แต่ที่น่าตลกก็คือ บัตรเชิญใบนั้นถูกฝ่ายจัดงานยกเลิกไปแล้ว แต่ต่อมาไม่รู้หลินเยียนเอาบัตรเชิญจากไหนมาได้อีก แถมเป็นวีไอพีเสียด้วย ก็เลยเข้าไปได้ พวกเธอไม่เห็นเหรอว่าหลินเยียนนั่งแถวแรกน่ะ]
[ไม่ใช่แค่นั่งแถวแรก ยังนั่งข้างซูหย่าด้วย เฮอะ! แหวะ! ฉันอยากจะอ้วก!]
[เกิดอะไรขึ้นกับสมาคมมูลนิธิเพื่อการกุศลกันแน่ พวกเขาเชิญแขกไม่กลั่นกรองกันเลยเหรอ ทำไมถึงปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาได้!]
[ก็อาจไม่ใช่ความผิดของสมาคมมูลนิธิเพื่อการกุศลก็ได้ รองประธานเฉิงเป็นคนใสสะอาด ไม่มีทางยอมปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทางพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ใช้เส้นสายหาบัตรเชิญให้หลินเยียนหรือเปล่า]
[ไม่ว่ายังไงหลินเยียนก็หน้าไม่อายเลยจริงๆ!]
…
เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย กล้องถ่ายทอดสดจึงพยายามไม่ถ่ายไปทางหลินเยียนอีก ทางห้องถ่ายทอดสดก็เริ่มควบคุมคอมเมนต์ ยังไงก็ต้องดึงความสนใจกลับมาที่ตัวงาน
ภายในงานมีคนใหญ่คนโตผู้มีชื่อเสียงมากมาย ไม่มีใครสนใจดาราเล็กๆ ที่เรียกร้องความสนใจอย่างหลินเยียนอีก
[เลิกสนใจยัยโง่หลินเยียนเถอะ ทุกคนมาดูนางฟ้าพี่ซูหย่ากันเถอะ!]
[ใช่ๆ! คนแบบนี้ก็แค่เรียกร้องความสนใจ จงใจดึงดูดความสนใจของทุกคน อย่าไปสนเลย]
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่ตำแหน่งที่นั่งของหลินเยียนดีมากเหลือเกิน เทียบได้กับตำแหน่ง Carry (ผู้แบกทีม) ยากจะเลี่ยงได้ ดังนั้นจึงมักมีเธอติดกล้องไปด้วยบ่อยครั้งตอนถ่ายคนอื่นๆ
โดยเฉพาะทุกครั้งที่ถ่ายหลินซูหย่า จะต้องถ่ายติดหลินเยียนไปด้วย
และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ…
ถึงแม้หลินซูหย่าจะได้แฟนคลับเยินยอในความสวยยกใหญ่ ชุดออกงานก็ทั้งสวยทั้งดูเหมือนนางฟ้า
แต่เมื่อหลินเยียนกับหลินซูหย่าปรากฏในกล้องพร้อมกัน ความแตกต่างก็ยังคงเห็นได้ชัด…